เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1990

บทที่ 1990 ศึกสะท้านฟ้า

………………..

บทที่ 1990 ศึกสะท้านฟ้า

เฉินซีประจันหน้าเข้ากับชายท่าทางเรียบร้อยและจ้าวเอกภพคนอื่น ๆ ด้วยตัวคนเดียวใต้ท้องฟ้ายามราตรี กลิ่นอายดุดันดั่งหุบเหวลึก เผยแววความองอาจคล้ายว่าสามารถต่อต้านได้ทั้งกองกำลัง

ตอนนี้พอเห็นกลิ่นอายดุดันของจ้าวเอกภพสามดาราของเฉินซีแล้ว หลาย ๆ คนก็ตกใจไม่อยากเชื่อสายตา

ในชั่วระยะเวลาไม่กี่ร้อยปี เฉินซีพัฒนาจากขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลไปเป็นจ้าวเอกภพสามดาราได้ ความเร็วเช่นนี้นับว่าเป็นที่น่าตื่นตะลึงยิ่ง!

“ไม่แปลกใจเลยที่เขามีท่าทีมั่นใจเช่นนั้น สรุปว่าก็มีพลังน่าเกรงขามถึงขั้นนี้แล้วนี่เอง….” เสวี่ยฉางคงพึมพำด้วยสีหน้าซับซ้อน มันผสมไปด้วยความตื่นตะลึงแต่ก็มีความตื่นเต้นที่มากกว่า

เหมือนกับพบแสงแห่งความหวังท่ามกลางความมืดมิด ทำให้อารมณ์หมองหม่นคลายลงมาก

“นี่น่ะหรือศิษย์เขาเทพพยากรณ์ เป็นคนที่ลึกล้ำเกินหยั่งเสียจริง” ผู้อาวุโสใหญ่เสวี่ยเวิ่นชิงถอนหายใจ

จ้าวเอกภพสามดารา!

พลังบ่มเพาะสะท้านฟ้าเช่นนี้นับว่าหาได้ยากในแดนเทพโบราณทีเดียว!

สีหน้าชายท่าทางเรียบร้อยและคนอื่น ๆ พลันเคร่งขรึม ด้วยกลิ่นอายของเฉินซีนั้นแกร่งเกินที่พวกเขาคาดการณ์ไว้เช่นกัน

โชคดีที่ครั้งนี้พวกเขาเตรียมการมาพร้อม ส่งสิบสองจ้าวเอกภพออกมา ทั้งยังมีจ้าวเอกภพสามดาราอยู่อีกหลายคนด้วย

นอกจากเรื่องนี้จะทำให้ชายท่าทางเรียบร้อยรู้สึกผ่อนความกังวลได้มากขึ้นแล้ว ยังยิ่งมีความมุ่งมั่นที่จะกำจัดเฉินซีให้ได้ เจ้าเด็กนี่พัฒนาเร็วเกินไป หากปล่อยไว้ไม่รู้ว่าต่อไปจะแกร่งไปถึงไหน!?

“ทุกคน หากเมื่อหลายปีก่อนคนในตระกูลเราไม่ถูกเจ้าเด็กนี่สังหารไปในซากโบราณสถานรกร้างหมานกู่ พวกเขาก็คง… ประสบความสำเร็จมากมายเช่นนี้เหมือนกันใช่หรือไม่?” ชายท่าทางเรียบร้อยเอ่ยเสียงทุ้มที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังออกมา ด้วยนึกถึงกงเหย่เจ๋อฟูที่ต้องตายด้วยน้ำมือเฉินซีไป

แค่เพียงไม่กี่คำกลับสามารถจุดประกายความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในใจของคนอื่นได้แล้ว

ใช่แล้ว หากทุกคนไม่ตายไปเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้พวกเขาก็คงประสบความสำเร็จได้ไม่น้อยหน้ากว่าเด็กนี่แล้วไม่ใช่หรือ?

พริบตานั้น ฟ้าดินก็เต็มไปด้วยจิตสังหารกำจายแน่น ทุกสายตาตวัดมองเฉินซีด้วยความเย็นชา คล้ายว่าอยากเด็ดหัวเขาเสียตรงนี้

“ตาแก่ทั้งหลาย ถ้ายังพล่ามต่อก็อย่าหาว่าข้าไม่ให้โอกาส” เฉินซีส่ายหน้าปรากฏรอยยิ้มเย้ยหยัน ตาแก่พวกนี้ยิ่งแก่ยิ่งเบาปัญญา กล้าเทียบข้ากับลั่วฉ่าวหนงและคนอื่น ๆ นั้นหรือ? น่าขัน!

“ไอ้เวรตะไล! ตายเสียเถอะ!” ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงตะโกนลั่นดังขึ้น ชายชราชุดทองก้าวออกมาพร้อมกับกระบี่สีโลหิตในมือที่ฟาดฟันใส่เฉินซี

ครืน!

กระแสปราณกระบี่สีโลหิตซัดลงมาใส่เฉินซี คล้ายจะแยกแผ่นฟ้าออกจากกัน พร้อมกับเปลวลาวาโหมเข้ามาอย่างรุนแรง

ทันใดนั้น ฟ้าดินในรัศมีล้านลี้ก็ถูกทำลาย มันกรีดร้องเสียงลั่น ระเบิดออกมาไม่หยุด เกิดรอยแยกมิติจำนวนมากกระจายตัวออกเป็นทางยาว

นี่คือพลังของจ้าวเอกภพ ยิ่งเป็นชายชราชุดทองนามลั่วเชียนฉื่อผู้นี้ เขาเป็นจ้าวเอกภพสามดาราผู้เลื่องชื่อเมื่อหลายปีก่อน เป็นตัวตนไม่ธรรมดากระทั่งในเอกภพจักรวรรดิ ถือว่าชื่อเสียงดังไกลมากทีเดียว

ตอนนี้เขาซัดการโจมตีออกมาด้วยความโกรธ แค่กระบวนท่าเดียวก็เผยอำนาจดุดันที่มีออกมาแล้ว

สีหน้าคนตระกูลเสวี่ยเปลี่ยนผัน เหมือนกับเห็นโลกกำลังถล่ม ทั่วร่างแข็งค้าง ไม่รู้ว่าตนเองจะสามารถเอาชีวิตรอดวันนี้ไปได้หรือไม่!

มันน่ากลัวเกินไปแล้ว

การโจมตีของจ้าวเอกภพนั้นมีอานุภาพมากพอจะทำลายดาราจักรได้ทั้งดวง ถึงขนาดบดขยี้ตะวันและจันทราได้ หากใครถูกพลังเช่นนั้นเข้า ก็เห็นได้ชัดว่าจะต้องตกอยู่ในสภาพเช่นไร

ในจังหวะเดียวกันนั้นเอง เฉินซีก็ลงมือเช่นกัน ยันต์ศัสตราส่งเสียงร้องออกมาลั่นทั่วสวรรค์ชั้นฟ้า ปราณกระบี่ลึกล้ำสว่างใสพุ่งเข้าปะทะแรงโจมตีของลั่วเชียนฉื่อทันใด

ฟ้าดินระเบิดออก ห้วงอากาศถูกทำลายจนเหลือเพียงฝุ่นผง ทั่วทั้งพื้นที่ของตระกูลเสวี่ยตกอยู่ในสภาพเวิ้งว้างไม่มีชิ้นดี

โชคดีที่ถูเมิ่งสังเกตเห็นสถานการณ์ก่อนการปะทะกัน ดังนั้นจึงใช้กำลังทั้งหมดพาคนตระกูลเสวี่ยทั้งหลายกระโจนออกมาให้ห่างการโจมตี

ไม่เช่นนั้นหากโดนแรงปะทะที่ดีดตัวออกมาเข้า คงได้เสียคนตระกูลเสวี่ยไปกว่าครึ่ง

ตู้ม!

ร่างลั่วเชียนฉื่อสะท้านอยู่กลางอากาศ จากนั้นก็ถอยซวนเซไปด้านหลัง เป็นฝ่ายถูกเฉินซีกดดันในการปะทะครั้งนี้!

ทำให้สีหน้าเขายิ่งดูน่ากลัว ในใจตกตะลึงยิ่งกว่าเก่า ไอ้เด็กบัดซบนี่แกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?

ตึง! ตึง! ตึง!

ตอนนี้เฉินซีฝ่ามิติย่างเท้าเข้ามาแล้ว ทุกพื้นผิวบนร่างปลดปล่อยปราณกระบี่ออกมา คล้ายกับตัวเขาคือท้องมหาสมุทรแห่งกระบี่ไปแล้ว กระแสศักดิ์สิทธิ์สีทองเหลือบม่วงกระจายทั่วฟ้าดิน เป็นภาพที่น่าขวัญผวาเป็นอย่างยิ่ง

“ฆ่ามัน!” ลั่วเชียนฉื่อโจมตีอีกครั้ง กระบี่โลหิตในมือแปรเปลี่ยนเป็นปราณกระบี่เพลิง ดีดออกไปอย่างเต็มกำลัง

ชายท่าทางเรียบร้อยและจ้าวเอกภพคนอื่นเองก็ไร้ลังเล ร่างกะพริบคราวหนึ่งแล้วก็ไปยืนประจำทิศต่าง ๆ ทั่วบริเวณ คอยหาข้อผิดพลาดของเฉินซี หมายฉวยจังหวะนั้นสังหารในกระบวนท่าเดียว

เท่าที่พวกเขารู้ ลั่วเชียนฉื่อเป็นจ้าวเอกภพสามดารา รับมือกับเฉินซีที่เพิ่มขึ้นขอบเขตเดียวกันได้ไม่ยากอยู่แล้ว ทั้งพลังของลั่วเชียนฉื่อก็แกร่งพอจะเอาชนะเฉินซีได้

ส่วนคนตระกูลเสวี่ยก็อ้าปากค้าง เหมือนอึ้งจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปแล้ว

เดิมทีพวกเขากลัวว่าเฉินซีจะสู้ลั่วเชียนฉื่อไม่ได้ ไม่คิดเลยว่าความสามารถในการต่อสู้ของเฉินซีจะสะท้านฟ้าเช่นนี้!

วิ้ง!

น้ำเต้าสีม่วงพลันพุ่งขึ้นฟ้า ปลดปล่อยกระแสโกลาหลออกมา ขัดการโจมตีเอาไว้ ช่วยลั่วเชียนฉื่อรับมือกับอันตรายตรงหน้าไว้ได้

เป็นชายท่าทางเรียบร้อยและคนอื่น ๆ ที่ลงมือช่วยเหลือ หลังจากเห็นเหตุการณ์เช่นนั้นแล้ว ใครจะกล้าดูต่อได้? ย่อมหยิบสมบัติออกมาโจมตีจากรอบทิศทันที

ลมแรงโหมทั่วทุกทิศทั้งฟ้าดิน ลมพายุคำรามลั่น เสียงลั่นครืนของอสนีบาตดังกระหึ่ม ห้วงมิติถล่มทลาย พื้นที่ทั้งหลายเต็มไปด้วยปรากฏการณ์น่าหวาดกลัวอยู่ชั่วขณะหนึ่ง

เมื่อพวกจ้าวเอกภพเริ่มลงมือโจมตี ก็ปลดปล่อยห้วงพลังน่าเกรงขามกระจายออกรอบทิศ คล้ายว่ากำลังจะถึงวันโลกาวินาศอย่างไรก็อย่างนั้น

ทั่วทั้งดาราจักรที่ตระกูลเสวี่ยตั้งอยู่เริ่มสั่นสะท้านอย่างรุนแรง สิ่งมีชีวิตทั้งหลายพากันสั่นกลัวและหนีตายกันจ้าละหวั่น ทั่วทั้งดวงดาวถูกปกคลุมด้วยความโกลาหล

ถูเมิ่งมีสีหน้าเคร่งขรึม เขาเป็นกังวลอยู่บ้าง อย่างไรเขาก็ยังห่วงความปลอดภัยของเฉินซี เพราะอีกฝ่ายต้องรับมือกับการโจมตีของสิบสองจ้าวเอกภพเช่นนั้น

คนตระกูลเสวี่ยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จิตใจวุ่นวายสับสน สายตามองภาพการต่อสู้ไม่ชัดเจนด้วยซ้ำ ได้แต่หวังในใจว่าเฉินซีจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้

แต่ทุกคนก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง เพราะถึงแม้ว่าเฉินซีจะรับมือคนเดียว แต่กลับสามารถต่อสู้ได้อย่างทัดเทียม!

ทำให้ผู้ชมรอบข้างอ้าปากค้างด้วยความไม่อยากเชื่อ นั่นมันสิบสองจ้าวเอกภพจากกองกำลังใหญ่แห่งเอกภพจักรวรรดิเชียวนะ แต่กลับไม่อาจทำอะไรเฉินซีที่อยู่ตัวคนเดียวได้เลยหรือ? นี่มันน่าตกใจกันไปแล้ว เฉินซีใช้เวลาหลายร้อยปีขึ้นเป็นจ้าวเอกภพสามดาราได้อย่างรวดเร็ว แค่เท่านี้ก็น่าตกใจมากพอแล้ว แต่ตอนนี้กลับสามารถเข้าปะทะกับสิบสองจ้าวเอกภพได้อย่างสูสี แกร่งสะท้านฟ้าหาใครเทียบ!

ทั่วทั้งแดนเทพโบราณจะมีใครทำได้อย่างเฉินซีบ้าง? คงจะหาไม่ได้อีกแล้วกระมัง!

โดยเฉพาะชายท่าทางเรียบร้อยและคนอื่น ๆ ตอนนี้พวกเขาทั้งตกใจทั้งโกรธเกรี้ยวทีเดียว

พวกเขารู้แล้วว่าเฉินซีที่สามารถเอาชนะลั่วเชียนฉื่อไปได้ในสามกระบวนท่านั่นแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่คิดว่าจะสามารถต่อสู้กับพวกเขาทั้งสิบสองคนได้พร้อมกันเช่นนี้ เห็นแบบนี้แล้วจะไม่ตกใจได้อย่างไร?

ทั้งพวกเขายังรู้สึกรับไม่ได้อยู่บ้าง ไอ้บัดซบนี่ต้องบ่มเพาะพลังเก่งกาจแค่ไหนถึงได้มีพลังต่อสู้สะท้านฟ้าเช่นนี้?

“ฆ่ามัน! ใส่เต็มกำลังแล้วฆ่าไอ้บัดซบนี้ให้ได้! ไม่เช่นนั้นวันนี้พวกเราคงได้เจอภัยครั้งใหญ่แน่!” ชายท่าทางเรียบร้อยตะโกนลั่น บอกถึงสถานการณ์ส่วนตัว

“ฆ่ามัน!” ซึ่งก็ไม่ต้องให้ใครมาเตือน จ้าวเอกภพคนอื่นเองก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน พวกเขาเผยแววตาโหดเหี้ยมแล้วโจมตีเต็มกำลังทันที

ทำให้การต่อสู้ยิ่งดุเดือดเลือดพล่านยิ่งขึ้นกว่าเก่า!

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]