บทที่ 1923 รอคอย
………………..
บทที่ 1923 รอคอย
สองปีผ่านไปนับตั้งแต่เฉินซีเริ่มบ่มเพาะอย่างสันโดษ
กู่เยี่ยนและอาเหลียงรออยู่ด้านนอกแก่นแท้เอกภพมาตลอดเวลาเช่นกัน
หากเป็นในยามปกติ เวลาสองปีก็เป็นเพียงชั่วพริบตาสำหรับการดำรงอยู่ในขอบเขตการบ่มเพาะของพวกเขา และมันไม่ได้มากมายอะไร
ทว่าในแดนรวนเรลืมเลือนแห่งนี้ เวลาสองปีดูเหมือนจะมีค่าอย่างยิ่ง และความสำคัญของมันนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าสถานที่แห่งอื่นจะเทียบเคียงได้
เพราะพวกเขาได้รับคำเตือนก่อนจะเข้าสู่แดนรวนเรลืมเลือนว่ามีเวลาเพียงสิบปี และสามารถเลื่อนเวลาออกไปได้มากที่ก็แค่สามปี หากพวกเขาไม่สามารถกลับมาได้ภายในช่วงเวลานี้ ไม่เช่นนั้น พวกเขาก็จะไม่มีวันกลับไปยังแดนเทพโบราณได้อีกตลอดกาล!
หากใครลองนับอย่างรอบคอบ มันไม่ใช่แค่สองปีนับตั้งแต่ที่พวกเขาเข้าสู่แดนรวนเรลืมเลือน และเป็นเวลาเกือบสามปีแล้ว!
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ตาม อีกเจ็ดปีพวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องจากไป
กระนั้นกู่เยี่ยนและอาเหลียงก็ไม่ได้กังวลใจ
ปัจจุบันถูเมิ่งได้รับแก่นแท้เอกภพและกำลังบ่มเพาะอย่างสันโดษ ในขณะที่เฉินซีก็บ่มเพาะอย่างสันโดษเช่นกัน เนื่องจากการบ่มเพาะของนาง แก่นแท้เอกภพไม่ใช้ของจำเป็นสำหรับอาเหลียงเลยสักนิด
มีเพียงกู่เยี่ยนเท่านั้นที่ไม่ได้รับแก่นแท้เอกภพ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่
ในขณะนี้ อาเหลียงและกู่เยี่ยนซ่อนตัวอยู่ในเงามืด รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ ในขณะที่จ้องมองไปยังแก่นแท้เอกภพที่อยู่ไกลออกไป
ความคาดหวังฉายชัดบนใบหน้าของพวกเขา ในขณะที่ดวงตาของทั้งสองทอประกาย ก่อนที่ความตื่นเต้นที่ไม่สามารถควบคุมได้จะปรากฏบนใบหน้าของพวกเขา
สาเหตุมาจากเมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาพบว่าแก่นแท้เอกภพกำลังหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เฉินซีได้กลั่นกรองและดูดซับมันอย่างไม่หยุดยั้ง จนเหลืออยู่ไม่มากแล้ว และถึงขั้นที่มองเห็นเฉินซีได้ราง ๆ!
ในขณะนี้แก่นแท้เอกภพนี้ได้รับการกลั่นกรองและถูกดูดซับอย่างสมบูรณ์ นั่นจะเป็นช่วงเวลาที่เฉินซีกลายเป็นจ้าวเอกภพหรือไม่?
กู่เยี่ยนและอาเหลียงต่างตั้งตารอ
“อืม?” หลังจากนั้นเพียงชั่วครู่ กู่เยี่ยนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว และเขาก็ประหลาดใจเล็กน้อย “ดูเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ”
“เจ้าก็สังเกตเห็นเหมือนกันหรือ? ประมาณเก้าส่วนของแก่นแท้เอกภพนั้นได้รับการกลั่นและดูดซับ แต่คุณชายกลับไม่แสดงสัญญาณของการทะลวงขอบเขตเลย” คิ้วเรียวงามของอาเหลียงขมวดมุ่น “หรือว่ามีบางสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการนี้”
อาเหลียงอดไม่ได้ที่จะเม้มริมฝีปากแดงแน่น และดูจนปัญญา
ไม่นานนัก แก่นแท้เอกภพก็ได้รับการกลั่นและดูดซับอย่างสมบูรณ์ต่อหน้าต่อตาพวกเขา ทว่าเฉินซีไม่ได้แสดงท่าทีของการบรรลุขอบเขตใด ๆ!
ไยถึงเป็นเช่นนี้กัน? ทั้งสองต่างตกตะลึงอย่างมาก และไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
หากพูดตามหลักเหตุผลแล้ว เมื่อคนคนหนึ่งได้กลั่นและดูดซับแก่นแท้เอกภพแล้ว ก็มีแนวโน้มที่บุคคลนั้นจะขึ้นสู่ตำแหน่งจ้าวเอกภพ และผู้บ่มเพาะทุกคนในแดนเทพโบราณล้วนแต่เคยประสบสถานการณ์เช่นนี้ เมื่อขึ้นสู่ตำแหน่งจ้าวเอกภพ
แต่ดูเหมือนมีบางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น… เกิดอะไรขึ้นกับเฉินซี?
ฟึ่บ!
ก่อนที่พวกเขาจะหายตกใจ เฉินซีซึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ก็พลันลุกขึ้นยืน จากนั้นก็พุ่งปราดไปยังแก่นแท้เอกภพอื่น ซึ่งอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
เพียงชั่วพริบตา เขาก็หายไปอย่างสมบูรณ์
“ข้าเข้าใจแล้ว!” เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ ดูเหมือนว่ากู่เยี่ยนจะรู้แจ้งอย่างกะทันหัน “เอกภพลึกลับนี้มีแก่นแท้เอกภพทั้งหมดเก้าแห่ง ตอนนี้อาจารย์อาได้กลั่นและดูดซับแก่นแท้เอกภพเพียงแห่งเดียว ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถควบคุมเอกภพนี้ได้อย่างเต็มที่!”
“เป็นเช่นนั้นเอง” ดวงตาของอาเหลียงสว่างวาบ จากนั้นนางก็ทอดถอนใจยาวด้วยความโล่งอก “ข้าไม่เคยคาดคิดเลยว่า ในขณะที่คนอื่น ๆ จะสามารถขึ้นสู่ตำแหน่งจ้าวเอกภพได้ด้วยการกลั่นและดูดซับแก่นแท้เอกภพเพียงแห่งเดียว แต่พลังที่บรรจุอยู่ภายในแก่นแท้เอกภพนั้น แท้จริงแล้วกลับไม่สามารถเติมเต็มความต้องการของคุณชายได้ คาดไม่ถึงจริง ๆ”
“ฮ่า ๆ ๆ!!” กู่เยี่ยนเริ่มหัวเราะ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ “บรรพบุรุษของข้าไม่ใช่คนที่ผู้บ่มเพาะธรรมดาสามารถเปรียบเทียบได้ เป็นเพราะรากฐานของเขาในเต๋านั้นแข็งแกร่งมาก ทำให้สามารถบรรลุสิ่งนี้ได้ หากเป็นผู้บ่มเพาะคนอื่น แค่ขัดเกลาและดูดซับแก่นเอกภพเพียงแห่งเดียวก็น่าจะเป็นขีดจำกัดของผู้บ่มเพาะคนนั้นแล้ว”
“แต่….” ดูเหมือนว่าอาเหลียงจะนึกถึงเรื่องบางอย่าง “จากสิ่งที่เจ้ากล่าวมา ไม่ได้หมายความว่าคุณชายจะต้องกลั่นและดูดซับแก่นแท้เอกภพทั้งเก้านี้ เพื่อที่จะควบคุมพลังงานของเอกภพนี้ได้อย่างเต็มที่หรอกหรือ?”
แก่นแท้เอกภพทั้งเก้า!
พลังงานที่มีอยู่ภายในนั้นจะมากมายมหาศาลปานใด!
ด้วยรากฐานของเฉินซีในเต๋าและการบ่มเพาะ เขาจะสามารถกลั่นและดูดซับพวกมันได้อย่างเต็มที่หรือไม่?
ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน และตลอดประวัติศาสตร์ของโลกแห่งการบ่มเพาะในแดนเทพโบราณ มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!
รอยยิ้มบนใบหน้าของกู่เยี่ยนค่อย ๆ หายไป ขณะที่ความวิตกกังวลเกาะกุมหัวใจ
อย่างไรก็ตาม หากเป็นทั้งเก้าแห่ง… ความมั่นใจของกู่เยี่ยนก็เริ่มโอนเอน
“ถ้าเขาทำไม่สำเร็จ หรือสามารถกลั่นแก่นแท้เอกภพได้เพียงบางส่วนหลังจากพยายามอย่างเต็มที่แล้ว นั่นหมายความว่าเขาจะไม่สามารถเข้าใจพลังงานของเอกภพนี้ได้อย่างถ่องแท้ ใช่หรือไม่? หากเป็นเช่นนั้น การขึ้นสู่ตำแหน่งจ้าวเอกภพจะไม่… เป็น….” อาเหลียงเริ่มกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งพูด นางก็กลัวจนไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดต่อ
นี่เป็นความจริงที่โหดร้ายอย่างยิ่ง
หากใครต้องการขึ้นสู่ตำแหน่งจ้าวเอกภพ ก็ต้องควบคุมพลังเอกภพได้อย่างสมบูรณ์ นี่คือกุญแจสู่ความสำเร็จ
หากอยู่ที่เอกภพอื่น ๆ บางทีเอกภพนั้นอาจมีเพียงแก่นแท้เพียงแห่งเดียว ดังนั้นจึงต้องกลั่นและดูดซับเพื่อดึงพลังเอกภพนั้นมาอย่างเต็มที่
ฟึ่บ!
โดยไม่รอช้า เฉินซีก็เข้าสู่แก่นแท้เอกภพแห่งที่สาม
“ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นสองเท่า อาจารย์อาใช้เวลาสองปีเมื่อเขาขัดเกลาแก่นแท้เอกภพแห่งแรก แต่ครั้งนี้เขาใช้เวลาเพียงปีเดียว ตราบใดที่อาจารย์อาสามารถยืนหยัดได้ ความเร็วของการกลั่นและการดูดซับก็จะเพิ่มขึ้น!”
กู่เยี่ยนพูดอย่างรวดเร็ว ความคาดหวังในใจเพิ่มขึ้น รู้สึกว่าแม้อาจารย์อาของเขาจะพบกับความยากลำบากในระหว่างกระบวนการนี้ แต่มันก็คงไม่คณนามืออาจารย์อาแน่นอน!
“คุณชายจะต้องประสบความสำเร็จแน่” อาเหลียงพึมพำ แม้แต่ตัวนางก็ไม่รู้ว่าตัวเองได้พูดคำเหล่านี้มากี่ครั้งในระหว่างปีที่ผ่านมา แต่นางก็ไม่สนใจ เพราะความสนใจทั้งหมดอยู่ที่เฉินซีแล้ว
ผ่านไปอีกหกเดือน
เฉินซีบ่มเพาะอย่างสันโดษภายในเอกภพมาเป็นเวลากว่าสามปีครึ่ง
ในช่วงเวลาหกเดือนนี้ เขาได้กลั่นและดูดซับแก่นแท้เอกภพแห่งที่สามอย่างสมบูรณ์!
เมื่อเทียบกับเวลาที่เขาใช้เพื่อกลั่นและดูดซับแก่นแท้เอกภพแห่งที่สอง ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอีกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัย
แก่นแท้เอกภพแห่งที่สี่ได้รับการกลั่นและดูดซับอย่างสมบูรณ์
หนึ่งเดือนต่อมา
แก่นแท้เอกภพแห่งที่ห้าได้รับการกลั่นและดูดซับอย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเริ่มกลั่นกรองและดูดซับแก่นแท้เอกภพแห่งที่หก ความเร็วกลับช้าลง และดูเหมือนว่าเขาจะเผชิญกับความยากลำบากเข้าแล้ว
ครั้งนี้เขาใช้เวลาถึงหกเดือนเต็ม จึงจะทำสำเร็จ
เมื่อเริ่มกลั่นและดูดซับแก่นแท้เอกภพแห่งที่เจ็ด ความเร็วของเฉินซีก็ช้าลงไปอีกขั้น หนึ่งปีผ่านไป กว่าเขาจะกลั่นและดูดซับมันอย่างสมบูรณ์
กู่เยี่ยนและอาเหลียงเงียบงันตลอดทั้งปีนี้ และความกังวลเสี้ยวเล็ก ๆ ที่ไม่สามารถขจัดได้ ก็แล่นเข้าสู่หัวใจของพวกเขา
ทั้งสองสังเกตเห็นว่าความสามารถของเฉินซีไม่ได้อ่อนแอลง แต่เป็นเพราะร่างกายใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว ดังนั้นเขาแทบจะไม่สามารถรองรับพลังแก่นแท้เอกภพได้อีกต่อไป!
บัดนี้เหลือเพียงแก่นแท้เอกภพแห่งที่แปดและเก้าเท่านั้น ตราบใดที่อาจารย์อายังคงยืนหยัดได้ เขาก็จะประสบความสำเร็จ กู่เยี่ยนอธิษฐานในใจอย่างเงียบ ๆ
ห้าปีกับสี่เดือนผ่านไป นับตั้งแต่คุณชายเริ่มบ่มเพาะ และเกือบหกปีครึ่งผ่านไปนับตั้งแต่เข้าสู่แดนรวนเรลืมเลือน ดังนั้นเหลือเวลาอีกแค่สามปี ก่อนถึงเวลาที่ต้องกลับไป…
อาเหลียงคำนวณเวลาอย่างเงียบ ๆ ณ ปัจจุบัน เวลาเป็นปัจจัยสำคัญยิ่ง!
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...