บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 195

บทที่ 195 ชิงซิ่วอี้

บทที่ 195 ชิงซิ่วอี้

ตู้ม!!

เมื่อเฉินซีใช้ศิลาวิญญาณดาราที่มีอยู่จนหมดเกลี้ยง ปราณจ้าววิญญาณในร่างกายของเขาก็อยู่ในสภาวะที่สมบูรณ์แบบที่สุด และอักขระจ้าววิญญาณทั้งเก้าบนหลังของเขาก็ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเป็นตำหนักอันตระการตาทั้งเก้า!

เพียงชั่วพริบตา ธาตุทั้งห้า หยิน หยาง สายลม สายฟ้า… ความลี้ลับต่าง ๆ ของสวรรค์และโลกเกิดการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปตามวิถีแห่งสวรรค์ชั้นแล้วชั้นเล่า ซึ่งคล้ายกับนักปราชญ์โบราณที่กำลังทำนายความลับของสวรรค์ หลังจากที่เขาแหงนหน้าขึ้น ก็พบกับปรากฏการณ์ลี้ลับที่ไร้ขอบเขตที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ

ในขณะนี้บนหลังของเฉินซี อักขระจ้าววิญญาณแห่งดาราปฐพีที่ห้าซึ่งอยู่ที่จุดศูนย์กลาง อักขระจ้าววิญญาณแห่งดาราพฤกษาที่สองอยู่ทางทิศตะวันตก อักขระจ้าววิญญาณแห่งดาราทองคำที่เจ็ดอยู่ทางทิศตะวันออก อักขระจ้าววิญญาณแห่งดาราวารีที่เก้าอยู่ทางเหนือ และอักขระจ้าววิญญาณแห่งดาราอัคคีที่สามอยู่ทางทิศใต้ อักขระจ้าววิญญาณทั้งห้านี้ก่อให้เกิดการส่งเสริมและยับยั้งซึ่งกันและกัน จนทำให้ธาตุทั้งห้าหลอมรวมกันเป็นสิ่งเดียว อีกทั้งยังเป็นวัฏจักรไร้ที่สิ้นสุด

ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือคืออักขระจ้าววิญญาณแห่งมหาหยินและตะวันออกเฉียงเหนือคืออักขระจ้าววิญญาณแห่งมหาหยาง ซึ่งพวกมันอยู่ที่ขั้วบนของตำหนักทั้งเก้า หยินและหยางไหลเวียนส่งเสริมกันและกัน

ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศตะวันออกเฉียงใต้คืออักขระจ้าววิญญาณแห่งสายลมและอักขระจ้าววิญญาณแห่งสายฟ้า ซึ่งอยู่ที่ขั้วล่างของตำหนักทั้งเก้า สายลมและสายฟ้ากระทบกัน ทำให้สรรพสัตว์ในโลกถือกำเนิดขึ้น

นอกจากนี้ ตำหนักทั้งเก้าแห่งยังสอดคล้องกับขนาดของแผนผังก่อนฟ้า เช่นเดียวกับกระบวนท่ากระบี่อันยิ่งใหญ่ทั้งแปดของคัมภีร์กระบี่หมื่นบรรจบ ยิ่งไปกว่านั้น อักขระจ้าววิญญาณแห่งดาราปฐพีที่ห้าราวได้ครอบครองตำหนักซึ่งอยู่ตรงศูนย์กลาง เสมือนกับเป็นจักรพรรดิที่บัญชาโลกด้วยหัวใจที่เที่ยงธรรม!

ยิ่งไปกว่านั้น จุดชีพจรดาราที่อยู่ภายในอักขระจ้าววิญญาณทั้งเก้าได้ถูกทะลวงเปิดออก ภายในนั้นมีดวงดาวสว่างไสวนับล้านที่กำลังเคลื่อนตัดผ่านกันทั้งแนวนอนและแนวตั้ง นอกจากนี้ เมื่อมองจากระยะไกล แผนภาพตำหนักทั้งเก้านี้ก็เสมือนกับกลุ่มดาวที่ลี้ลับและยากหยั่งถึงซึ่งซุกซ่อนความลับของสวรรค์เอาไว้ อีกทั้งยังกะพริบแสงอย่างแผ่วเบาราวกับพวกมันกำลังหายใจอยู่ ทำให้ดูน่ามหัศจรรย์เป็นอย่างมาก

เมื่อตำหนักทั้งเก้าก่อร่างขึ้นจนสมบูรณ์ ทันใดนั้น เฉินซีก็รู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังเติบโตขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด และเมื่อเงยหน้าขึ้นไป จิตสำนึกเขาก็ได้ทะยานไปยังท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยดวงดารา นอกจากนี้ การหายใจ พลังชีวิตและความคิดของเขา… ทุกสิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะเชื่อมโยงกับดวงดาวมากมายที่อยู่ห่างออกไปนับแสนนับล้านลี้ ยิ่งไปกว่านั้น มันยังให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้กลายเป็นจ้าวแห่งจักรวาลที่สามารถควบคุมดวงดาราทั้งมวล ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมอย่างสุดจะพรรณนา

ในสภาวะที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ มวลพลังที่พลุ่งพล่านภายในเลือดเนื้อของเฉินซีดูเหมือนจะเพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วที่น่าสะพรึงกลัว อักขระจ้าววิญญาณทุกรูปแบบกำลังสั่งสม หล่อหลอม และหมุนเวียนปราณจ้าววิญญาณอย่างไม่หยุดยั้ง และด้วยความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมของการที่ครอบครองพลังอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเช่นนี้ อาจทำให้ผู้คนต้องตกอยู่ในพลังอำนาจ จนไม่อาจหลุดพ้นได้

ทันใดนั้น เฉินซีก็ลุกยืนขึ้นและชกกำปั้นออกไป

ตู้ม!

พลังหมัดของเฉินซีได้พัดพาอากาศโดยรอบออกไปในทันที ทำให้มิติพังทลาย และเจตจำนงที่แฝงมากับโจมตีได้ทะยานไปทั่วทั้งฟ้าดิน ยามที่เขาชกกำปั้นออกไป ราวกับว่าทั้งห้องถูกปกคลุมไปด้วยพลังกำปั้นที่แฝงไปด้วยเต๋ารู้แจ้งหลากหลายสิบประเภท ซึ่งได้กลายเป็นมังกรนับสิบตัวที่กำลังบิดตัวไปมา และทะยานไปทั่วทุกทุกทิศอย่างรุนแรง อีกทั้งยังครอบครองพละกำลังที่สามารถยกภูเขาหรือแยกสายน้ำ และสามารถเขย่าจักรวาลอันยิ่งใหญ่!

“เฉินซี จงรับกระบี่ข้าซะ!” ลับเสียงตะโกน ร่างของหลิงไป๋ได้แปรเปลี่ยนเป็นดวงแสงสีทองพร่างพรายขณะฟาดฟันไปยังเฉินซี การฟันครั้งนี้แฝงไปด้วยเต๋ารู้แจ้งแห่งกระบี่แดนนิพพาน นอกจากนี้ยังเป็นการโจมตีด้วยวิชากระบี่ขั้นสูงสุดที่หลิงไป๋ได้บ่มเพาะมาจนถึงตอนนี้ ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงผู้บ่มเพาะขอบเขตเคหาทองคำอีกต่อไป เพราะแม้แต่ผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางธรรมดาทั่วไปก็ยังไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับมัน

อย่างไรก็ตาม เฉินซีไม่คิดที่จะหลีกเลี่ยงปราณกระบี่ที่ถาโถมเข้ามา เขากลับก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับชกกำปั้นออกไป จนกลายเป็นพลังหมัดที่แฝงปราณจ้าววิญญาณที่อ้างว้าง เก่าแก่ กว้างใหญ่ และน่าสะพรึงกลัวมาบรรจบกันที่จุดเดียว ยิ่งไปกว่านั้น เพียงแค่กลิ่นอายของพลังหมัดก็สามารถทำให้พื้นแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ และสั่นสะเทือนกำแพงโดยรอบจนเกิดเสียงแตกร้าว

ตู้ม!

อานุภาพของกำปั้นนั้นเหมือนกับค้อนยักษ์ที่ก่อตัวขึ้นจากขุนเขา การปะทะเพียงครั้งเดียวกลับทำให้ดวงแสงสีทองสั่นสะท้านอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงดังกึกก้อง และลอยออกไปทางด้านหลังราวกับว่าวที่สายป่านขาด

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ดวงแสงสีทองได้กลับคืนสู่รูปลักษณ์ของหลิงไป๋ในทันที และดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ ทำให้เจ้าตัวลอยห่างออกไปกว่าสิบสองจั้ง จึงจะสามารถตั้งหลักได้อย่างมั่นคงเช่นเดิม

“ช่างทรงพลังยิ่งนัก! หมัดที่เรียบง่ายก็เพียงพอที่จะบดขยี้ผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางบางคนได้ หากเจ้าต้องเผชิญหน้ากับฉู่เทียนจวี่อีกครั้งละก็ เขาจะต้องพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวชภายใต้หมัดนี้อย่างแน่นอน” หลิงไป๋อุทานด้วยความชื่นชมซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เฉินซีเองก็พึงพอใจกับหมัดนี้เป็นอย่างมากเช่นกัน และตระหนักได้ว่า หากพึ่งพาการบ่มเพาะร่างกายของเขาในปัจจุบัน อย่างน้อยที่สุดก็สามารถทำลายล้างผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางขั้นต้นบางคนได้ แต่ก็ยังมีผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางมากมายที่มีความแข็งแกร่งต่างกัน ดังนั้นจึงไม่อาจเหมารวมพวกเขาทั้งหมดเข้าด้วยกันได้

‘ข้าจะบ่มเพาะอย่างช้า ๆ ขั้นตอนต่อไปคือ การบ่มเพาะร่างกายขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง ในขั้นตอนนั้น ทันทีที่ปราณแท้และเลือดในร่างกายของข้าได้โคจรหมุนเวียน มันจะสามารถสร้างแก่นปราณแท้อยู่เหนือศีรษะของข้า ยามที่ต้องรับมือกับผู้บ่มเพาะธรรมดาบางคน พลังของแก่นปราณแท้ก็สามารถทำให้พวกเขาหวาดกลัว และทำให้จิตคุกคามสลายไป!’ เฉินซีกำหมัดแน่นด้วยความมั่นใจที่เต็มเปี่ยม

หลังจากที่การบ่มเพาะร่างกายของเขาบรรลุสู่ขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างท่วมท้นถึงสองสามเท่า ยิ่งไปกว่านั้น ปราณแท้ในร่างกายของเขาก็เปรียบได้กับกองทัพที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ทำให้ทุกกระบวนท่าที่เขาใช้นั้นหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว และการกำหมัดเบา ๆ ของเขาก็สามารถบดขยี้สมบัติวิเศษระดับล้ำลึกได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น หากเขาใช้กระบวนท่าฝ่ามือมหาดาราออกไป ย่อมมีโอกาสที่จะสังหารผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางได้

สรุปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการบ่มเพาะร่างกายหรือการบ่มเพาะปราณแท้ของเฉินซีในปัจจุบัน พวกมันก็ได้บรรลุไปถึงระดับที่อยู่เหนือกว่าผู้บ่มเพาะทั่วไปจนยากที่จะจินตนการได้ จึงทำให้เขาดูทรงพลังและไม่ธรรมดาเป็นอย่างมาก ดังนั้นก็ไม่ใช่การยาก หากเขาจะก้าวข้ามขอบเขตเพื่อที่จะทำลายล้างศัตรู

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]