เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1939

บทที่ 1939 ม่านอนธการเร้นดารา

………………..

บทที่ 1939 ม่านอนธการเร้นดารา

หุบเหวทัณฑ์หายนะมโหฬารอย่างยิ่งจนเกินจินตนาการ

ยามความกังวลปรากฏในใจเจียหนาน เขาหาตระหนักไม่ว่ามีบุคคลจำนวนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าหุบเหวมหึมานี้มาแสนนาน

พวกเขามีกันทั้งสิ้นสิบคน และปรากฏว่าผู้นำคณะคือหวังจงในชุดคลุมสีเลือด แผ่บรรยากาศดุร้ายเก่าแก่

ตัวตนซึ่งติดตามเบื้องหลังทั้งหมดสวมชุดคลุมสีดำ นอกจากนั้น บรรยากาศที่แผ่ออกมายังเย็นเยียบอันตราย ดูเหมือนสัตว์ประหลาดไร้อารมณ์ เป็นภาพอันชวนสะเทือนขวัญ

ขณะนี้ หวังจงยืนที่ข้างหุบเหว อาภรณ์พลิ้วพัดไปพร้อมเรือนผมยาว จับจ้องลงสู่ส่วนลึกแห่งหุบเหว จมในภวังค์ความคิด

ครืน!

พิรุณอัคคีโปรยปรายลงจากท้องฟ้าที่นี่เช่นกัน ดูประหนึ่งน้ำตกอันหลั่งรินจากสมุทรเพลิงเก้าชั้นสรวง ผลาญสุญญะเรืองฤทธายิ่งใหญ่

หากมองดี ๆ ก็จะสังเกตเห็นได้ว่ามีหมู่ดาวนับไม่ถ้วนปะปนอยู่ในสมุทรเพลิงโปรยปราย หายลับลงสู่หุบเหว

ภาพเช่นนี้บรรยายได้ว่า สมุทรเพลิงโปรยจากเก้าชั้นสรวง มวลดาราจมหายสู่หุบเหว!

กระทั่งหมู่ดาวโปรยปรายเหล่านั้นยังถูกกลืนกินหายสิ้นไร้ร่องรอยในพริบตา จึงแสดงให้เห็นชัดเจนว่าหุบเหวนี้มโหฬารเพียงไร

มันยิ่งใหญ่จนไร้ขอบเขต!

“หนนี้ ขอเพียงเราใช้งานมันสำเร็จ วันโลกาวินาศของแดนเทพโบราณก็จะมาถึง….” หลังเงียบอยู่นาน หวังจงก็พึมพำออกมา สายตาที่มองลงสู่หุบเหวเผยความคลั่งไคล้อย่างปิดไม่มิด

หลังจากนั้น หวังจงก็หันกลับมากล่าวกับร่างในชุดดำทั้งหลาย “เพื่อโอกาสนี้ เผ่าเรารอคอยมาแสนนาน ยามนี้ โอกาสมาถึงเสียที พวกเจ้าก็น่าจะตระหนักดีว่าควรทำเช่นไร”

เสียงของเขาลุ่มลึกเย็นเยียบ

“รับบัญชาใต้เท้า!” ตัวตนในชุดดำเหล่านั้นตอบกลับอย่างเคร่งขรึม

“หากภารกิจนี้เกิดเหตุผิดพลาดใด ๆ พวกเจ้าก็ตระหนักดีถึงผลที่ตามมา ข้าไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้แล้วกัน” หวังจงหันกลับไปจับจ้องหุบเหวอีกครั้ง ก่อนจะพลันขมวดคิ้ว “เหตุใดจึงยังไม่มีข่าวคราว?”

เหล่าตัวตนชุดดำเงียบไป พวกเขาก็งุนงงอย่างยิ่งเช่นกัน

วูบ!

ขณะนั้นเอง หมอกดำสายหนึ่งก็พุ่งเข้ามาจากแสนไกล ส่งเสียงหวีดหวิวแหวกอากาศ

เพียงพริบตา หมอกดำนั้นก็มาอยู่ตรงหน้าหวังจง

เปรี้ยง!

มันระเบิดออก ก่อนที่หมอกดำสายหนึ่งจะแปรสภาพเป็นม่านแสง

ภาพยามคณะของเฉินซีล้อมโจมตีชายชุดดำฉายขึ้นมาบนม่านแสงอย่างน่าตกใจ

เปรี้ยง!

ท้ายที่สุด ยามชายชุดดำบนม่านแสงระเบิดตนเอง ม่านแสงก็แหลกสลายเป็นริ้วเสี่ยง ไม่หลงเหลือร่องรอยใด ๆ

ขณะเดียวกัน เมื่อเห็นเรื่องทั้งหมดนี้ สีหน้าของหวังจงก็ดำคล้ำ ปราณจากร่างยิ่งหนักหนากดดัน

หลังกระสับกระส่ายกันครู่หนึ่ง ตัวตนชุดดำทั้งหลายก็ฟื้นความเงียบสงัดเย็นเยียบกันอีกครั้ง

บรรยากาศเงียบกริบราวป่าช้า อำนาจกดดันรุนแรงเสียจนยากหายใจ

เนิ่นนานจากนั้น หวังจงก็ผ่อนหายใจยาว พึมพำว่า “ดูเหมือนพวกเขาจะสังเกตเห็นการกระทำของเราแล้ว….”

พริบตานั้น เขาหวนนึกถึงข้อจำกัดของจ้าววิญญาณอาถรรพ์บนหนังสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ และนึกถึงเฉินซีขึ้นมา

สังหรณ์กำลังร่ำร้องว่า ทั้งข้อจำกัดของจ้าววิญญาณอาถรรพ์และภาพที่เพิ่งประสบ ทั้งสองน่าจะเกี่ยวข้องกับเฉินซีทั้งสิ้น

“เฉินซีหนอ! เฉินซี! ข้าประเมินฝีมือเจ้าต่ำไปจริง ๆ!” ดวงตาของหวังจงเรืองประกายไร้ปรานี “เจ้าคิดว่าแค่นี้ก็หนีข้าพ้นแล้วหรือ? ฝันไปเถอะ!”

“รับบัญชาข้า!” หวังจงหันกลับมา ดวงตาแข็งกร้าวเย็นเยียบเสียดกระดูกมองไปยังบุคคลชุดดำทั้งหลาย

“จากนี้ไป ใช้งานพลังเอกภพตาลปัตรเต๋า! ใช้กำลังของเราทั้งหมดทั่วแดนรวนเรลืมเลือน เริ่มแผนได้!”

“ข้าอยากให้พวกเขาไร้ที่ให้หนีซ่อน ไร้หนทางนอกจากติดกับดักของเรา!”

“รีบไป!”

วันนี้แสงศักดิ์สิทธิ์ประหลาดลึกลับสีดำนับไม่ถ้วนพลันพลุ่งพล่านปรากฏลักษณ์จากทั่วทุกบริเวณในแดนรวนเรลืมเลือน ดุจม่านรัตติกาลอันซุกซ่อนดวงดาวทั้งมวลบนท้องฟ้า

ขณะเดียวกัน อำนาจเต๋าแห่งสวรรค์ทั่วทิศในโลกหล้าต่างเรรวน ทำให้สรรพสิ่งปั่นป่วนไร้ระเบียบ

แดนดินพังทลาย

สุญตาพลิกตาลปัตร

สรรพสิ่งรวนเร

ถึงขนาดกระทั่งที่ไม่อาจตัดสินกระทั่งทิศทางได้อีกต่อไป

สรรพสิ่งเริ่มปั่นป่วนประหนึ่งเผชิญหายนะยิ่งใหญ่!

ม่านรัตติกาลคลุมฟ้า ความมืดโรยตัวลง

เจียหนานพลันเงยหน้า และเมื่อเห็นหมู่ดาวทั่วฟ้าหายลับไปในความมืด สีหน้าหนักแน่นสำรวมก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมถึงขีดสุด

“สุดท้ายมันก็เริ่มขึ้นอยู่ดี….” ขณะนี้ เหมือนเจียหนานจะตัดสินใจบางอย่างได้ ร่างของเขาเรืองปราณเด็ดเดี่ยวเปี่ยมกรุณา

สิ่งนี้ทำให้หัวใจของคนทั้งหลายดิ่งร่วง อำนาจต่อสู้ของเฉินซีในยามนี้ร้ายกาจเกินธรรมดา แต่เขากลับไม่อาจสร้างผลกระทบใด ๆ ต่อม่านอนธการนี้ได้เลย พวกเขาจึงสงสัยว่าอำนาจน่าสะพรึงกลัวอันเต็มเปี่ยมในม่านอนธการนี้คือสิ่งใดกันแน่!

“ดูเหมือนเราจะไม่อาจเข้าสู่ท้องนภาพร่างพราวที่ใดได้ ทำได้เพียงลงมือบนพื้นดินนี้ของแดนรวนเรลืมเลือนเสียแล้ว” เฉินซีขมวดคิ้ว พอเดาเรื่องบางอย่างได้

“หรือผู้ผิดบาปจากยุคก่อนจะอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้?” เย่เฉินถามเสียงเบา

“น่าจะใช่” เฉินซีพยักหน้า “ทุกสิ่งในแดนรวนเรลืมเลือนกำลังเปลี่ยนแปลง ปั่นป่วนสิ้นระเบียบ อันตรายกว่ากาลก่อนมากนัก หากข้าเข้าใจไม่ผิด เหล่าผู้ผิดบาปน่าจะสังเกตเห็นบางสิ่ง และเริ่มเล่นงานเรากันแล้ว”

สิ้นคำ หัวใจของปวงชนก็บีบตัว

“ทุกท่าน เราต้องเตรียมรับศึกจากนี้ไป!” เฉินซีสูดหายใจลึก ประกายเย็นเยียบอันปกคลุมด้วยจิตสังหารพลุ่งพล่านจากนัยน์ตาดำ

ชิ้ง!

ว่าจบ เขาก็ชักยันต์ศัสตราออกมา

ยามจัดการกับเหลิ่งซิงหุนและตงหวงอิ่นเซวียน เฉินซีไม่ได้ใช้สมบัติศักดิ์สิทธิ์เลยสักชิ้น แต่ยามนี้ ศึกยังไม่ทันเริ่ม เขาก็ชักยันต์ศัสตราออกมาแล้ว จึงแสดงชัดว่าเขาให้ความระวังต่อเหตุจากนี้อย่างยิ่ง และมิกล้าเลินเล่อแม้แต่น้อย

คนอื่น ๆ เห็นเช่นนี้ก็มิกล้าละเลย พวกเขาโคจรการบ่มเพาะ นำสารพัดสมบัติศักดิ์สิทธิ์ออกมาอย่างตื่นตัว

เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!

ขณะที่พวกเขาเตรียมตัวพร้อมสรรพนั้นเอง พื้นดินพลันเริ่มสั่นสะท้าน แล้วขุนเขาในบริเวณใกล้เคียงก็สั่นเทิ้มถล่มร่วง

ดูราวทัพอันทรงพลังกำลังกรีฑาเข้ามาจากแสนไกล เรืองอำนาจเกรียงไกรสะท้านภพ ทำให้สรรพชีวิตหม่นหมองต่อหน้ามัน

“นั่นอะไร?” คงโหยวหรานทอดสายตาไปไกลอย่างตกตะลึง

ทันใดนั้น เงาร่างมากมายก็หลั่งไหลมาจากเส้นขอบฟ้าแสนไกล มุ่งตรงมารวดเร็วเยี่ยงวารีหลาก

เงาร่างเหล่านั้นมีทั้งเทพอสูรสูงหมื่นจั้ง เผยปราณกดดันยิ่งใหญ่ ฝูงต่อรากษสโลหิต ซากศพน่าสะพรึงกลัวอันเหลือเพียงโครงกระดูก ตัวตนน่าสะพรึงกลัวอันเรืองแสงสีเลือดทะยานฟ้า รูปลักษณ์ดุร้ายพิกล….

จำนวนมากมายเกินไป!

ราวทัพอันอหังการจากสรรพชีวิตในแดนรวนเรลืมเลือน แน่นฟ้าคลุมแดนทะยานเข้ามา

จิตสังหารจากแต่ละร่างหลอมรวมอัดแน่นเสียจนดูจับต้องได้ เลื่อนลั่นครืนโครม ถล่มสรรพสิ่งรอบข้างแหลกร้าวปั่นป่วน ดูน่าสะพรึงเป็นที่สุด

“แย่แล้ว! เจ้าพวกนั้นเหมือนจะมุ่งมาทางเรา!” สืออวี๋พูดเร็วจี๋

“ไปกัน!” เฉินซีตัดสินใจในทันทีว่ามิอาจมุ่งหน้าต่อได้ พวกเขาต้องเปลี่ยนทิศทางเป้าหมาย เพราะตัวตนดุร้ายอันตรายมากมายกำลังใกล้เข้ามา ดูประหนึ่งมหาสมุทรไร้ขอบเขต ชวนให้ร่างสะท้านด้วยความกลัวแม้จะทำเพียงมองจากไกล ๆ

ทว่าขณะที่พวกเขากำลังหันหลังกลับนั้นเอง หนึ่งเสียงวิหคขานแสบแหลมก็สะท้อนทั่วฟ้าดินจากแสนไกล ณ ทิศทางที่พวกเขากำลังจะมุ่งไป

แกว๊ก!

สัตว์ปีกขนาดมโหฬารตัวหนึ่ง เป็นสีดำทั้งกาย เก้าศีรษะดุร้าย ขนาดใหญ่ปกคลุมพื้นที่แสนจั้งก็ปรากฏขึ้นจากไกล ๆ เรืองฤทธิ์สะท้านโลกา!

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]