บทที่ 2017 องอาจไม่แปรเปลี่ยน
………………..
บทที่ 2017 องอาจไม่แปรเปลี่ยน
ก่อนศึกรอบแรกเปิดฉาก เฉินซีและสมาชิกตระกูลเฉินสามคนถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มสี่
เฉินซีเป็นคนแรกของกลุ่มสี่ที่ขึ้นมายังลานประลอง และต้องเอาชนะสมาชิกทั้งสามของตระกูลเฉินเพื่อเข้าสู่การประลองรอบที่สอง
ยามนี้ เฉินป้าหลิงพ่ายไปแล้ว จึงเหลืออีกสองคน
หนึ่งในนั้นชื่อเฉินซูเจ๋อ มีการบ่มเพาะเป็นจ้าวเอกภพหกดาราขั้นสูงสุด สวมอาภรณ์ดำ ร่างผอม กิริยาเย็นชามากสามารถ ดุจหอกคมทะลวงนภา ให้ความรู้สึกดุจดาบคมอันสะบั้นได้ทุกอุปสรรค
อีกหนึ่งคือเฉินเหวินอวี่ เป็นชายวัยกลางคนผมเผ้าหนวดเคราหงอกขาว เป็นจ้าวเอกภพเจ็ดดาราผู้มีผิวกายเรียบเนียนเช่นทารก พลังชีวิตสำรวมเรียบ กิริยาค่อนข้างมั่นคง
ทว่าขณะนี้ ยามได้ยินเฉินซีประกาศสงครามต่อพวกตน ทั้งสองต่างอดเผยความลังเลออกมาเล็กน้อยมิได้
ก่อนหน้านี้ เฉินป้าหลิงพ่ายเร็วเกินไป และผลลัพธ์ที่เกิดกับเฉินป้าหลิงกระทั่งชวนสยดสยอง กระทั่งพวกเขาทั้งสองยังผงะหงาย แม้จะไม่ถึงขนาดพรั่นพรึง ก็ยังมีความครั่นคร้ามเล็กน้อยต่ออำนาจต่อสู้ร้ายกาจที่เฉินซีแสดง
“สู้!”
หนึ่งเสียงตะโกนพลันดังขึ้น
“สู้!”
“สู้!”
หลังจากนั้น สมาชิกทั้งหลายของตระกูลเฉินก็เริ่มตะโกนตาม ๆ กัน เสียงนั้นสะท้านทั่วเก้าชั้นสรวง ไม่อาจยอมให้สมาชิกร่วมตระกูลขลาดเขลากลัวศึกได้
“ข้าเอง!” ท้ายที่สุด ดวงตาของเฉินซูเจ๋อก็เรืองประกายเย็นเยียบ ร่างของเขาเหยียบย่างสู่ลานประลองอย่างรวดเร็ว
สมาชิกตระกูลเฉินคนอื่น ๆ เห็นเช่นนี้ก็โห่ร้องให้กำลังใจ เผยสีหน้าตื่นเต้นกันอีกครั้ง
เทียบกับเฉินป้าหลิงก่อนหน้านี้ การบ่มเพาะของเฉินซูเจ๋อสูงกว่ากันมากอย่างชัดเจน เรื่องสำคัญที่สุดคือ เฉินซูเจ๋อมีประสบการณ์ศึกสุดโดดเด่น และทักษะวิชาเลิศล้ำเกินธรรมดา
ในเมื่อเขาออกมาท้าทายเฉินซี หากสู้อย่างระวัง โอกาสชนะก็มีมากพอตัว
นี่คือมุมมองที่เหล่าสมาชิกตระกูลเฉินเห็นตรงกัน เท่าที่พวกเขารู้ แม้การโจมตีของเฉินซียามสยบเฉินป้าเทียนลงได้นั้นจะชวนตะลึง แต่ขอเพียงเฉินซูเจ๋อรับการโจมตีนั้นได้ เขาก็จะสามารถสยบเฉินซีได้อย่างหมดจดแน่นอน
เพราะถึงอย่างไร เฉินซูเจ๋อก็ขาดเพียงก้าวเดียวจะบรรลุเป็นจ้าวเอกภพเจ็ดดารา ขณะที่เฉินซีเป็นเพียงจ้าวเอกภพสี่ดารา
ขอเพียงเริ่มศึก เฉินซูเจ๋อไม่ให้โอกาสเฉินซีพักหายใจ เขาก็จะชนะได้แน่นอน!
แน่นอน นี่เป็นเพียงความคิดของเหล่าสมาชิกตระกูลเฉินคนอื่น ๆ
ขณะที่เหล่าแขกซึ่งชมการประลองอย่างใคร่รู้ต่างเปลี่ยนท่าทีเป็นเคร่งขรึม
อำนาจต่อสู้ที่เฉินซีแสดงก่อนหน้านี้น่าตกใจเกินไป มันทำให้กระทั่งยอดฝีมือจากตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายคิดเทียบเฉินซีกับคนจากตระกูลตน
…
“พวกเจ้าทั้งสองรู้สิ่งใดจากศึกนั้นหรือไม่?” เฉินเต้าหยวนดูครุ่นคิด เขาสวมอาภรณ์ขาว รูปลักษณ์หล่อเหลา ทั่วกายให้บรรยากาศสงบเงียบเรียบง่าย เป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง
“ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไป ยากจะสังเกตสิ่งใดได้เลย” เฉินชิวสุ่ยขมวดคิ้วหนักก่อนเอ่ยปาก นางสวมอาภรณ์แดงเช่นอัคคี ขณะที่ตัวนางเองก็อรชรเปี่ยมเสน่ห์เกินเอื้อมคว้า ราวบงกชแดงเพลิงบานสะพรั่ง งดงามไร้ผู้เทียบ
“เพียงจากปราณเต๋าแห่งกระบี่ อย่างน้อยก็ต้องบ่มเพาะถึงขอบเขตจักรพรรดิกระบี่ขั้นสี่แล้ว เรื่องนี้ชวนงุนงงอยู่พอตัว มิใช่ว่าศิษย์เขาเทพพยากรณ์อย่างเขาควรช่ำชองเต๋าแห่งยันต์อักขระหรือ?” เฉินเซียวอวิ๋นพึมพำ รู้สึกมึนงงเล็กน้อย
ทั้งสามล้วนถูกแบ่งไปที่สามกลุ่มแตกต่างกัน และตกลงกันนานแล้วว่าจะไม่บุ่มบ่ามท้าทายผู้ใดอย่างใจร้อน ตั้งใจใช้โอกาสนี้จับตามองและศึกษาการต่อสู้ของเฉินซีเพื่อประเมินไพ่ตายและความแข็งแกร่ง
แต่พวกเขาก็ต้องผิดหวังเมื่อเฉินป้าหลิงพ่ายไว้เกินไปจนพวกเขาไม่ทันตั้งตัว และไม่อาจรับรู้ข้อมูลอันมีค่าใด ๆ
แต่ก็เพราะการกระทำของเฉินซีชวนตะลึงเกินไปนี้เอง ขณะที่พวกเขาตกใจ ก็ยังตัดสินได้คร่าว ๆ ว่าเฉินซีน่าสะพรึงเพียงไหน เขาไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่การบ่มเพาะแสดงให้เห็นเลย
“ศึกที่สองกำลังจะเริ่ม หนนี้เราต้องจับตามองให้ดี ต้องตัดสินให้ได้ว่าไพ่ตายของเขาคือสิ่งใด” เฉินเต้าหยวนกล่าวเสียงเบา
“แน่นอน” ทั้งเฉินชิวสุ่ยและเฉินเซียวอวิ๋นต่างพยักหน้า
…
ในลานประลอง
ชิ้ง! ชิ้ง!
ทันทีที่มาถึง เฉินซูเจ๋อก็เหวี่ยงแขนอย่างไร้ลังเล ง้าวสั้นสีทองสว่างยาวสี่ฉื่อคู่หนึ่งปรากฏขึ้นในมือ
ง้าวสั้นคู่นี้เรืองรองรัศมีสีทอง คมกริบเกินประมาณ สลักอักขระอันซับซ้อนหนาแน่น เผยนิมิตดาราจักร ทิวทัศน์และภาพอันยิ่งใหญ่ชวนตื่นตาสารพัดอย่างบางเบา
ง้าวแฝดวิญญาณคู่!
มันคือสมบัติวิญญาณธรรมชาติคู่หนึ่งอันเกิดจากความโกลาหลของสามภพ ฤทธายิ่งใหญ่ ทลายได้ทุกสรรพสิ่งที่ขวางหน้า เมื่อใช้ในศึก มันก็สามารถเพิ่มกำลังผู้ใช้ได้สามส่วน!
เปรี้ยง!
เพียงพริบตา เสียงกู่ก้องก็ดังกระหึ่มจากง้าวสั้นคู่อันดูเหมือนตีจากทอง ทำให้ปราณกดดันของเฉินซูเจ๋อแปรเปลี่ยนไป ประกายคมกริบโถมทะยานสู่เวหา ดูประหนึ่งเป็นเทพสังหารสีทองอันปรากฏจากความโกลาหลบรรพกาล ปกคลุมด้วยจิตสังหารร้ายแรงเหนือใคร
“เฉินซี ยามนี้เจ้ายังยอมแพ้ได้นะ หาไม่ ข้าจะล้างแค้นให้น้องชายป้าหลิง ให้เจ้าอยู่ไม่สู้ตาย!” เฉินซูเจ๋อกล่าว ดวงตาเรืองโรจน์ทองจรัส ทำให้เขาดูน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง
“โอ้” เฉินซีเอ่ยเพียงหนึ่งคำขานรับ ดูสุดแสนวางตัว

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...