เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1936

บทที่ 1936 หนังอสูรเปลี่ยนผันเกินคาด

………………..

บทที่ 1936 หนังอสูรเปลี่ยนผันเกินคาด

หนังอสูรที่ทั้งเก่าทั้งเสียหายปลดปล่อยพลังผันผวนอันลึกลับออกมา ไม่อาจมีใครมองมันออกได้

คงโหยวหรานและคนอื่น ๆ จำหนังอสูรนี้ได้ มันมีความเกี่ยวข้องกับพื้นที่ลึกลับภายในแดนรวนเรลืมเลือน อาจทำให้ได้มาซึ่งความลับมหาวิถีแห่งเต๋าก็เป็นได้!

หากแต่พวกเขาก็ต้องตกตะลึง เพราะนอกจากห้าหนังอสูรที่มาจากห้าสุดยอดแห่งเอกภพจักรวรรดิแล้ว ก็ยังมีหนังอสูรอีกชิ้นหนึ่งอยู่ด้วย

“ข้าได้มาจากหวังจง” เฉินซีอธิบายพูดเสียงเรียบ ก่อนจะเปิดหนังอสูรแผ่นนั้นออกมา

หนังอสูรชิ้นนี้ใหญ่กว่าชิ้นอื่น ๆ ที่เฉินซีมี รูปทรงดูแปลกประหลาด เหมือนมีใครเอามันมาประกอบเข้าด้วยกัน

ราวกับว่าหนังอสูรชิ้นนี้เกิดจากชิ้นส่วนหนังอสูรที่เสียหายหลาย ๆ ชิ้นนำมาต่อกัน จึงทำให้ได้รูปทรงเป็นเอกลักษณ์เช่นนี้ออกมา

หากแต่เมื่อได้เห็นเช่นนี้ เฉินซีก็ตกตะลึงทันที เขารู้ว่าตอนหวังจงได้หนังอสูรโบราณแผ่นนี้มา มันไม่ได้มีหน้าตาเป็นแบบนี้เลย

หวังจงคงจะรวบรวมชิ้นส่วนอื่น ๆ เข้าด้วยกัน สุดท้ายจึงกลายเป็นหนังอสูรในมือเขาตอนนี้!

นอกจากจะทำให้เฉินซีตกตะลึงแล้ว เขายังรู้สึกสับสนร่วมด้วย หวังจงไปเอาชิ้นหนังอสูรมากมายขนาดนั้นมาจากไหนกัน?

“อาเหลียง เจ้าช่วยดูให้หน่อยว่าเขียนอะไรไว้บ้าง” กู่เยี่ยนเอ่ยขึ้นจากด้านข้าง

“อ้อ” อาเหลียงจึงกระโดดมาข้างกายเฉินซี อยู่หน้าหนังอสูรชิ้นนั้นพอดี

มันก็เหมือนกับห้าหนังอสูรที่เฉินซีเคยได้มาแล้ว มีตัวอักษรแปลกประหลาดสลักไว้เช่นเดียวกัน พวกมันเป็นตัวอักษรพิศวง ไม่มีใครรู้จัก

อาเหลียงเป็นเพียงคนเดียวที่นี่ที่สามารถอ่านตัวอักษรลึกลับเหล่านั้นได้ เพราะมันเป็นตัวอักษรลับของราชวงศ์เผ่าจุลบรรพกาล

คงโหยวหรานและคนอื่น ๆ เองก็ประหลาดใจเช่นกัน เขาไม่คิดว่าเฉินซีจะมีลูกหลานเผ่าจุลบรรพกาลอยู่ด้วย

ทั้งยังไม่เคยคิดว่าตัวอักษรที่ขนาดห้าสุดยอดแห่งเอกภพจักรวรรดิยังไม่สามารถแกะความออกมาได้ อาเหลียงกลับสามารถอ่านมันได้อย่างไรปัญหาใด

“สหายเฉินซีผู้นี้เตรียมการมาพร้อมจริง!” คนทั้งหลายเห็นภาพนี้แล้วก็ได้แต่ถอนใจ

“สุดยอดพลังนำสู่ความว่างเปล่า ความว่างเปล่าคือสุญตา สุญตากำเนิดชีวิต จุดเริ่มจิตแห่งทุกปริศนา…” อาเหลียงเริ่มอ่านตัวอักษรที่สลักไว้บนหนังอสูร น้ำเสียงนางไพเราะเสนาะหู ทุกถ้อยคำที่กล่าวออกมาดึงใจทุกคนให้สนใจได้

“สุดยอดพลังนำสู่ความว่างเปล่า!” เป็นตอนนั้นเองที่สืออวี๋ อวี้จิ่วหุย ฉินซินฮุย และจ้าวชิงเหยาสั่นสะท้านไปพร้อม ๆ กัน มันอาจเป็นคำที่ดูธรรมดายิ่ง แต่พอได้ยินกลับเหมือนเต็มไปด้วยพลังพิศวง ทำเอาดวงจิตแห่งเต๋าสั่นสะท้าน เกิดความรู้สึกลึกลับไม่อ่านอธิบายได้ทะลวงสุขห้วงจิต

ถึงขั้นที่ประโยคนั้นทำให้พวกเขาลืมสิ้นทุกสิ่งอย่างที่อาเหลียงอ่านมา!

หากแต่คนอื่น ๆ เหมือนไม่รู้อะไร ไม่มีใครตกใจกับคำเหล่านั้น ทั้งยังไม่รู้เลยว่าคำพวกนี้ทำให้สืออวี๋และสหายอีก 3 คนในกลุ่มราวกับถูกฟาดหน้า

“ความว่างเปล่าคือสุญตา!” แต่พริบตาต่อมา เมื่ออาเหลียงเอ่ยออกมาอีกประโยค คงโหยวหรานกับเย่เฉินก็ทำท่าเหมือนถูกฟ้าผ่า ความเข้าใจอย่างหนึ่งพลันกำเนิดขึ้น

มีเพียงเฉินซีกับกู่เยี่ยนเท่านั้นที่ยังไม่รู้อะไร

นี่ดูแล้วแปลกประหลาดยิ่ง เป็นแค่คำธรรมดาแท้ ๆ แต่พออาเหลียงอ่านมันออกมา ก็เหมือนกับมีความหมายลึกลับซัดเข้ากลางใจ ทำให้แต่ละคนมีสีหน้าแตกต่างกันออกไป

“สุญตากำเนิดชีวิต จุดเริ่มจิตแห่งทุกปริศนา!” พออาเหลียงพูดถึงประโยคนี้ เฉินซีเองก็ใจสั่นเช่นกัน สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายลึกลับไม่คุ้นเคยขึ้นมา

หากแต่พริบตาเดียว ก็เกิดกระแสลั่นครืนอันแปลกประหลาดขึ้นภายในห้วงจิตสำนึกของเฉินซี ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากที่เดิมทีหลับลึกอยู่กลับตื่นขึ้นมา!

เหมือนกับว่าคำพูดเหล่านี้มีกลิ่นอายลึกลับซึ่งมีพลังแบบเดียวกับชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากอยู่ ทำให้เกิดการตอบสนองน่าประหลาดขึ้นมา

หากแต่การตอบสนองนี้ทำให้เฉินซีรู้สึกกลัวขึ้นมา เขารีบเก็บหนังอสูรไปตามสัญชาตญาณแล้วตะโกนออกมาว่า “อาเหลียง หยุดอ่านก่อน!”

อาเหลียงไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไร ไม่ได้สัมผัสถึงความผิดปกติใดเลยด้วยซ้ำ แต่พอเฉินซีตะโกนออกมาดังลั่น ขัดจังหวะนางไว้ ทั่วร่างนางจึงสั่นสะท้าน คล้ายกับว่าหวาดกลัวเขา

ตอนนี้เฉินซีถึงนึกได้ว่าตนเองมีท่าทีประหลาด จึงรีบกล่าวขึ้นว่า “อาเหลียง ไม่ใช่ความผิดเจ้าหรอก เป็นข้าเอง”

อาเหลียงดูวางใจลงเล็กน้อย จากนั้นก็แลบลิ้น “คุณชาย เมื่อครู่ท่านน่ากลัวมากเลยนะ”

“เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”

“บ้าเอ๊ย! เหมือนกับถูกสิงเลย! นี่มันแปลกมาก”

เสียงตะโกนดังลั่นเฉินซีปลุกคงโหยวหรานและคนอื่น ๆ ให้หลุดออกจากภวังค์น่าประหลาดเช่นกัน สีหน้าพวกเขาพลันเปลี่ยนผัน เพราะรู้ดีว่าตนเองแสดงท่าทางแปลก ๆ ออกมา

เฉินซีสูดลมหายใจเข้าลึก ครุ่นคิดอยู่นานก่อนเอ่ย “ไม่เป็นไร หนังอสูรชิ้นนี้มาจากหวังจง เนื้อหาของมันไม่มีใครรู้จัก ไม่ได้ว่าอาจจะมีเรื่องที่เราไม่รู้ซุกซ่อนอยู่ภายในนี้ก็ได้”

พอได้ยินดังนี้ทุกคนก็ใจสั่น เพราะอย่างไรพวกเขาก็ขึ้นเป็นจ้าวเอกภพแล้ว นับว่ามีพลังสูงส่งกว่าแต่ก่อนมาก

ตอนนี้เหมือนจะดูเป็นแผนที่จริง ๆ ขึ้นมาแล้ว เส้นคดเคี้ยวหนาแน่นบนหนังอสูรนั้นเหมือนพาไปที่ใดสักแห่ง

“นี่มัน… แผนที่พาไปแดนลับงั้นหรือ?” ทุกคนล้วนแปลกประหลาดใจ ไม่คิดว่าหนังอสูรโบราณแผ่นนี้จะสามารถต่อเข้าด้วยกันให้สมบูรณ์ได้ ทั้งยังเกิดความเปลี่ยนแปลงประหลาดขึ้นอีก

เฉินซีเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน

ก่อนหน้าที่เฉินซียังไม่ได้หนังอสูรชิ้นที่หกมาจากหวังจง เขาก็ได้เบาะแสบางอย่างจากห้าหนังอสูรที่มีในมือมาแล้ว

มันคือตัวอักษรประหลาด ‘太’ ‘纪’ ‘坛’ ‘道极’ ‘神主元’ ‘无上而空’ ‘真无而无上’.

ในหมู่ตัวอักษรเหล่านั้น ยังมีตัว ‘神’ ‘纪’ ’ 主’ ‘极’ และ ‘元’ ที่เป็นตัวอักษรเดียวกับที่ปรากฏขึ้นในชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากด้วย

ในตอนนั้น เฉินซีสงสัยว่าชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลาก แดนรวนเรลืมเลือน เอกภพลับ และความลับแท้จริงของมหาวิถีแห่งเต๋าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกันก็ได้!

เท่าที่เฉินซีรู้ หากเขาหาแดนลับนั่นเจอ เขาก็อาจจะพบคำตอบ

หากแต่ตอนนี้พอได้เห็นหนังอสูรชิ้นสมบูรณ์เกิดการเปลี่ยนแปลง และเห็นว่าตัวอักษรทั้งหลายกลับหายไปเช่นนี้ เฉินซีก็ประหลาดใจมาก

หรือว่ามันจะไม่ใช่อย่างที่ข้าคิด ความลับภายในตัวอักษรเหล่านั้นอาจจะเป็นแค่สัญลักษณ์ที่เตรียมไว้ทำเป็นแผนที่อย่างนั้นหรือ?

เฉินซียืนอึ้งไปนานพอสมควร

หลายชั่วอึดใจผ่านไป เขาก็สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วทิ้งความคิดทั้งหลายไปเสีย ในใจเขารู้ดีว่าหากอยากรู้เรื่องราวทั้งหมดให้ได้ เขาก็ต้องหาแดนลับนั่นให้เจอก่อน

“เฉินซี ในความคิดเจ้าแล้ว แผนภาพบนหนังอสูรนี้หมายความว่าอย่างไร?” คงโหยวหรานถามขึ้น

“หากเดาไม่ผิด คงจะเป็นเส้นทางพาไปสู่พื้นที่ลับ” เฉินซีตอบแทบไม่ต้องคิด เรื่องนี้เดาง่ายมาก เพราะแค่เอาเบาะแสที่เคยได้ก่อนหน้านี้มารวมกันก็น่าจะรู้แล้ว

ทุกคนจึงตาเป็นประกายขึ้นมา แดนลับ! ไม่แน่ว่า ความลับแท้จริงของมหาวิถีแห่งเต๋าอาจจะซ่อนอยู่ในนั้นก็ได้!

“ตอนนี้เราจะไปตามเส้นทางในหนังอสูรไม่ได้” เฉินซีเอ่ยขึ้น เหลือบมองทุกคน “ข้ามีความรู้สึกว่าพวกนอกรีตคงจะวางแผนการใหญ่ไว้ด้วยการล่อพวกเจ้าทุกคนให้มาที่นี่ หากเราลงมือตอนนี้พวกมันคงสังเกตได้แน่”

เขาหยุดไปเล็กน้อย สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม จากนั้นก็เอ่ยคำขึ้นมาอย่างระมัดระวัง “อีกอย่าง ข้ารู้สึกสงสัยขึ้นมาว่าหวังจง… เหมือนจงใจให้ข้าชิงหนังอสูรชิ้นสุดท้ายมาได้!”

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]