เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1965

บทที่ 1965 เงาสีแดงเลือดปรากฏขึ้นอีกครั้ง

………………..

บทที่ 1965 เงาสีแดงเลือดปรากฏขึ้นอีกครั้ง

ทางเดินเป็นเหมือนสะพานแสงที่เชื่อมโลกภายนอกเข้ากับแดนรวนเรลืมเลือน ซึ่งเปล่งประกายด้วยแสงหมอกดุจภาพลวงตา และทอดยาวข้ามท้องฟ้าเหนือหุบเหวทัณฑ์หายนะ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่คือทางเดินที่ถูกสร้างขึ้นร่วมกันโดยห้าสุดยอดแห่งเอกภพจักรวรรดิ!

“ศิษย์จากนิกายต่าง ๆ รีบกลับมาเดี๋ยวนี้!” เสียงอันสง่างามของเจ้าสำนักเต๋าหลิวเซินจี ดังออกมาจากในทางเดิน และกวาดเข้าสู่หุบเหวทัณฑ์หายนะ

ฟึ่บ!

ที่ก้นบึ้งของหุบเหวทัณฑ์หายนะซึ่งอยู่ไกลจากประตูแห่งวันโลกาวินาศ คงโหยวหราน เย่เฉิน และเจียหนานต่างเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นความตื่นเต้นก็ปรากฏบนใบหน้าพวกเขา ในที่สุด เราก็กลับไปได้แล้วหรือ?

แต่หลังจากนั้น ใบหน้าของพวกเขาก็ปรากฏความลังเล

ตั้งแต่เฉินซีเข้าไปในประตูแห่งวันโลกาวินาศ เวลาผ่านไปสามปีเต็มแล้ว และยังไม่มีวี่แววใด ๆ ไม่มีผู้ใดทราบชะตากรรมของเขา

แล้วคงโหยวหรานและคนอื่น ๆ จะไม่สนใจเฉินซี และจากไปได้อย่างไร?

สืออวี๋หายใจเข้าลึก ๆ พลางกล่าวด้วยท่าทางหนักใจ “ถ้าพวกเจ้าทุกคนจะออกไป ก็ออกไปตอนนี้เถอะ ข้าจะรอเฉินซีอยู่ที่นี่”

เขาเคยผ่านความเป็นความตายกับเฉินซี ถือเป็นสหายที่ดีต่อกันมาตั้งแต่สมัยที่พวกเขายังอยู่ในสามภพ ดังนั้นเขาจะไม่มีวันทอดทิ้งเฉินซี

“ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินซี ข้าคงประสบเภทภัยและตกตายไปนานแล้ว ข้าจะไม่ออกไปในตอนนี้เช่นกัน”

โดยไม่คาดคิด จ้าวชิงเหยาเป็นคนแรกที่ยืนหยัดหลังจากสืออวี๋

“เหตุการณ์นี้สำคัญยิ่ง ความเป็นความตายไม่สำคัญสำหรับข้าอีกต่อไป สิ่งที่ข้าแสวงหาก็คือจะสามารถรับชมเรื่องราวทั้งหมดนี้ให้ถึงจุดสิ้นสุดได้หรือไม่?” เจียหนานพูดด้วยท่าทางสงบ เห็นได้ชัดว่าเขาปฏิเสธที่จะออกไปเช่นกัน

คนอื่น ๆ ก็เริ่มมองหน้ากัน

พวกเขาทั้งหมดรู้ดีว่า สืออวี๋ จ้าวชิงเหยา และเจียหนานไม่ได้ล้อเล่น

บางทีเหตุผลที่พวกเขากระทำเช่นนี้ อาจเป็นเพราะคนที่เข้าประตูแห่งวันโลกาวินาศไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเฉินซี!

แค่ชื่อนี้เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่ทำให้พวกเขาประกาศจุดยืนของตนอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย!

“ข้าจะอยู่ต่อ” อวี้จิ่วหุยกล่าว

“นับข้าด้วย” ฉินซินฮุยกล่าว

เย่เฉินกล่าวว่า “สิ่งเดียวที่เราทำได้ตอนนี้คือรอ แต่ถ้าสิทธิ์ในการรอของเราถูกพรากไป เราก็จะถูกหลอกหลอนด้วยความเสียใจไปตลอดชีวิต แม้เราจะสามารถกลับไปได้อย่างปลอดภัยก็ตาม”

ทันใดนั้นคนอื่น ๆ ก็ตัดสินใจเช่นกัน

แท้จริงแล้ว ทางเดินเพื่อกลับไปยังดินแดนเทพโบราณได้ปรากฏขึ้น และมันเป็นดั่งพรที่จะพาพวกเขาออกจากแดนรวนเรลืมเลือนที่อันตรายยิ่งนี้

แต่เมื่อเทียบกันแล้ว ความปลอดภัยของเฉินซีมีความสำคัญมากกว่าสำหรับพวกเขาทั้งหมด

เพราะพวกเขาทราบดีว่าไม่มีทางที่พวกเขาจะรอดพ้นจากอันตรายที่ประสบในครั้งนี้ได้ โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเฉินซี!

นี่คือการรับรู้

ก่อนที่พวกเขาจะเข้าสู่แดนรวนเรลืมเลือน เฉินซีไม่มีความโดดเด่นใด ๆ ไม่มีเค้าของอัจฉริยะที่จะทำให้ตัวตนอย่างคงโหยวหราน และคนอื่น ๆ รู้สึกเชื่อมั่นในความเหนือกว่า

ทว่าตอนนี้มันต่างออกไป ทุกสิ่งที่พวกเขาได้ประสบในแดนรวนเรลืมเลือน เฉินซีได้สร้างอิทธิพลที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ในหัวใจ

เป็นเพราะประสบการณ์ที่พวกเขาผ่านเรื่องเลวร้ายมาด้วยกันนี่เอง ทำให้คงโหยวหรานและคนอื่น ๆ เต็มใจที่จะอยู่ต่อ

ทันใดนั้น คงโหยวหรานก็ลุกขึ้นและกล่าวช้า ๆ “ตามข้อตกลงเดิม ทางเดินสามารถรักษาสภาพได้สามปี แทนที่จะรออยู่ที่นี่ ไยเราไม่ลองติดต่อกับเหล่าผู้อาวุโสที่กำลังเฝ้ารออยู่ด้านนอกแดนรวนเรลืมเลือนดูเล่า? หากข้าได้รับคำชี้แนะ บางทีเราอาจจะสามารถเร่งการกลับมาของเฉินซีได้”

คนอื่น ๆ พยักหน้าตามลำดับ

ฟึ่บ!

ช่วงเวลาต่อมา คงโหยวหรานก็หายตัวไปทันที

เมื่อสามปีที่แล้ว ครั้งที่เฉินซีเข้าสู่ประตูแห่งวันโลกาวินาศ หุบเหวทัณฑ์หายนะได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบเชียบ

การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุด คือพลังทัณฑ์สวรรค์สะกดเต๋าที่เต็มไปทั่วทั้งหุบเหวเริ่มค่อย ๆ หายไป

ในที่สุด อันตรายภายในหุบเหวทั้งหมด ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือการเปลี่ยนแปลงในหุบเหวนั้น เพียงพอให้พวกเขาออกไปได้อย่างปลอดภัย

ทว่าไม่มีผู้ใดจากไปตลอดระยะเวลาสามปีนี้!

แม้ว่าคงโหยวหรานจะพุ่งออกมาจากหุบเหวไปแล้ว แต่แค่ชั่วคราวเท่านั้น

ทางเดินเป็นเหมือนแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ทอดยาวข้ามท้องฟ้าเหนือหุบเหว และท่ามกลางโลกสีเทาขุ่นมัวนี้ มันกลับดูโดดเด่นเป็นพิเศษ

สายตาของคงโหยวหรานถูกดึงดูดโดยทางเดินทันทีเมื่อออกจากหุบเหว แต่ในไม่ช้า นางก็สงบอารมณ์และเผยสีหน้าจริงจัง

“ผู้น้อยคือคงโหยวหรานจากตำหนักเต๋าหนี่หวา ขอคารวะผู้อาวุโส” คงโหยวหรานโค้งคำนับขณะที่นางส่งจิตสำนึกผ่านทางเดินด้วยความตั้งใจที่จะติดต่อกับยอดคนเหล่านั้นที่อยู่ด้านนอกแดนรวนเรลืมเลือน

ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ จากภายในทางเดินเลย…

คงโหยวหรานรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่จู่ ๆ เสียงของหลิวเซินจีก็ดังก้องมาจากภายในทางเดิน “มีเหตุร้ายเกิดขึ้นหรือ?”

หัวใจของคงโหยวหรานสั่นไหว นางไม่เคยคิดเลยว่าหลิวเซินจีจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นจากคำพูดเพียงไม่กี่คำ

“เราไม่อาจรอต่อไปได้แล้ว เราต้องไปแล้ว” คงโหยวหรานกล่าวอย่างยากลำบาก นางรู้ว่าคำพูดเหล่านี้ดูไร้น้ำใจ แต่นางก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพูดเช่นนั้น

“ใช่แล้ว ไปกันเถอะ หลังจากที่เรากลับสู่ดินแดนเทพโบราณ ข้าจะไปรอที่เขาเทพพยากรณ์”

สืออวี๋เหม่อมองอย่างว่างเปล่า “ข้าจะไม่จากไปจนกว่าเขาจะกลับมา”

เสียงของเขาทุ้มลึกและเยือกเย็น แต่มั่นคงอย่างยิ่ง

เมื่อทุกคนได้ยิน อารมณ์ของพวกเขาก็ผันผวน และไม่สามารถสงบจิตสงบใจได้

โครม!

ทันใดนั้นทางเดินก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและเริ่มไม่มั่นคง ดูเหมือนมันจะพังทลายได้ทุกขณะ

“รีบไปกันเถอะ!!” สีหน้าของคงโหยวหรานเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที

คนอื่น ๆ ก็เริ่มลังเลเช่นกัน แต่พวกเขาก็ติดตามคงโหยวหราน พุ่งหายไปยังทางเดิน

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เงาสีแดงเลือดที่ไร้ตัวตนก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเหนือหุบเหวทัณฑ์หายนะ ทั่วร่างของมันแทบไม่มีกลิ่นอายใด ๆ และมันทำให้ผู้อื่นไม่สามารถสังเกตเห็นการมีอยู่ของมันได้

อย่างไรก็ตาม ขณะที่มันยืนอยู่ที่นั่นอย่างสบาย ๆ มันก็แผ่คลื่นพลังอันน่าสะพรึงกลัวอย่างสุดจะพรรณนา ดุจเจ้าเหนือหัวของแดนรวนเรลืมเลือนนี้

“ในที่สุด ไอ้สารเลวพวกนั้นก็จากไปเสียที…” เงาสีแดงเลือดนั้นพึมพำด้วยเสียงที่แหบพร่าและไม่แยแส ซึ่งแฝงด้วยความผันผวนของชีวิตไม่รู้จบ ราวกับเสียงลมคำรามอันกว้างใหญ่ที่มาจากยุคก่อน

ตู้ม!

ยังไม่ทันสิ้นเสียงนั้น ทางเดินก็เริ่มพังทลายลงทีละนิด และเกิดระเบิดอันน่าสะพรึงกลัว ซึ่งทำให้โลกสีเขาขุ่นมัวนี้สว่างไสว

ทันใดนั้น ฝ่ามือมหึมาที่ปกคลุมไปด้วยแสงเจิดจ้าก็ยื่นออกมาจากภายในทางเดินที่พังทลาย และหายไปจากท้องฟ้าทันที ก่อนที่จะมันคว้าเงาสีแดงเลือดที่ดูเหมือนไร้ตัวตนอย่างแรง

โครม!

ทันใดนั้น โลกก็แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ และสรรพสิ่งสูญสิ้นภายใต้พลังฝ่ามือนั้น ดูน่าพรั่นพรึงอย่างสุดขั้ว

หากใครมองดูอย่างถี่ถ้วน ก็จะสังเกตเห็นว่าเส้นลายมือของฝ่ามือนั้น ถูกสร้างขึ้นมาจากมหาเต๋า ราวกับจะโอบรับทุกสิ่ง และครอบครองพลังมหาศาล!

“หืม?!”

เงาสีแดงเลือดดูเหมือนจะประหลาดใจและงุนงง จากนั้นมันก็สะบัดแขนเสื้อ ก่อนที่จะพุ่งเข้าสู่หุบเหวทัณฑ์หายนะอย่างรวดเร็ว และหายตัวไป

ฝ่ามือที่ปกคลุมผืนฟ้า กลับไม่สามารถหยุดร่างของเขาไว้ได้!

“ฮึ่ม!” เสียงฮึดฮัดเย็นชาดังออกมาจากภายในทางเดิน และหายไป พร้อมกับทางเดินที่ถูกทำลาย

นอกจากนี้ ฝ่ามือที่ปกคลุมผืนฟ้าก็หายไปพร้อมกับทางเดินเช่นกัน

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]