บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 175

บทที่ 175 การลาจาก

บทที่ 175 การลาจาก

เฉินซีรู้สึกราวกับว่าเขาได้เข้าสู่โลกแห่งกระบี่ที่อยู่ท่ามกลางสวรรค์และโลก ซึ่งมีกระบี่ที่มีรูปทรงและขนาดต่าง ๆ จำนวนนับไม่ถ้วนลอยอยู่ในท้องฟ้า บางเล่มก็มีไฟลุกโชน บางเล่มก็มีมวลน้ำโอบล้อม บ้างก็ปล่อยสายฟ้าที่ส่องแสงพร่างพราย หรือบางเล่มก็เหมือนกับหมึกดำที่สาดกระเซ็นออกไป…

ฟิ้ว!

กระบี่ที่มีสายฟ้าม้วนอยู่โดยรอบ ดูเหมือนจะสังเกตเห็นการมาถึงของเฉินซี ทันใดนั้น มันได้ฉีกผ่านท้องฟ้าขณะที่มันฟาดฟันลงมา ทำให้เกิดประกายสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนซัดสาดออกมาราวกับระเบิด แต่งแต้มทั้งสวรรค์และโลกด้วยประกายสีเงิน!

ภายใต้การฟาดฟันกระบี่อย่างรุนแรงและทรงพลัง อันแฝงไปด้วยกลิ่นอายของการทำลายล้าง ทำให้ร่างของเฉินซีเปียกโชกไปด้วยเหงื่ออันเยียบเย็น ราวกับว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับจักรพรรดิกระบี่แห่งสายฟ้า ซึ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงหรือหลบหนีได้ ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่อาจกระตุ้นความคิดที่จะต่อต้านเลยแม้แต่น้อย

ฟิ้ว!

จู่ ๆ ทิวทิศน์โดยรอบก็เปลี่ยนไปในทันที กระบี่ที่มีรูปร่างคดเคี้ยวเหมือนงูปรากฏขึ้นท่ามกลางสวรรค์และโลกอีกครั้ง ด้วยการแทงเบา ๆ ของมัน กลิ่นอายแห่งความตายที่แฝงไปด้วยความเยียบเย็นและการทำลายล้างก็แผ่ซ่านไปทั่วทั้งสวรรค์และโลก ยิ่งไปกว่านั้น เฉินซีกลับถูกห่อหุ้มด้วยสิ่งนี้ และดูเหมือนว่าปราณแท้ในร่างกายของเขาจะแห้งเหือดอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งร่างของเขาเหี่ยวแห้งและกลายเป็นซากศพที่แห้งผาก

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

เสียงกระบี่ที่ฟาดฟันกันบนท้องฟ้าดังกึกก้องไปทั่วทั้งจักรวาล และแฝงไปด้วยกลิ่นอายที่ทะลุทะลวง เฉียบคมและหนักแน่น ซึ่งบางครั้ง มันก็เป็นดั่งทางช้างเผือกที่หวนย้อนกลับและเคลื่อนคล้อยตำแหน่งของดวงดาว บางคราวก็เป็นดั่งภูเขาสูงตระหง่าน หรือทะเลกว้างใหญ่ที่มีคลื่นโหมกระหน่ำ บางครั้งก็เหมือนลมโหมกระหน่ำที่ฉีกผ่านท้องฟ้า…

เฉินซีซึ่งอยู่ตรงกลางรู้สึกว่ากระบี่ทุกเล่มสามารถฆ่าเขาได้นับครั้งไม่ถ้วน และไม่ว่าเขาจะดิ้นรนหรือขัดขืนอย่างไร ก็ไม่อาจรอดพ้นจากความทุกข์ทรมานที่ถูกปิดล้อมและกักขังอยู่ภายใน ก่อนที่พวกมันจะฟาดฟันลงมาทำลายล้างเขา

สิ่งนี้คือสำนึกของศิลาสำนึกกระบี่หรือ?

แค่ร่องรอยของตราประทับวิญญาณที่บรรพชนของนิกายกระบี่เมฆาพเนจรเหลือทิ้งไว้ แต่กลับมีพลังที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้เลยหรือ?

กระแสคลื่นที่ปั่นป่วนได้ก่อขึ้นในใจของเฉินซี แต่เขาไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวใด ๆ และกลับยินดีเสียยิ่งกว่า ทันใดนั้น เฉินซีก็ควบคุมจิตใจของเขา และเลือกสำนึกของเต๋ากระบี่ที่เต็มไปด้วยดวงดาวเคลื่อนคล้อยเพื่อไตร่ตรองทำความเข้าใจ

เขาตระหนักได้ว่า ทุกสิ่งที่เขาเห็นก่อนหน้านี้เป็นภาพที่สร้างขึ้นภายในจิตใจของเขาโดยสำนึกของเต๋ากระบี่ หากเป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณค่อนข้างอ่อนแอ คนผู้นั้นอาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสไปตั้งนานแล้ว แต่การโจมตีเช่นนี้กลับไร้ประโยชน์สำหรับเขา เพราะการทุ่มเทเฝ้ามองรูปปั้นเทพเจ้าฝูซีตลอดทั้งวันทั้งคืน ทำให้ดวงวิญญาณของเขาแข็งแกร่งมาตั้งแต่เนิ่นนาน และเขาก็ใกล้จะควบแน่นจิตสัมผัสเทพในอีกเพียงไม่กี่ก้าว ดังนั้นการโจมตีจากสำนึกในเต๋ากระบี่เหล่านี้จึงไม่อาจทำอันตรายใด ๆ แก่เขาได้เลยแม้แต่น้อย

ยิ่งไปกว่านั้น เขากลับฉวยโอกาสนี้เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับสำนึกกระบี่อย่างระมัดระวัง และเปลี่ยนสำนึกในเต๋ากระบี่เหล่านี้ให้กลายเป็นของเขาเอง!

กระบี่เต๋ารู้แจ้งแห่งดารานั้น ประกอบไปด้วย หมู่ดาวคันไถ จักรราศี ดาวฤกษ์ทั้งยี่สิบแปดกลุ่ม และเจตจำนงกระบี่อื่น ๆ อีกมากมาย อาจถือได้ว่ามันเป็นมหาเต๋า! หลังจากนั้นไม่นาน เฉินซีก็รู้สึกว่าความเข้าใจของเขาที่มีต่อเต๋ารู้แจ้งแห่งดาราได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก และด้วยความคิดในใจ ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ในจักรวาลที่เต็มไปด้วยดวงดาว อีกทั้งยังได้กลายเป็นวิถีโคจรของดวงดาวที่ลึกซึ้งจนยากหยั่งถึง

เฉินซีไม่ได้หยุดบ่มเพาะเลยแม้แต่น้อย จากนั้นจึงเลือกสำนึกในเต๋ากระบี่ ซึ่งก่อตัวขึ้นจากสายฟ้าและทำความเข้าใจมันอยู่เงียบ ๆ

เขารู้ว่าโอกาสที่จะหยั่งรู้เต๋าแห่งกระบี่นั้นมีค่าเป็นอย่างมาก และหากเขาไม่ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการหยั่งรู้และทำความเข้าใจต่อพวกมัน ก็จะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน ท้ายที่สุดศิลาสำนึกกระบี่ที่แฝงไปด้วยสำนึกในเต๋ากระบี่เหล่านี้ ล้วนเป็นมรดกที่เหลือไว้โดยเซียนกระบี่ ผู้หยั่งถึงเต๋าแห่งกระบี่ได้อย่างล้ำลึก

ยิ่งไปกว่านั้น สำนึกในเต๋ากระบี่นั้นเต็มไปด้วยมรดกล้ำค่าและหาได้ยาก เขาจะไม่ยอมเสียโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตนี้ไปง่าย ๆ อย่างแน่นอน!

เต๋าแห่งกระบี่เองก็เป็นหนึ่งในมหาเต๋าสูงสุด

ผู้บ่มเพาะกระบี่ล้วนเป็นที่ยอมรับจากผู้คนว่า พวกเขามีการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก

อย่างไรก็ตาม สำนึกในเต๋ากระบี่เหล่านี้ถูกสืบทอดโดยบรรพชนของนิกายกระบี่เมฆาพเนจรจำนวนนับไม่ถ้วน และส่งมอบทุกสิ่งมาตลอดหลายชั่วอายุคน ดังนั้นมันจึงเป็นสมบัติล้ำค่าที่ผู้บ่มเพาะกระบี่ล้วนใฝ่ฝันถึง!

ดาว สายฟ้า สายลม ธาตุทั้งห้า หยิน หยาง

นภา ปฐพี วายุ วารี อัคคี ภูผา หนองบึง สายฟ้า

เฉินซีเปรียบเทียบและอ้างอิงถึงกระบวนท่ากระบี่อันยิ่งใหญ่ทั้งแปดของคัมภีร์กระบี่หมื่นบรรจบ ในขณะที่เขากำลังทำความเข้าใจเกี่ยวกับสำนึกในเต๋ากระบี่ที่มีอยู่มากมาย เขาลืมกระทั่งเวลา ลืมเลือนทุกสิ่งรอบตัว และจิตใจของเขาก็ตกอยู่ในโลกแห่งกระบี่ ที่มีห้วงสมุทรแห่งกระบี่อันกว้างใหญ่ เต๋าแห่งการรู้แจ้งต่าง ๆ ที่เขาเข้าใจนั้น ก็ค่อย ๆ ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในช่วงห้าปีที่เขานั่งสมาธิเพื่อทำความเข้าใจคัมภีร์กระบี่หมื่นบรรจบ เฉินซีได้หยั่งรู้ถึงร่องรอยของเต๋ากระบี่แห่งนภาจากกระบวนท่ากระบี่เฉียนแห่งนภา ในตอนนี้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสำนึกในเต๋ากระบี่ของเขา ได้ทำให้เขาเข้าใจถึงเต๋ารู้แจ้งแห่งนภาในเชิงลึก และมันก็ค่อย ๆ เติบโตจนแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

หนึ่งวันผ่านไป

สองวันผ่านไป

จนล่วงเลยถึงเจ็ดวัน

เฉินซียืนสงบนิ่งอยู่ที่เบื้องหน้าศิลาสำนึกกระบี่ราวกับเป็นรูปปั้นดินเผา

การทดสอบเข้าร่วมนิกายกระบี่เมฆาพเนจรจะดำเนินไปเป็นเวลาเจ็ดวัน ในช่วงเจ็ดวันนี้ มีศิษย์หลายพันคนได้มาที่ศิลาสำนึกกระบี่เพื่อรับการทดสอบความเข้าใจอยู่ทุกวัน เมื่อพวกเขาเห็นเฉินซีที่ยืนไม่ไหวติงอยู่เบื้องหน้าศิลาสำนึกกระบี่ เกือบทุกคนต่างก็แสดงความนับถือและชื่นชมผ่านสายตาของพวกเขา

ย่อมเป็นเรื่องธรรมดา แม้แต่พวกเขาเองก็ยังยืนหยัดอยู่เบื้องหน้าของศิลาสำนึกดาบได้เพียงครึ่งก้านธูปเท่านั้น และยิ่งยืนหยัดนานเท่าไร ก็จะทำให้จิตวิญญาณของพวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ด้วยเหตุนี้ เมื่อพวกเขาพบว่าเฉินซีมายืนอยู่หลายวันแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชมนับถือ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]