บทที่ 1934 ไม่ชอบมาพากล
………………..
บทที่ 1934 ไม่ชอบมาพากล
เย่เฉินและอวี้จิ่วหุยเคยมีเรื่องขัดแย้งกันมาก่อน
พวกเขาทราบดีว่าหลี่หลูเฟิงเป็นคนประเภทใด และยังรู้ว่าหลี่หลูเฟิงได้แอบติดต่อกับศิษย์ของนิกายอำนาจเทวะและสำนักศักดิ์สิทธิ์อย่างลับ ๆ มานานแล้ว
อย่างไรก็ตาม พวกเขาล้วนเป็นศิษย์ร่วมนิกายเดียวกัน เมื่อประกอบกับความจริงที่ว่าความอาวุโสของหลี่หลูเฟิงนั้นสูงกว่า แม้พรสวรรค์จะด้อยกว่าพวกเขา แต่อีกฝ่ายก็ยังถือเป็นศิษย์พี่ใหญ่อยู่ดี
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แม้ว่าเย่เฉินและอวี้จิ่วหุยจะรังเกียจการกระทำของหลี่หลูเฟิง แต่พวกเขาก็จะไม่นิ่งเฉยและปล่อยให้เฉินซีจัดการกับศิษย์ร่วมสำนักอย่างแน่นอน
เฉินซีไม่สนใจคำยั่วยุของหลี่หลูเฟิง เพราะคนที่ไร้ศีลธรรมและมีพฤติกรรมเช่นนี้ไม่มีค่าให้ใส่ใจ
เฉินซีเพียงจ้องมองที่เย่เฉินและอวี้จิ่วหุย “ข้าสามารถเห็นแก่พวกเจ้าทั้งสองคน และไม่ถือสาความจริงที่ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยพยายามฆ่าถูเมิ่ง ศิษย์ร่วมนิกายข้า อย่างไรก็ตาม ข้าอยากถามพวกเจ้าสักคำ ทราบหรือไม่ว่า มีความเป็นไปได้มากที่เขาจะร่วมมือกับนิกายอำนาจเทวะและสำนักศักดิ์สิทธิ์?”
“ช่างน่าขันอะไรอย่างนี้! เจ้าเห็นข้าร่วมมือกับพวกเขาตั้งแต่เมื่อใด? เฉินซี เจ้าอย่าบังอาจปรักปรำข้า! แม้ว่าเขาเทพพยากรณ์ของเจ้าจะน่ากลัว แต่สำนักเต๋าของข้าก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน!” หลี่หลูเฟิงตะโกนเสียงดังลั่น ดูเต็มไปด้วยความมั่นใจ เนื่องจากการมาถึงของเย่เฉินและอวี้จิ่วหุย คำพูดที่หลุดออกมาจึงค่อนข้างตรงไปตรงมา พร้อมกับชี้นิ้วไปยังเฉินซีและเริ่มก่นด่า
เฉินซีไม่คิดสนใจหลี่หลูเฟิง สายตาจับจ้องเย่เฉินและอวี้จิ่วหุย ขณะรอคอยคำตอบ
“นั้น….” อวี้จิ่วหุยลังเลเล็กน้อย
เย่เฉินถอนหายใจเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ “ทุกคนล้วนเคยทำผิดพลาด เฉินซี เจ้ายอมเห็นแก่หน้าข้า แล้วปล่อยเรื่องนี้ไป หากเรื่องนี้ยังเกิดขึ้นอีกในภายภาคหน้า ข้าจะให้คำอธิบายแก่เจ้าเอง”
คำพูดของเขายอมรับสิ่งที่เฉินซีกล่าวโดยอ้อม
สิ่งนี้ทำให้เย่เฉินรู้สึกอับอายเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม สำนักเต๋าของพวกเขายึดถือความเป็นกลาง แต่หลี่หลูเฟิงได้กระทำเรื่องเช่นนั้นจริง ๆ มันทำให้เขารู้สึกอับอายอย่างมาก
“เอาละ ข้าเข้าใจแล้ว” เฉินซีพยักหน้า
“ศิษย์น้องเย่เฉิน เจ้ากำลังกล่าวอะไร!” ใบหน้าของหลี่หลูเฟิงมืดลง เขาไม่เคยคิดเลยว่าเย่เฉินจะกล่าวออกมาแบบนั้น
“ศิษย์พี่หลี่!” ท่าทางของเย่เฉินเย็นชา พลางกล่าวเน้นทีละคำ “เห็นแก่ที่เรามาจากสำนักเดียวกัน ข้าจึงพยายามหาโอกาสให้เจ้า อย่าทำให้ความพยายามและความตั้งใจของข้าสูญเปล่า!”
ใบหน้าของหลี่หลูเฟิงแข็งทื่อทันที ดวงตาสั่นไหวและปิดปากเงียบสนิท
“ไปซะ ข้าไม่อยากเห็นเจ้าอีก” ทันใดนั้น สายตาของเฉินซีก็เลื่อนมาที่หลี่หลูเฟิง และไม่ได้ปิดบังความเกลียดชังของตนเลย “เจ้าควรภาวนาว่าอย่าได้ตกในมือของข้าอีก”
“ฮึ่ม!” หลี่หลูเฟิงแค่นเสียงเย็น “เจอกันครั้งหน้า ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องตัดสินผลแพ้ชนะอย่างแน่นอน!”
สิ้นคำ เขาก็หันหลังเตรียมจากไป
ทว่าในตอนนั้นเอง จู่ ๆ ก็มีเสียงกังวลดังก้องมาจากที่ไกลแสนไกลในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว “เฉินซี! อย่าปล่อยเขาไป!”
สืออวี๋! เฉินซีระบุตัวตนของเจ้าของเสียงนั้นได้ทันที ดวงตาคมกล้าหรี่แคบลง
ฟึ่บ!
หลี่หลูเฟิงก็ระบุตัวตนของเจ้าของเสียงนี้ได้เช่นกัน สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที รัศมีอันศักดิ์สิทธิ์พุ่งออกมาจากร่าง บังเกิดเป็นเสียงดังกึกก้อง แล้วพุ่งทะยานออกไปในระยะไกล
ราวกับว่าตั้งใจหลบหนีจริง ๆ
“หยุด!” ชั่วพริบตานั้น เฉินซีเลือกที่จะเชื่อสืออวี๋ พุ่งปราดออกไปด้วยความตั้งใจที่จะจับหลี่หลูเฟิงกลับมา
“เฉินซี! เจ้าเพิ่งสัญญาว่าจะปล่อยศิษย์พี่หลี่ไป!” อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาคับขันนี้ เย่เฉินและอวี้จิ่วหุยก็ลงมือพร้อมกัน สาดการโจมตีอย่างรุนแรงด้วยความตั้งใจที่จะหยุดเฉินซี
โครม!
แววตาของเฉินซีแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา จากนั้นเขาก็สะบัดแขนเสื้อ รัศมีศักดิ์สิทธิ์สีม่วงทองที่เปล่งประกายอย่างไม่มีใครเทียบได้สาดส่องออกมา กระแทกเข้าใส่ทั้งสองจนกระเด็น!
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เย่เฉินและอวี้จิ่วหุย ผู้ซึ่งเป็นจ้าวเอกภพทั้งสองคนนี้ถูกซัดจนกระเด็นด้วยการสะบัดแขนเสื้อเพียงครั้งเดียว!
ทั้งสองคนประหลาดใจทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ ไม่อยากเชื่อสายตาตน
ในช่วงเวลานี้ ร่างของเฉินซีหายไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอย่างไร้ร่องรอย
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
ในเวลาเดียวกัน ร่างจำนวนมากก็วูบไหวมาจากที่ไกลแสนไกลในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว น่าตกใจคือคงโหยวหราน สืออวี๋ และฉินซินฮุยจากตำหนักเต๋าหนี่หวา
จ้าวเอกภพ! ทันใดนั้น ดวงตาของเย่เฉินและอวี้จิ่วหุยอดไม่ได้ที่จะหดตัว เพราะพวกเขาสังเกตเห็นว่าคงโหยวหราน สืออวี๋ และ ฉินซินฮุยได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งจ้าวเอกภพแล้ว!
คราวนี้… ศิษย์พี่ใหญ่หลี่คงไม่รอดแล้ว เย่เฉินถอนหายใจลึก ๆ
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลี่หลูเฟิงได้สังหารศิษย์ของตำหนักเต๋าหนี่หวา ในขณะที่ต่อสู้เพื่อชิงแก่นแท้เอกภพ เขาเกือบจะฆ่าคงโหยวหรานและคนอื่น ๆ ด้วยซ้ำ
เป็นเพราะเหตุการณ์นี้ที่ทำให้เย่เฉินและอวี้จิ่วหุยแยกทางกับหลี่หลูเฟิง และออกตามหาแก่นแท้เอกภพด้วยตัวเอง
ทั้งหมดเป็นเพราะการกระทำของหลี่หลูเฟิงนั้นขัดกับหลักการของสำนักเต๋าอย่างสิ้นเชิง และเขายังสร้างศัตรูกับตำหนักเต๋าหนี่หวาอีกด้วย!
ไม่ใช่ว่าศิษย์ของสำนักเต๋าจะกลัวปัญหา ตั้งแต่แรกเริ่ม พวกเขาได้รับการเตือนจากผู้อาวุโสในสำนักของพวกเขา ว่าห้ามเข้าไปพัวพันในการต่อสู้ระหว่างมหาอำนาจทั้งสี่
แต่เห็นได้ชัดว่าการกระทำของหลี่หลูเฟิงได้ล้ำเส้นแล้ว!
ในขณะนี้ แม้เย่เฉินและอวี้จิ่วหุยจะพยายามหยุดอีกฝ่าย ทว่ามันก็มันสายเกินไป เพราะกลุ่มของคงโหยวหรานไม่ใช่ผู้เยี่ยมยุทธ์กลุ่มเดียวที่อยู่ที่นี่ แต่รวมถึงเฉินซีที่อยู่ไกลออกไป!
เย่เฉินก็ถอนหายใจ “ข้าเคยบอกเขาแล้ว ว่าเขาจะต้องประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับจักรพรรดิอวิ๋นชิงแน่ หากยังทำเช่นนี้ แต่เขาก็ไม่ฟัง ทั้งยังดื้อรั้น เรื่องนี้ตำหนิใครไม่ได้เลย”
อวี้จิ่วหุยพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ จากนั้นก็กล่าวว่า “เป็นเรื่องดีที่เขาตายเช่นกัน อย่างน้อยที่สุดเขาก็สามารถรักษาความซื่อสัตย์ไว้ได้”
“นั่นอาจไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้น ศิษย์จากตำหนักเต๋าหนี่หวาของเราถูกเขาสังหาร การตายด้วยน้ำมือของเฉินซีถือว่าจากไปสบายแล้ว” คงโหยวหรานกล่าวเสียงเย็น แฝงด้วยความเกลียดชังเด่นชัด
เมื่อมาถึงจุดนี้ ครึ่งหนึ่งของศิษย์หกคนจากตำหนักเต๋าหนี่หวาที่เข้าสู่แดนรวนเรลืมเลือนได้เสียชีวิตไปแล้ว และมีเพียงสามคนเท่านั้นที่ยังคงอยู่ สิ่งนี้ทำให้คงโหยวหรานโกรธจนเต็มท้อง แต่ไม่มีที่ให้ระบายออกมา
เย่เฉินและอวี้จิ่วหุยไม่ได้โต้แย้ง เนื่องเพราะหนี้เลือดย่อมมีคนมาล้างแค้น ไม่ว่าพวกเขาจะรู้สึกอึดอัดในใจเพียงใด แต่พวกเขาจะไม่แสร้งมารยาต่อคงโหยวหรานในขณะนี้
“ช้าก่อน!” ในขณะนี้ จู่ ๆ เฉินซีก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง และเขาก็ขมวดคิ้วพลางกล่าวว่า “พวกเจ้ามาที่นี่ได้ยังไง”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป ความสนใจของทุกคนก็ถูกหันเหไปทันที ซึ่งพวกเขาต่างมองหน้ากัน ในขณะที่รู้สึกประหลาดใจและงุนงงเล็กน้อย
นี่มันผิดปกติมากจริง ๆ!
ในความเห็นของเฉินซี ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ในวันนี้ล้วนเป็นเรื่องแปลก
ประการแรก ถูเมิ่งถูกไล่ล่า และเขาดึงเหลิ่งซิงหุนกับตงหวงอิ่นเซวียนมาที่นี่ หลังจากนั้น จ้าวชิงเหยาและหวังจงก็มาถึงอย่างต่อเนื่อง
ต่อมา หลี่หลูเฟิง เย่เฉิน และอวี้จิ่วหุยปรากฏตัวอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่กลุ่มทั้งสามของคงโหยวหราน จะมารวมกัน….
นี่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญเกินไปหรอกหรือ!
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ศิษย์ทั้งหมดจากห้าสุดยอดแห่งเอกภพจักรวรรดิมารวมตัวกันที่เอกภพลึกลับแห่งนี้ แล้วมันจะไม่ชอบมาพากลได้อย่างไร?
แดนรวนเรลืมเลือนนั้นกว้างใหญ่ไพศาลและอันตรายยิ่ง แล้วทำไมพวกเขาถึงมาปรากฏตัวที่นี่?
“เราได้พบกับร่างที่สวมชุดดำโดยบังเอิญ และเราก็ไล่ตามเขาจนมาถึงที่นี่ น่าเสียดายที่เราคลาดกับคนผู้นั้นไปแล้ว” คงโหยวหรานขมวดคิ้วขณะกล่าวช้า ๆ
“เอ๊ะ!” ทันทีที่สิ้นคำ เย่เฉิน อวี้จิ่วหุย และจ้าวชิงเหยาก็อุทานด้วยความประหลาดใจพร้อมกัน!
“พวกเจ้าทุกคน… คงไม่เจอสถานการณ์เช่นนี้ใช่หรือไม่?” เมื่อนางเห็นสิ่งนี้ คงโหยวหรานก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติเช่นกัน
เย่เฉินและคนอื่น ๆ พยักหน้าพร้อมกัน “ถูกต้อง เรากำลังไล่ตามร่างที่สวมชุดดำและถูกพามาที่นี่”
ในขณะนี้ แม้แต่สีหน้าของเฉินซีก็ดูเคร่งขรึม และพึมพำ “ดูเหมือนคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้!”
ทันทีที่สิ้นคำ ความเย็นชาเสี้ยวหนึ่งก็ผุดในใจของทุกคนอย่างอดไม่ได้ และพวกเขาก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง จนลืมเรื่องการตายของหลี่หลูเฟิงไปเสียสนิท….
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...