บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 170

บทที่ 170 ปราณหยางนพเก้าล้ำลึก

บทที่ 170 ปราณหยางนพเก้าล้ำลึก

ณ ห้องโถงใหญ่บนยอดเขาใจสัจธรรม

เป่ยเหิง หลิงคงจื่อ เสวียนจิง ชิงชิว และเฉินซี ต่างก็นั่งลงบนพื้น เนื่องจากสถานะของเฉินซีพิเศษเกินไป ที่นั่งของพวกเขาจึงไม่มีความแตกต่างมากนัก และอาจถือได้ว่าเป็นการสนทนาที่เท่าเทียมกัน

แน่นอนว่ามู่เหยาและมู่เหวินเฟยก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน แต่ความอาวุโสของพวกเขายังต่ำเกินไป ดังนั้น เมื่อพวกเขาอยู่ในห้องที่มีแต่ผู้อาวุโส พวกเขาจึงเลือกนั่งที่ที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นก็ทำได้เพียงปิดปากเงียบและฟังด้วยความเคารพ

เหตุผลที่เป่ยเหิงมาเยือนในครั้งนี้นั้นธรรมดามาก เพราะเขาเคยได้ยินมาก่อนหน้านี้ว่า เฉินซีกำลังจะบรรลุไปสู่ขอบเขตเคหาทองคำ แต่ยังไม่มีเคล็ดวิชาการบ่มเพาะที่เหมาะสม ดังนั้นเขาจึงมอบเคล็ดวิชาการบ่มเพาะปราณอันมีค่าที่ได้คัดสรรมาอย่างดีในทันที เคล็ดวิชามิติทมิฬนี้มีวิธีการบ่มเพาะจากขอบเขตเคหาทองคำไปสู่ขอบเขตเซียนปฐพี มันเป็นเคล็ดวิชาลับอันล้ำลึกที่เป็นมรดกสืบทอดกันมาเนิ่นนาน

เฉินซีรู้สึกยินดีอย่างยิ่งเมื่อเห็นสิ่งนี้ และเขาก็รับมันมาอย่างไม่ลังเลเลย

ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา เขานั่งอยู่ที่ริมหน้าผาเพื่อบ่มเพาะคัมภีร์กระบี่หมื่นบรรจบ โดยหมกมุ่นอยู่กับวิถีของกระบี่อันไร้ขอบเขต และการบ่มเพาะของเขาอาจถือได้ว่าไม่ได้มีการพัฒนาเลยแม้แต่น้อย ทำให้การแปรสภาพร่างกายและการบ่มเพาะปราณติดชะงักอยู่ที่ขอบเขตตำหนักอินทนิลขั้นสมบูรณ์เท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้น เคล็ดวิชากระเรียนเหมันต์ที่เขาบ่มเพาะนั้นมีเพียงแนวทางการบ่มเพาะสำหรับขอบเขตตำหนักอินทนิลเพียงเก้าขั้นเท่านั้น และหลังจากที่เขาบรรลุไปสู่ขอบเขตเคหาทองคำ เรื่องที่สำคัญที่สุดย่อมคือการเลือกเคล็ดวิชาบ่มเพาะปราณ ส่วนเคล็ดวิชาแปรสภาพร่างกายนั้น เขาจำเป็นต้องเข้าไปในเคหาบ่มเพาะอีกครั้ง และให้จี้อวี๋คัดเลือกมันและมอบให้แก่เขาเอง

ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อเป่ยเหิงมอบเคล็ดวิชามิติทมิฬให้กับเขา อาจถือได้ว่าสามารถแก้ไขความต้องการที่สำคัญที่สุดของเฉินซีได้ และทำให้เขารู้สึกมีความสุขยิ่งนัก

เมื่อเป่ยเหิงเห็นเฉินซีพอใจ เขาก็มีความสุขเช่นกัน และรู้สึกว่าความพยายามของเขาไม่ได้สูญเปล่า อันที่จริง เคล็ดวิชามิติทมิฬนี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกจากนิกายกระบี่เมฆาพเนจร แต่เป็นสิ่งที่เขาพบในแดนซ่อนเร้นของนิกายเต๋าแห่งหนึ่งที่กำลังจะถูกทำลาย ในระหว่างการเดินทางของเขา ทุกถ้อยคำในนั้นล้ำลึกและยากหยั่งถึง แต่เนื่องจากมันเข้ากันไม่ได้กับเคล็ดวิชาการบ่มเพาะที่เขาใช้ เขาจึงไม่เคยบ่มเพาะมันเลย ดังนั้นการมอบให้เฉินซีจึงถือเป็นการใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้นเอง

ส่วนเหตุผลที่หลิงคงจื่อมาเยือนนั้นก็เพื่อให้ราชาอสูรทั้งสอง เสวียนจิงและชิงชิวได้พบกับเฉินซี และรำลึกถึงอดีต ในตอนนี้คนทั้งสองได้เข้าร่วมนิกายกระบี่เมฆาพเนจรแล้ว ร่างของพวกเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยปราณแท้ และการบ่มเพาะของพวกเขาก็ได้บรรลุถึงขอบเขตจุติ ดังนั้น การที่พวกเขาได้เข้าร่วมกับนิกาย จึงทำให้ความแข็งแกร่งของนิกายเพิ่มพูนอย่างมหาศาล

แน่นอนว่าหลิงคงจื่อเองก็รู้ถึงเหตุผลที่ราชาอสูรทั้งสองเลือกเข้าร่วมกับนิกายกระบี่เมฆาพเนจร ก็เป็นเพราะเฉินซีนี่เอง

แน่นอนว่า มันเป็นเพราะเฉินซี

เนื่องจากเฉินซีได้รวบรวมชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากจากห้วงลึกของเทือกเขาแดนเถื่อนตอนใต้ การบ่มเพาะของราชาอสูรทั้งสองจึงไม่ถูกยับยั้งอีกต่อไป และการบ่มเพาะที่สะสมมาหลายปีของพวกเขาก็ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้พวกเขาสามารถบรรลุขอบเขตจุติได้ในเวลาเพียงไม่กี่ปี

อาจถือได้ว่าหากไม่ใช่เพราะเฉินซี การบ่มเพาะของพวกเขาทั้งสองคงทำได้เพียงแต่ติดค้างอยู่ที่ขอบเขตตำหนักอินทนิลไปตลอดชีวิต และในท้ายที่สุด พวกเขาก็จะต้องตายไปด้วยความเสียใจ อันเนื่องมาจากอายุขัยของพวกเขาได้หมดสิ้นลง อีกทั้งการช่วยเหลือของเฉินซีที่มีต่อพวกเขา ก็เหมือนกับการได้เกิดใหม่ ดังนั้นพวกเขาจะลืมความช่วยเหลือนี้ไปได้อย่างไร?

เมื่อรวมกับการที่พวกเขาทั้งสองได้พเนจรไปทั่วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้พวกเขาเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งว่า การจะบรรลุไปสู่ขอบเขตการบ่มเพาะที่สูงขึ้นด้วยเพียงความแข็งแกร่งของพวกเขาเป็นเรื่องที่ยากมาก ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งใจที่จะเข้าร่วมนิกาย

และในขณะนั้นเอง เฉินซีก็ได้คว้าอันดับหนึ่งในการจัดอันดับมังกรซ่อน และยังได้เป็นพี่น้องร่วมสาบานกับเป่ยเหิง ผู้เป็นบรรพจารย์สูงสุดของนิกายกระบี่เมฆาพเนจร ทำให้ข่าวลือถูกแพร่กระจายออกไปทั่วทั่งดินแดนทางใต้ และลอยไปเข้าหูของราชาทั้งสอง ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมนิกายกระบี่เมฆาพเนจรในทันที!

ในแง่หนึ่งพวกเขาสามารถพึ่งพาความสัมพันธ์ของพวกเขากับเฉินซี เพื่อรับตำแหน่งที่ดีในนิกายกระบี่เมฆาพเนจรได้ และการเข้าร่วมนิกายที่ทรงพลังอย่างนิกายกระบี่เมฆาพเนจร ก็จะไม่นำความอับอายมาสู่ตัวตนของพวกเขาเช่นกัน ด้วยเหตุผลเหล่านี้เอง จึงทำให้เสวียนจิงและชิงชิวปรากฏตัวต่อหน้าเฉินซีในวันนี้

การกลับมาพบกันของสหายเก่าถือเป็นโอกาสที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาต่างร่ำสุราและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เมื่อเป่ยเหิงและหลิงคงจื่อเห็นสิ่งนี้ ก็ไม่ได้คิดรบกวนพวกเขาอีก และเพียงพูดคุยกันสักพักก่อนจะจากไปอย่างเงียบ ๆ

“เฉินซี เมื่อไม่กี่ปีก่อน พี่ใหญ่เสวียนเคยแอบทำนายดวงชะตาให้เจ้า เขาบอกว่าชะตากรรมของเจ้านั้นแปลกประหลาด อีกทั้งยังหาได้ยากในรอบหมื่นปี ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะถูกปกปิดโดยมหาเต๋าและความลับของสวรรค์ ทำให้เขาไม่สามารถทำนายเคราะห์ดีหรือเคราะห์ร้ายได้ ช่างแปลกประหลาดจริง ๆ!” เมื่อชิงชิวดื่มจนเมาเล็กน้อย ดวงตารูปดอกท้อของเขาก็หรี่ลง ในขณะที่เขากล่าวอย่างกะทันหัน

“ใช่ มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ” เสวียนจิงจ้องมองไปยังเฉินซีอย่างแน่วแน่ขณะที่เขาถอนหายใจ “การทำนายนั้นกินอายุขัยของข้าไปถึงร้อยปี ยิ่งไปกว่านั้น ไม่เพียงแต่ข้าไม่สามารถทำนายเคราะห์ดีหรือเคราะห์ร้ายได้ ข้ากลับได้รับผลร้ายจากการทำนายและแทบจะสูญเสียชีวิตของข้าไป น้องชาย เดิมที หากข้าได้พบเจ้าอีกครั้ง ข้าคิดจะใช้ศาสตร์แห่งการทำนาย เพื่อชี้นำเส้นทางที่ปราศจากอุปสรรคไปสู่มหาเต๋าแก่เจ้า แต่ดูเหมือนว่าชะตากรรมของเจ้ากลับถูกปกปิดโดยความลับของสวรรค์ และไม่ใช่สิ่งที่ตัวตนต่ำต้อยเช่นข้าจะสามารถแง้มดูได้”

เฉินซีตกตะลึง เขารู้ว่าร่างกายของเสวียนจิงนั้น มีสายเลือดของตระกูลเต่าเฒ่าที่สืบทอดมาจากยุคบรรพกาล ทำให้เสวียนจิงมีความรู้เกี่ยวกับการทำนายอย่างมากมาย และเสวียนจิงก็เชี่ยวชาญศิลปะการทำนายโชคชะตาเป็นพิเศษ ดังนั้นหากเขากล่าวเยี่ยงนี้ ก็พิสูจน์ได้ว่าเป็นเรื่องจริงมิใช่หรือ?

ในช่วงห้าปีที่เขาอนุมานคัมภีร์กระบี่หมื่นบรรจบ เฉินซีได้มีความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในการทำนายอยู่บ้าง เขาทราบดีว่าอดีต ปัจจุบัน อนาคต และตัวแปรต่าง ๆ ในชีวิตของสรรพสัตว์ในสวรรค์และโลกนั้นขึ้นอยู่กับพรหมลิขิต โชค รูปลักษณ์และกรรม เพราะเหตุนี้เมื่อเขาได้รู้ว่าชะตากรรมของตัวเองไม่อาจสรุปได้ ความตกใจของเขาก็ชัดเจนมาก

แต่สิ่งที่เรียกว่าพรหมลิขิตนั้น คล้ายกับโชคชะตาและชะตากรรม ซึ่งเป็นดั่งภาพลวงตาที่ดูเหมือนดอกไม้ในกระจก พระจันทร์ในน้ำ และยากต่อการเข้าใจ แม้ว่าเฉินซีจะไม่เชื่อเรื่องเช่นนี้ทั้งหมด แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจกับมันมากนัก ยิ่งไปกว่านั้น เขาเชื่อเสมอว่าโชคชะตาถูกกำหนดโดยสวรรค์ แต่มันถูกควบคุมด้วยมือของเราเอง ไม่ว่าจะเป็นโชคลาภหรือภัยพิบัติล้วนขึ้นอยู่กับวิธีการรับมือกับมัน

ถึงแม้ร่องรอยของความตกใจนี้จะวาบขึ้นในหัวใจของเขา แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมใด ๆ แม้แต่น้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]