บทที่ 1968 การเปลี่ยนแปลงอันน่าตกตะลึง
………………..
บทที่ 1968 การเปลี่ยนแปลงอันน่าตกตะลึง
สายพลังเล็กบางอันซับซ้อนนับไม่ถ้วนคืบคลานแทรกร่างเฉินซีดุจหนวดปลาหมึก ก่อนจะเขยิบตามกระดูกและชีพจรอย่างต่อเนื่อง
พวกมันพุ่งทะลวงอย่างดุดัน แตกต่างจากความระมัดระวังสองหนก่อนโดยสิ้นเชิง
พวกมันคลับคล้ายมั่นใจเหลือแสน ว่าอำนาจแข็งแกร่งของมันจะเพียงพอโจมตีจับตัวเป้าหมายได้อย่างราบรื่น
ยามพลังอันซับซ้อนเหล่านี้เริ่มพลุ่งพล่านสู่กาย ร่างของเฉินซีเริ่มกระตุกอย่างสังเกตได้ ดูประหนึ่งเขาสัมผัสอันตรายได้โดยสัญชาตญาณ
วิ้ง!
ครั้งนี้คลื่นพลังลึกลับสายหนึ่งพลันแผ่ออกจากส่วนลึกของวิญญาณเฉินซีก่อนที่พวกมันจะทันชอนไชสู่ห้วงจิตสำนึกของเฉินซีเสียอีก
เพียงพริบตา มันก็แปรสภาพเป็นตาข่ายใหญ่ ปกคลุมอำนาจอันคลุมเครือซึ่งพุ่งเข้าหาห้วงจิตสำนึกของเฉินซีทั้งหมดไว้
ครืน!
สองอำนาจอันแตกต่างโดยสิ้นเชิงทำศึกกันในร่างของเฉินซี ประชันไม่ลดราเยี่ยงน้ำกับไฟ เป็นภาพน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง
ภาพนี้เกินเข้าใจโดยแท้
ไม่ว่าจะเป็นพลังอันคลุมเครือจากโลกภายนอก หรือคลื่นพลังประหลาดจากในส่วนลึกวิญญาณเฉินซี ทั้งสองต่างมีปราณแข็งแกร่งสุดขั้วอันหาได้ยากยิ่งทั่วโลกา แต่ก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้นทันทีที่พวกมันเริ่มปะทะ ร่างอันเสียหายอยู่แล้วของเฉินซีก็ยิ่งอาการทรุดลงอย่างมหาศาล
พรวด! พรวด! พรวด!
ช่วงกาลต่อจากนั้น โลหิตทะลักออกจากร่างทุกส่วนของเฉินซีเป็นครั้งคราวอย่างสังเกตได้ เป็นภาพชวนสยดสยองยิ่ง
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ร่างของเฉินซีคงระเบิดเป็นเสี่ยงก่อนที่ศึกจะประจักษ์ผล!
แต่บังเอิญว่าในยามสุดอันตรายนี้ เฉินซีเหมือนจะไม่รับรู้สิ่งใดเลย
น้ำอันขุ่นดุจโคลนในสระเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม ขณะที่ฟองอากาศที่ผุดพรายถูกย้อมด้วยประกายแดงเลือด
ไม่นานนัก สระน้ำก็เหมือนกลายสภาพเป็นบึงโลหิตอันเดือดพล่าน ขณะที่ร่างอันเสียหายสุดขีดของเฉินซีลอยอยู่ภายใน เป็นภาพชวนขวัญผวาเกินใดเทียบ
เปรี้ยง!
ทันใดนั้น ร่างของเฉินซีก็กระตุกเกร็ง ร่างส่วนอื่นนอกจากศีรษะระเบิดเป็นเสี่ยง แปรเปลี่ยนเป็นเศษเลือดเนื้อ รวมเป็นหนึ่งกับบึงโลหิตอันขุ่นข้น
ขณะเดียวกัน พลังอันคลุมเครือนั้นก็ทะลวงเข้าสู่ห้วงจิตสำนึกของเฉินซีเช่นดาบคม จู่โจมวิญญาณของเฉินซีอย่างบ้าคลั่ง
อันตราย!
สัมผัสอันตรายถึงตายแล่นพล่านกายของเฉินซี หากพลังอันคลุมเครือนั้นบรรลุประสงค์ เฉินซีคงไม่มีทางคืนชีวิตกลับมาได้
วิ้ง!
ขณะนั้นเอง ภาพของชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากก็ปรากฏขึ้นในห้วงจิตสำนึกของเขา แผ่คลื่นอำนาจประหลาดสายหนึ่งออกมา
ขณะเดียวกันนั้นเอง ภาพมายาของหนึ่งหนังสือหนึ่งพู่กันก็ปรากฏขึ้นข้างชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลาก ปรากฏว่านั่นคือพลังของระเบียนแดนมรณะและพู่กันพิพากษามาร
กล่าวคือ พลังของสมบัติลึกลับทั้งสาม ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลาก ระเบียนแดนมรณะและพู่กันพิพากษามารปรากฏขึ้นในห้วงจิตสำนึกของเฉินซี!
“นั่นมัน!!!” หนึ่งเสียงแผดก้องอย่างประหลาดใจจากในพลังอันคลุมเครือ
แล้วพลังอันคลุมเครือนั้นก็ระเบิดเป็นเสี่ยง กลายเป็นละอองแสงหายไปพร้อมกับเสียงนั้น
เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นรวดเร็วเพียงชั่วพริบตา สิ่งที่ปรากฏขึ้นช่างชวนตกตะลึงเกินคาดเดา
หากเป็นคนอื่น คนผู้นั้นคงไม่อาจคาดเดาได้เป็นแน่ว่าตัวตนร้ายกาจผู้ใดส่งอำนาจอันคลุมเครือนี้มา มันจึงสามารถบีบให้ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลาก ระเบียนแดนมรณะและพู่กันพิพากษามารต้องออกมาร่วมกันสยบมัน
แต่นั่นไม่ใช่จุดจบแห่งสรรพสิ่ง
หลังจากพลังอันคลุมเครือถูกขยี้กลายเป็นละอองแสง ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลาก ระเบียนแดนมรณะหรือพู่กันพิพากษามารล้วนไม่หายไป ยังคงแผ่คลื่นอำนาจเป็นระลอกต่อไปเรื่อย ๆ….
วิ้ง!
ขณะนี้ สระโลหิตอันขุ่นข้นสั่นสะท้านเดือดพล่าน ปราณลึกลับสายหนึ่งปรากฏขึ้น ผนวกตัวกันในสระ
เฉินซีหาตระหนักถึงเหตุเหล่านี้ไม่
เขาไม่รู้ว่าตนเองเหลือแต่หัวในยามนี้ด้วยซ้ำ
กาลเวลาเคลื่อนผ่าน สระโลหิตเดือดพล่านทวีหนัก ปราณลึกลับซึ่งโผนทะยานรวมกันยิ่งทวีความแข็งแกร่ง เป็นภาพอันชวนตื่นตา
ครืน!
ท้ายที่สุด อัสนีเลื่อนลั่น วายุถาโถม แสงสีเลือดเฉิดฉาย สารพัดปรากฏการณ์ร้ายกาจปรากฏขึ้นบนท้องนภาเหนือสระโลหิต ทำให้บริเวณรอบข้างปั่นป่วนรวนเร
บนท้องฟ้ามัวหม่นกระทั่งปรากฏบงกชโกลาหลนับไม่ถ้วนเบ่งบาน ก่อขึ้นจากความลึกล้ำสูงสุดแห่งมหาเต๋า โปรยตัวลงสู่สระโลหิต
อุบัติการณ์เช่นนี้กล่าวได้ว่าชวนตะลึงเกินคาดฝัน เพราะพลังภายในพวกมันล้วนแล้วลึกลับ มิใช่สิ่งที่มีได้ในโลกภายนอก
พบเห็นได้เพียงในประตูแห่งวันโลกาวินาศเท่านั้น
สรรพสิ่งเคลื่อนไหวพัฒนาสู่ความสมบูรณ์แบบ
ขณะเดียวกัน เพลิงศักดิ์สิทธิ์วิญญาณในห้วงจิตสำนึกของเฉินซีเรืองรองขึ้นอีกครั้ง แผดผลาญแสงสว่างดุจนิรันดร์
ราชผกายม่วงทองเรืองรองเช่นตะวันเหนือดวงวิญญาณ เจิดจรัสทั่วกระทั่งห้วงจิตสำนึก ทำให้ดวงวิญญาณของเขาเจิดจรัสเปล่งประกายทั่วไปหมด
สรรพสิ่งราวได้ชีวิตใหม่!
จนกาลผ่านไปอีกชั่วขณะอันไม่อาจคะเน ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลาก ระเบียนแดนมรณะและพู่กันพิพากษามารต่างก็เลือนจากห้วงจิตสำนึกของเฉินซี เงียบหายตามกันไป
แต่จนบัดนี้ สติของเฉินซีก็ยังไร้สัญญาณฟื้นคืน ดูประหลาดอย่างยิ่ง
เห็นได้ชัดว่าทั่วทั้งกายของเขาเปลี่ยนแปลงอย่างน่าตกตะลึง ราวได้ชีวิตใหม่ที่แข็งแกร่งกว่ายามก่อนเกินสองเท่าตัว
ทว่าสติสัมปชัญญะของเฉินซีก็เหมือนมิได้รับกำลังใดจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จึงยังสลบไสลมิได้สติ
กาลเวลาผ่านไปรวดเร็วเช่นยิงเกาทัณฑ์ อีกสิบปีผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วนับแต่ร่างก่อขึ้นใหม่
ทว่า….
ตลอดสิบปีนี้ เหนือเพลิงศักดิ์สิทธิ์วิญญาณมีราชผกายม่วงทองปรากฏขึ้นอีกสองดวง!
สรุปคือ เพียงการบ่มเพาะของเขาลำพัง ยามนี้เฉินซีก็เป็นจ้าวเอกภพสามดาราผู้หนึ่ง!
หากเขาอยู่ในโลกภายนอก การพัฒนาอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจนี้จะทำให้จ้าวเอกภพคนอื่น ๆ ตกใจกันอย่างแน่นอน
เรื่องน่าขันที่สุดคือ เฉินซีหาได้บ่มเพาะไม่ เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ กระทั่งตัวเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ายามนี้ ตนเป็นจ้าวเอกภพสามดาราแล้ว….
ไม่เพียงน่าขัน เรื่องเช่นนี้ เล่าไปยังไม่มีใครเชื่อ!
ทว่าเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังประตูแห่งวันโลกาวินาศอันลึกลับ ดังนั้นหากคิดถึงตำนานสะท้านหล้ามากมายของประตูบานนี้ การเปลี่ยนแปลงที่เฉินซีเผชิญก็ไม่ได้น่าประหลาดใจเท่าไรนัก
ในเวลาสิบปี การบ่มเพาะของเฉินซีขยับขึ้นสองระดับ แต่เขาก็ยังไม่อาจฟื้นตื่น ทั่วร่างจมในสระน้ำโคลนราวจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกตลอดกาล
และปีนี้เองที่หนึ่งร่างหลังค่อมเฒ่าชราเดินออกมาจากโลกหล้าอันหมองมัวแสนไกล
ร่างของเขาปกคลุมด้วยชุดคลุมสีดำ มือถือไม้เท้าไม้สีดำ เดินยักแย่ยักยันเข้ามา ทุกฝีก้าวดูกระท่อนกระแท่นยากเย็น
ทว่าทุกย่างก้าวเหมือนข้ามผ่านมิติเวลาอันไร้ขอบเขต ไร้อำนาจใดกั้นขวางได้!
เพียงพริบตา เขาก็มาถึงตรงหน้าสระน้ำโคลน ดวงตามืดดำเย็นเยียบดุจอัสนีส่องทะลวงชุดคลุมมายังเฉินซีผู้ลอยอยู่ในสระน้ำโคลนนิ่งงัน
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...