เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 2

บทส่งท้าย 2.3 จักรพรรดิมด

………………..

บทส่งท้าย 2.3 จักรพรรดิมด

ตอนนั้นเอง พฤกษาขจีก็ตกสู่อันตรายในทันทีที่เผชิญกับการโจมตีของหยาจื้อ กิ่งก้านสาขาของมันระเบิดเป็นส่วน ๆ เห็นได้ชัดว่ามันด้อยกว่าหยาจื้อมาก

“บรรพชนหยาจื้อ เราทั้งคู่เกิดมาจากภายในความโกลาหล ทั้งยังไม่เคยมีความขัดแย้งต่อกันมาก่อน เหตุไฉนเจ้าถึงทำกับข้าเยี่ยงนี้” ต้นไม้ต้นนั้นเค้นเสียงต่ำ

“สิ่งนี้คือโชคชะตา ข้าตั้งใจที่จะสร้างกระบี่ชั้นสูงเพื่อสืบต่อในเผ่าหยาจื้อของข้า น่าเสียดายที่ข้าไม่เคยประสบความสำเร็จเลย เพราะการหลอมกระบี่นั้นต้องใช้วิญญาณโกลาหล” บรรพชนหยาจื้อพูดอย่างไม่แยแส “ดังนั้นข้ามาที่นี่ก็เพื่อที่จะขัดเกลาวิญญาณของเจ้าและหลอมมันให้เป็นกระบี่”

“ที่เจ้าอยากจะฆ่าข้าก็เพียงเพื่อเอาข้าไปหลอมเป็นกระบี่อย่างนั้นรึ?” พฤกษาขจีโกรธจัด

“ไม่ใช่แค่นั้น มันยังเป็นสิ่งตกทอดของข้าด้วย เผ่าหยาจื้อของข้ากระหายการต่อสู้เป็นบ้าเป็นหลัง พวกเรารักกระบี่เหมือนกับชีวิตของเราเอง มีเพียงการทิ้งกระบี่ไว้เป็นมรดกเท่านั้นที่จะทำให้เผ่าหยาจื้อของข้าสามารถคงอยู่อย่างรุ่งโรจน์ได้ชั่วนิรันดร์”

บรรพชนหยาจื้อตะโกนลั่นพร้อมกับกวาดกำปั้นออกไปด้านหน้า

แกร๊ก!

เขาหักกิ่งก้านของพฤกษาขจีให้แหลกเป็นผุยผง

ทันใดนั้น พฤกษาขจีสั่นสะท้าน รัศมีของมันอ่อนแอและสับสนเกินกว่าจะอดทนต่อไปได้

“น่าขัน! ก็เพียงกระบี่เล่มหนึ่งเท่านั้น! มีหรือที่จะทำให้เผ่าหยาจื้อของเจ้าสถิตสถาพรได้? ช่างไร้สาระเสียจริง!” พฤกษาขจีส่งเสียงแหว “มานี่! ชีวิตของข้าอยู่ที่นี่ หากเจ้าเก่งนักก็มาเอามันไปได้เลย!”

ฟึ่บ!

ร่มเงาสาขาแสนวาววับทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับโซ่ศักดิ์สิทธิ์บัญชา พวกมันปกคลุมไปด้วยรัศมีลึกล้ำ คลุมเครือของเต๋าขณะที่ฟาดฟันยังร่างของบรรพชนหยาจื้อด้วยความรุนแรง

“ได้! ข้าจะสนองให้เจ้าเดี๋ยวนี้!”

ชิ้ง!

บรรพชนหยาจื้อยื่นมืออกไป จากนั้นกระบี่เทวะที่เปล่งประกายด้วยแสงสีทองก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า มันเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่เจิดจ้าซึ่งส่องสว่างไปทั่วโลก!

การต่อสู้อันดุเดือดดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ มันทำให้พื้นที่กว่าสองหมื่นลี้ต้องเต็มไปด้วยความโกลาหล ผืนฟ้าพลันถล่มทลาย พื้นดินถึงคราวทรุดวินาศ ดวงดาราหมุนคว้างร่วงหล่น แม้แต่มหาเต๋ายังพังทลาย ทุกสรรพสิ่งถูกแปรสภาพเป็นเศษซากไหม้เกรียม

นี่เขากำลังจะตีกระบี่อย่างนั้นหรือ!?

สหายผู้นั้นต้องการฆ่าเงาทมิฬเพียงเพื่อหลอมกระบี่เนี่ยนะ? ให้ตายเถอะ! เจ้ามดน้อยที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดถึงกับโกรธขึ้งขนาดที่ตาของมันกลายเป็นสีแดง

ทันใดนั้น มันกระโดดคว้างไปบนอากาศอย่างกล้าหาญ!

ใช่แล้ว มันกำลังบินอยู่บนอากาศ!

ในขณะที่ชีวิตของมันมาถึงจุดสิ้นสุด มันก็ได้พบกับเงาทมิฬ พวกมันแลกเปลี่ยนเรื่องราวของกันและกันเหมือนเป็นสหาย

เงาทมิฬไม่ได้ดูถูกมันที่เป็นเพียงมดตัวเล็กต่ำต้อย ทั้งยังให้กำลังใจและปลอบโยนมันอีกด้วย

มิตรภาพนี้ มดตัวน้อยไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน

นับตั้งแต่มันออกจากรัง มันก็ใช้ชีวิตท่ามกลางเสียงเย้ยหยันมาโดยตลอด ภายใต้เส้นทางที่มีเพียงคำเหยียบย่ำซ้ำเติม มีแค่มันที่เดินไปข้างหน้าอย่างเดียวดาย

มันไม่มีแม้แต่สหายเพียงผู้เดียว

แม้ว่าหัวใจนี้จะเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและพ่ายแพ้ แต่มันก็ฝืนกล้ำกลืนมาได้เสมอ

มดตัวน้อยคิดว่านี่คงจะเป็นชะตากรรมของมัน ทว่าเมื่อได้พบกับเงาทมิฬ มันก็ได้เรียนรู้ว่าแม้แต่มดก็สามารถมีมิตรภาพที่แท้จริงได้!

สำหรับมัน หากต้องตายในตอนนี้ก็ไม่เสียใจเลย!

อย่างไรก็ตาม ชีวิตเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้อยู่เสมอ มันไม่เพียงแค่มีชีวิตอยู่ แต่ยังเริ่มพยายามทำความเข้าใจในมหาเต๋าหลังได้รับคำแนะนำจากเงาทมิฬ

เวลานับร้อยปีผ่านไปเพียงชั่วพริบตา

ในที่สุดมันเห็นอักขระเต๋า รับรู้ถึงรัศมีแห่งเต๋า และพบเส้นทางแห่งการบ่มเพาะของตัวเอง

อย่างไรก็ตาม สวรรค์มักเล่นกลอยู่เสมอ ช่วงเวลาที่มันเข้าใจเต๋าและตื่นขึ้นมานั้น ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ชีวิตของเงาทมิฬถูกคุกคาม!

จะไม่ให้เจ้ามดน้อยโกรธเคืองได้อย่างไร?

ฟิ่ว!

มันทะยานขึ้นไปในอากาศในพร้อมกับกวาดหนวดบนหัวไปรอบ ๆ

ผ่าง!

ลำแสงสีเขียวภายใต้หมอกหนาลอยออกมาจากหนวดเหล่านั้น มันแผ่ไพศาลออกไปอย่างใบมีดคม

เห็นได้ชัดว่าแม้มันจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต่ำต้อย แต่ในทันทีที่มันเริ่มโจมตี ท่าทางที่ทรงพลังและองอาจซึ่งยากจะพรรณนาก็พลันสำแดงออกมา

“เอ๊ะ!” บรรพชนหยาจื้อกวาดกรงเล็บอย่างสะเปะสะปะก่อนจะบดขยี้การโจมตีนั้นจนกลายเป็นผุยผง กระนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นว่าจริง ๆ แล้วการโจมตีเมื่อครู่นี้มาจากมดตัวเล็กตัวหนึ่ง

มันยากมากที่จะจินตนาการว่ามดธรรมดาที่ต่ำต้อยและตัวเล็กจ้อยจะสามารถโจมตีเช่นนี้ได้

แม้แต่มดก็บ่มเพาะได้หรือ? สำหรับบรรพชนหยาจื้อ นี่มันออกจะเหลือเชื่อเกินไป

ฟึ่บ!

ทันใดนั้น ก่อนที่บรรพชนหยาจื้อจะหายตกใจ เจ้ามดน้อยก็โจมตีอีกครั้ง แสงสีเขียวสลัวเปล่งรัศมีพลุ่งพล่าน

เงาทมิฬอดนึกยินดีกับเหตุการณ์ตรงหน้าขึ้นมาไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เงาทมิฬจะได้มีความสุขอย่างเต็มที่ มันก็ว่าเห็นการโจมตีของเจ้ามดน้อยถูกบรรพชนหยาจื้อทำลายลงในทันที ร่างน้อย ๆ นั่นถูกบีบไว้ที่ปลายนิ้ว

“มันเป็นมดธรรมดาจริง ๆ ด้วย ทว่าตอนนี้กลับสามารถบ่มเพาะได้ ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ เลย น่าเสียดาย ในเมื่อเจ้าเลือกที่จะเป็นศัตรูของข้า ก็มีเพียงความตายรออยู่เท่านั้น!” บรรพชนหยาจื้อเหลือบมองมดตัวน้อย ดวงตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความเฉยเมย

“ไม่!!!” เสียงคำรามกราดเกรี้ยวของเงาทมิฬดังก้องไปทั่วท้องฟ้า มันพุ่งร่างเข้าใส่อีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่ง

โครม!

กระนั้นการโจมตีของเงาทมิฬนั้นช้าเกินไป ร่างของมดตัวน้อยแหลกสลายเป็นชิ้นเสี่ยง ในทันทีที่ปลายนิ้วของบรรพชนหยาจื้อ สะบัดเบา ๆ ฉับพลัน ร่างที่ป่นปี้ของมดตัวจ้อยก็กระเด็นขึ้นไปบนอากาศ

ซ่า!

หยาดแสงสีเขียวโปรยปรายดุจห่าฝน พัดพาร่างของมดตัวน้อยกลับมาสู่กิ่งก้านเขียวขจี

อย่างไรก็ดี เมื่อเห็นว่าพลังชีวิตของมดตัวน้อยหมดสิ้นไป ไม่อาจฟื้นคืนชีพได้ เงาทมิฬก็รู้สึกเศร้าระคนโกรธจัดในทันที

“อ๊าก!!!” เงาทมิฬคำรามอย่างเกรี้ยวกราด ความโศกเศร้าล้นทะลักจนท่วมอก เลือดที่ไหลออกมาจากร่างกายของมันเป็นดังน้ำตาชุ่มโลหิต

“ก็แค่มดไร้ค่าตัวหนึ่ง เจ้ากลับมองมันอย่างสหายคนสำคัญไปเสียได้ ช่างน่าขันเสียจริง” บรรพชนหยาจื้อเอ่ยอย่างดูแคลน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเฉยเมย

“ข้าจะฆ่าเจ้า!” เงาทมิฬคำรามเสียงดัง มันโบกกิ่งก้านเขียวขจีทั่วร่างกายให้สะท้านครืน บัดนี้ มันโจมตีอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังราวกับคนเสียสติ

“ฆ่าข้า? เจ้านี่ช่างอ่อนไหวง่ายเหลือเกิน! ข้าจะขัดเกลาเจ้าให้เป็นวิญญาณกระบี่ของข้าเสียตั้งแต่บัดนี้เลย!” บรรพชนหยาจื้อกวัดแกว่งกระบี่เทวะ เหวี่ยงมันไปข้างหน้าด้วยพลังกล้าแกร่ง ทะลุผ่านชั้นของอากาศและฟาดฟันลงยังร่างของเงาทมิฬ

ตึง!

กิ่งก้านเขียวขจีถูกทำลาย เห็นที เงาทมิฬคงไม่อาจต้านทานการโจมตีที่น่ากลัวเช่นนี้ได้

ไม่นาน มันก็คงจะมีชะตากรรมไม่ต่างเจ้ามดน้อยนั่น

อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้น เส้นแสงสีเขียวหนึ่งพลันปะทุไปบนท้องฟ้า มันขัดขวางการโจมตีทีทรงพลังของบรรพชนหยาจื้อในทันที

ตู้ม!

เสียงปะทะที่น่าสะพรึงกลัวดังสะเทือนฟ้า

การโจมตีของบรรพชนหยาจื้อถูกทำลายลงในพริบตา

ตอนนี้เอง แม้แต่เงาทมิฬก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง ความมึนงงกลืนกินในห้วงคิดในทันทีที่เห็นว่าผู้ที่ขัดขวางการโจมตีนี้กลับเป็นมดตัวน้อยที่เพิ่งจะตายไปเมื่อครู่

“หืม?” สีหน้าของบรรพหยาจื้อเปลี่ยนไป เขาจำได้ว่าตนได้ทำลายพลังชีวิตของมดตัวน้อยไปแล้ว แล้วเหตุใดมันจึงกลับมามีชีวิตได้อีก?

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]