เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1984

บทที่ 1984 เขาคือเฉินซี

………………..

บทที่ 1984 เขาคือเฉินซี

ตู้ม!

เสียงดังสนั่นฟ้าดังก้อง แสงศักดิ์สิทธิ์ส่องสว่างออกมาทั่วบริเวณ

ตอนนี้ เสวี่ยอวิ๋นได้แต่หลับตา แต่ก็ยังไม่อาจหยุดน้ำตาไว้ได้ ไม่เคยคิดเลยว่าในจังหวะสิ้นหวังเช่นนี้ ขนาดอารองยังทรยศนาง แต่สหายที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานกลับยื่นมือเข้าช่วยนางได้!

ใช่แล้ว เฉินซีนั้นอ่อนแอมาก ทำให้ศัตรูคิดว่าเขาเป็นเหมือนมดตัวจิ๋วตัวหนึ่ง แต่ปรากฏว่าเฉินซีกล้าลุกขึ้นมาช่วยนาง มีหรือเสวี่ยอวิ๋นจะไม่รู้สึกซาบซึ้งใจ?

ดังนั้นเมื่อเห็นอารองเสวี่ยอิ้งไห่ซัดท่าสังหารใส่เฉินซี เสวี่ยอวิ๋นจึงร้องไห้ออกมา นางสิ้นหวังจนทั่วร่างสั่นสะท้านไปหมด

“อาจารย์อา ให้ข้าฆ่าตาแก่นี่เลยดีหรือไม่?” ทันใดนั้นน้ำเสียงทุ้มดุดันก็ดังขึ้น ทำให้เสวี่ยอวิ๋นตกใจ อาจารย์อา? ตาแก่? นี่มันเรื่องอะไรกัน?

นางจึงลืมตาขึ้น แล้วก็ต้องสะท้านไปทั้งร่าง นิ่งค้างไปตรงนั้น

ตอนนี้ เสวี่ยอิ้งไห่เป็นเหมือนลูกไก่ในกำมือของชายร่างกำยำ ไม่ว่าเสวี่ยอิ้งไห่จะดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด ใบหน้าจึงเผยแววความหวาดกลัวสิ้นหวังออกมาเต็มที่

ทว่าชายร่างกำยำกลับยืนรับคำสั่งอยู่ข้างกายเฉินซี เหมือนรอเฉินซีตอบตกลงอยู่

เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เสวี่ยอวิ๋นไม่รู้ว่านางฝันไปหรือเปล่า เพราะภาพตรงหน้ามันเหลือเชื่อเกินไปแล้

อารองเป็นจักรพรรดิสองดารา! การจัดการเฉินซีนั้นไม่ยากเลย! ใครจะไปคิดว่าเขากลับเป็นฝ่ายถูกขยี้กลับในพริบตาได้เช่นนั้น!?

ชายร่างกำยำคนนั้นเป็นใครกัน? แล้วเขามาจากไหน?

ตอนนี้ไม่ใช่เพียงเสวี่ยอวิ๋นที่อึ้งไป ทุกคนในห้องโถงก็เช่นกัน

ทุกคนเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ชัดเจน รู้ดีว่าเฉินซียืนหยัดอยู่ไม่ไปไหนเหมือนกลัวว่าเสวี่ยอิ้งไห่จะบาดเจ็บเอาได้

แต่ในจังหวะนั้นเอง จู่ ๆ ชายร่างกำยำก็ปรากฏตัวขึ้น แค่ยื่นมือไปก็ทำลายการโจมตีของเสวี่ยอิ้งไห่ได้แล้ว ทั้งยังยับยั้งเสวี่ยอิ้งไห่ไว้ไม่ให้สามารถหนีไปไหนได้!

มันเป็นการต่อสู้ที่ตรงไปตรงมา แต่ก็มีพลังน่าเกรงขามเช่นกัน

เป็นไปอย่างที่เสวี่ยอวิ๋น เสวี่ยอิ้งไห่เป็นจักรพรรดิสองดารา แต่กลับเหมือนกระดาษไร้ค่าราคาใดเมื่ออยู่ต่อหน้าชายร่างกำยำผู้นี้!

ช่างเป็นเหตุการณ์ที่น่าเหลือเชื่อ

โดยเฉพาะกับหลีเหวินไท่ที่ยืนอยู่ใกล้เฉินซีมากที่สุด เขาย่อมสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายดุดันของชายหนุ่มผู้นั้นได้อย่างชัดเจน ในใจรู้สึกตกตะลึงยิ่ง ทั้งร่างยังรู้สึกสั่นสะท้านอีกต่างหาก

ท่ามกลางผู้คนรอบกาย มีเพียงเฉินซีที่ยังคงสีหน้าเดิมไว้ตลอด ท่าทางยังคงเหมือนเดิม ไม่เหลือบมองเสวี่ยอิ้งไห่สักนิดด้วยซ้ำ

ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าเฉินซีไม่ได้กลัวจนหัวหด แต่เป็นเพราะมีคนให้พึ่งพาได้ต่างหาก!

พริบตานั้น สีหน้าของชายหนุ่มท่าทางเรียบร้อยและคนตระกูลกงเหย่ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย พวกเขาเหลือบมองเฉินซี จากนั้นก็มองชายร่างกำยำ สีหน้าเปลี่ยนผันไปเรื่อย

พวกเขามีความสามารถในการหยั่งรู้ มีหรือจะไม่รู้ว่ากลิ่นอายของชายร่างกำยำผู้นี้นับว่าเป็นจ้าวเอกภพ?

แต่ชายร่างกำยำกลับเรียกเฉินซีว่าอาจารย์อา เท่านี้ก็น่าตกใจมากพอแล้ว!

ชายร่างกำยำผู้นี้ก็คือถูเมิ่ง!

เขาแอบติดตามเฉินซีมาตลอด ด้วยมีมรดกเขาเทพพยากรณ์และมีพลังบ่มเพาะน่าเกรงขามในหมู่จ้าวเอกภพด้วยกัน ทำให้สามารถปกปิดตัวตนจนคนในห้องโถงไม่รู้ตัวได้โดยง่าย

“ทำให้พิการก่อน แล้วให้เสวี่ยอวิ๋นจัดการเขาภายหลัง” ประโยคที่สองของเฉินซีดังขึ้น เปลี่ยนสีหน้าเสวี่ยอิ้งไห่ให้กลายเป็นซีดขาวในชั่วพริบตา บนใบหน้าระบายไปด้วยความหวาดกลัวอีกครั้ง

เปรี๊ยะ!

เสวี่ยอิ้งไห่ยังไม่ทันหายตกใจก็รู้สึกเหมือนถูกภูเขาทั้งลูกซัดเข้าใส่ กระดูกทั่วร่างหักดังเป๊าะ สายตาพลันดำมืด หมดสติไปโดยยังไม่ทันได้ร้องตกใจด้วยซ้ำ

ตุบ!

ถูเมิ่งโยนเสวี่ยอิ้งไห่ทิ้งอย่างไม่ไยดีเหมือนขยะชิ้นหนึ่ง เสวี่ยอิ้งไห่ถูกหักแขนขา เลือดซึมทั่วร่าง ไม่ได้สติ ถึงฟื้นขึ้นมาตอนนี้อย่างไรก็กลายเป็นคนพิการไม่สามารถบ่มเพาะพลังได้แล้ว

เหตุนองเลือดเช่นนี้ทำให้หนังตาคนตระกูลกงเหย่กระตุกยิก ๆ สีหน้ายิ่งเคร่งขรึม

กระทั่งเสวี่ยอวิ๋นกับหลีเหวินไท่ยังตกตะลึง ทั้งสองเบิกตากว้างเหมือนไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น

จักรพรรดิสองดาราถูกทำให้พิการได้ในพริบตาเดียว!

เรื่องไม่คาดฝันยิ่งทำให้ภายในห้องโถงเงียบสงัดกว่าเก่า บรรยากาศหนักหน่วงจนหายใจไม่ออก

“เจ้าเป็นใครกันแน่?” ชายหนุ่มท่าทางเรียบร้อยสงสายตาจ้องเฉินซีพลางเอื่อยเสียงเย็นชา

คนอื่น ๆ ก็เช่นกัน ด้วยเห็นว่าชายร่างกำยำเรียกเฉินซีว่าอาจารย์อา และฟังคำสั่งของชายหนุ่มทุกอย่าง ทำให้รู้ว่าตัวตนเฉินซีคงไม่ธรรมดาแน่

พริบตานั้น คนตระกูลกงเหย่ก็มีท่าทีต่อคำพูดของชายหนุ่มท่าทางเรียบร้อย ในเมื่อตอนนี้เฉินซีอ่อนกำลังลงมาก เช่นนั้นพลังต่อสู้ก็คงมีไม่มากเช่นกัน

ช่วงเวลาเช่นนี้เป็นโอกาสอันดีที่จะสังหารเฉินซีและแก้แค้นให้กงเหย่เจ๋อฟูเลยไม่ใช่หรือ?

คิดดังนั้นแล้วทุกคนก็ตื่นเต้นยินดี ส่วนถูเมิ่งนั้นไม่มีใครกลัวชายหนุ่มเลย

แม้ว่าถูเมิ่งจะเป็นจ้าวเอกภพ แต่ฝั่งพวกเขาก็ไม่ได้มีเพียงจ้าวเอกภพเท่านั้น ยังมีอีกแปดจักรพรรดิมาด้วยเช่นกัน!

เช่นนี้แล้ว พวกเฉินซีจะสู้พวกเขาไหวได้อย่างไร?

พริบตานั้น บรรยากาศภายในห้องโถงก็เปลี่ยนผัน ทุกคนเริ่มเล็งเป้าหมายไปที่เฉินซีทันใด!

เสวี่ยอวิ๋นกับหลีเหวินไท่ก็สังเกตว่าสถานการณ์เริ่มมีทีท่าไม่ดี เริ่มรู้สึกหนักใจขึ้นมาทันใด หากเฉินซีมาตายที่ตระกูลเสวี่ย ผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไรก็ไม่อาจรู้ได้!

แต่ในจังหวะอันตรายนั้น เฉินซีกลับไม่ได้ดูเป็นกังวลแต่อย่างไร เพียงแต่เอ่ยคำกับหลีเหวินไท่เรียบง่าย “จำที่ข้าพูดเมื่อครู่ได้หรือไม่? หน้าที่ของท่านคือดูแลเสวี่ยอวิ๋น ไม่ต้องทำอย่างอื่น”

หลีเหวินไท่ชะงักไป ไม่ว่าจะเค้นสมองอย่างไรก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าเฉินซีไปเอาความมั่นใจเช่นนี้มาจากไหน

เฉินซีไม่สนใจหลีเหวินไท่อีก หันไปพูดกับถูเมิ่ง “รีบสู้รีบจบ หากตึงมือเกินข้าจะลงมือเอง”

มันดูเป็นคำพูดที่เย่อหยิ่งจองหองยิ่งนักเมื่อเข้าหูคนอื่น ทำเอาชายหนุ่มท่าทางเรียบร้อยและคนตระกูลกงเหย่หัวเราะกันลั่น ไอ้บัดซบนี่ยังอ่านสถานการณ์ไม่ออกอยู่อีกหรือ?

“อาจารย์อา ท่านห้ามสู้เด็ดขาด! ให้ข้าจัดการพวกเวรนี่เอง!” ถูเมิ่งดูเป็นกังวลอย่างยิ่ง ด้วยไม่อยากให้เฉินซีออกมาต่อสู้ในสภาพเช่นนี้ ดังนั้นเสียงตอบกลับจึงมั่นคงและดุดันกว่าเดิมมาก

“รนหาที่ตาย!” ชายหนุ่มท่าทางเรียบร้อยตะโกนออกมาแล้วก็แวบร่างหายไป กลิ่นอายดุดันน่าเกรงขามพวยพุ่งออกจากกาย

ชายหนุ่มตะโกนลั่น “ให้ข้าจัดการมันเอง ส่วนพวกเจ้าไปสังหารไอ้เฉินซีนั่นเสีย!” ตะโกนแล้วเขาก็ซัดกรงเล็บออกไป มันแปรเปลี่ยนเป็นสายฟ้าฟาดลงมาใส่ถูเมิ่งอย่างรุนแรง

ครืน!

แต่จังหวะนั้นเอง ถูเมิ่งก็คำรามเสียงลั่น ปลดปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์สีทองสว่างจ้าดั่งดวงตะวันออกจากร่าง ดุจเทพปีศาจออกสังหาร ซัดหมัดใส่ชายหนุ่มท่าทางเรียบร้อยผู้นั้นอย่างจัง

พร้อมกันนั้น แขนอีกข้างก็เหวี่ยงออก ส่งแรงพลังคล้ายขุนเขาโจมตีออกไป ห้วงอากาศส่งเสียงลั่นครืน ถูกทำลายจนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ การโจมตีทั้งหลายโอบล้อมแปดจักรพรรดิตระกูลกงเหย่ไว้

ตอนนี้ ถูเมิ่งคิดจะจัดการกับยอดฝีมือทั้งหมดจากตระกูลกงเหย่ด้วยตัวคนเดียว!

เหตุเช่นนี้จะใช้เพียงคำว่าดุดันอธิบายได้อย่างไร?!

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]