บทที่ 1941 มาถึงหุบเหว
………………..
บทที่ 1941 มาถึงหุบเหว
ฆ่า!
เงากระบี่สะบัดวูบวาบไปรอบ ๆ ขณะที่ปราณกระบี่สีม่วงทองสังหารศัตรูทั้งหมดที่อยู่รอบตัว เขาบดขยี้สัตว์ร้ายตัวแล้วตัวเล่า การโจมตีรวดเร็ว เฉียบคม และร้ายกาจอย่างไม่มีใครเทียบได้
เมื่อการต่อสู้ดำเนินมาถึงจุดนี้ เฉินซีไม่ได้นอนหรือพักผ่อนมาเป็นเวลากว่าครึ่งเดือน เขานำกลุ่มเข้าเข่นฆ่าเป็นทางเพื่อฝ่าวงล้อมจากกองทัพศัตรูที่อยู่รอบตัว
แม้ว่าเอกภพในร่างกายของเฉินซีจะได้รับการเกื้อหนุนจากต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เงาทมิฬ ดังนั้นมันจึงไม่เหนื่อยล้าเกินไป แต่พลังใจก็ใกล้จะแห้งเหือดไปแล้ว
พลังใจคือพลังลึกลับภายในหัวใจ ซึ่งสัมพันธ์กับการที่ผู้บ่มเพาะจะต่อสู้ในระยะยาวได้นานแค่ไหน
ปัจจุบัน เคล็ดสัจหฤทัยสูตรของเฉินซีได้รับการบ่มเพาะจนถึงการหล่อหลอมครั้งที่สาม แต่เขาก็ยังไม่สามารถทนต่อความเหนื่อยล้าดังกล่าวได้เล็กน้อย สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าการต่อสู้ในช่วงสิบห้าวันนี้รุนแรงเพียงใด
ถ้ามันดำเนินต่อไปเช่นนี้ ถ้าไม่มีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เฉินซีคงสามารถต่อสู้ได้อีกไม่นาน
ทว่าเฉินซีกลับไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย
ในที่สุดการบ่มเพาะในเต๋าแห่งกระบี่แสดงให้เห็นสัญญาณของความก้าวหน้า และเขาต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้มั่น!
อันที่จริง เนื่องจากเขาเข้าสู่แดนรวนเรลืมเลือน การต่อสู้ที่เขาเข้าร่วม การบ่มเพาะในเต๋าแห่งกระบี่ก็รับการขัดเกลาจนอยู่ในสภาวะที่สมบูรณ์ และใกล้จะก้าวหน้าเต็มที
หลังจากการต่อสู้ติดต่อกันครึ่งเดือน ประกอบการขัดการเกลาด้วยเลือดและสงคราม ในที่สุดการบ่มเพาะในเต๋าแห่งกระบี่ก็มาถึงจุดสูงสุดของขอบเขตจักรพรรดิกระบี่ระดับที่สาม และเขาได้คว้าร่องรอยของปัจจัยสำคัญเพื่อความก้าวหน้า
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เฉินซีจะไม่ยอมเสียโอกาสที่หายากนี้เด็ดขาด
เขาทราบดีว่ามันยากที่ผู้ฝึกกระบี่จนบรรลุถึงสภาวะดังกล่าว การยกระดับพลังฝีมือนั้นยากเย็น ทั้งยังยากจะเข้าใจ
มันยากพอ ๆ กับการขึ้นสวรรค์!
ท้ายที่สุดแล้ว ขอบเขตจักรพรรดิกระบี่ระดับที่สามนั้นเทียบได้กับการมาถึงขีดกำจัดของมหาวิถีกระบี่แล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการที่จะขึ้นไปให้สูงกว่านี้นั้นยากกว่ามากอย่างแน่นอน
ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่า แม้ท่ามกลางมหาราชเทวาในแดนเทพโบราณทั้งหมด แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถบรรลุสภาวะดังกล่าวในเต๋าแห่งกระบี่ได้
สิ่งนี้เป็นที่ประจักษ์ว่าขอบเขตจักรพรรดิกระบี่ระดับที่สี่นั้นยากจะบรรลุเพียงใด
นอกจากต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเต๋าแห่งกระบี่แล้ว ยังต้องมีปัจจัยสำคัญอีกด้วย!
ปัจจัยสำคัญมักจะไม่สามารถแสวงหาได้ และมักจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีโชคเท่านั้น!
บัดนี้การต่อสู้และสังหารที่ไม่มีจุดสิ้นสุดที่เฉินซีได้ประสบมาตลอดเวลานี้ ทำให้การบ่มเพาะในเต๋าแห่งกระบี่ได้รับการขัดเกลาอย่างไม่หยุดยั้ง และในที่สุดเขาก็คว้าปัจจัยสำคัญเพื่อจะก้าวหน้าได้
ตอนนี้เฉินซีได้คว้าปัจจัยสำคัญนี้ และเริ่มพยายามทะลวงขอบเขต!
…
โอม!
เสียงกระบี่คำรามที่ฟังดูเหมือนท่วงทำนองของธรรมชาติ ดังก้องอยู่ข้างหู ส่งผลให้คงโหยวหราน และคนอื่น ๆ ที่อยู่ในการต่อสู้ตัวสั่นสะท้าน จากนั้นความสยดสยองที่ไม่อาจอธิบายได้ก็ผุดขึ้นในจิตใจ
สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย แล้วเงยหน้าขึ้นพร้อม ๆ กัน สิ่งที่ฉายชัดอยู่ในสายตา คือปราณกระบี่สีม่วงทองที่แวบผ่านสุญตา
ทันใดนั้น พวกเขาก็รู้สึกเจ็บปวดที่ดวงตาอย่างรุนแรง ในขณะที่เส้นขนบนร่างกลับตั้งชูชัน และความสยดสยองในหัวใจก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น
ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าในทันทีนี้ ฟ้าดินดูเหมือนจะหยุดนิ่ง ทุกสิ่งตกอยู่ในความเงียบงันราวกับความตาย มีเพียงเสียงกระบี่คำรามที่ฟังดูเหมือนท่วงทำนองของธรรมชาติที่ดังก้องไปทั่วโลก
สิ่งมีชีวิตดุร้ายทั้งหมดที่ถาโถมเข้ามา แข็งค้างประหนึ่งรูปปั้น จนเกิดเป็นฉากพิสดารยากอธิบาย
หลังจากนั้น….
โพละ!
สิ่งมีชีวิตดุร้ายที่อยู่ใกล้เฉินซีมากที่สุดค่อย ๆ เกิดรอยร้าว ก่อนจะสั่นสะเทือนและระเบิดออกเป็นชิ้นเสี่ยง
นี่เป็นเหมือนชนวนที่ทำให้ร่างของสิ่งมีชีวิตดุร้ายตัวอื่นระเบิดออกเป็นชิ้นเสี่ยง!
เมื่อมองจากระยะไกล มันเหมือนกับพายุที่พัดผ่านและทำลายประติมากรรมน้ำแข็งนับไม่ถ้วนจนกลายเป็นละอองแสงโปรยปราย เกิดเป็นฉากที่น่าตกใจอย่างยิ่ง
โพละ! โพละ!
ในเวลาไม่นาน พลังทำลายล้างดังกล่าวได้เคลื่อนตัวเป็นเส้นตรง และกวาดออกไปด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ
ทุกที่ที่มันผ่านสะบั้นทุกสิ่งสู่สุญตา!
บดขยี้จนเป็นทางทอดยาวกว่าสิบห้าลี้!
ฟู่!
เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่สะท้านโลกาเช่นนี้ แม้คงโหยวหรานและคนอื่น ๆ จะเป็นจ้าวเอกภพแล้ว พวกเขาก็ยังต้องอ้าปากค้าง เผยสีหน้าตกตะลึงเกิดยับยั้ง
มันน่ากลัวเกินไป!
อานุภาพของกระบวนท่ากระบี่นั้นรุนแรงจนประเมินไม่ได้!
มันเหนือล้ำเกินจินตนาการ ส่งผลกระทบต่อจิตใจพวกเขาอย่างรุนแรง
เพราะนี่คืออานุภาพของขอบเขตจักรพรรดิกระบี่ระดับที่สี่!
ในขณะนี้ การบ่มเพาะในเต๋าแห่งกระบี่ของเฉินซีได้ก้าวหน้าไปอย่างราบรื่น เพียงเหวี่ยงกระบี่ครั้งเดียวก็สามารถสะบั้นทุกสิ่งในระยะสิบห้าลี้ได้ สิ่งมีชีวิตดุร้ายทั้งหมดกลายเป็นผุยผง สลายสิ้น!
ในขณะนี้ แม้ว่าการบ่มเพาะของเฉินซีจะยังคงอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิห้าดารา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์ พลังยุทธ์ยกระดับจนน่าตกใจ
การต่อสู้ครั้งนี้กินเวลายาวนานอย่างคาดไม่ถึง ไม่ใช่ว่าศัตรูของพวกเขาแข็งแกร่งเกินไป แต่เป็นเพราะศัตรูของพวกเขามีจำนวนมหาศาลอย่างน่าเหลือเชื่อ!
หลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน คงโหยวหรานและคนอื่น ๆ ก็รู้สึกเหนื่อยล้าอย่างอธิบายไม่ได้ พวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์การต่อสู้ที่ดำเนินมาตลอดทั้งเดือนเช่นนี้มาก่อน
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาใกล้หมดแรง พวกเขาก็ได้ยินเฉินซีตะโกนจากข้างหน้าทันที “ทุกคน! เราใกล้จะฝ่าวงล้อมได้แล้ว!
จิตใจของพวกเขารู้สึกปลอดโปร่งขึ้นมาทันที เมื่อมองดูก็พบว่ามีมหาสมุทรหินหลอมเหลวไหลลงมาราวกับน้ำตกจากท้องฟ้าที่อยู่ไกลโพ้นออกไป และมันน่าทึ่งมาก ทั้งยังส่องสว่างไปทั่วโลก
ถ้ามองดี ๆ จะสังเกตเห็นว่ามีดวงดาวขนาดมหึมาจำนวนมากอยู่ในทะเลเพลิงที่หลั่งไหลลงมาพร้อมกับมัน มันเป็นฉากที่งดงามจนแทบหยุดหายใจ
“นั่นมันอะไรกัน?” คงโหยวหรานตกตะลึง
ทะเลเพลิงที่พัดพาดวงดาวและลงมาจากสวรรค์สู่หุบเหวนั้น เป็นเหตุที่ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง
“ลืมไปเถอะ เรามาฝ่าวงล้อมกันก่อนเถอะ” สืออวี๋รีบกล่าวอย่างรวดเร็ว เพราะเขาเบื่อหน่ายที่จะเข่นฆ่าสัตว์ร้ายเหล่านี้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดแล้ว
“อย่าประมาท เราจะยืนยันว่ามันปลอดภัยได้ ก็ต่อเมื่อเราตรวจสอบมันแล้วเท่านั้น” เฉินซีกล่าวเตือน จากนั้นก็พยายามฝ่าวงล้อมอย่างเต็มที่
อันที่จริง เฉินซีและคนอื่น ๆ ไม่รู้ว่าพวกตนถูกชักใยมาตั้งแต่การต่อสู้ครั้งนี้เริ่มต้นขึ้น
ม่านรัตติกาลที่ปกคลุมท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว และสิ่งมีชีวิตดุร้ายนับไม่ถ้วนที่พุ่งเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อนนั้น ล้วนเป็นแผนการที่ถูกไว้ล่วงหน้ามาเป็นเวลานานแล้ว
ผ่านไปหนึ่งถ้วยชา กลุ่มของเฉินซีก็ฝ่าวงล้อมออกมาได้ และมาถึงบริเวณนั้นในที่สุด หลังจากนั้นก็มองเห็นหุบเหวลึกราวกับไร้ก้นบึ้ง!
ทะเลเพลิงร่วงหล่นลงมาจากสวรรค์พร้อมกับดวงดาวที่ตกลงมาด้วย ทั้งหมดถูกดูดกลืนหายไปในหุบเหว ไร้ร่องรอยซ่านเซ็น
เฉินซีและคนอื่น ๆ เริ่มตรวจสอบสภาพแวดล้อมอย่างระมัดระวัง
ทว่าพวกเขากลับต้องประหลาดใจ เนื่องเพราะกองทัพของสิ่งมีชีวิตดุร้ายที่อยู่ข้างหลัง ดูเหมือนหวาดกลัวต่อสถานที่แห่งนี้อย่างมาก จนไม่กล้าเข้าใกล้ ได้แต่กู่ร้องคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวอยู่ไกล ๆ
เมื่อเห็นเช่นนี้ คนในกลุ่มก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แม้พวกเขาจะไม่สามารถเข้าใจกับสถานการณ์ตรงหน้า แต่การสามารถหลุดพ้นจากวงล้อมของสัตว์ร้าย ก็ทำให้พวกเขาได้มีช่วงเวลาพักผ่อนที่หาได้ยาก
“นี่เราอยู่ที่ไหนกัน?” คงโหยวหรานกวาดสายตาไปรอบ ๆ ก่อนจะหยุดลงที่หุบเหวลึกลับ สีหน้าของนางเผยแววเคร่งขรึมเล็กน้อย
นางสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของอันตรายที่ไม่อาจอธิบายได้ แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่สามารถเข้าใจอะไรได้เลย
ในขณะนี้ ดูเหมือนว่าเฉินซีจะสังเกตเห็นบางสิ่งเช่นกัน ท่าทางที่สงบแต่เดิมเผยแววตื่นตระหนกและความสับสนเพียงเล็กน้อย
ฟึ่บ!
ในช่วงเวลาถัดมา เฉินซีพลิกฝ่ามือขึ้น แล้วดึงแผนที่หนังสัตว์ร้ายออกมา
แต่สิ่งที่ทำให้เฉินซีต้องตกใจ คือเส้นทางซับซ้อนที่จารึกบนหนังสัตว์ร้าย ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง และมันก็กลายเป็นรูปร่างของหุบเหว!
ทว่าเขากลับไม่รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้เลย!
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...