บทที่ 2010 พี่น้องเชือดเฉือน
………………..
บทที่ 2010 พี่น้องเชือดเฉือน
ด้านในโถงถามหทัยดูปกติธรรมดา ทว่าแท้จริงมีมิติขนาดเล็กมากมายถูกสร้างขึ้นที่นี่โดยหนึ่งสุดยอดวิชา
มิติขนาดเล็กทุกแห่งเป็นเช่นโลกใบน้อยอันแยกตัวจากโลกภายนอก ยามอยู่ภายในนั้น มิอาจสังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในโลกภายนอกได้
ในมิติขนาดเล็กแห่งหนึ่ง
แกร๊ง! แกร๊ง!
สายลมพัดพา หิมะพร่างโปรยทั่วทิศ ขณะเสียงฉินแผ่วเบาแว่วมา
จั่วชิวเสวี่ยนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่อันเก่าแก่ ฉินวางอยู่ตรงหน้านาง หัตถ์ขาวดีดสายฉินแผ่วเบา รักษาภาพลักษณ์สงบเสงี่ยมสำรวม เคลื่อนไหวลื่นไหลเช่นสายน้ำริน
เฉินหลิงจวินนั่งบนพื้นข้างกายนาง ฟังเพลงฉินพลางทอดสายตาเหม่อมองนางเงียบ ๆ
หิมะโปรยปลิวบนอากาศ คู่สามีภรรยาเพลิดเพลินกับเพลงฉินใต้ต้นไม้โบราณ ทำนองอันเพราะพริ้งให้ความรู้สึกห่างเหินจากโลกหล้าม้วนตัวสู่เวหา กังวานทั่วทิศ
แต่ไม่นานนัก บรรยากาศนี้ก็ถูกทำลายลงด้วยเสียงปรบมือ
“ฟังเสียงฉินกลางหิมะ ช่างลอยชายไร้จำกัดจริง ๆ! พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ รสนิยมช่างละเมียดละไมจริง ๆ!” ร่างหนึ่งเดินย่ำหิมะมาไกล ๆ พลางปรบมือชื่นชม ปรากฏว่าเขาก็คือเฉินหลิงคง
แกร๊ง!
จั่วชิวเสวี่ยวางมือลงบนสายฉิน เสียงเพลงเงียบหายไปทันที
เฉินหลิงคงผู้เหม่อมองนางส่ายหัวด้วยสีหน้าจนใจ กล่าวกับนางว่า “ข้าไม่มีอารมณ์สุนทรีย์แล้ว ไว้เล่นใหม่วันหลังนะ”
จั่วชิวเสวี่ยพยักหน้า “ก็ได้”
นับแต่ต้นจนบัดนี้ ทั้งสองหาสนใจเฉินหลิงคงไม่
แต่เฉินหลิงคงก็มิได้ใส่ใจ เขาทำเพียงเดินมายังต้นไม้โบราณ นั่งตรงหน้าเฉินหลิงคง แล้วจึงกล่าวว่า “ขออภัยที่มารบกวนทั้งคู่ด้วย”
เฉินหลิงคงมองเขาอย่างเฉยชา “หากรู้สึกผิด เจ้าก็ไม่ควรมาให้เราขุ่นเคืองใจ”
เฉินหลิงคงหัวเราะร่า “ดูเหมือนพี่ใหญ่จะยังรู้สึกไม่ดีต่อข้า”
แล้วเขาก็ถอนหายใจ “น่าเสียดายที่ครั้งนี้ ข้าไร้ทางเลือกนอกจากต้องมา”
“โอ้?” จั่วชิวเสวี่ยและเฉินหลิงจวินสบตากัน เหมือนกำลังครุ่นคิดอย่างลึกล้ำ
บรรยากาศเงียบลงเล็กน้อย มีเพียงหิมะหวีดหวิวตามลมเย็นเยือกทั่วนภา
เฉินหลิงคงทำลายความเงียบขึ้นก่อน “พี่ใหญ่พูดถูก มีผู้คิดจะมาช่วยพวกเจ้าทั้งสองจากตระกูลเราจริง ๆ”
ได้ยินเช่นนี้ จั่วชิวเสวี่ยและเฉินหลิงจวินก็อดมองหน้ากันมิได้ หัวใจของพวกเขาปรากฏแสงสว่างขึ้นวาบหนึ่ง
เพียงภาพนี้ลำพังก็แสดงให้เห็นชัดเจน ว่าทั้งสองไร้ความจำเป็นต้องเสวนา ก็สามารถเข้าใจความคิดกันและกันได้
แต่พวกเขาก็ยังไม่พูดสิ่งใดแม้เพียงคำ
เฉินหลิงคงเห็นแล้วก็อดขมวดคิ้วมิได้ เพียงครู่ต่อมา จู่ ๆ เขาก็เริ่มหัวเราะร่วน “ข้ารู้ว่าการขังพวกเจ้าทั้งสองไว้ที่นี่ มิเพียงทำให้พวกเจ้าเกลียดข้าเข้ากระดูก แต่ไม่คิดกันบ้างหรือว่าเหตุใดข้าจึงขังพวกเจ้าไว้?”
“เจ้าเป็นพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ของข้า หากมีทางเลือกอื่น เหตุใดข้าต้องเป็นศัตรูกับพี่ตัวเองด้วย?”
“ประเด็นอยู่ตรงที่พี่ใหญ่ กาลก่อนเจ้าบังอาจเกินไป! เจ้าชิงสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่งของตระกูลเราไปเพื่อบรรลุมหาวิถี หรือแม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนาน เจ้าก็ยังไม่สำนึกผิดสักนิดเลย?”
ยามกล่าวถึงตรงนี้ น้ำเสียงของเฉินหลิงคงก็แฝงด้วยความไม่พอใจ ราวสุดแสนร้อนรน ไม่อาจปล่อยความโศกเศร้าและความเดือดดาลในใจได้
ขณะเดียวกัน สีหน้าของเฉินหลิงจวินและจั่วชิวเสวี่ยล้วนไม่แปรเปลี่ยนแต่แรกเริ่ม สีหน้าสุขุมราวไม่ได้ยินถ้อยคำใด ๆ เลย
เนิ่นนานจากนั้น เฉินหลิงจวินก็กล่าวกับเฉินหลิงคง “เจ้าเข้าใจผิดไปหลายเรื่องเลย เรื่องแรก สมบัติล้ำค่าที่ข้านำไปด้วยเมื่อกาลก่อนเป็นสิ่งที่ข้าหามาได้เอง มิใช่ของตระกูล สอง ข้าและตระกูลเฉินไร้สัมพันธ์ใดต่อกันแล้ว ดังนั้นไม่ต้องมาเรียกข้าเป็นพี่ใหญ่อีก ข้าเฉินหลิงจวินไม่มีน้องชายอย่างเจ้า!”
เฉินหลิงคงได้ยินเช่นนี้ก็อดหัวเราะเสียงเย็นมิได้ “พี่ใหญ่ เจ้ายังคิดตัดสัมพันธ์ระหว่างเราอีกหรือ? ไม่มีทาง! ความทรงจำของเจ้าในอดีตชาติยังคงตราตรึง มีมรดกของเราตระกูลเฉินครบถ้วน แล้วเจ้าเอาอะไรมาพูดว่าเจ้ากับตระกูลเฉินหามีสัมพันธ์กันไม่?”
เฉินหลิงจวินขมวดคิ้ว ท้ายที่สุดเขาก็ไม่พูดอะไร เพราะพวกเขาเถียงกันเรื่องนี้มาหลายต่อหลายปี เถียงกันต่อไปก็ไร้ประโยชน์
“ว่ามา เหตุใดเจ้าจึงมาที่นี่” จั่วชิวเสวี่ยซึ่งทำเพียงมองเงียบ ๆ มาตลอดพลันเปิดปาก น้ำเสียงเย็นเยียบเฉยชา “หากคิดมาพูดจาอ้อมค้อมต่อไป ก็เชิญกลับไปเสีย เราไม่มีเวลามาฟังเจ้าพล่าม”
นางพูดอย่างไร้การเกรงใจใด ๆ
เฉินหลิงคงหน้าง้ำ “ไม่ห่วงบุตรเจ้าจะเผชิญอุบัติเหตุหรือไร?”
“อย่าบังอาจเชียว!” ดวงตากระจ่างของจั่วชิวเสวี่ยเย็นเยียบ เดือดดาลเพราะวาทะนี้อย่างสมบูรณ์ นางอาจเมินชะตาผู้อื่นได้ แต่มีหรือนางจะเมินชะตาเลือดเนื้อตัวเอง?
“ฮ่า ๆ ๆ! ไยจะมิได้?” เฉินหลิงคงหัวเราะร่า น้ำเสียงเย็นเยียบชวนสะพรึงยิ่ง “ไม่ช้าก็เร็ว ตระกูลเฉินก็จะถดถอยอย่างสมบูรณ์เมื่อไร้สมบัติล้ำค่านั่น มันอาจกระทั่งถูกตระกูลอื่นกลืนกิน ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้ายังมีสิ่งใดต้องใส่ใจอีก?”
สีหน้าของเขากระทั่งเจือความบ้าคลั่ง
เฉินหลิงคงเป็นมหาเทพเต๋าผู้มีความสามารถล้ำเลิศ สิทธิ์สั่งการยิ่งใหญ่ แต่ยามนี้ เขากลับกล่าววาจาเช่นนี้ จึงมิใช่วาทะเกินจริงแต่อย่างใด
“ไปเสีย” เฉินหลิงจวินไร้อารมณ์ใด ๆ เขากล่าวอย่างเฉยชา “มาคุยกับข้ายามเจ้ากล้าทำตามที่พูดจริง ๆ เถอะ บางที… ข้าอาจพิจารณามันอย่างจริงจังก็ได้”
“ฮึ! แล้วเราจะได้เห็นกัน!” เฉินหลิงคงลุกขึ้นกระฟัดกระเฟียดจากไป ร่างของเขาค่อย ๆ หายลับท่ามกลางหิมะขาวโพลน
“หลิงจวิน หากว่า…” ทันทีที่เฉินหลิงคงลับหาย ใบหน้าของจั่วชิวเสวี่ยก็เผยความกังวลออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“อย่าห่วงเลย ข้ารู้จักเฉินหลิงคง กว่าเขาจะตะเกียกตะกายจนมีอำนาจเหนือตระกูลเฉินได้ มีหรือเขาจะทำสิ่งที่อาจทำลายตระกูลเฉินลง อย่าลืมว่าซีเอ๋อร์ไม่ได้มาลำพัง” สายตาของเฉินหลิงจวินลึกล้ำ กล่าวขึ้นเสียงเบา “ไม่ว่าจะเป็นเขาเทพพยากรณ์หรือตระกูลถัง ล้วนมิใช่สิ่งที่ตระกูลเฉินในขณะนี้กล้าล่วงเกินทั้งสิ้น….”
จั่วชิวเสวี่ยครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วคิ้วอันขมวดแน่นก็คลายตัว พยักหน้าเอ่ยตอบ “ขอเพียงซีเอ๋อร์ปลอดภัย เรื่องอื่นไม่สำคัญ”
เมื่อพูดถึงเฉินซี มุมปากของเฉินหลิงจวินก็ยกยิ้มบาง ทอดถอนใจอย่างช่วยไม่ได้ “ในอดีตชาติของข้า ความภาคภูมิใจสูงสุดคือนำตระกูลเฉินมาครองโลกภูมิเก้าวิญญาณ แต่ชาตินี้ ความภาคภูมิสูงสุดของข้าคือมีเจ้า และบุตรฉลาดกตัญญูทั้งสอง”
สีหน้าของจั่วชิวเสวี่ยก็อ่อนโยนลงเช่นกัน “ข้าก็เหมือนกันมิใช่หรือ?”
เฉินหลิงจวินลุกขึ้นโอบกอดจั่วชิวเสวี่ยไว้ “อาเสวี่ย เจ้าน่าจะรู้ดีว่าซีเอ๋อร์มีแผนภาพวารีหลาก ดังนั้นเขาเทพพยากรณ์ไม่มีทางทนให้เกิดเรื่องใดกับเขาแน่นอน เจ้าไม่ต้องห่วงนะ ข้ารู้สึกว่าคงไม่นาน ครอบครัวเราจะได้หวนบรรจบอย่างแท้จริง ไม่ต้องแยกจากกันอีก….”
จั่วชิวเสวี่ยเอนกายในอ้อมกอด ใบหน้าของนางเปี่ยมความโหยหา
…
กาลเวลาผ่านไปอย่างไม่ทันสังเกต เหลือเพียงสามวัน พิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษของตระกูลเฉินก็จะเริ่มขึ้น
และวันนี้เองที่จู่ ๆ เฉินซีผู้กำลังทำสมาธิบ่มเพาะถูกเสียงเอะอะปลุกสะดุ้งตื่นขึ้นมา
เขาผุดลุกขึ้น เดินออกจากเคหา สีหน้าเปลี่ยนเป็นเยียบเย็นเฉยชาทันทีที่เห็นภาพเหตุการณ์จากไกล ๆ
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...