บทที่ 1893 คำนึงถึงทุกความเป็นไปได้
………………..
บทที่ 1893 คำนึงถึงทุกความเป็นไปได้
ตู้ม!
ความว่างเปล่าระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ ผมสีแดงเลือดของเหลิ่งซิงหุนสะบัดไหว ในขณะที่กระบี่อสนีบาตสุญตาในมือส่งเสียงคร่ำครวญ และห่อหุ้มด้วยเพลิงศักดิ์สิทธิ์สีดำแห่งภัยพิบัติขณะฟาดฟันลงมา
เคร้ง!
ยันต์ศัสตราเป็นดั่งเงาที่จู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้น และสกัดการโจมตีนี้ไว้ จากนั้นมันก็แทงสวนในแนวทแยงกลับไป ทำให้ปราณกระบี่แผ่พุ่งออกมาดุจธารน้ำตกที่ถาโถมเข้าใส่เหลิ่งซิงหุน
ร่างของเหลิ่งซิงหุนถอยกลับไปอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กระดานหมากโบราณลายสีดำกับสีขาวสลับกันก็ปรากฏบนฝ่ามือเรียวยาว จากนั้นมันก็หมุนวนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
สมบัติวิญญาณธรรมชาติ กระดานหมากคู่สวรรค์!
ฟึ่บ!
เม็ดหมากดำทะยานขึ้นฟ้าราวกับดวงตะวันสีดำ และบดขยี้ลงมาใส่เฉินซี
ดวงตาของเฉินซีพลันหรี่ลง ร่างวูบไหวและหายไปจากจุดนั้น
โครม!
เมื่อร่างหายไป จุดที่เขาเคยยืนอยู่ก่อนหน้านี้ก็พังพินาศ และถูกปกคลุมด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์สีดำที่พุ่งทะยานขึ้นฟ้า
แสงศักดิ์สิทธิ์สีดำนั้นก่อตัวขึ้นจากเม็ดหมากสีดำ เมื่อมองจากระยะไกล มันเหมือนกับเสาที่ค้ำยันสวรรค์ไว้ และมันเปล่งพลังอันน่าสะพรึงกลัว ทั้งยังแผ่แรงกดดันที่ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าไม่อาจสั่นคลอนได้
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
เมื่อเห็นร่างของเฉินซีวูบไหวเพื่อหลีกเลี่ยงมัน เหลิ่งซิงหุนดูเหมือนจะไม่แปลกใจ เขาขยับมือควบคุมกระดานหมากคู่สวรรค์จนมันหมุนวน และซัดเม็ดหมากมากมายออกไปอย่างดุเดือด
เม็ดหมากดำนั้นทรงพลังและหนักอึ้ง เม็ดหมากขาวนั้นเย็นยะเยือกและอำมหิต
หมากแล้วหมากเล่าตัดสลับผ่านอากาศทั้งแนวขวางและแนวตั้ง ทำให้เกิดรอยแยกในอากาศจำนวนมาก ซึ่งโหมกระหน่ำลงสู่ปฐพี
เมื่อมองจากระยะไกล ราวกับเหลิ่งซิงหุนได้กลายร่างเป็นปราชญ์แห่งหมาก ฟ้าดินเป็นดั่งกระดานหมาก ในขณะที่ใช้หมากดำและหมากขาวเพื่อตัดสินความเป็นความตายกับสวรรค์
ในทางกลับกัน เฉินซีก็เหมือนกับเหยื่อที่ตกลงไปบนกระดานหมาก และต้องหลบเลี่ยงไปมาอย่างไม่หยุดหย่อน แต่ก็ไม่สามารถหลบหนีได้
หากชีวิตเป็นเหมือนกระดานหมาก ผู้ควบคุมหมากดำหมากขาวจะสามารถควบคุมความเป็นความตาย เป็นดั่งกับดัก ซึ่งไม่ว่าใครก็ต้องทุกข์ทรมานหากถูกขังไว้อยู่ในนั้น!
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมกระดานหมากคู่สวรรค์ถึงน่ากลัว
ฟึ่บ!
ในเวลาเพียงชั่วครู่ หมากดำเม็ดสุดท้ายก็ตกลงมา และทำให้สถานการณ์นิ่งสงบอย่างสมบูรณ์
มีจุดทั้งแนวนอนและแนวตั้งจำนวนสิบเก้าจุด
หมากขาวมีหนึ่งร้อยแปดสิบเม็ด ในขณะที่หมากดำมีหนึ่งร้อยแปดสิบเอ็ดเม็ด พวกมันสลับกันเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสประหนึ่งกำแพงปิดล้อมฟ้าดิน พวกมันสะท้อนแสงใส่กันและกัน ในขณะที่เปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงกลัวออกมาด้วยตัวมันเอง
เฉินซีติดอยู่ในกระดานหมากอย่างสมบูรณ์!
เมื่อมองจากโลกภายนอก มันเหมือนกับว่าเฉินซีได้ตกลงไปในโลกที่น่าสยดสยอง มันถูกปกคลุมไปด้วยหมากดำหมากขาวที่ไขว้ตัดกัน ทำให้เฉินซีหลงทางอยู่ภายในและไม่อาจหลบหนีได้!
ผู้บ่มเพาะจำนวนมากไม่สามารถนั่งนิ่งได้เมื่อเห็นสิ่งนี้ และพวกเขาก็รู้สึกตกใจอย่างมาก อานุภาพของกระดานหมากคู่สวรรค์นั้นน่ากลัวเกินไป และไม่อาจจินตนาการถึงได้
“ฆ่า!” เหลิ่งซิงหุนกระตุกยิ้มเย็น เขาควบคุมกระดานหมากคู่สวรรค์ ทำให้หมากดำหมากขาวที่แน่นิ่งไร้การเคลื่อนไหวซึ่งกระจัดกระจายไปทั่วสมรภูมิเปล่งแสงอันน่าสะพรึงกลัวออกมาอย่างฉับพลัน ก่อนที่จะเริ่มขยับและไขว้ตัดกัน
โครม!
ทุกครั้งที่พวกมันไขว้ตัดกัน พลังทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัวก็ถูกสร้างขึ้น และมันเปลี่ยนความว่างเปล่าให้กลายเป็นผุยผง อานุภาพน่าพรั่นพรึง และสะท้านขวัญถึงขีดสุด
ในขณะนี้เหลิ่งซิงหุนดูเหมือนกำลังเล่นหมากล้อม โดยวางหมากตามตำราจนไม่อาจคาดเดาได้ หมากดำหมากขาวถูกควบคุมและพุ่งทะยานไปทั่วทั้งกระดาน ซึ่งถล่มใส่เฉินซีอย่างไม่หยุดยั้ง
โครม!
แม้ว่าเฉินซีจะหลบเลี่ยงอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อติดอยู่ในกระดาน การเคลื่อนไหวของเขาก็ถูกจำกัดอย่างมาก ดังนั้นจึงไม่ทันได้ระวัง และถูกหมากดำหมากขาวกระแทกเข้าใส่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างสูงใหญ่เซถอยหลังอย่างต่อเนื่อง และแม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ตกอยู่ในสภาพที่น่าอับอาย
สถานการณ์ที่เผชิญอยู่ จึงดูยิ่งเลวร้ายลง
สิ่งนี้ทำให้หัวใจของผู้บ่มเพาะหลายคนบีบรัด ในขณะที่พวกเขารู้สึกกังวลอย่างมากต่อเฉินซี
โครม!
แต่เพียงครู่หนึ่ง เฉินซีที่ถูกกระแทกกลับไปอีกครั้งก็แค่นเสียงเย็น ทันใดนั้น ยันต์ศัสตราบนฝ่ามือก็ส่งเสียงหึ่ง ๆ แปลกประหลาด จากนั้นอักขระยันต์มากมายก็แผ่พุ่งออกมาจากกัน และก่อตัวเป็นวังวนกระบี่
โอม~
หมากดำหมากขาวคู่หนึ่งถล่มเข้าใส่อีกครั้ง แต่ก่อนที่พวกมันจะทันได้สำแดงอานุภาพ จู่ ๆ พวกมันก็ส่งเสียงคร่ำครวญ และถูกพลังทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัวฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ท้ายที่สุดก็ตกสู่วังวนกระบี่จนสลายหายไป
หืม?
แสงเจิดจ้าพุ่งออกมาจากดวงตาของเหลิ่งซิงหุน จากนั้นเขาก็สะบัดแขนเสื้อ
หมากดำหมากขาวสามสิบหกคู่ตัดไขว้สลับกัน ขณะที่พวกมันล้อมรอบเฉินซี และกระแทกเข้าใส่เขาจากทุกทิศทุกทาง ปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของเฉินซีโดยสมบูรณ์
โอม~ โอม~
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ยันต์ศัสตราทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า คลื่นความผันผวนแปลก ๆ ก็กวาดออกไป จากนั้นหมากดำหมากขาวทั้งสามสิบหกคู่ก็ไม่มีโอกาสได้ดิ้นรนด้วยซ้ำ พวกมันถูกกลืนกินโดยกระแสวังวนกระบี่ที่ก่อตัวขึ้นจากยันต์ศัสตรา!
พวกมันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำร้ายเฉินซีได้เท่านั้น พลังของยันต์ศัสตรายังแข็งแกร่งขึ้นหลังจากที่พวกมันถูกกลืนกิน กระแสวังวนกระบี่แวววาวไปด้วยแสงลวงตา และมันลึกราวกับขุมนรกที่ดูเหมือนจะกลืนกินโลกได้!
“เอ๊ะ!” คลื่นความประหลาดใจดังขึ้นในโลกภายนอก และดูเหมือนพวกมันจะเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
“สมบัติวิญญาณธรรมชาติที่สามารถกลืนกินพลังของสมบัติวิญญาณธรรมชาติอื่น ๆ และเปลี่ยนให้เป็นพลังของมันเองหรือ?” ทันใดนั้น ดวงตาที่ขุ่นมัวของซูถัวก็หรี่ลง และเต็มไปด้วยประกายสายฟ้าสีดำอันน่าตกใจ
“สมบัติวิญญาณธรรมชาติที่มีผลอัศจรรย์อันเป็นเอกลักษณ์นั้นหาได้ยากจริง ๆ ตามความรู้ของข้า มีเพียง ‘น้ำเต้าวิญญาณบรรพกาล’ ที่ถูกจัดเป็นอันดับสองในสามภพเท่านั้นที่มีผลอันน่าอัศจรรย์เช่นนี้ ทว่าสมบัตินั้นได้หายไปตามกาลเวลาแล้ว” ไฉ่หยาอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ การดำรงอยู่เช่นพวกเขาล้วนเคยเห็นสมบัติวิญญาณธรรมชาติมาทุกประเภทแล้ว แต่ก็ยากที่จะเคยเห็นสมบัติวิญญาณธรรมชาติที่มีผลมหัศจรรย์เช่นเดียวกับยันต์ศัสตราในมือเฉินซี
“ยันต์ศัสตราที่ได้รับการหล่อเลี้ยงโดยรากฐานวิญญาณธรรมชาติ จึงมีความสามารถที่พิเศษเช่นนี้ได้ มันเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงอย่างแท้จริง ดูเหมือนตอนที่ขัดเกลามัน เขาคงได้รับคำชี้แนะจากยอดคนอย่างแน่นอน” เสวี่ยหลิงกล่าวขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความชื่นชม
เมื่อกระบี่สายฟ้าสีดำเข้าใกล้หว่างคิ้วของเขา แสงศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะท้านขวัญก็ระเบิดออกมาจากดวงตาของเฉินซีอย่างฉับพลัน
ฟึ่บ!
เวลาต่อมา ยันต์ศัสตราบนฝ่ามือของเขาดูเหมือนมีดวงตา มันเข้าปะทะกับการโจมตีของเหลิ่งซิงหุน
เหล่าผู้บ่มเพาะในโลกภายนอกล้วนทอดถอนใจยาวด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นเหตุนี้ ต้องยอมรับว่าพวกเขาค่อนข้างกังวลต่อเฉินซีมากจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อการโจมตีครั้งนี้ล้มเหลว เหลิ่งซิงหุนก็หาได้ตกใจไม่ ทั้งยังรู้สึกยินดีแทน ราวกับคาดหวังว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น เขาจึงอ้าปากเพื่อพ่นลำแสงสีเลือดเข้าใส่เฉินซีอย่างดุเดือด
เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนบรรดาผู้บ่มเพาะในโลกภายนอกไม่สามารถตอบสนองต่อมันได้
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเฉินซีจะสังเกตเห็นมันมานานแล้ว ดังนั้นจึงสะบัดแขนเสื้อออกไป
กิ๊ง! กิ๊ง! กิ๊ง!
เสียงใสกังวานดังก้องสามครั้ง ในขณะที่เหรียญทองแดงสุกใสสามเหรียญลอยขึ้นไปในอากาศ จากนั้นพวกมันก็ต่อตัวเป็นรูปร่างของตัวอักษร ‘品’ และหยุดกระบี่บินสีแดงเลือดที่อยู่ตรงหน้าเฉินซีได้ทันท่วงที
โครม!
เสียงการปะทะกันดังก้อง พลังอันน่าสะพรึงกลัวกวาดไปทางบริเวณโดยรอบ แยกเฉินซีและเหลิ่งซิงหุนออกจากกัน
เหตุการณ์ต่อเนื่องนี้คาดเดาไม่ได้ และทำให้ทุกคนประหลาดใจ ดังนั้นผู้บ่มเพาะทุกคนในโลกภายนอกจึงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเมื่อทุกอย่างจบลง
พวกมันน่ากลัวเกินไป!
เหตุการณ์ที่ปรากฏในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ ถือได้ว่าน่าตกตะลึงและไม่อาจจินตนาการได้
ในทางกลับกัน การประลองระหว่างเฉินซีกับเหลิ่งซิงหุนได้มาถึงจุดสูงสุดที่ไม่อาจจินตนาการได้
ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าการโจมตีของเหลิ่งซิงหุนจะไม่ได้มีแค่เนตรทัณฑ์สวรรค์เท่านั้น แต่ยังมีกระบี่สีแดงเลือดซ่อนอยู่ในปากของเขาเช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีผู้คาดคิดว่าเฉินซีจะไม่ได้รับผลกระทบจากเนตรทัณฑ์สวรรค์ และสามารถเตรียมเหรียญทองแดงโปรยสมบัติเพื่อรับมือกับสถานการณ์ได้
การปะทะกันที่อันตรายต่อเนื่องนี้ ทำให้ยอดคนในโลกภายนอกอดไม่ได้ที่จะพยักหน้า และอุทานด้วยความชื่นชมอย่างไม่สิ้นสุด
อย่างไรก็ตาม การประลองครั้งนี้ไม่ได้จบลงเพียงเท่านี้
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะเดาได้แต่แรกว่าพลังของเนตรทัณฑ์สวรรค์ไม่สามารถทำร้ายข้าได้ ดังนั้นเจ้าจึงเตรียมกระบี่บินเพื่อทำให้ข้าคลายการระวัง และฆ่าข้า?” เฉินซีกล่าวอย่างสงบ ดวงตาเรืองประกายแสงศักดิ์สิทธิ์
“เจ้าพูดถูกเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น” ท่าทางของเหลิ่งซิงหุนเย็นชาและไร้อารมณ์ “ข้ารู้แต่แรกแล้วว่าข้าอาจไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้ อย่างไรก็ตาม ข้าไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้นตั้งแต่แรก”
ขณะที่กล่าว คลื่นเสียงคำรามของเต๋าที่คลุมเครือและไม่อาจเข้าใจพลันดังมาจากระหว่างริมฝีปากของเขา
หลังจากนั้น เหรียญทองแดงสามเหรียญที่ลอยอยู่ต่อหน้าเฉินซีนั้น คล้ายกำลังถูกอัญเชิญด้วยบางอย่าง พวกมันส่งเสียงดังหึ่ง ๆ และดิ้นรนอย่างไม่หยุดหย่อน ยิ่งกว่านั้น ยังพุ่งเข้าหาเหลิ่งซิงหุน
“เป้าหมายของข้าคือการนำพวกมันกลับมา พวกมันเป็นสมบัติล้ำค่าของนิกายอำนาจเทวะ ไหนเลยจะยอมให้พวกมันตกไปอยู่ในมือศัตรูได้อย่างไร?” รอยยิ้มที่ปรากฏบนริมฝีปากของเหลิ่งซิงหุนนั้น ทำให้ดูราวกับได้คำนึงถึงทุกความเป็นไปได้ และมันช่างน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนั้น ช่างเป็นแผนการที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ น่าเสียดายที่เจ้าประเมินข้าต่ำไป” เฉินซีก็ยิ้มเช่นกัน ขณะที่กล่าว เขาก็พ่นคำหนึ่งคำออกมาเบา ๆ “ระเบิด!”
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...