เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1969

ที่ 1969 แดนวิปโยค

………………..

บทที่ 1969 แดนวิปโยค

ร่างเฒ่าชราหลังคุ้มในชุดคลุมสีดำปรากฏขึ้นบนสายธารขุ่นข้น ใบหน้าผอมแห้งพร่ามัวปรากฏขึ้นครึ่งหนึ่ง

เขาใช้ไม้เท้าไม้สีดำค้ำกาย ร่างเผยบรรยากาศลึกลับ สายตาเย็นเยียบคล้ำดำคมกริบเช่นอัสนี จับจ้องเฉินซีอยู่เนิ่นนาน ก่อนจะยกมือขวาของตนขึ้นอย่างเฉียบพลัน

นิ้วเรียวยาวเช่นกิ่งไผ่ เส้นเลือดที่หลังมือดูคดเคี้ยวเช่นตัวหนอน ดูชราวัยอย่างยิ่ง

ขณะเดียวกัน ฝ่ามือของเขามีรอยสักลึกลับประทับอยู่

รอยสักนั้นเหมือนอักขระอันมีเส้นขีดหนาทึบ ดูไม่เหมือนอักษรใดในโลกหล้า ลึกลับเป็นอย่างยิ่ง เรืองประกายชวนขวัญผวา

วิ้ง!

แสงศักดิ์สิทธิ์สายหนึ่งพุ่งออกจากรอยสักบนฝ่ามือ ดุจคมมีดทะลวงมิติ ฟาดฟันแยกน้ำขุ่นข้นในสระออก โรยตัวลงใส่ร่างของเฉินซีอย่างรุนแรง

การโจมตีนี้ไม่ได้น่ากลัว แต่เผยอำนาจทรงพลังร้ายแรง ดุจร่างของเฉินซีจะถูกผ่าเป็นสองเสี่ยงอย่างไร้ปรานีโดยเฉียบพลัน

ทว่าหนึ่งเหตุประหลาดก็เกิดขึ้น ทันทีที่แสงศักดิ์สิทธิ์สายนั้นเข้าประชิดร่างของเฉินซี มันก็เหมือนเป็นวัวดินเหนียวจมสมุทร นอกจากไม่อาจทำร้ายเฉินซีได้ มันยังถูกร่างของเขากลืนหายไปอย่างไร้เสียง!

“ว่าแล้วเชียว….” ชายในชุดคลุมสีดำพึมพำ น้ำเสียงนั้นเปี่ยมวัยวุฒิและประสบการณ์ไร้ขอบเขต

เปรี้ยง!

เขาเหมือนไม่ยอมแพ้ ปราณร้ายกาจรุนแรงพลุ่งพล่านจากร่าง ก่อนจะขยุ้มนิ้วยาวเรียวเข้าใส่เฉินซีอีกครั้ง

ราวแหปากใหญ่อันคิดจับมัจฉาทั้งมวลในสระน้ำ

เปรี้ยง!

วารีสาดกระฉอก มือขยุ้มเข้าที่คอของเฉินซีอย่างรุนแรง ก่อนจะออกแรงกระชากเฉียบพลันหมายลากเฉินซีให้พ้นน้ำ

ทว่าขณะนั้นเอง พลังลึกลับอันกล้าแข็งสายหนึ่งก็ปะทุออกจากร่างอันนิ่งงัน

เปรี้ยง!

ชายในชุดคลุมสีดำสัมผัสคลื่นความเจ็บแปลบกวาดกระหน่ำทั่วแขนขวาตน ขณะที่อำนาจอันน่าสะพรึงกลัวยิ่งสายหนึ่งชำแรกเข้าสู่ร่าง ดุจสัตว์ร้ายกัดขย้ำไม่อาจดิ้นหลุด เขากระทั่งขัดขืนมันไม่ได้!

พลังประหลาดสายนี้น่าสะพรึงกลัวเกินไป ไม่ว่าชายในชุดคลุมสีดำจะดิ้นรนเพียงไร เขาก็ไม่อาจหนีมันพ้น ขณะที่มันยังคงชอนไชบุกรุกร่างของเขาเสียแทน

“ไม่!!! เป็นไปได้อย่างไร? เราเป็นผู้ช่วงชิงเหมือนกันแท้ ๆ แต่เหตุใดเขาจึงนำแผนภาพวารีหลากเข้ามาในประตูแห่งวันโลกาวินาศด้วยได้!?” ชายในชุดคลุมสีดำแผดเสียงอย่างสุดตกตะลึง ประหนึ่งเผชิญหน้าบางสิ่งอันสุดแสนชวนผวา

เสียงของเขากึกก้องทั่วทิศ ชวนให้หัวใจผู้ฟังเต้นตุ้มต่อมด้วยความกลัว

เห็นได้ชัดเจนว่า ขณะที่มือขวาของชายในชุดคลุมสีดำยังคงกำคอของเฉินซี ร่างของเขาสะท้านเทิ้มรุนแรงเกินควบคุม ราวกำลังอดทนต่อความเจ็บปวดสุดพรรณนา

“เวรเอ๊ย! ผ่านไปกี่ปีแล้วหนอ? หรือข้าจะถูกทำลายไปด้วยน้ำมือผู้มาทีหลัง?” ชายในชุดคลุมสีดำแผดเสียงไม่หยุดหย่อน กระทั่งชุดคลุมสีดำที่เขาสวมยังฉีกขาดจากกัน เผยร่างอันผอมบางราวหนังหุ้มกระดูก

เรือนผมยาวขาวโพลนปล่อยสยาย ใบหน้าเฒ่าชราเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น มีเพียงดวงตาที่ยังเรืองรองเช่นตะวัน เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งกาลเวลาและประสบการณ์

ปราณของเขาแข็งแกร่งโดดเด่น เก่าแก่โบราณเกินธรรมดา ทั่วร่างแผ่ปราณยิ่งยงเกินบรรยาย

ทว่าขณะนี้ สีหน้าของเขาเผยความตกตะลึงสุดขีด กระทั่งดวงตายังปิดความประหลาดใจไว้ไม่มิด ทั่วร่างสั่นสะท้านราวถูกล่ามตรวนมิอาจสะบัดหนี

วิ้ง!

พลังลึกลับนั้นยังคงแผ่ซ่านเข้าสู่ร่างของชายชราอย่างไม่จบสิ้น แผ่ขยายจวนเจียนปกคลุมทั่วร่างเต็มที

“น นี่…. นี่มันไม่ใช่พลังของแผนภาพวารีหลาก!” ทันใดนั้น ชายชราก็เหมือนสังเกตเห็นบางสิ่ง เขาแผดเสียงสนั่นสุดคอ ดูประหนึ่งเผชิญเรื่องน่าสะพรึงกลัวที่สุดในโลกหล้า

ฟ้าดินสั่นสะท้าน ท้องนภาหมองมัวเต็มไปด้วยบรรยากาศกดดันชวนผวา

ขณะเดียวกัน ร่างของชายชราสะท้านเทิ้ม เสียงแผดก้องสนั่นนภา แต่เฉินซีก็เหมือนไม่สังเกตรับรู้ใด ๆ เหมือนคนตายที่ยังมีพลังชีวิตในตัว

ภาพนี้ดูชวนสะพรึงยิ่ง ให้บรรยากาศประหลาดพิกล

เปรี้ยง!

ท้ายที่สุด ชายชราก็เหมือนฟื้นกำลัง โบกไม้เท้าสีดำในมือฟาดลงยังแขนขวาของตนอย่างรุนแรง

เปรี้ยง!

แขนขวาของเขาระเบิดเป็นเสี่ยง สลายหายเป็นผุยผง ขณะที่ตนก็เหมือนว่าวสายป่านขาด ปลิวลงกระแทกพื้นเบื้องหลัง

พรวด!

เขากระอักโลหิตคำโต ร่างชักกระตุกบนพื้น นอกจากนั้น ใบหน้ายังเปี่ยมความพรั่นพรึงเช่นผู้รอดจากความตายอย่างเฉียดฉิว สภาพดูไม่ได้ยิ่งนัก

ขณะนี้ เขาดูไม่ต่างจากชายชราผู้มีเวลาเหลือเพียงไม่มาก ไร้ซึ่งอำนาจยิ่งใหญ่ใด ๆ

“เวรแท้! มิคาดเลยว่ายุคนี้จะมีสัตว์ประหลาดยากรับมือเช่นนี้เกิดมา…. พลังนั่นคืออะไรกันแน่? เหตุใดมันจึงสยบทุกความสามารถของข้าได้?” ชายชรานอนแผ่ หอบหายใจกับพื้น สีหน้าแปรเปลี่ยนไม่อยู่นิ่ง นอกจากนั้น ยังเต็มไปด้วยความประหลาดใจระคนงุนงงเกินลบหาย

จ้าววิญญาณพยักหน้า กล่าวอย่างเฉยชา “รู้ นี่คือครรลองภาพรวมในโลกหล้า ไม่อาจหยุดได้ ต่อให้ข้าไม่เปิดมัน คนอื่นก็เปิดมันอยู่ดี”

ว่าแล้ว เขาก็เงยหน้าขึ้นมองเฉินซี มุมปากยกยิ้มพิกล “มิใช่เจ้า… ก็เหมือนกันหรือ?”

เฉินซีหารู้ไม่ว่าเหตุใดตนจึงรู้สึกเช่นนี้ แต่เขาส่ายหน้า กล่าวขึ้นโดยสัญชาตญาณ “ผิดแล้ว ข้าไม่เหมือนเจ้า ยุคสมัยที่ข้ามาไม่มีทางเผชิญหายนะโลกาวินาศแน่นอน!”

“โอ้?” จ้าววิญญาณเริ่มหัวเราะอย่างเจือสงสาร “อย่าหลอกตัวเองเลย ผู้ช่วงชิงทำลายยุคสมัยไป มิใช่ความผิดหรอก”

เฉินซีมองจ้าววิญญาณ แต่ก็ไม่ได้เถียงกลับ เปลี่ยนประเด็นไปว่า “ข้าได้ยินว่า นอกจากที่นี่จะมีอำนาจหายนะโลกาวินาศอันสามารถกวาดล้างยุคสมัยได้ ยังซ่อนปริศนาแท้จริงแห่งมหาวิถีไว้ด้วย….”

เขายังพูดไม่ทันจบ จ้าววิญญาณก็ขัดขึ้น “มหาวิถี? ข้าค้นที่นี่มาไม่รู้กี่ปี แต่ก็ยังมือเปล่าจนบัดนี้ จนสุดท้ายข้าก็ตระหนักว่าทั้งหมดโกหกทั้งเพ! มหาวิถี? ฝันเพ้อแท้ ๆ! มันไม่มีตัวตนอยู่ในโลกเลย!”

กล่าวจบ จ้าววิญญาณก็เผยสีหน้าสะเทือนอารมณ์ ราวความแค้นที่สั่งสมมาเนิ่นนานปะทุออกในขณะนี้

เฉินซีพินิจจ้าววิญญาณอย่างใจเย็น รอให้อีกฝ่ายสงบอารมณ์ลง จึงกล่าวต่อ “เช่นนั้น เจ้ารู้วิธีออกจากที่นี่หรือไม่?”

จ้าววิญญาณนิ่งไป ก่อนจะหัวเราะเย้ยหยัน “หากออกไปได้ ข้าคงออกไปจากที่บ้า ๆ นี่ตั้งนานแล้ว! มีหรือจะอยู่ที่นี่จนบัดนี้?”

เฉินซีเงียบไปอีกครั้ง ก่อนจะโพล่งขึ้นกะทันหัน “ตลอดมาที่ข้าไร้สติ เจ้าสินะที่พยายามกลืนกินวิญญาณ ชิงร่างของข้า?”

ร่างของจ้าววิญญาณชะงักเกร็ง สีหน้าแปรเปลี่ยนไปมา ก่อนที่สุดท้ายจะพยักหน้า “ใช่”

เขาตระหนักดีว่าสถานการณ์ยามนี้ทำให้เขาไม่อาจปฏิเสธได้ สู้ยอมรับไป ยังอาจช่วยให้มีโอกาสรอดมากกว่า

“เพราะเหตุใด?” เฉินซีถาม ไร้สัญญาณจู่โจม

สิ่งนี้ทำให้จ้าววิญญาณลอบถอนหายใจโล่งอก ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงตอบ “ข้าได้ยินมาว่า ผู้ช่วงชิงทุกคนมีตราประทับยุคสมัยอันเป็นเอกลักษณ์อยู่กับตัว ขอเพียงข้าแปรสภาพดูดซับพวกมันทั้งหมดได้ ก็จะมีโอกาสได้มาซึ่ง….”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ จ้าววิญญาณก็เริ่มลังเล

“ได้มาซึ่งสิ่งใด?” สายตาของเฉินซีจ้องนิ่งที่จ้าววิญญาณอย่างสงบเงียบเฉยชา

จ้าววิญญาณกัดฟัน กล่าวออกมาเบา ๆ “ปริศนาแท้จริงแห่งมหาวิถี!”

ดวงตาของเฉินซีเรืองประกายประหลาดใจเล็กน้อย “เจ้ามิได้บอกหรือว่า เจ้าไม่เชื่อว่ามหาวิถีมีอยู่จริง? หรือเมื่อครู่เจ้าโกหก?”

จ้าววิญญาณส่ายหัวไปมา “หลังจากอยู่ในที่บ้า ๆ นี่มานาน ข้าก็ต้องหาความหวังเพื่อให้ตนอยู่ต่อไปได้ หาไม่… ก็คงน่าสังเวชเกินไป”

เสียงของเขาเจือความเศร้าหมองเกินประมาณ

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]