เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1887

บทที่ 1887 รางวัลมากมาย

………………..

บทที่ 1887 รางวัลมากมาย

เมื่อชายชราชุดเทาปรากฏตัวที่นี่ บรรยากาศก็ตกอยู่ในภาวะเงียบงันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนทันที

มันน่าสะพรึงเกินไป!

ผู้ใดจะกล้าจินตนาการว่ามหาเทพเต๋าทั้งห้าจะปรากฏตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่ลมหายใจ?

ขอบเขตมหาเทพเต๋า!

การดำรงอยู่ที่มาถึงจุดสูงสุดของเต๋าศักดิ์สิทธิ์มานานแล้ว พวกเขาล้วนเป็นตัวตนที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งเริ่มเข้าใจมหาเต๋าแห่งลิขิตมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน ทุกคนในแดนเทพโบราณทั้งหมดที่สามารถบรรลุขอบเขตมหาเทพเต๋า ล้วนครอบครองพลังที่พิเศษและไม่มีผู้ใดเทียบได้

การดำรงอยู่เช่นนี้หายากมาก ทั้งยังมีอยู่น้อยนิดจนถึงขั้นสามารถนับได้ด้วยนิ้วมือ!

หากเป็นเวลาปกติ ยอดคนที่บรรลุขอบเขตมหาเทพเต๋าจะไม่ค่อยปรากฏตัวในโลก ดังนั้นผู้บ่มเพาะส่วนใหญ่จึงไม่เคยเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของยอดคนดังกล่าว แม้ว่าพวกเขาจะบ่มเพาะมาถึงทุกวันนี้ก็ตาม

แต่ยามนี้ ยอดคนทั้งห้ากลับปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน ดังนั้นความตกใจที่พวกเขารู้สึกจึงไม่อาจอธิบายได้ ทั้งยังทำให้ทุกคนที่อยู่รอบข้างตกตะลึงและเงียบกริบเหมือนจักจั่นในฤดูหนาว เนื่องจากไม่กล้าส่งเสียงใด ๆ

“สหายเต๋า การถกวิถีเต๋ายังไม่สิ้นสุดลง ไยถึงไม่ไปที่โถงบรรจบกับข้าเพื่อชมการประลองเล่า?” ชายชราชุดเทายิ้มพลางกล่าว

“ตกลง”

“ข้าก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน”

สี่มหาเทพเต๋าต่างพยักหน้า จากนั้นพวกเขาก็จากไปพร้อมกับชายชราชุดเทา พวกเขาย่างกรายผ่านอากาศ และหายไปในโถงบรรจบอย่างรวดเร็ว

โครม!

ทันทีที่ยอดคนกลุ่มนี้หายไป ความแตกตื่นครั้งใหญ่ก็ปะทุขึ้นโดยรอบทันที และผู้คนที่นี่ก็ต่างพากันตื่นเต้น ทำให้เกิดเสียงดังก้องไปทั่วหล้า

“ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเขาเทพพยากรณ์ อู๋เสวี่ยชาน สวรรค์! บุคคลในตำนานเช่นนี้ได้ปรากฏตัวที่นี่ในวันนี้แล้ว!”

“มหาปุโรหิตแห่งนิกายอำนาจเทวะ ซูถัว สวรรค์นคราจารย์แห่งสำนักศักดิ์สิทธิ์ เซวียนหมิง จ้าวตำหนักอาภาภาสแห่งตำหนักเต๋าหนี่หวา เสวี่ยหลิง และผู้อาวุโสเต๋าแห่งสำนักเต๋า ไฉ่หยาก็อยู่ที่นี่ด้วย!”

“ห้าสุดยอดแห่งเอกภพจักรวรรดิได้ส่งยอดคนขอบเขตมหาเทพเต๋าออกมา นี่เป็นเหตุการณ์ที่หาได้ยากอย่างแท้จริง หรือว่ามีเรื่องสำคัญจะเกิดขึ้น?”

“อย่าลืมว่าวัตถุประสงค์ของการถกวิถีเต๋า คือการคัดเลือกศิษย์เพื่อเข้าสู่แดนรวนเรลืมเลือนเพื่อค้นหาโชคลาภ การปรากฏตัวของมหาเทพเต๋าทั้งห้าคนนี้ น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้!”

“การได้เห็นการปรากฏตัวของมหาเทพเต๋า ทำให้การเดินทางครั้งนี้คุ้มค่าอย่างแท้จริง!”

“พวกเจ้าทุกคนได้ยินสิ่งที่มหาปุโรหิตอำนาจเทวะซูถัวกล่าวก่อนหน้านี้หรือไม่? แท้จริงแล้ว เขาบอกว่านายท่านใหญ่อู๋เซวี่ยฉานกำลังรีบมาหาที่ตาย ในเวลานั้น มันทำให้ข้าหวาดกลัวจนคิดว่าการต่อสู้ระหว่างมหาเทพเต๋ากำลังจะปะทุขึ้น”

“ฮ่า ฮ่า! สิ่งนั้นคงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน อาจเป็นเพราะนายท่านใหญ่อู๋เซวี่ยฉานสังหารมหาปุโรหิตอำนาจเทวะมั่วหลินไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน และมหาเทพเต๋ามั่วหลินเป็นศิษย์น้องของมหาเทพเต๋าซูถัว”

“นั่นก็มีเหตุผล”

เสียงการพูดคุยต่าง ๆ ดังขึ้น และหัวข้อการสนทนาทั้งหมดมุ่งเน้นไปที่มหาเทพเต๋าทั้งห้าจากห้าสุดยอดแห่งเอกภพจักรวรรดิ ซึ่งได้แก่ อู๋เซวี่ยฉาน ซูถัว เซวียนหมิง เสวี่ยหลิง และไฉ่หยา

ใบหน้าของผู้คนล้วนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ความนับถือ และความเคารพ…. ส่งผลให้สภาพแวดล้อมโดยรอบคึกคักและตื่นเต้นเร้าใจถึงขีดสุด

ท้ายที่สุดแล้ว มันยากเกินไปจริง ๆ ที่จะได้เห็นยอดคนในตำนานทั้งห้าในวันเดียวกัน และอาจถึงขั้นเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้นในรอบหมื่นปีเลยทีเดียว

“ศิษย์พี่ใหญ่ก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ?” เฉินซีกลับขมวดคิ้วแทน เป็นเพราะเขาทราบดีว่า หลังจากที่อู๋เซวี่ยฉานบดขยี้มหาเทพเต๋ามั่วหลิน อู๋เซวี่ยฉานก็ถูกซุ่มโจมตีโดยปรมาจารย์แห่งนิกายอำนาจเทวะ และหากไม่ใช่เพราะอาจารย์ลุง ตี้ซุนที่มาถึงทันเวลา อู๋เซวี่ยฉานอาจประสบเภทภัยไปแล้ว

ขณะนี้ อู๋เซวี่ยฉานได้ออกจากเขตเขาเทพพยากรณ์ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากปรมาจารย์ของนิกายอำนาจเทวะวางแผนร้ายอีกครั้ง ผลที่ตามมาก็คงยากที่จะระบุได้

ทว่าในไม่ช้า เฉินซีก็ส่ายหน้าและหยุดคิดถึงเรื่องนี้ เนื่องจากศิษย์พี่ใหญ่ของเฉินซีกล้ามาที่นี่เพียงลำพัง เขาจึงต้องไตร่ตรองเรื่องนี้มาก่อนอย่างแน่นอน

ภายในโถงบรรจบ

บรรยากาศที่นี่แตกต่างออกไป ไม่ว่าจะเป็นเหวินถิง อวี่เจิน ไฮว่คงจื่อ เล่ยฝู หรือฉือซงจื่อ เมื่อพวกเขาเห็นมหาเทพเต๋าทั้งห้านี้มาถึงพร้อมกัน ทั้งหมดล้วนยืนขึ้นทันทีเพื่อทักทายมหาเทพเต๋าทั้งห้า และไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม

“ศิษย์หลาน เจ้ายังคงเป็นประธานในการถกวิถีเต๋าต่อไป ฝากเรื่องในโถงไว้กับข้าเถิด” ชายชราชุดเทาไฉ่หยาออกคำสั่ง ก่อนที่เขาจะเชิญให้อู๋เซวี่ยฉานและคนอื่น ๆ นั่งลง

ไฮว่คงจื่อรับคำสั่งแล้วจากไป

ในทางกลับกัน เหวินถิง อวี่เจิน เล่ยฝู และฉือซงจื่อ ต่างแยกย้ายกันไปยืนข้างหลังผู้อาวุโสของนิกายของตน

“สหายเต๋า เจ้ามาถูกเวลาแล้ว เหลือการประลองเพียงสองรอบก่อนที่การถกวิถีเต๋าจะสิ้นสุดลง และรายชื่อศิษย์สี่คนสุดท้ายได้ถูกเปิดเผยแล้ว ซึ่งได้แก่ เหลิ่งซิงหุน ตงหวงอิ่นเซวียน คงโหยวหราน และเฉินซี” หลังจากที่พวกเขานั่งลงแล้ว มหาเทพเต๋าไฉ่หยายิ้มพลางกล่าว “น่าเสียดายที่ไม่มีศิษย์สำนักเต๋าของข้าแม้แต่คนเดียวที่สามารถขึ้นสู่สี่คนสุดท้ายได้” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยตัวเอง

เช่นเดียวกับที่ไฉ่หยาได้กล่าวไว้ ศิษย์สี่คนสุดท้ายนั้น บังเอิญมาจากนิกายอำนาจเทวะ สำนักศักดิ์สิทธิ์ ตำหนักเต๋าหนี่หวา และเขาเทพพยากรณ์ และมีเพียงสำนักเต๋าเท่านั้นที่ไม่มีลูกศิษย์ในหมู่พวกเขา ดูเหมือนจะเป็นสถานการณ์ที่พิกลมาก

“ในความคิดของข้า ผลลัพธ์นี้เกิดขึ้นพร้อมกับความตั้งใจของสำนักเต๋าของเจ้า” มหาเทพเต๋าเซวียนหมิงกล่าวอย่างไม่แยแส

ไฉ่หยายิ้มและไม่โต้แย้งใด ๆ “สหายเต๋า ข้าสงสัยว่าเด็กน้อยคนใดที่พวกเจ้าคิดว่าจะเป็นอันดับหนึ่งในการถกวิถีเต๋า?”

คำกล่าวเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่จำเป็น เพราะมหาเทพเต๋าทั้งสี่ย่อมคิดว่าศิษย์จากนิกายตนจะสามารถได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน

เห็นได้ชัดว่าไฉ่หยาไม่ใช่คนโง่ แต่เมื่อเขากล่าวออกมา มันกลับกระตุ้นให้ครุ่นคิดอยู่บ้าง

ยิ่งกว่านั้น ทุกอันล้วนล้ำค่า แม้กระทั่งในหมู่สมบัติวิญญาณธรรมชาติ แต่ตอนนี้พวกมันได้กลายเป็นของรางวัลสำหรับผู้ที่ได้อันดับหนึ่ง แล้วเหล่ายอดคนของขอบเขตมหาราชเทวาจะไม่รู้สึกอิจฉาและถูกล่อลวงได้อย่างไร?

ท้ายที่สุดแล้ว แม้แต่การดำรงอยู่ในขอบเขตมหาราชเทวาอย่างพวกเขา ก็ยังครอบครองสมบัติวิญญาณธรรมชาติได้ไม่ถึงห้าชิ้นเลย!

ทว่าพวกเขาล้วนทราบดีว่าความหมายที่แฝงอยู่เบื้องหลังรางวัลเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และทั้งห้านิกายกำลังดำเนินการเดิมพันอย่างชัดเจน

พวกเขากำลังเดิมพันว่าศิษย์ของนิกายใดจะสามารถเป็นอันดับหนึ่งในการถกวิถีเต๋า!

แกร๊ง!

ในขณะนี้ เสียงระฆังอันหนักหน่วงดังก้องอยู่ที่นอกห้องโถง และกวาดไปทั่วทั้งฟ้าดิน

ทันใดนั้น สายตาของทุกคนในห้องโถงก็หันมองออกไป

เพราะการประลองของสี่อันดับสุดท้ายในรอบที่สี่ของการถกวิถีเต๋ากำลังจะเริ่มต้นขึ้น!

เสียงระฆังดังขึ้นอย่างช้า ๆ และเสียงอึกทึกครึกโครมในโลกภายนอกก็ถูกระงับอย่างรวดเร็วจนหายไป

บรรยากาศเริ่มตึงเครียดและเงียบสงัดไปพร้อมกับสิ่งนี้ ทุกคนต่างจ้องมองไปที่ไฮว่คงจื่อที่ยืนอยู่หน้าโถงบรรจบ

“การถกวิถีเต๋ารอบย่อยที่สี่เริ่มขึ้นได้!” ไฮว่คงจื่อมีท่าทางสง่างามในขณะที่เขากล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “มีการประลองทั้งหมดสองคู่ในรอบนี้ คู่แรกระหว่างเหลิ่งซิงหุนแห่งนิกายอำนาจเทวะและคงโหยวหรานจากตำหนักเต๋าหนี่หวา”

“การประลองคู่ที่สองจะเป็นระหว่างตงหวงอิ่นเซวียนแห่งสำนักศักดิ์สิทธิ์และเฉินซีแห่งเขาเทพพยากรณ์”

“ลำดับคู่ประลองเหล่านี้ ถูกกำหนดโดยเจ้าสำนักเต๋าของข้า หากมีความสงสัยใด ๆ ก็เชิญแสดงความคิดเห็นได้ตามสบาย”

ขณะที่กล่าว ไฮว่คงจื่อก็จ้องมองไปที่เฉินซี เหลิ่งซิงหุน ตงหวงอิ่นเซวียน และคงโหยวหรานที่ยืนอยู่บนจัตุรัสแห่งการประชัน

แม้ว่าครั้งนี้จะไม่ได้กำหนดรายชื่อโดยการจับสลาก แต่การจัดเตรียมก็ฉลาดมากและสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง ท้ายที่สุดแล้ว เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าเขาเทพพยากรณ์และตำหนักเต๋าหนี่หวามีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ในขณะที่ทั้งนิกายอำนาจเทวะและสำนักศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นเช่นเดียวกัน

หากเหลิ่งซิงหุนต้องประลองกับตงหวงอิ่นเซวียน และเฉินซีต้องประลองกับคงโหยวหราน มันจะทำให้การต่อสู้น่าสนใจน้อยลงและไม่เป็นที่น่าชม

ยิ่งไปกว่านั้น การจัดเตรียมดังกล่าวจะไม่สร้างความไม่พอใจให้กับเฉินซีและคนอื่น ๆ อย่างแน่นอน ถึงขั้นกล่าวได้ว่า การจัดเตรียมดังกล่าวนั้นตรงกับความตั้งใจและความคาดหวังของทุกคน ดังนั้นจึงไม่มีใครคิดสงสัย

แน่นอนว่า เหลิ่งซิงหุนและเฉินซีสามารถประลองกันเองได้ ในขณะที่ตงหวงอิ่นเซวียนและคงโหยวหรานก็สามารถประลองกันเองได้ อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างนี้มีไม่มากนัก แล้วผู้ใดจะสนใจ?

“ในเมื่อเจ้าไม่มีข้อโต้แย้ง งั้นเริ่มการประลองรอบถัดไปได้เลย!” เมื่อไม่มีการคัดค้านจากทั้งสี่คน ไฮว่คงจื่อก็ไม่ลังเลที่จะประกาศการประลองในรอบย่อยที่สี่ทันที

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]