บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 194

บทที่ 194 ปัจจัยสำคัญในการบรรลุ

“เฉินซี ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าในปัจจุบัน หากร่างกายของเจ้าสามารถบรรลุขอบเขตเคหาทองคำได้ เมื่อเราเข้าสู่ห้วงทะเลทรายมรณะ โอกาสที่จะเอาชีวิตรอดของเราจะมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม อย่าลืมว่าเจ้ายังมีเคหาลึกลับอยู่และเจ้าสามารถซ่อนตัวอยู่ในนั้น หากเจ้าเผชิญกับอันตรายที่คุกคามถึงชีวิต” หลิงไป๋กล่าวทันที

เฉินซีอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง เพราะสิ่งที่หลิงไป๋กล่าวออกมานั้น มันถูกต้องทุกประการ เมื่อระดับการบ่มเพาะร่างกายและการบ่มเพาะลมปราณของเขาบรรลุขอบเขตเคหาทองคำแล้ว เขาก็จะสามารถเข้าสู่เคหาบ่มเพาะของผู้อาวุโสฝูซีได้อีกครั้ง นอกจากนี้ยังสามารถเข้ารับการทดสอบระดับที่สองของบททดสอบแห่งสรวงสรรค์ได้

หากเขาสามารถผ่านบททดสอบแห่งสรวงสวรรค์ระดับที่สองได้ ก็จะได้รับผลประโยชน์อย่างมากมาย และไม่เพียงแต่จะได้รับรางวัลจากผู้อาวุโสฝูซีแห่งเคหาบ่มเพาะเท่านั้น แต่ยังสามารถฝึกบ่มเพาะภายในเคหาได้อีกด้วย

การบ่มเพาะภายในเคหานั้นมีความต่างด้านเวลา หากบ่มเพาะอยู่ในนั้นเก้าวัน เวลาของโลกภายนอกจะผ่านไปเพียงหนึ่งวัน ดังนั้นเขาจึงสามารถบ่มเพาะเป็นเวลาถึงสี่สิบห้าปี ในขณะที่โลกภายนอกผ่านไปเพียงห้าปีเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ เขาย่อมสามารถทะลวงไปสู่ขอบเขตแกนทองคำหยินหยางได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่การชุมนุมดาวรุ่งจะเริ่มต้นขึ้น

“สิ่งที่เจ้ากล่าวมานั้นถูกต้องจริง ๆ แต่การฝึกฝนการบ่มเพาะร่างกายของข้าได้มาถึงจุดคอขวดแล้ว อีกทั้งการดูดซับพลังดาราจักรจากศิลาวิญญาณดาราก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี ข้าต้องการปัจจัยสำคัญที่สามารถทำให้ร่างกายของข้าเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ แต่น่าเสียดายที่ข้ายังไม่เคยพบมันเลย” เฉินซีส่ายศีรษะและหัวเราะอย่างขมขื่น

หลิงไป๋ยิ้มบาง ๆ “ส่งเคียวแห่งการสังหารมาให้ข้า”

“เพื่ออะไรหรือ?” เฉินซีตกตะลึงทันที แต่เขาก็ยังหยิบเคียวแห่งการสังหารออกมาและส่งมอบให้หลิงไป๋

โอม!

ในขณะที่หลิงไป๋ถือเคียวแห่งการสังหาร เจตนาฆ่าอันน่าสะพรึงกลัวก็พวยพุ่งออกมาโดยรอบ ราวกับมันกวาดล้างไปทั่วทั้งสวรรค์และโลก ทำให้ห้องรับรองพิเศษทั้งห้องตกอยู่ในความมืดมิดในทันที

“ฆ่า!”

“ฆ่า!”

“ฆ่า!”

เสียงคำรามที่โกรธเกรี้ยวมากมายราวกับว่าพวกมันถูกกู่ร้องออกมาโดยเทพเจ้าแห่งการเข่นฆ่าจากสมัยโบราณ และมันประสานเข้ากับเสียงแห่งการเข่นฆ่าที่เย็นยะเยือกที่สุดของสวรรค์และโลก เจตนาฆ่าที่พลุ่งพล่านได้แปรเปลี่ยนเป็นหมอกดำที่ส่งเสียงคำรามก้อง เพียงชั่วพริบตา ห้องรับรองพิเศษทั้งห้องก็ดูเหมือนจะกลายเป็นทุ่งสังหาร

‘เจ้าตัวเล็กคนนี้กลับสามารถใช้เขตแดนเต๋าแห่งการสังหารได้ ข้าเกรงว่าเขาจะพึ่งพาความแข็งแกร่งของเคียวแห่งการสังหารเช่นกัน’ เฉินซีคิดด้วยความตะลึงทึ่ง

“เฉินซี เจ้าไม่ต้องการค้นหาปัจจัยสำคัญหรือ ถ้าเช่นนั้นก็จงเข้าไปในเขตแดนเต๋าแห่งการสังหารนี้ซะ และปล่อยให้เจตนาฆ่าขัดเกลาร่างกายของเจ้า จากนั้นข้าจะใช้เต๋ากระบี่แห่งแดนนิพพานของข้า เพื่อทำให้ร่างกายของเจ้าอยู่ในสภาพนิพพาน ไม่เกิดและไม่ตาย ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะก้าวหน้าด้วยสิ่งนี้ไม่ได้!” หลิงไป๋ถือเคียวแห่งการสังหารไว้ในมือ และสีหน้าของเขาฉายแววอาฆาตแค้น “อย่าได้กังวล เจ้าจะไม่ตายอย่างแน่นอน แต่ความเจ็บปวดนั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จงระวังตัวด้วย ข้าจะเริ่มแล้ว!”

ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!

ทันทีที่หลิงไป๋กล่าวจบ แสงสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนที่ควบแน่นจากเต๋ารู้แจ้งแห่งการสังหารก็ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง และกลายเป็นค้อนขนาดใหญ่ ดาบ ขวาน หอก… โจมตีใส่เฉินซีจากทุกทิศทางราวกับห่าฝนที่โหมกระหน่ำ

ในขณะนั้น ฟ้าดินต่างก็เต็มไปด้วยอาวุธฆ่าฟันและเจตนาฆ่า ซึ่งราวกับเฉินซีติดอยู่ในสนามรบที่เต็มไปด้วยเลือดที่หลั่งไหลดั่งสายน้ำ เจตนาสังหารอันร้ายกาจนั้น ทำให้เขาเองก็ยังต้องหายใจลำบากและจิตวิญญาณก็สั่นสะท้าน ซึ่งหากเป็นผู้อื่นพบเจอสถานการณ์เช่นนี้ เกรงว่าคนผู้นั้นคงถูกครอบงำด้วยความหวาดกลัวและคงปัสสาวะราดตัวเองไปตั้งนานแล้ว

แต่ดวงตาของเฉินซีกลับส่องประกายขึ้นแทน จากนั้นก็หายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะนั่งสมาธิลงบนพื้น และไม่ได้คิดที่จะต่อต้านการโจมตีใด ๆ แต่กลับหลับตาแน่นด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง ราวกับเขาได้ลืมเลือนการโจมตีนับไม่ถ้วนที่พุ่งเข้าหาเขาจากรอบด้าน

ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟู่! ฟู่! ฟู่!

ชั่วพริบตาเดียว ศีรษะ ลำคอ หน้าอก แผ่นหลัง แขนขาของเฉินซี… ทั่วทั้งร่างกายของเขาก็มีบาดแผลฉกรรจ์จำนวนมาก และกระดูกสีขาวโพลนอันน่าสยดสยองของเขาก็ถูกเผยขึ้นมาในอากาศ ทำให้ร่างกายของเขาดูเหมือนกับโครงกระดูกที่ถูกบดจนแหลก ซึ่งมีลักษณะที่น่ากลัวเป็นอย่างมากและอาจทำให้ผู้พบเห็นต้องรู้สึกหวาดกลัวจนขนหัวลุกและหนาวเย็นไปถึงกระดูกดำ

“เต๋ารู้แจ้งแห่งการสังหารนี้เทียบได้กับการโจมตีของผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง ร่างกายของข้าอ่อนแอเกินไปจริง ๆ ถ้าข้าไม่ได้โคจรปราณจ้าววิญญาณ ข้าก็คงไม่สามารถต้านทานการโจมตีแม้แต่เพียงครั้งเดียว…” ภายในความเจ็บปวดที่ไร้ขอบเขต เฉินซีทุ่มเทอย่างหนักเพื่อรักษาจิตในห้วงจิตสำนึกของเขา จากนั้นจึงหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะถือศิลาวิญญาณดาราไว้ในมือแต่ละข้างและโคจรปราณจ้าววิญญาณของเขาอย่างบ้าคลั่ง

ฟู่! ฟู่! ฟู่!

เช่นเดียวกับต้นไม้เหี่ยวเฉาที่แตกหน่อ อาการบาดเจ็บทั้งหมดบนร่างกายของเฉินซีค่อย ๆ ฟื้นฟูอย่างช้า ๆ ในขณะที่ภายในอักขระจ้าววิญญาณบนแผ่นหลังของเขา ธุลีโกลาหล ไม้ศักดิ์สิทธิ์นิรนาม อัญมณีเพลิงนิรนาม มุกวารีนิรนาม และแร่โลหะนิรนาม ดูเหมือนจะได้รับการกระตุ้น จนพรั่งพรูออกมาด้วยพลังแห่งธาตุทั้งห้าอย่างบ้าคลั่ง เพื่อฟื้นฟูร่างกายพร้อมกับปราณจ้าววิญญาณของเขา

เหตุการณ์นี้เป็นสิ่งที่เฉินซีไม่เคยคาดคิดมาก่อน แต่เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าหลังจากที่เนื้อหนังของเขาดูดซับพลังงานของธาตุทั้งห้า มันก็ความยืดหยุ่นและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ทุกอณูผิวหนังของเขาราวกับได้ผ่านการอบร้อนเป็นพันครั้งในเตาหลอมและได้รับการขัดเกลาอย่างเข้มข้น ทำให้มันไม่มีสิ่งเจือปนหรือสิ่งสกปรกแม้เลยแต่น้อย อีกทั้งยังเปล่งประกายอย่างอ่อนโยนราวกับเป็นผลึกแก้ว

นอกจากนี้ เขารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะสังเกตเห็นว่าจุดชีพจรในร่างกายของเขาสามารถกักเก็บปราณจ้าววิญญาณได้เพิ่มขึ้นและกว้างใหญ่ยิ่งกว่าเดิม หากร่างกายของเขาเป็นเพียงกาน้ำชาในอดีต ในตอนนี้มันก็คงกลายเป็นถังน้ำแล้ว เนื่องจากห้วงลมปราณที่ใช้กักเก็บปราณจ้าววิญญาณของเขาได้ขยายใหญ่มากกว่าเดิมถึงสองสามเท่า!

ทั้งหมดนี้เกิดจากธุลีโกลาหล และสมบัติอีกสี่ชิ้นที่อยู่ภายในอักขระจ้าววิญญาณของเขา อาจกล่าวได้ว่าเลือดเนื้อในปัจจุบันของเฉินซีมีคุณลักษณะของธุลีโกลาหล ซึ่งสามารถกักเก็บทุกสรรพสิ่งที่อยู่ในโลกได้ และยังถูกขัดเกลาจากพลังงานของธาตุทั้งสี่ ทำให้ร่างกายของเขาเทียบได้กับร่างวิญญาณโดยกำเนิดอยู่บางส่วน และร่างกายของเขาเกือบจะเทียบได้กับร่างกายของเฉินฮ่าวที่ถูกสร้างขึ้นใหม่จากผลดอกบัววิญญาณเพลิง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]