บทที่ 1944 ประตูแห่งวันโลกาวินาศ
………………..
บทที่ 1944 ประตูแห่งวันโลกาวินาศ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ คนอื่น ๆ ก็สงบใจลงแล้วพยักหน้า
ถูกต้อง หัวใจของพวกเขาทุกคนล้วนอัดแน่นด้วยสารพัดคำถาม หากให้หยิบยกมาถามทีละข้อคงใช้เวลานานเกินไป เช่นนั้น สู้ขอให้เจียหนานอธิบายทุกอย่างแก่พวกเขาจะดีกว่า
เจียหนานมิได้ปฏิเสธคำขอของเฉินซี ทว่าก่อนที่เขาจะอธิบาย เขาก็กล่าวขึ้นก่อนว่า “สหายเต๋าโปรดมาที่นี่กับข้าหน่อย ข้าคาดว่าอีกไม่นาน ทายาทจ้าววิญญาณโบราณเหล่านั้นจะมาถึงเช่นกัน”
ทายาทจ้าววิญญาณโบราณที่เขาพูดถึงคือเหล่าผู้ผิดบาปซึ่งเหลือรอดจากยุคก่อน
ขณะนี้ เฉินซีและคณะต่างตระหนักดี ดังนั้นเมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวใจของพวกเขาจึงสะท้าน พวกเขาไม่ปฏิเสธคำขอของเจียหนาน ไหวร่างทะยานเหนือสมุทรกระดูกไปหาเจียหนาน
เปรี้ยง!
ทันทีที่มาถึง เฉินซีก็สัมผัสปราณมรณะอันหนาแน่นกดดันเป็นพิเศษสายหนึ่งม้วนตลบขึ้นจากกองกระดูกใต้เท้าตนทันที ทำให้ทั่วร่างของเขารู้สึกไม่สบาย จึงยิ่งทวีความระมัดระวัง
“ข้าสังเกตว่ามีบางสิ่งไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับหวังจงนับแต่การถกวิถีเต๋า แต่ไม่อาจยืนยันตัวตนแท้จริงของเขาได้….” ดวงตาของเจียหนานฉายแววย้อนระลึก ก่อนจะเริ่มสาธยายทุกสิ่งที่ตนรู้
“ยามเราเข้ามาในแดนรวนเรลืมเลือน ข้าก็พอตัดสินได้ว่าหวังจงไม่ใช่หวังจง เขาเป็นทายาทจ้าววิญญาณโบราณที่นี่!”
“หลังข้าบรรลุเป็นจ้าวเอกภพ ใช้งานวิชาเนตรสวรรค์คลายปริศนาได้อย่างเต็มที่ ข้าก็ยิ่งแน่ใจ”
“บางทีสหายเต๋าทุกท่านอาจตระหนักชัดแล้วว่าจ้าววิญญาณโบราณเป็นวิธีเรียกผู้บ่มเพาะในยุคก่อน เราเรียกกันว่าผู้บ่มเพาะ ขณะที่พวกเขาเรียกกันเป็นจ้าววิญญาณ”
“จ้าววิญญาณนั้นไม่เหมือนผู้ขัดเกลากายาเทพอสูรในโลกหล้าผู้บ่มเพาะของเรา และยังแตกต่างจากบรรพชนจ้าววิญญาณทั้งสิบในยุคโบราณผู้เกิดในสามภพซึ่งเป็นเพียงชื่อเรียก แต่พวกเขาเป็นผู้ขัดเกลากายาโดยแท้จริง”
“สรุปคือ ในบันทึกของนิกายพุทธของข้า สมญาจ้าววิญญาณโบราณนั้นสื่อถึงหนึ่งระบบการขัดเกลาของผู้บ่มเพาะในยุคก่อน”
“หวังจงเป็นหนึ่งในทายาทจ้าววิญญาณโบราณเหล่านั้น”
“พวกเขาอยู่รอดยามยุคก่อนถูกทำลาย ทว่าก็มิอาจฝืนทนอำนาจเต๋าสวรรค์ในยุคนี้ได้ จึงติดอยู่ในแดนรวนเรลืมเลือน ดังนั้นสำหรับเราผู้บ่มเพาะทั้งหลาย พวกเขา… จึงเป็นตัวตนดุจผู้ผิดบาป”
“ในอดีต ข้าไม่แน่ใจว่าจะมีจ้าววิญญาณโบราณอยู่ในแดนรวนเรลืมเลือนหรือไม่ แต่ยามที่ข้าได้เห็นหุบเหวทัณฑ์หายนะนี้ ในที่สุดข้าก็ยืนยันได้ว่าคำพยากรณ์ที่บรรพบุรุษในนิกายพุทธของข้าทำนายไว้เป็นจริงทุกคำ….”
“โลกาวินาศอยู่ในมหาหุบเหว กรรมทัณฑ์สังสารวัฏบังเกิด!” เจียหนานไม่ถือสายามถูกขัดจังหวะ กลับกัน เมื่อเขากล่าวถึงคำพยากรณ์นี้ ใบหน้าก็ปรากฏความกังวลอย่างเกินลบล้าง
“โลกาวินาศคือยามสรรพสิ่งถูกทำลาย หมื่นเต๋าสิ้นสลาย! หากมันเกิดขึ้นจริง เช่นนั้นทุกเต๋าและทักษะวิชาของผู้บ่มเพาะทั้งมวลในโลกหล้าจะถูกพรากไป!”
“เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ผู้บ่มเพาะก็จะไม่อาจบ่มเพาะได้อีก ตัวตนของพวกเขาจะสิ้นความหมาย”
“ในขณะเดียวกัน ในความเห็นของเรานิกายพุทธ สังสารวัฏคือการเคลื่อนชะตา หากโลกาวินาศบังเกิดในยุคสมัยของข้า มันก็ย่อมพัฒนาสู่ความพินาศ นี่คือความหมายของกรรมทัณฑ์สังสารวัฏ!”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ น้ำเสียงของเจียหนานก็หนักอึ้งขึ้นเล็กน้อย
“ข้าคิดว่าทุกท่านคงสังเกตกันแล้วว่าประตูแห่งวันโลกาวินาศซ่อนอยู่ก้นหุบเหวทัณฑ์หายนะ การเปิดมันอาจนำสู่การบังเกิดของกรรมทัณฑ์สังสารวัฏ….”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวใจของพวกเขาก็รู้สึกหนาวเยือกอย่างช่วยไม่ได้ ความหนาวเย็นแล่นตามแนวสันหลัง หรือข่าวลือที่เจียหนานพูดถึงจะเป็นความจริง?
เมื่อประตูแห่งวันโลกาวินาศถูกเปิด ยุคสมัยปัจจุบันจะสิ้นสูญ?
มันน่าตกใจเกินไปแล้ว!
หากเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดาของเจียหนาน พวกเขาคงขบขันไม่คิดเชื่อ ทว่าเมื่อทั้งหมดนี้คือคำพยากรณ์ของบรรพพุทธะซึ่งกลายเป็นจริง พวกเขาก็ไร้ทางเลือกนอกจากพิจารณามันอย่างจริงจัง
ทว่าเฉินซีกลับขมวดคิ้ว เพราะเขาไม่เห็นด้วยกับการตีความสังสารวัฏของเจียหนาน
เพราะนับแต่ที่เขาได้รับพู่กันพิพากษามารและระเบียนแดนมรณะมา เขาก็เริ่มได้ใกล้ชิดกับความลึกล้ำแท้จริงแห่งสังสารวัฏ!
สิ่งใดคือสังสารวัฏ?
มันคือพลังอย่างหนึ่ง แต่ก็เป็นบัญชาอย่างหนึ่งเช่นกัน!
มันสามารถพิพากษ์บาปในโลกหล้า จัดระเบียบดีชั่ว มอบสันติสุขและความยุติธรรมแก่โลกา!
ท้ายที่สุด สังสารวัฏก็คือสิ่งที่ตอบแทนดีด้วยดี ทำชั่วได้ชั่วกลับคืน ทำให้ความปั่นป่วนทั้งมวลหวนคืนสู่วงจรอันเป็นระเบียบ
เพราะอำนาจนี้ร้ายกาจเกินไปนั้นเอง จักรพรรดิยมโลกองค์ที่สามจึงถูกตัวตนยิ่งใหญ่ในโลกหล้ารุมบดขยี้จนตกตาย
ยามเฉินซีบรรลุแก่นเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตา การลืมเลือนและจุดจบอันประกอบเป็นสังสารวัฏอันสื่อถึงการเกิดใหม่ เขาก็ได้รู้มากขึ้นว่ามันน่าสะพรึงกลัวเพียงไร
ไม่ใช่เพียงพลังหรือบัญญัติธรรมดาทั่วไป
นี่คือความเข้าใจในสังสารวัฏของเฉินซี ดังนั้นเมื่อเขาได้ยินเจียหนานสาธยายถึงสังสารวัฏว่าเป็นเพียงสิ่งที่เกี่ยวกับ ‘การเคลื่อนชะตา’ เขาย่อมไม่เห็นด้วยกับมัน
แต่เฉินซีก็มิได้แย้งเจียหนาน อำนาจเช่นนี้ร้ายกาจเกินบรรยาย หากปริปากพูดออกไป เนื้อหาวาจาของเขาก็จะถูกเปิดเผยแก่ผู้อื่น ผลที่ตามมาจะยากคะเน
“จ้าววิญญาณโบราณซึ่งหลงเหลือจากยุคก่อนทั้งหลายพยายามเปิดประตูแห่งวันโลกาวินาศกันมาแสนนาน เพราะมีเพียงวิธีนี้ พวกเขาจึงสามารถหนีจากแดนรวนเรลืมเลือน และทำลายสรรพสิ่งอันเป็นของยุคสมัยนี้ลงได้” เจียหนานบรรยายต่อ “พวกเขาวางแผนกันมาแสนนานในการบรรลุจุดประสงค์นี้ และนี่คือยามที่พวกเขาประพฤติตามแผนการ!”
เหตุผลนี้ก็ฟังดูฝันเฟ้อยิ่ง เรียกมิได้ว่าเป็นเหตุผลด้วยซ้ำไป เพราะเขาไม่ได้บอกว่าเหตุใดผู้ผิดบาปเหล่านั้นจึงคิดว่าเฉินซีทำได้ ในขณะที่ผู้อื่นไม่
คนอื่น ๆ ต่างตะลึง รู้สึกเหลือเชื่อเล็กน้อย สายตาที่พวกเขามองมายังเฉินซีเจือเค้าประหลาดใจ
“เพราะเหตุใด?” เฉินซีขมวดคิ้วแน่นขึ้นกว่าเก่า ถามย้ำขอคำตอบ
เจียหนานส่ายหัว มิได้เอ่ยคำใด
สิ่งนี้ทำให้คนอื่น ๆ รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
เฉินซีพลันกล่าวขึ้นว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น แผนของพวกผู้ผิดบาปก็จะพินาศหากข้าไม่เปิดประตูแห่งวันโลกาวินาศหรือ?”
“เปล่า นับแต่เจ้าปรากฏตัวในหุบเหวทัณฑ์หายนะ เจ้าก็ไม่อาจหลีกพ้นเรื่องนี้แล้ว เว้นแต่เจ้าจะเปิดประตูนั่น หาไม่… เราทั้งหมดจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของกองกระดูกเกลื่อนพื้นนี่ด้วย” เจียหนานส่ายหัว กล่าววาจาอันชวนให้ร่างของเหล่าผู้ฟังหนาวเยือกขึ้นมาเล็กน้อย
พรวด!
ก่อนที่เฉินซีจะทันมีปฏิกิริยา ใบหน้าของเจียหนานพลันซีดขาว กระอักเลือดออกมาหนึ่งคำ
พริบตาต่อมา ร่างของเขาก็สั่นสะท้าน ดวงตาหม่นแสงลงอย่างยิ่งในพริบตา ดูประหนึ่งเจียนทรุดลงล้มกอง
“รีบไปซะ!” เสียงของเจียหนานแหบพร่า เขาสะบัดแขนเสื้อ พาเฉินซีและคณะจากบริเวณอันปกคลุมด้วยกองกระดูก เหินเวหาไปแสนไกล
ฉับ! ฉับ! ฉับ!
หนึ่งปราณอันน่าสะพรึงกลัวเกินบรรยายโหมออกมาจากในสมุทรกระดูกขาว อัดแน่นทั่วทั้งบริเวณ
หัวใจของเฉินซีและคณะสั่นสะท้านรุนแรง สีหน้าแปรเปลี่ยนตามกัน
มันเกิดอะไรขึ้น?
เปรี้ยง!
อึดใจต่อมา เสียงเปรี้ยงสนั่นโลกาก็เลื่อนลั่น หนึ่งประตูโบราณบานมหึมาพลันผุดปรากฏใจกลางสมุทรกระดูกขาว ทะลวงสู่เวหาอย่างไม่รู้จบ!
ขณะนี้ สมุทรกระดูกอันหนาแน่นดูราวถูกมืออันไร้ลักษณ์กอบโกยเข้าสู่ประตูโบราณอันลึกลับนั้นเป็นกระแสสาย
เพียงชั่วเวลาอันสั้นเพียงไม่กี่อึดใจ สมุทรกระดูกไร้สิ้นสุดก็ปลาสนาการ สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาทุกคู่ก็คือหนึ่งประตูอันตั้งตระหง่านแสนจั้ง ปกคลุมไปด้วยโครงกระดูก!
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...