เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1915

บทที่ 1915 จักรพรรดิเหยียนปิง

………………..

บทที่ 1915 จักรพรรดิเหยียนปิง

นั่นอะไร? เฉินซีตะลึง แม้จะอยู่ห่างกันแสนไกล เขาก็ยังสัมผัสจิตสังหารได้ราวประชิดตรงหน้า มันเย็นเยียบเสียดกระดูก ทำให้หัวใจสั่นสะท้าน

เสาน้ำแข็งทะยานสู่เวหา ยืนตระหง่านแผ่จิตสังหารแรงกล้า ปราณนั้นปกคลุมทั่วทุ่งน้ำแข็ง น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง

“อาจารย์อา ปราณที่นั่นอันตรายเกินไป เราควรถอยหรือไปต่อดีขอรับ?” กู่เยี่ยนหน้าเครียด

สายลมพัดคลุ้งทั่วทุ่งหิมะ อากาศเย็นเยียบกระทบใบหน้า มันไม่ใช่เพียงเต็มไปด้วยปราณอเวจี แต่ยังเปี่ยมจิตสังหารด้วย เพียงพบเห็นก็สะพรึงแล้ว

“ไปต่อ” เฉินซีเงียบอยู่นาน ก่อนที่ดวงตาสีดำจะฉายประกายมุ่งมั่น

เขารู้สึกเหมือนความลับบางอย่างต้องซุกซ่อนอยู่ใกล้เสาน้ำแข็งนั้น หากไม่ไปตรวจสอบ เขาจะพลาดบางสิ่งไปแน่แท้

เคร้ง!

กู่เยี่ยนชักกระบี่ตนออกมา “ข้าจะทำตามคำอาจารย์อา”

ระหว่างทาง พวกเขาก็ต้องประสบสายลมและเกล็ดหิมะพุ่งปะทะไม่จบสิ้น ทว่าพวกเขาก็รับพวกมันไว้ได้ มิได้บาดเจ็บใด ๆ

แต่ยิ่งรุดหน้า จิตสังหารในฟ้าดินยิ่งหนักหนา ดูเข้มข้นดุจเป็นสสาร เสียดแทงจนแสบผิว กระทั่งวิญญาณยังรู้สึกเหมือนถูกกดดัน

สิ่งนี้ทำให้สีหน้าของเฉินซีและกู่เยี่ยนเคร่งขรึม นับแต่พวกเขาเข้ามาในแดนรวนเรลืมเลือนจนบัดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบสถานที่อันตรายน่าสะพรึงกลัวเพียงนี้ จึงต้องระแวดระวังอย่างไร้ทางเลือก

ชั่วกาลต่อมา พวกเขาอยู่ห่างจากเสาน้ำแข็งนั้นเพียงหมื่นจั้ง ในที่สุดเฉินซีก็เห็นได้ชัดเจนว่ามีแท่นบูชาโบราณสีดำตั้งอยู่ที่หน้าเสาน้ำแข็ง!

แท่นบูชานั้นมีรูปร่างทรงหกเหลี่ยมประหลาด ทุกมุมของมันสลักด้วยอักขระยันต์ประหลาดโย้เย้ สีแดงดุจโลหิต ดูลึกลับชวนสะพรึง

ขณะเดียวกัน ด้านในของแท่นบูชาเป็นวงกลม ล้อมเสาน้ำแข็งสูงตระหง่านนั้นไว้!

เมื่อมองจากไกลๆ แท่นบูชาสีดำ อักขระยันต์ประหลาดสีแดง และเสาน้ำแข็งสูงตระหง่าน… พวกมันทั้งหมดดูราวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ราววัตถุประหลาดอันสร้างขึ้นแต่โบราณ แผ่จิตสังหารร้ายกาจชวนสะพรึง

เฉินซีกระทั่งตัดสินได้ว่าแท่นบูชานี้แตกต่างจากแท่นบูชาที่เขาเคยประสบมา

ยิ่งกว่านั้น กระทั่งความสำเร็จในเต๋าแห่งยันต์อักขระอันเกินธรรมดาของเขายังไม่อาจเข้าใจอักขระยันต์แดงเลือดบนแท่นบูชาหกเหลี่ยมนั่นได้

เหตุการณ์ตรงหน้าเกินคาดหมายไปสุดขั้ว เป็นสิ่งที่เขาไม่คุ้นเคยอย่างยิ่ง ทำให้ความพรั่นพรึงบังเกิดในใจอย่างเกินตีความ

นี่มันอะไรกันแน่? กู่เยี่ยนก็งุนงงเช่นกัน ขณะที่อาเหลียงเงียบไปด้วยท่าทีประหลาดใจระคนงุนงง

แดนรวนเรลืมเลือนลึกลับจริง ๆ…. เฉินซีทอดถอนใจอย่างอดไม่ได้ เขาตัดสินได้ว่าแท่นบูชาประหลาดลึกลับนี้ตั้งอยู่ที่นี่มาแสนนาน เต็มไปด้วยบรรยากาศเก่าแก่

แต่พริบตาต่อมา ม่านตาของเขาพลันหดตัว ตกตะลึงเมื่อพบว่าบริเวณรอบข้างแท่นบูชานั้นปกคลุมไปด้วยพลังทัณฑ์สวรรค์สะกดเต๋า!

มันไร้ลักษณ์ไร้สี ไร้ปราณรัศมี แต่ยามนี้ กลับพลุ่งพล่านไร้จุดจบเช่นคลื่นกระเพื่อมจากในแท่นบูชาสีดำ คล้อยวนรอบเสาน้ำแข็งขึ้นสูงสู่เก้าชั้นสรวง

สรุปคือ พลังทัณฑ์สวรรค์มิได้ปกคลุมเพียงแท่นบูชาประหลาดสีดำ มันกระทั่งปกคลุมเสาน้ำแข็งตระหง่านฟ้าใจกลางแท่นบูชาด้วย!

หรือเสาน้ำแข็งนี้จะซ่อนความลับบางอย่างไว้? ขณะนี้ สีหน้าของเฉินซีเคร่งขรึม พลังทัณฑ์สวรรค์สะกดเต๋านั้นกล่าวได้ว่าเป็นพลังอันน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง

มันร้ายกาจเสียจนกระทั่งจ้าวเต๋าคุนเผิงยังมิอาจข้ามผ่าน ต้องตกตายลงในที่สุด

ยามนี้ แม้เฉินซีจะตระหนักดีว่าตนมีอักขระผนึกเต๋า หาต้องกลัวอำนาจนี้ไม่ แต่ก็มิได้หมายความว่าพลังทัณฑ์สวรรค์ไม่น่ากลัว!

“มากันอีกแล้ว! ผ่านไปกี่ปีแล้วหนอ? เจ้าพวกบาปหนาทั้งหลายยังไม่ยอมรามือ! น่าขำสิ้นดี! พวกเจ้าอยากยึดกฎเต๋าศักดิ์สิทธิ์ของข้า? ฝันบ้าฝันบอ!” ทันใดนั้น หนึ่งเสียงตะโกนเลื่อนลั่นเช่นอัสนีก็ดังออกมาจากเสาน้ำแข็ง สะท้านวิญญาณกึกก้องทั่วฟ้าดิน

ม่านตาของเฉินซีและกู่เยี่ยนหดตัว ทั่วร่างเกร็งชะงัก รู้สึกประหลาดใจกันอย่างยิ่ง ปรากฏว่ามีผู้อยู่ในเสาน้ำแข็งนี้?

“หือ? เดี๋ยวนะ! พวกเจ้าสองคน….” ทันใดนั้น เสียงจากในเสาน้ำแข็งก็เหมือนตระหนักถึงบางสิ่ง จึงพูดออกมาอย่างประหลาดใจ ก่อนจะร้องออกมาว่า “เจ้าหนูสองคนจากแดนเทพโบราณ? จะเป็นไปได้เช่นไร? ผู้ใดให้พวกเจ้าเข้ามาในแดนรวนเรลืมเลือน? เบื่อชีวิตกันแล้วหรือไร?”

เสียงของเขาบ่งบอกถึงความสะเทือนอารมณ์

พริบตานั้น เฉินซีก็ตกใจเมื่อพบหนึ่งบุคคลปรากฏร่างอย่างเลือนรางบนพื้นผิวเสาน้ำแข็ง ร่างของเขาติดอยู่ในนั้น ทำให้เฉินซีไม่อาจเห็นรูปลักษณ์อีกฝ่ายชัดเจน

“พวกเจ้าสองคนยังคงยืนอึ้งทำอะไร? ไปเสีย! เร็วเข้า! แดนรวนเรลืมเลือนไม่มีทางง่ายดายเช่นพวกเจ้าคิด ที่นี่คือต้นสายหายนะ สถานที่ที่เหล่าผู้ผิดบาปอันเหลือรอดจากยุคก่อนอาศัยอยู่! หากพวกเจ้ายังไม่ไป พวกเจ้าก็จะมีชะตาเช่นเดียวกับข้า สิ้นกำลังหลีกหนีตลอดกาล!” เสียงนั้นตะโกนลั่นอย่างร้อนใจ

ยามวาทะนี้กระทบโสตเฉินซีและกู่เยี่ยน ก็มิต่างจากอัสนีฟากเปรี้ยง ทำให้พวกเขาตกใจอย่างยิ่ง

เหล่าไป๋รู้ว่าเตาหินนั่นเป็นสมบัติล้ำค่าจากยุคก่อน สามารถควบรวมชะตากรรมแห่งยุคสมัย เป็นสมบัติไร้ใดเทียบแทน หากผู้ใดถือครองมันในยุคก่อน จะได้รับการคุ้มกันจากเต๋าสวรรค์ คิดจะตายยังมิอาจทำได้

แต่ยามนี้ เตาหลอมแห่งชะตากรรมเต็มไปด้วยเค้าลางหายนะ!

มิต้องพูดถึงว่าแดนเทพโบราณเผชิญหายนะยิ่งใหญ่มามากมาย แต่ยังคงยืนยงยาวนานจนบัดนี้ จึงไม่อาจทำลายล้างมันลงได้ในทันที

เพราะเหตุนี้เอง ยามนั้นเฉินซีจึงผ่อนคลาย ไม่สนใจมันมากนัก

แต่ยามนี้ เมื่อเขาได้เห็นแท่นบูชาประหลาดอันเก่าแก่ตรงหน้า ได้ยินคำเตือนจากเสียงในเสาน้ำแข็ง เขาก็มิอาจรักษาความเยือกเย็นไว้ได้อีก

เหล่าผู้ผิดบาปอันหลงเหลือจากยุคก่อน แท้จริงซ่อนตัวในแดนรวนเรลืมเลือน? นี่คือสถานที่อุบัติแห่งหายนะ?

เฉินซียืนตะลึงกับที่ หัวใจยากสงบได้เนิ่นนาน รู้สึกกดดันอย่างไม่อาจอธิบายได้

แดนรวนเรลืมเลือนลึกลับเกินหยั่งรู้ สาเหตุหลักที่พวกเขามาที่นี่ก็แค่เพื่อสร้างเอกภพใหม่ของตน และพัฒนาเป็นจ้าวเอกภพเท่านั้นเอง

แต่ใครเล่าจะคาดคิดว่าที่นี่จะซ่อนความลับชวนตะลึงเช่นนี้ไว้?

หากความลับนี้แพร่งพรายสู่ภายนอก ทั่วแดนเทพโบราณจะสั่นสะท้านเป็นแน่!

“เจ้าพวกโง่! พวกเจ้ายังยืนอยู่ที่นั่นหาอะไร? รีบไปเสีย! เร็วเข้า!” เสียงตะโกนดังลั่นสนั่นขึ้นจากในเสาน้ำแข็งอีกครั้งอย่างสุดเข้มงวด

“ขอบังอาจถาม ผู้อาวุโสคือจักรพรรดิเหยียนปิงจากเอกภพมังกรเหลืองหรือไม่?” ทันใดนั้น กู่เยี่ยนก็ถามคำถามนี้ออกมา

“เอ๋? เจ้ารู้จักข้าหรือ? เจ้ามาจากสำนักใด?” เสียงนั้นเอ่ยอย่างประหลาดใจ ยืนยันการคาดเดาของกู่เยี่ยน

“ผู้น้อยคือศิษย์รุ่นที่สามของเขาเทพพยากรณ์ กู่เยี่ยน ส่วนท่านนี้คืออาจารย์อาของข้า ศิษย์สายตรงของบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งฝูซี เฉินซีขอรับ” หลังยืนยันตัวตนเจ้าของเสียงได้ กู่เยี่ยนก็ดูผ่อนคลายขึ้นมาก และแนะนำตนพร้อมเฉินซีทันที

ขณะเดียวกัน เขาก็ส่งกระแสปราณบอกเฉินซี “อาจารย์อา ท่านนี้คือจ้าวเอกภพแห่งเอกภพมังกรเหลือง จักรพรรดิเหยียนปิง เนิ่นนานกาลก่อน เขาได้รับคำชี้แนะจากอาจารย์ลุงอู๋เซวี่ยฉาน จึงถือได้ว่าเขามีความเกี่ยวข้องกับเขาเทพพยากรณ์ของเราขอรับ”

ยามนี้เอง เฉินซีจึงประจักษ์แจ้งเฉียบพลัน

“ศิษย์เขาเทพพยากรณ์! ฮ่า ๆ ๆ! มิคาดเลยว่าหลังติดอยู่ที่นี่มาหมื่นแปดพันปี ข้าจะได้พบศิษย์ร่วมสำนักของนายท่านใหญ่ก่อนตกตาย! ข้าตายตาหลับแล้วจริง ๆ!” จักรพรรดิเหยียนปิงพลันแผดหัวเราะร่า ฟังดูสุดแสนยินดี ทว่ากลับแฝงความโศกเศร้าปนโล่งใจในขณะเดียวกัน

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]