บทที่ 1922 กลั่นกรองและซึมซับแก่นแท้เอกภพ
………………..
บทที่ 1922 กลั่นกรองและซึมซับแก่นแท้เอกภพ
ฟึ่บ! ฟึ่บ!
ทันทีที่เข้าสู่แก่นแท้เอกภพ เฉินซีก็รู้สึกราวกับกำลังเข้าสู่ความฝัน
เขาฝันว่ากำลังโบยบินอย่างอิสระผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว และเสียงลมพัดหวีดหวิวข้างหู
เขาเห็นดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนกะพริบระยิบระยับ เปล่งแสงอันลวงตาดุจภาพฝัน
เขาเห็นดาวหางหลายดวงพุ่งทะลุผ่านความมืด พวกมันเปล่งแสงพร่างพรายและเปลวไฟที่สวยงามบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันไร้ขอบเขต
เขาโบยบิน
โบยบินอย่างสม่ำเสมอ
มันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดมาก ในขณะนี้ เฉินซีลืมเลือนสิ้นทุกสิ่ง และไม่หลงเหลือความคิดใด ๆ ในใจอีกต่อไป
ดุจทารกที่เพิ่งเกิด และเฝ้าสังเกตทุกสิ่งด้วยสายตา ‘ไร้เดียงสา’
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวอันกว้างใหญ่ ดวงดาวที่พร่างพราว ดาวหางที่ส่งเสียงหวีดหวิว…. ทุกอย่างดูคุ้นตา แต่บางครั้งกลับรู้สึกไม่คุ้นเคย
ความรู้สึกคุ้นเคยนี้มาจากประสบการณ์ในส่วนลึกของจิตวิญญาณของเขา
ความรู้สึกไม่คุ้นเคยนี้เกิดขึ้นเพราะจู่ ๆ เขาสังเกตเห็นว่าทุกสิ่งภายในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนี้ กลับดูแตกต่างออกไปมาก ทว่าเขาไม่สามารถระบุว่าความแตกต่างนั้นคืออะไร
นี่เป็นความรู้สึกแปลก ๆ ที่คลุมเครือ ราวกับไม่รู้จักมัน ซึ่งเป็นการยากที่จะอธิบาย ทำได้เพียงเข้าใจและสัมผัสจากใจเท่านั้น
ดังนั้นเฉินซีจึงหยุดคิด เขาเป็นเหมือนเด็กน้อยโง่เขลาซึ่งเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ขณะเคลื่อนตัวผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว เขาไม่เข้าใจอะไรเลย และไม่มีเป้าหมายใด ๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความชื่นชมและความซาบซึ้งอย่างแท้จริง
ในขณะนี้ เฉินซีลืมเลือนตัวตนจนหมดสิ้น
ลืมแดนรวนเรลืมเลือน ลืมเพื่อนร่วมทาง ลืมกระทั่งว่าตนอยู่ในแก่นแท้เอกภพ….
สวรรค์ โลก มนุษย์ อดีต ปัจจุบัน อนาคต…. ดูเหมือนจะหยุดลงเช่นกัน และหัวใจของเขาก็ไร้ความยับยั้งโดยสมบูรณ์
ฟึ่บ! ฟึ่บ!
เฉินซีบินไปข้างหน้าอย่างเรื่อย เหมือนมีมือที่มองไม่เห็นกำลังนำทางไปข้างหน้า จนมาถึงบริเวณที่มืดมิด
สถานที่แห่งนี้กว้างขวางและเงียบสงัด ไม่มีแม้แต่ดวงดาวสักดวง ว่างเปล่าอย่างยิ่ง
ทว่าในขณะนี้ เฉินซีเห็นโซ่ศักดิ์สิทธิ์โปร่งใสจำนวนมากปกคลุมพื้นที่อันกว้างใหญ่นี้ ประหนึ่งตาข่ายที่พันกันหนาแน่น
โซ่ศักดิ์สิทธิ์โปร่งใสทุกเส้นล้วนเต็มไปด้วยพลังชีวิตมากมาย ทั้งยังเปล่งรัศมีที่ไร้ที่ติและลึกซึ้งออกมา
ดุจเส้นแสงพลิ้วไสว ปกคลุมพื้นที่อันกว้างใหญ่และเงียบงันทั้งหมดนี้
พวกมันดูวิเศษ หนาแน่น งดงาม และสมบูรณ์แบบ ทำให้เฉินซีอดรู้สึกว่าลมหายใจของตนถูกพรากไป จึงรู้สึกตกใจเป็นพิเศษ
พลังเอกภพ!
ทันใดนั้น การระเบิดที่เหมือนกับเสียงฟ้าร้องก็เกิดขึ้นภายในใจของเขาอย่างไม่อาจเข้าใจได้ ทำให้ถ้อยคำเหล่านี้ปรากฏขึ้นในใจของเฉินซีฉับพลัน!
เห็นได้ชัดว่าโซ่ศักดิ์สิทธิ์โปร่งใส งดงามอย่างไร้ที่ติและมีชีวิตชีวานั้น คืออุปสรรคของเอกภพนี้
โครม!
ในช่วงเวลาถัดมา จู่ ๆ เขาก็มาถึงพื้นที่ที่ดูเหมือนเป็น ‘ความโกลาหล’ อันกว้างใหญ่ ทุกซอกทุกมุมล้วนเต็มไปด้วยกลิ่นดั้งเดิมและโบราณ
หลังจากนั้น ละอองฝุ่นก็ลอยขึ้นมาในระยะสายตา มันเล็ก ละเอียด จนแทบมองไม่เห็นด้วยซ้ำ
แต่ละอองฝุ่นผงเล็ก ๆ เหล่านี้ได้บดบังวิสัยทัศน์ของเฉินซีทั้งหมดแล้ว
ทว่า พลังไร้ลักษณ์ไหลเวียนหมุนวน ละอองฝุ่นกลายเป็นเม็ดทรายอย่างรวดเร็ว จากนั้นมันก็กลายเป็นก้อนหิน….
จากก้อนหินก็กลายเป็นภูเขา
จากภูเขากลายเป็นเทือกเขาที่ทอดยาวต่อเนื่องกัน….
ในชั่วพริบตา ดูเหมือนเวลาผ่านไปหลายพันล้านปี
ชั่วพริบตาโลกทั้งใบก็เปลี่ยนไป
แม้แต่เฉินซีก็ไม่ทราบแน่ชัดว่าผ่านไปเพียงชั่วขณะ หรือผ่านไปหลายพันล้านปีแล้ว
สิ่งที่เขาเห็นมีเพียงละอองฝุ่นจุดเดียวที่ก่อตัวเป็นดวงดาว!
หลังจากนั้น เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะอุทานด้วยความประหลาดใจ เมื่อดาวดวงนี้ขยายใหญ่ขึ้น ทั้งยังเปล่งพลังมากมายไร้ขอบเขต
ต่อมา ลม เมฆ ฟ้าผ่า ภูเขา แม่น้ำ ฤดูกาลที่หมุนเวียน วัฏจักรชีวิตและความตายของสรรพสิ่ง รวมทั้งปรากฏการณ์อื่น ๆ มากมายได้ปรากฏบนดาวดวงนี้
ละอองฝุ่นได้กลายมาเป็นดวงดาวสุกใส!
ในขณะนี้ การตรัสรู้อย่างฉับพลันปรากฏขึ้นในใจของเฉินซี พลังเอกภพเติบโตขึ้นจากเล็กไปสู่ใหญ่ แก่นแท้ของมันคือความโกลาหล ในขณะที่รากฐานของมันคือดวงดาว!
โครม!
เฉินซีไม่มีเวลาที่จะเข้าใจหรือไตร่ตรองเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้ ทันใดนั้น เขารู้สึกว่าร่างกายสั่นสะท้านไปหมด จากนั้นความคิดก็พรั่งพรูออกมาราวกับกระแสน้ำเข้าสู่จิตใจอันว่างเปล่าของเขา
ความคิด ความทรงจำ ประสบการณ์ อดีต…. ทุกอย่างฟื้นฟูได้ในทันที!
หลังจากนั้น จู่ ๆ เฉินซีก็ตื่นขึ้นจากสภาวะเหมือนฝัน
อย่างไรก็ตาม ในใจกลับมีประสบการณ์มากขึ้น และความเข้าใจอันไม่คุ้นเคย
ความเข้าใจเหล่านี้รวมถึงโครงสร้างของม่านพลังคุ้มกันของเอกภพ การเปลี่ยนแปลงพลังงานของเอกภพ…. มันทรงพลัง กว้างใหญ่ และเหมือนกับความลับที่ไม่อาจอธิบายได้ ซึ่งสามารถเข้าใจและสัมผัสได้ด้วยตัวเองเท่านั้น แต่ไม่สามารถบรรยายด้วยคำพูดได้
“ที่ที่มหาเต๋าสถิตอยู่ ชั่วพริบตาก็เหมือนกับความฝัน”
เฉินซีพึมพำด้วยท่าทางสุขุมและสงบ ดวงตาเต็มไปด้วยแสงเรืองรองลึกซึ้งและสดใส ในขณะที่เขาเปล่งรัศมีอันห่างไกลออกไป
ฟิ่ว!
ห้าสิบวันต่อมา
หนึ่งร้อยวันต่อมา
สองร้อยวันต่อมา
…
ตั้งแต่เฉินซีเข้าสู่แก่นแท้เอกภพนี้ เวลาก็ผ่านไปนับปี ในช่วงเวลานี้ จักรวาลภายในร่างกายได้รับการขัดเกลาและดูดซับพลังแก่นแท้เอกภพอย่างไม่หยุดยั้ง มันทำให้จักรวาลภายในร่างกายของเขารู้สึกเต็มเปี่ยมและโป่งพองอยู่ตลอดเวลา
แต่สุดท้ายก็ถูกเขาควบคุมและปราบปราม
เนื่องจากเฉินซีตระหนักดีว่ายิ่งสะสมพลังเอกภพมากเท่าไร เมื่อเขามีความก้าวหน้าในการบ่มเพาะ ผลกระทบที่ได้จากมันก็จะยิ่งเหลือเชื่อมากขึ้นเท่านั้น
ใช่แล้ว ทุกอย่างมีไว้เพื่อความก้าวหน้า!
ปัจจุบัน เฉินซีบรรลุขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลขั้นสมบูรณ์ ร่างกายแสดงสัญญาณของความสมบูรณ์ และสัมผัสได้ถึงปัจจัยสำคัญที่จะบรรลุสู่ขอบเขตมหาราชเทวา
เหตุผลที่เขาระงับความก้าวหน้า ก็เพราะเป้าหมายไม่ใช่แค่การเป็นมหาราชเทวาเท่านั้น!
มหาราชเทวาเป็นผู้ที่สร้างเอกภพภายในร่างกาย และสามารถรองรับพลังงานของจักรวาลได้มากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถเข้าใจพลังเอกภพได้
มีเพียงจ้าวเอกภพเท่านั้นที่สามารถสร้างเอกภพที่สมบูรณ์อย่างแท้จริงภายในร่างกาย และสามารถรับพลังงานของเอกภพที่แท้จริงได้!
นี่เป็นเหมือนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวในแดนรวนเรลืมเลือน ขอบเขตมหาราชเทวานั้นเทียบเท่ากับเอกภพที่ยังไม่ได้ถือกำเนิด ไร้อุปสรรค ทั้งยังวุ่นวายและไม่ชัดเจน
ในทางกลับกัน จ้าวเอกภพก็เหมือนกับเอกภพที่ก่อตัวขึ้น มันมีอุปสรรคและแก่นแท้ในตัวเอง มันเสถียร มั่นคง และถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน!
กล่าวง่าย ๆ ก็คือ เมื่อเปรียบเทียบมหาราชเทวาและจ้าวเอกภพ ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือพวกเขาสามารถควบคุมพลังเอกภพได้หรือไม่!
เป็นเพราะความแตกต่างนี้ ถึงแม้ว่าจ้าวเอกภพจะอยู่ที่ขอบเขตมหาราชเทวาเช่นกัน แต่ก็ไม่มีมหาราชเทวาคนใดที่สามารถเป็นจ้าวเอกภพได้
ในทำนองเดียวกัน การมีอยู่นี้ ทำให้เกิดความแตกต่างในความแข็งแกร่งระหว่างมหาราชเทวาและจ้าวเอกภพอย่างชัดเจน
ขณะนี้ เฉินซีกำลังแสวงหาเส้นทางของมหาเต๋าสู่การเป็นจ้าวเอกภพของตนเอง!
เพราะเมื่อนานมาแล้ว เขาเคยได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วน ว่าการเป็นจ้าวเอกภพไม่เพียงแต่หมายความว่าจะมีข้อได้เปรียบและศักยภาพอย่างแท้จริง เมื่อเปรียบเทียบกับผู้บ่มเพาะในระดับเดียวกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือ เขาจะมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่ามากเมื่อพุ่งทะลวงเข้าสู่ขอบเขตมหาเทพเต๋า!
นี่คือสิ่งที่เฉินซีให้ความสำคัญมากที่สุด
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และอีกหนึ่งปีก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
หืม?
ในวันนี้ เฉินซีที่กำลังกลั่นกรองและดูดซับพลังเอกภพก็รู้สึกถึงความว่างเปล่า
ในเวลาเดียวกันนั้น พลังเอกภพที่พุ่งออกมาจากโลกภายนอกก็หยุดลงกะทันหัน
เฉินซีลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เขาสังเกตเห็นว่าแก่นแท้เอกภพที่อาศัยอยู่นั้น ได้รับการกลั่น และถูกดูดซับอย่างสมบูรณ์!
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้ทะลวงขอบเขตและก้าวหน้าเพราะเหตุนี้…
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...