บทที่ 1985 หนึ่งรุมเก้า
………………..
บทที่ 1985 หนึ่งรุมเก้า
โครม!
เสียงการปะทะกันอันน่าสะพรึงกลัวกึกก้องไปทั่วห้องโถง รัศมีศักดิ์สิทธิ์โหมคลั่งอย่างคลื่นสมุทร มันกวาดออกไปโดยรอบด้วยพลังที่เดือดพล่าน
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
ถูเมิ่งปะทะกับแรงระเบิดให้ถอยกรูดไปสามก้าวใหญ่ ทุก ๆ ก้าวที่กระแทกส้นเท้าลงพื้น รอยแตกนับไม่ถ้วนพลันบังเกิดเป็นแนวระแหง
ดูเหมือนว่าการปะทะในครั้งนี้เขาจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างมาก แต่กระนั้น สิ่งที่ชวนให้ผู้คนโดยรอบตกตะลึงก็ปรากฏ ถูเมิ่งสามารถต้านทานการโจมตีของผู้ขัดเกลาและจักรพรรดิคนอื่น ๆ ได้!
มันเป็นท่าโจมตีประสานระหว่างจ้าวเอกภพและจักรพรรดิทั้งแปด แต่ถึงอย่างนั้น ถูเมิ่งก็สามารถรับมือกับมันได้อย่างเด็ดเดี่ยว ช่างเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างยิ่ง!
สิ่งนี้ทำให้ท่าทีของเสวี่ยอวิ๋นและหลี่เหวินไท่ที่เป็นกังวลอยู่ทุนเดิมถึงกลับแข็งทื่อ ความตะลึงลานปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา เจ้านี่… ดุดันถึงเพียงนี้เลยหรือ?
กระนั้น เฉินซีก็หาใดรู้สึกพึงพอใจไม่ คิ้วของเขาขมวดด้วยรู้สึกว่าศิษย์หลานของตนควรจะทำได้ดีกว่านี้
ราวกับว่าถูเมิ่งสังเกตเห็นท่าทีไม่พอใจของเฉินซี ท่าทางที่คล้ายจะนึกกระดากอายแวบวับบนใบหน้านั้นครู่หนึ่ง ทันใดนั้น แสงสีเขียวพลันส่องประกายท่วมร่างและแต่งแต้มให้รัศมีอันสง่างามแข็งแกร่งขึ้นยิ่งกว่าที่เคย
ตึง!
เสียงคำรามคร้ามดังก้องพร้อมกับขวานทองคำในมือที่โบกสะบัด เขาเป็นเหมือนมังกรบรรพกาลที่เยื้องกรายไปในอากาศ มากด้วยอานุภาพที่จะสยบแผ่นดินไว้ใต้อุ้งเท้า!
ห้วงมิติอันกว้างใหญ่อัดแน่นไปด้วยพลังของถูเมิ่ง ทันทีที่เขาพุ่งไปข้างหน้า จิตสังหารอันกล้าแกร่งก็เดือดพล่านราวกับกระแสน้ำวน มันโอบรัดพันธนาการคนของตระกูลกงเหย่ไว้ในทันที
ถูเมิ่งสำแดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงออกมาในท้ายที่สุด แน่นอน เขาจะไม่ยอมให้อาจารย์อาต้องรู้สึกผิดหวังเป็นอันขาด!
ตู้ม!
บริเวณโดยรอบถูกปกคลุมไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์อันเจิดจ้า ร่างที่แข็งแกร่งราวภูผาและมากด้วยความสง่างามอันแสนทระนงของถูเมิ่งทำให้ทั่วทั้งห้องโถงพลันตกอยู่ในความวุ่นวาย
“บัดซบ!” ผู้ขัดเกลาคำรามอย่างเกรี้ยวกราดพร้อมกับชักกระบี่เทวะที่เหมือนหยกขาวเนื้อใสออกมา ทันทีที่เขาโคจรพลังจนถึงขีดจำกัด มันก็เปล่งแสงเรืองรองที่ส่องสว่างยิ่งกว่าสิ่งใด
รัศมีสง่างามในตัวถูเมิ่งน่าเกรงขามเกินไป อีกทั้งความแข็งแกร่งยังน่าสะพรึงกลัวเกินกว่าจะจินตนาการได้ ซึ่งนั่นก็ทำให้แผนการของผู้ขัดเกลาถึงขั้นล้มไม่เป็นท่าเลยทีเดียว
ผู้ขัดเกลาตระหนักดี หากว่าเขาต้องการกู้ความได้เปรียบกลับมา เขาจะต้องสยบวิญญาณของถูเมิ่งให้ได้เสียก่อน มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้เขาเปิดช่องว่างให้คนอื่น ๆ จัดการกับเฉินซีได้
ด้วยเหตุนี้ ผู้ขัดเกลาจึงได้สำแดงความแข็งแกร่งออกมาอย่างเต็มกำลัง หมายตั้งใจที่จะทำลายล้างวิญญาณของอีกฝ่ายให้พินาศสิ้น
หึ่ง!
ปราณกระบี่สีขาวที่โปร่งแสงราวหยกเรืองรองไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงกลัวของมหาเต๋า กฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นสายฟ้าในทันทีที่มันพุ่งตรงมายังร่างของถูเมิ่งอย่างรุนแรง
“บ้าเอ๊ย!” ถูเมิ่งคำรามลั่น เสียงของเขาก้องกังวานไปทั่วบริเวณ เด็กหนุ่มกวาดขวานออกไปในแนวนอนเพื่อทำลายปราณกระบี่เบื้องหน้า
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ถูเมิ่งสะบัดข้อมือซ้าย ยันต์เทวะลึกลับและยากหยั่งถึงจำนวนมากทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าและโจมตียังจักรพรรดิทั้งแปดที่กำลังพุ่งเข้ามา
พรวด!
หนึ่งในจักรพรรดิที่อยู่ด้านหน้าถูกยันต์เทวะอัดร่างเข้ากับพื้น ส่งผลให้กระดูกแทบจะหักเป็นเสี่ยง ๆ ฉับพลันนั้น เขากระอักเลือดออกมาเต็มปากในทันใด
แม้ว่าคนอื่น ๆ จะสามารถต้านการโจมตีนี้ได้ แต่สีหน้าของพวกเขากลับไม่สู้ดีนักเมื่อได้เห็นว่าถูเมิ่งนั้นทรงพลังมากเพียงใด
เหตุใดความแข็งแกร่งของไอ้สารเลวนี่จึงได้น่าเกรงขามเช่นนี้?
มีหรือพวกเขาจะมองไม่ออกว่าถูเมิ่งเป็นเพียงจ้าวเอกภพหนึ่งดาราเท่านั้น ไม่ว่าจะมีความสามารถหรือความแข็งแกร่งที่ท้าทายสวรรค์มากเพียงไหน ก็ไม่มีทางรับมือกับพวกเขาเก้าคนพร้อมกันได้อย่างแน่นอน
แต่ถูเมิ่งกลับทำได้!
เหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดเดานี้ทำให้ทุกคนรวมถึงผู้ขัดเกลาตกตะลึงระคนหัวเสีย ในที่สุดพวกเขาก็ตระหนักว่าคู่ต่อสู้ของตนไม่อาจตัดสินจากภายนอกได้เลย
พวกเขาไม่กล้าประมาทอีกต่อไป สมบัติศักดิ์สิทธิ์นานัปการถูกหยิบออกมาเพื่อเป้าหมายเดียวเท่านั้น นั่นคือการสังหารถูเมิ่งให้สิ้นในคราวเดียว
ตู้ม!
ในทันใดนั้น ทั่วทั้งโถงบวงสรวงก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เสาหินพังทลาย แผ่นพื้นแตกระแหง แม้แต่กำแพงก็ทรุดถล่มอย่างกระดาษที่ถูกกระชากฉีก
ท้ายที่สุด ห้องโถงโบราณที่ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนานก็พังทลายลงท่ามกลางแรงระเบิดครั้งใหญ่ หลงเหลือเพียงซากปรักหักพังและเศษธุลีเกลื่อนกลาด
ขณะเดียวกันนั้นเอง เมื่อเฉินซีและคนอื่น ๆ เห็นท่าไม่ดี พวกเขาก็พุ่งตัวออกจากห้องโถงและยืนเฝ้าดูการต่อสู้ในระยะไกล
“ตายซะ!” เสียงตะโกนของถูเมิ่งดังก้องไปทั่วสวรรค์ทั้งเก้า มันเสียดแทงผืนฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยหมอกเยือกแข็ง จิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัวปกคลุมพื้นที่โดยรอบให้หม่นแสงและมีเพียงเสียงครวญคร่ำ
ความเด็ดเดี่ยวอาจหาญของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อการต่อสู้ดำเนินไป ทั่วทั้งเรือนกายผึ่งผายปกคลุมไปด้วยแสงสีทอง เขาในยามนี้ดูเหมือนกับจอมมารที่กำลังแกว่งขวานสีทองด้วยท่วงท่าสง่างาม ให้ความรู้สึกที่ทรงพลังและน่ายำเกรงเกินกว่าที่ใครจะเทียบได้
การโจมตีดังกล่าวทำให้ผู้ขัดเกลาและคนอื่น ๆ มือเป็นพัลวัน พวกเขาไม่อาจฉวยจังหวะหรือหาช่องว่างใด ๆ เพื่อปลีกตัวไปจัดการเฉินซีได้เลย
ในขณะที่การต่อสู้ดำเนินต่อไป อาคารในบริเวณใกล้เคียงก็เริ่มระเบิดและพังทลายลงเป็นเสี่ยง ๆ สภาพแวดล้อมโดยรอบเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย มีเพียงประกายแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องให้ทั่วสารทิศสว่างไสว ในขณะที่ฟ้าดินอันกว้างใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยความพินาศและเถ้าธุลี
เสวี่ยอวิ๋นและหลีเหวินไท่ชะงักตาค้างเมื่อเผชิญกับการต่อสู้ที่น่าตื่นตาระหว่างยอดฝีมือชั้นสูง
“มีอะไรก็พูดมาตรง ๆ เถิด เราเป็นสหายกันมิใช่หรือ? หากมุมมองที่เจ้ามีต่อสหายของตนเปลี่ยนแปลงไปเพียงเพราะสถานะ เจ้าก็หาได้ต่างอันใดคนเจ้ายศเจ้าอย่างที่มัวให้ความสำคัญแต่กับเรื่องพวกนี้” เฉินซีหยอกล้อนางด้วยรอยยิ้มในทันทีที่เขามองเห็นถึงความคิดของนาง ชายหนุ่มตระหนักได้อย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายเริ่มหวั่นเกรงตนขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวด้วยเพราะรู้ว่าเขาเป็นศิษย์ฝ่ายในของเขาเทพพยากรณ์
“ข้าไม่ได้คิดเช่นนั้น เพียงแต่…” เสวี่ยอวิ๋นรีบอธิบายทั้งที่ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรออกไป
เฉินซีตบไหล่ปลอบใจ “เจ้าคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้ ดังนั้นหากเจ้ายังปฏิบัติต่อข้าห่างเหินเช่นนี้ ข้าเองก็ละอายใจเกินกว่าจะอยู่ที่นี่ต่อไป”
เสียงของเขาอบอุ่นราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ หัวใจของหญิงสาวรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเผชิญกับท่าทางที่ดูจริงจังของเฉินซี มันทำให้นางรู้สึกผ่อนคลายลงอย่างมาก
เสวี่ยอวิ๋นกะพริบตาถี่ “ใช่แล้ว เจ้าเป็นสหายของข้า ไม่มีสิ่งใดจะแย่งเจ้าไปจากข้าได้!”
เฉินซีหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพยักหน้า
“ว่าแต่สหายเต๋าผู้นี้เป็นใครอย่างนั้นหรือ? เขาช่างน่ากลัวจริง ๆ” เสวี่ยอวิ๋นเบือนสายตาไปยังสมรภูมิ นางอดไม่ได้ที่จะอุทานด้วยความชื่นชมขณะที่มองถูเมิ่งผู้ซึ่งเปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญ
เมื่อนางอยู่เคียงข้างเฉินซี จิตใจของนางก็พลันกลับสู่ความสงบ มันไม่ได้เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ความเจ็บปวด ความโกรธเกรี้ยว และความคับข้องใจอย่างที่เคยเป็นมา
“เขาคือถูเมิ่ง ศิษย์รุ่นที่สามของเขาเทพพยากรณ์ซึ่งเก่งกาจที่สุดในรุ่น” เฉินซีแนะนำอย่างไม่เป็นทางการ “จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่ว่าถูเมิ่งแข็งแกร่งอะไรหรอก แต่เป็นเพราะคนตระกูลกงเหย่พวกนั้นธรรมดาเกินไปต่างหาก”
เมื่อเขาเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเสวี่ยอวิ๋น ชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะอธิบายให้นางฟังในทันที
“ดูสิ แม้ว่าถูเมิ่งจะเป็นจ้าวเอกภพหนึ่งดาราแต่ก็ได้ขัดเกลาและดูดซับแก่นแท้เอกภพ ในขณะที่จ้าวเอกภพสองดาราแห่งตระกูลกงเหย่นั้น แม้จะมีระดับการบ่มเพาะที่เหนือกว่าในระดับหนึ่ง แต่จำนวนแก่นแท้เอกภพที่เขาได้ขัดเกลานับว่าน้อยกว่าจ้าวเอกภพคนอื่น ๆ มากอย่างเห็นได้ชัด เรียกว่าเขาเทียบกับถูเมิ่งไม่ได้เลย…”
“สำหรับจักรพรรดิทั้งแปดนั้น หากพวกเขาไม่มีจ้าวเอกภพสองดาราอยู่ข้าง ๆ ก็คงจะถูกถูเมิ่งสังหารไปนานแล้ว ไม่ควรค่าที่จะกล่าวถึงเลยด้วยซ้ำ”
“และใช่ เจ้าอาจจะยังไม่รู้เรื่องนี้ ถูเมิ่งนั้นอยู่ในสามสิบอันดับแรกของการถกวิถีเต๋าที่จัดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน พรสวรรค์และความสามารถของเขาถือว่าไม่ธรรมดาเมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ ในแดนเทพโบราณ ดังนั้น บัดนี้เมื่อเขาเป็นจ้าวเอกภพแล้ว มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้เยี่ยมยุทธ์ธรรมดา ๆ จะเทียบเคียงเขาได้…”
“ดูทักษะการต่อสู้ของพวกเขาสิ…”
เฉินซีให้ความสนใจกับการต่อสู้พร้อมวิเคราะห์ความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายให้เสวี่ยอวิ๋นเข้าใจ น้ำเสียงของเขาสงบราบเรียบ หากเปี่ยมด้วยเสน่ห์ที่ดึงดูดความสนใจของเสวี่ยอวิ๋นยิ่งนัก
หากอาศัยเพียงระดับการบ่มเพาะในขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลของนาง แน่นอนว่านางคงไม่อาจสัมผัสถึงความลับที่ซ่อนอยู่ภายใต้การต่อสู้ได้อย่างเต็มที่ ในทางกลับกัน คำอธิบายของเฉินซีก็เหมือนกับการเปิดประตูสู่โลกใหม่ มันทำให้นางตื่นตาตื่นใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
บัดนี้ แม้แต่สมาธิของหลีเหวินไท่ก็หนีไปอยู่ที่บทสนทนาของเฉินซีจนหมดสิ้น เขาเอาแต่เงี่ยหูฟังอยู่เช่นนั้นราวกับเฝ้าคอยเวลาที่จะรู้แจ้ง
หลีเหวินไท่ไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน!
ดังคำกล่าวที่ว่าฟังคำของนักปราชญ์มีค่ากว่าอ่านตำรานับสิบปี แม้ว่าเฉินซีจะเพียงวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ทั้งสองฝ่าย แต่ปัญญาและการบ่มเพาะที่เขามีอยู่ก็ทำให้การชี้แนะนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ใคร ๆ ก็ถ่ายทอดได้
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นความรู้ที่หาได้ยากยิ่งสำหรับหลีเหวินไท่ และมันจะยังประโยชน์อย่างล้นหลามแก่การบ่มเพาะของเขาในอนาคตอย่างแน่นอน
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...