เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1967

บทที่ 1967 สระน้ำโคลน

………………..

บทที่ 1967 สระน้ำโคลน

บุ๋ง….

ฟองอากาศผุดพรายจากกลางสระน้ำโคลนเป็นเสียงเกลือกกลั้วประหลาด ดุจสัตว์ร้ายกรนยามนิทรา

ร่างของเฉินซีจมอยู่ในสระ ผิวกายแหลกเป็นเสี่ยง เผยกระดูกต่อวารีในสระ ทั่วร่างเจียนสลายเป็นเสี้ยว

ดวงตาของเฉินซีปิดสนิท พลังชีวิตอ่อนแออย่างยิ่งประหนึ่งชีวิตแขวนค้างบนเส้นด้าย ดูเหมือนเขาจะหมดสติไป กระทั่งสติสัมปชัญญะยังพร่ามัว….

ยามเข้ามาในประตูแห่งวันโลกาวินาศ ร่างของเฉินซีดูประหนึ่งไม่อาจทานทนภาระที่กดทับลงมาได้อีก จึงทรุดลงเข้าสู่สภาวะหมดสติ

เขาหารู้ไม่ว่าตนเป็นหรือตาย

มิอาจทราบว่าตนอยู่ที่ใด

เขารู้สึกราวตนตายไปจริง ๆ แตกต่างแค่เพียงร่างอันเจียนพังทลายยังคงมีพลังชีวิตหลงเหลือเล็กน้อย

สามปีผ่านไป

หกปีพ้นสิ้น

เก้าปีจบลง

กาลเวลาดูจะไร้ความหมายความสำหรับเฉินซีโดยสิ้นเชิง เขาหมดสติสลบไสล มิอาจสัมผัสถึงกาลเวลา และมิอาจตระหนักสถานการณ์รอบกาย ไม่แม้แต่ตัวเขาเอง….

นี่เป็นสภาวะสุดประหลาด ประหนึ่งสูญเสีย ไม่อาจรับรู้ทุกสิ่งอย่าง

ขวับ!

หลังชั่วกาลเกินรับรู้ พลังอันซับซ้อนสายหนึ่งซอกซอนเงียบเชียบสู่สระน้ำโคลนประหนึ่งฉลามได้กลิ่นเลือด ก่อนจะบรรจงแทรกเข้าไปในร่างอันหมดสภาพสุดขั้วของเฉินซี

พลังอันซับซ้อนสายนี้ระแวดระวังอย่างยิ่ง มันเหมือนกำลังสำรวจพินิจบางสิ่ง นิ่งค้างอยู่ที่กระดูกข้อเท้าอยู่เนิ่นนาน ก่อนจะเริ่มลงมือขยับเขยื้อน

มันเคลื่อนขึ้นจากข้อเท้าไปสู่กระดูกเข่าด้านในเนื้อกายอันเสียหายของเฉินซี ก่อนจะค่อย ๆ คืบคลานสู่ส่วนท้อง ขึ้นไปยังอก….

ท้ายที่สุด มันก็หยุดนิ่งที่คอของเฉินซี เหมือนสังเกตเห็นและหวาดกลัวบางสิ่ง

การรอคอยนี้ใช้เวลาปีกว่า มันดูสุดแสนอดทนนัก

วิ้ง!

พลังชีวิตอันเบาบางยิ่งสายหนึ่งไหลผ่านร่างอันเจียนตายของเฉินซี ก่อนจะมลายไปแทบจะพร้อมกัน

วูบ!

ขณะนั้นเอง พลังอันซับซ้อนนั้นเหมือนได้โอกาสงาม มันกลายสภาพเป็นอัสนีไหลผ่านคอ ทะลวงสู่ห้วงจิตสำนึกที่หว่างคิ้วของเฉินซีอย่างรวดเร็ว!

ห้วงจิตสำนึกของเฉินซีหมองมัวเทาทึมอย่างสมบูรณ์

เพลิงศักดิ์สิทธิ์วิญญาณของเขาเสียหายหม่นแสงราวเจียนมอดดับ เต็มไปด้วยปราณเย็นเยียบ หนึ่งราชผกายม่วงทองลอยเหนือดวงวิญญาณ ทว่ายามนี้มันหม่นแสงไร้รัศมี ไม่มีพลังชีวิตแม้เพียงเสี้ยวเช่นกัน ประหนึ่งดาวร้างอันวังเวง

ทว่าพลังอันคลุมเครือสายนั้นดูสุดตื่นเต้นยามเห็นเรื่องทั้งหมดนี้ มันเต้นระริกไม่จบสิ้น ดุจหมาป่าโหยเห็นเนื้อชิ้นใหญ่

แต่มันก็ยังสุดระแวดระวังแม้จะเป็นในขณะนี้ มันเฝ้ามองอย่างระมัดระวังอยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจแล้วทะยานเข้าหาวิญญาณของเฉินซีอย่างรวดเร็ว

แต่มันกลับหยุดลงเมื่อกระโจนเข้ามาเพียงครึ่งทาง แล้วเริ่มพินิจอย่างระมัดระวังอีกครั้ง

เห็นได้ชัดว่าการกระทำเมื่อครู่ของมันเป็นการลองเชิง คิดใช้การกระทำล่ออันตรายใด ๆ ที่อาจมีอยู่ออกมา!

หากมันไม่ใช่พลังอันซับซ้อนคลุมเครือ คงสงสัยแล้วว่านี่คือนักล่าเจ้าเล่ห์มากประสบการณ์หรือไม่

ห้วงจิตสำนึกของเฉินซีว่างเปล่าอย่างสมบูรณ์ เงียบกริบไร้การเคลื่อนไหวใด ๆ

สิ่งนี้ทำให้พลังอันคลุมเครือนั้นแน่ใจได้เสียที มันแปรเปลี่ยนเป็นลวดลายประหลาดอันบิดเบี้ยว พุ่งเข้าใส่วิญญาณของเฉินซีดุจสายฟ้าฟาด

สำเร็จแล้ว!

ทันทีที่เข้ามาในวิญญาณของเฉินซี มันก็เริ่มแผลงฤทธิ์ กลายสภาพเป็นอำนาจกลืนกินอันน่าสะพรึงกลัว ดูคิดจะชิงวิญญาณอันอ่อนแรงเหมือนตายนี้

วิ้ง!

ทว่าทันทีที่มันเริ่มแผลงฤทธิ์นี้เอง ปราณลึกลับสายหนึ่งพลันปรากฏขึ้นจากส่วนลึกของวิญญาณ ดุจหัตถ์ไร้ลักษณ์ซึ่งสยบพลังประหลาดนั้นลงได้ทันที!

หลังจากนั้น พลังอันคลุมเครือนั้นก็ดูเหมือนหวาดกลัว มันเริ่มดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งอย่างเฉียบพลัน แต่สุดท้ายก็ไร้ผล มันสั่นสะท้านระเบิดเป็นเสี่ยง กลายสภาพเป็นประกายแสงพรมลงบนวิญญาณอันแห้งแล้ง

ขณะเดียวกัน ปราณลึกลับสายนั้นก็หายไปเช่นกัน

ขวับ!

ละอองแสงพรมลงเยี่ยงพิรุณคืนชีวิต ยามมันกระทบดวงวิญญาณอันดูหม่นแสงเหมือนตายของเฉินซี มันก็เหมือนเป็นเสี้ยวพลังชีวิตอันให้กำเนิดพลังซึ่งสุดแสนเปี่ยมประโยชน์บำรุง

เพียงพริบตา ร่างอันเสียหายของเฉินซีสะท้าน ก่อนจะกลับสู่ความเงียบงันอีกครั้งหนึ่ง

ทว่ายามนี้ สติของเฉินซีราวถูกอัสนีฟาดกระตุ้น ทำให้เขาฟื้นสติขึ้นมาชั่วครู่สั้น ๆ

หลังจากนั้น ภาพมากมายก็ปรากฏขึ้นในห้วงจิตสำนึกของเขา

มีทั้งยามต่อสู้กับอาลูเย่….

เขาพยายามใช้พลังแห่งจุดจบเพื่อจบอำนาจทำลายล้างน่าสะพรึงกลัวนี้ แต่ก็ห่างไกลเกินพอจะทำได้

พริบตาที่มันพุ่งเข้าใส่ราชผกายม่วงทอง มันก็ถูกอำนาจลึกลับบางอย่างสะกดนิ่ง ป่นแหลกเป็นเสี้ยวละอองแสงไปโดยไม่มีแม้แต่โอกาสจะขัดขืน

ท้ายที่สุด ละอองแสงเหล่านั้นก็ถูกแปรสภาพเป็นพลังชีวิต ถูกวิญญาณของเฉินซีดูดซับไป

ร่างของเฉินซีกระตุก ฟื้นสติขึ้นมาชั่วขณะอีกครั้ง

ยามนี้ เขาหวนนึกถึงภาพหลังเข้ามาในประตูแห่งวันโลกาวินาศได้

ภายในประตูแห่งวันโลกาวินาศเป็นโลกหล้าหมองหม่นในม่านหมอก เต็มไปด้วยบรรยากาศชวนให้หวาดกลัวในทุกผู้คน

แต่ก่อนเฉินซีจะได้เห็นทัศนียภาพถนัดตา เขาก็รู้สึกถึงความเจ็บแปลบแล่นพล่านทั่วร่างกาย ทำให้เขาดูประหนึ่งต้องอัสนีฟาด ร่างทรุดล้มลงอย่างเกินควบคุม

ท้ายที่สุด เขาก็ร่วงลงในสระน้ำอันขุ่นมัวยิ่งเช่นโคลน!

เขาหารู้ไม่ว่าสระน้ำนี้คือสิ่งใด แต่เขากลับรู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาดยามจมลงสู่สระ ประสาทอันตึงเครียดผ่อนคลายลงอย่างสมบูรณ์

หลังจากนั้น ความเหนื่อยล้าอันเกินสกัดก็แผ่ซ่านในหัวใจ ทำให้สติสัมปชัญญะพร่ามัวจนหมดสติไป ไม่อาจสัมผัสสิ่งใดได้อีก

ขณะนี้ เมื่อภาพเหล่านี้ปรากฏขึ้นให้เห็น เฉินซีพลันประจักษ์เข้าใจ ที่แท้ข้ายามนี้ก็ใกล้ตายอยู่….

ทันใดนั้น ความไม่ยินยอมอันแรงกล้ามหาศาลก็ไหลบ่าออกจากหัวใจของเฉินซี!

เขาไม่ยอมตายไปทั้งเช่นนี้!

เขาอยากปลุกเจิ้นหลิวชิงขึ้นมา หวนพบบุพการี ขยี้นิกายอำนาจเทวะ… เรื่องที่อยากทำมีเยอะไปหมด แล้วเขาจะตายไปทั้งเช่นนี้ได้อย่างไร?

ไม่! ข้าตายไม่ได้! เฉินซีตะโกนในใจ ขณะที่ความปรารถนามีชีวิตอยู่อันแข็งกล้ายิ่งปรากฏขึ้นในอก เขาพยายามคงสติตนเองไว้อย่างเต็มที่ ปลุกพลังชีวิตทั่วกายอย่างเต็มกำลัง…

ท้ายที่สุด เฉินซีก็รู้สึกเจ็บแปลบในห้วงจิตสำนึก แล้วสติของเขาก็ดับวูบไปอีกครั้ง

ทว่าเฉินซีหาสังเกตไม่ว่าวิญญาณซึ่งเดิมวังเวงเจียนตาย ยามนี้เรืองรองสว่างไสวขึ้น แม้มันจะยังเบาบางริบหรี่ แต่มันก็มีประกายอยู่!

ขณะเดียวกัน พลังชีวิตเสี้ยวสุดท้ายอันสุดแผ่วบางในกายเหมือนจะถูกกระตุ้นขึ้น มันเลิกทำงานอย่างกระท่อนกระแท่น เริ่มโคจรไม่หยุดนิ่งไปทั่วชีพจรและเส้นเลือดอันเสียหายตลอดกาย

น่าเสียดายที่เส้นเลือดและชีพจรของเขาเสียหายรุนแรงเกินไป พวกมันดูยุ่งเหยิงไปหมด! ดังนั้นพลังชีวิตเพียงสายเดียว กว่าจะฟื้นฟูร่างของเฉินซีได้ ก็ต้องใช้เวลาแสนนาน

ขวับ!

หลังชั่วกาลเกินรับรู้ พลังอันสุดซับซ้อนคลุมเครือก็ปรากฏขึ้นอีกสาย มันมาจากที่มาเดียวกันกับสองสายก่อนหน้า

ทว่าสิ่งที่แตกต่างออกไปคือ พลังอันซับซ้อนสายนี้รุนแรง มหาศาลและทรงพลังอย่างยิ่ง มากกว่าหนก่อนเกินสิบเท่า!

ทันทีที่มันปรากฏ มันก็แตกตัวเป็นเสี้ยวพลังอันเล็กบางนับไม่ถ้วน ราวกับแบ่งอวตารเกินนับได้

ท้ายที่สุด มันก็กลายเป็นทัพอันเกรียงไกร พุ่งทะลวงสระน้ำโคลนเข้าหาร่างของเฉินซีอย่างไร้เสียง….

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]