เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1926

บทที่ 1926 ทำลายกายเนื้อ

………………..

บทที่ 1926 ทำลายกายเนื้อ

เฉินซีเผชิญความยากลำบากยามดูดซับแปรสภาพพลังแก่นแท้ในแก่นแท้เอกภพที่แปดโดยแท้….

เขาเกือบมิอาจสยบพลังอันเอ่อล้นในกายไว้ได้ และรู้สึกอย่างแรงกล้าว่าตนเจียนถูกฉีกกระชากระเบิดออกเต็มที!

เหตุเช่นนั้นเกิดขึ้นยามใด จักรวาลในกายเขาก็จะกลายเป็นเอกภพอันปั่นป่วน ไม่มีทางที่เขาจะครอบครองพลังเอกภพได้อีก

สิ่งนี้หมายความว่า แม้เขาจะมิต้องเสี่ยงธาตุไฟเข้าแทรก เขาก็จะเป็นได้เพียงจักรพรรดิผู้หนึ่งไปตลอดกาล สิ้นโอกาสบรรลุเป็นจ้าวเอกภพ!

แล้วเฉินซีจะยอมให้ตนเองไขว้เขวในขณะนี้ได้อย่างไร!

ทว่ายามเขาสังเกตพบสิ่งที่เกิดในโลกภายนอก ได้ยินเสียงระเบิดอึกทึกยามถูเมิ่งเผชิญเหลิ่งซิงหุนและตงหวงอิ่นเซวียน ฟังวาทะมาดร้ายของเหลิ่งซิงหุนและตงหวงอิ่นเซวียนอันสุดแสนเหยียดหยาม เค้าโทสะอันเกินสะกดก็พลุ่งพล่านในใจเฉินซีอย่างช่วยไม่ได้!

พวกสมควรตายสองคนนี้อีกแล้ว! โดยเฉพาะเมื่อเขาสังเกตว่าทั้งสองใช้วิธีการชั่วช้า ค่อย ๆ ทรมานถูเมิ่งด้วยเจตนาค่อย ๆ ฆ่าให้ตาย เฉินซีก็มิอาจควบคุมตนเองได้

เพลิงโทสะผลาญแผดทั่วร่าง ทำให้เขาดูประหนึ่งถูกเพลิงคลอก จิตสังหารพล่านพลุ่งเปี่ยมแค้นปกคลุมทั่วกาย

เป็นดั่งเหลิ่งซิงหุนกล่าวไว้ เฉินซีให้ความสำคัญยิ่งยวดต่อคำสัญญาและมิตรภาพ เช่นนั้น ยามสหายของเขาเผชิญอันตราย เขาจะอยู่เฉยได้อย่างไร?

เขาเดือดดาลนัด!

โกรธแค้นสุดขีด!

ทว่าความคิดของเฉินซีมิได้ถูกครอบงำโดยโทสะ เขากลับดูเยือกเย็นสุดขั้วเสียแทน

เขาตระหนักดีมากว่า แม้ยามนี้เขาจะพุ่งออกไป มันก็ไม่ได้แก้ไขสถานการณ์ใดเลย กลับกัน มันจะทำให้ทั้งเขาและถูเมิ่งตกตาย

แต่หากเขาไม่ขยับยามนี้ ถูเมิ่งก็จะตกตายในไม่ช้า!

ข้าควรทำเช่นไร? นี่ก็มิได้ นั่นก็มิได้ หรือข้าทำได้เพียงมองหายนะนี้ปรากฏ ทนมองถูเมิ่งและคนอื่น ๆ ตายไปต่อหน้าเท่านั้นหรือ?

ไม่!

เฉินซีไม่มีทางยอมให้เรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้น

พริบตานั้น เขามุ่งความสนใจมาที่ตนเอง ครุ่นคิดถึงทุกความเป็นไปได้เท่าที่คิดออก

ท้ายที่สุด เขาก็คิดได้เพียงหนึ่งวิธี ทางเดียวที่เขาจะป้องกันโศกนาฏกรรมนั้นได้ก็มีเพียงบรรลุเป็นจ้าวเอกภพ!

ขณะนี้ เขาขาดเพียงแก่นแท้เอกภพสองดวงสุดท้าย ก็จะเหยียบย่างขึ้นเป็นจ้าวเอกภพได้

ทว่าจากสภาพปัจจุบันของเขา หากใช้วิธีการเดิมตลอดมาในยามนี้ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาอีกสองปีเป็นอย่างน้อย

เห็นได้ชัดว่าวิธีการนี้ใช้ไม่ได้เลย!

แต่หากไม่ทำเช่นนั้น เขาจะแก้ปัญหาตรงหน้าได้อย่างไร?

ครืน!

ขณะที่เฉินซีครุ่นคิดอย่างบ้าคลั่ง พลังจักรวาลในกายก็พลุ่งพล่านดุร้ายเยี่ยงมหาสมุทร ทำให้ความรู้สึกจุกแน่นบวมพองหนักหนาขึ้น

สิ่งนี้ทำให้ทั่วร่างของเฉินซีสั่นสะท้านอย่างช่วยไม่ได้ ราวกับกำลังรับความเจ็บปวดเกินธรรมดาบางอย่าง

การเผชิญสถานการณ์อันตรายยากรับมือในยามขับคันเช่นนี้ เป็นหายนะแสนทรมานเกินใดเทียบสำหรับทุกคน!

เฉินซีก็มิใช่ข้อยกเว้น

ขณะนี้ เขารู้สึกทุกข์ทรมานทั้งกายและใจยิ่งกว่าหนใด มิใช่เพียงเพราะสถานการณ์อันตรายสุดยากรับมือที่ประสบยามดูดซับแปรสภาพแก่นแท้เอกภพทั้งหลาย ยังเป็นเพราะเขาต้องมาคิดด้วยว่าจะรับมือเหตุวิปลาสในโลกภายนอกเช่นไร

หากเป็นคนธรรมดาทั่วไป คนผู้นั้นคงเสียสติไปนานแล้วเป็นแน่!

แม้เฉินซีจะไม่เสียสติ เขาก็มิได้ห่างไกลจากมันนัก เหตุกะทันหันเกินคาดนี้ถือได้แน่นอนว่าเป็นหายนะอันตรายสูงสุดที่เขาประสบนับแต่บ่มเพาะมา

ผิดพลาดเพียงนิด เฉินซีอาจเสียใจไปชั่วชีวิต!

พลาดเพียงเสี้ยว หายนะก็อาจบังเกิด!

“ฮ่า ๆ! ดูเหมือนว่าเทียบกับชีวิตเจ้าแล้ว อาจารย์อาของเจ้าจะให้ความสำคัญกับโอกาสบรรลุเป็นจ้าวเอกภพมากกว่านะ คนเหี้ยมโหดเช่นนี้ควรค่าเป็นอาจารย์อาของเจ้าด้วยหรือ?”

“ช่างมันเถอะ พี่ตงหวง ทรมานเจ้านี่ต่อไปก็ไร้ความหมาย เหตุใดเรามิร่วมมือกันฉวยโอกาสนี้ กำจัดเจ้านี่ไปให้สิ้นเสียเลยเล่า?”

“เช่นนั้นได้ก็ประเสริฐ จะได้ไม่เกิดเหตุเกินคาดคิดใด ๆ อีก”

บทสนทนาระหว่างเหลิ่งซิงหุนและตงหวงอิ่นเซวียนพลันดังขึ้นอีกครั้งจากโลกภายนอก โดยเฉพาะยามสัมผัสจิตสังหารและเจตนาฆ่าถูเมิ่งให้สิ้นซากได้ เฉินซีก็รู้สึกราวทั่วร่างเจียนระเบิด และหนึ่งโทสะอันเกินบรรยายก็พล่านพุ่งจากในกาย

อึดใจต่อมา เขาก็เหมือนตัดสินใจในบางสิ่งที่เสี่ยงระห่ำยิ่ง พลันกัดฟันหยุดสะกดอำนาจเอ่อล้นอันอัดแน่น ณ จักรวาลในกาย

เปรี้ยง!

พริบตานั้น จักรวาลในตัวเฉินซีระเบิดออก!

อำนาจทรงพลังเกินบรรยายพรั่งพรูจากในร่างเช่นกระแสคลื่น สาดซัดครืนโครมไปทั่วทิศ

ทุกคนล้วนสังเกตได้ว่า ยามอำนาจนี้แผ่ออกมา เอกภพอันปั่นป่วนรุนแรงอย่างยิ่งก็ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในกายเฉินซี

หากเรื่องทั้งหมดจบลงเพียงเท่านี้ เฉินซีก็จะสิ้นโอกาสเป็นจ้าวเอกภพชั่วชีวิต เป็นได้เพียงจักรพรรดิธรรมดาเท่านั้น!

“ดี! ดี! ดี!” ขณะนี้ เมื่อเห็นเฉินซีเจียนตายรอมร่อ เหลิ่งซิงหุนก็ปรีดาจนมิอาจรักษาอาการ แผดเสียงหัวเราะปรบมือชอบใจอย่างเกินระงับ

เขากระทั่งไม่คิดสนใจถูเมิ่งอีกต่อไป

ตงหวงอิ่นเซวียนเองก็เช่นกัน เขาไม่มีทางยอมพลาดยามเฉินซีบาดเจ็บหนักเจียนตายเช่นนี้

เปรี้ยง!

ไม่นาน กระดูกทั่วกายเฉินซีก็ระเบิดเป็นเสี่ยง หลงเหลือเพียงเพลิงศักดิ์สิทธิ์วิญญาณ เป็นภาพน่าสะพรึงกลัวยิ่ง

ขณะนี้ ลมหายใจของถูเมิ่งหยุดลง เขานิ่งค้างกับที่ ความคิดจิตใจว่างเปล่า หรือว่า… อาจารย์อาจะเผชิญหายนะตกตายที่นี่ไปแล้วจริง ๆ?

ขณะเดียวกัน ยามเห็นเช่นนี้ ตงหวงอิ่นเซวียนและเหลิ่งซิงหุนสุดแสนปลาบปลื้ม อยากจะเชิดหน้าแผดเสียงหัวเราะให้ลั่นฟ้าเหลือเกิน

นับแต่การถกวิถีเต๋าจนบัดนี้ พวกเขาทั้งสองเสียหายด้วยมือเฉินซีมาเกินคณานับ เกิดความแค้นฝังกระดูกต่ออีกฝ่ายมาเนิ่นนาน ประกอบกับการที่ทั้งความสามารถโดยกำเนิดและอำนาจต่อสู้ของเฉินซีเลิศล้ำเกินไปไกล จึงทำให้พวกเขาครุ่นแค้นในใจเป็นอย่างยิ่ง

ดังนั้นยามนี้ เมื่อได้เห็นอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ท้าทายสวรรค์สมควรตายเฉินซีเผชิญหายนะ มีหรือจะไม่รู้สึกสุดแสนดีใจ?

“เหลือเพียงดวงจิตเช่นนี้ เขาก็มีแต่แพ้กับพ่าย! หนนี้เฉินซีตายแน่! ฮ่า ๆ ๆ!” เหลิ่งซิงหุนพึมพำ ก่อนที่สุดท้ายจะระเบิดหัวเราะดังลั่น

“บางทีจากวันนี้ไป เขาเทพพยากรณ์ก็จะเสียศิษย์สายตรงไปหนึ่ง หากข่าวนี้แพร่สู่แดนเทพโบราณได้ ข้าก็อยากรู้นักว่าผู้คนในโลกหล้าจะคิดเช่นไร” ตงหวงอิ่นเซวียนฉีกยิ้ม ดูสุดแสนมั่นใจว่าชัยชนะอยู่ในกำมือตน

แต่อึดใจต่อมา เหลิ่งซิงหุนก็สังเกตว่ามีบางสิ่งไม่ชอบมาพากล และอดพูดอย่างประหลาดใจมิได้ “ว่ากันตามหลักเหตุผล การทานทนแรงกระแทกของพลังแก่นแท้เอกภพโดยใช้เพียงดวงจิตตนนั้นไม่มีทางเป็นไปไม่ได้ แต่เหตุใดวิญญาณเจ้านั่นจึงยังรอดอยู่จนบัดนี้?”

ในสายตาของเขา เพลิงศักดิ์สิทธิ์วิญญาณของเฉินซีแผดผลาญเรืองรอง มิเพียงไม่เผยสัญญาณดับมอด มันยังยิ่งจ้าจรัสแทงสายตาจนเจ็บแปลบ

“มีบางอย่างผิดปกติจริง ๆ พลังของแก่นแท้เอกภพทั้งสองยังโถมมารวมกัน มันเกิดอะไรขึ้น?” ตงหวงอิ่นเซวียนก็สังเกตเห็นความผิดปกติเช่นกัน รอยยิ้มบนใบหน้าแข็งค้างฉับพลัน

เปรี้ยง!

ก่อนที่พวกเขาจะทันหายประหลาดใจ หนึ่งปราณอันน่าสะพรึงกลัวเกินนิยามก็แผ่ออกจากเพลิงศักดิ์สิทธิ์วิญญาณของเฉินซี กวาดกระหน่ำทั่วโลกหล้า!

เพียงพริบตา แก่นแท้เอกภพทั้งสองก็ถูกเขมือบเข้าสู่เพลิงศักดิ์สิทธิ์วิญญาณ!

วิ้ง! วิ้ง!

ทันใดนั้น สำเนียงเต๋าดุจลำนำธรรมชาติก็ดังกระหึ่มสนั่นโสตในท้องนภาพร่างพราวสีเทาหม่นหมองนี้ แผ่พล่านไร้ข้อยกเว้น

ดุจนักปราชญ์บรรพกาลขานตำรา!

ขณะเดียวกัน หนึ่งปราณอันยิ่งใหญ่ สูงส่ง และไร้ขอบเขตก็พุ่งออกมา….

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]