บทที่ 2020 ตบ!
………………..
บทที่ 2020 ตบ!
ความงดงามทั้งหลายของมันค่อย ๆ จางหายไปเหมือนสายน้ำไหล
กลิ่นอายดุดันจากการโจมตีของเฉินเหวินอวี่ถูกยับยั้ง ไม่โอ่อ่า งดงาม และน่าตื่นตาอีกต่อไป หากแต่ดูธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง
เหมือนมันสลัดทุกความงดงามเพื่อกลับสู่ร่างเดิมที่แท้จริง แต่กลับทำให้กลิ่นอายดุดันมากยิ่งขึ้น
ผู้ชมร้องด้วยความตื่นตะลึง ก่อนหน้านี้ก็รู้สึกแล้วว่าเฉินเหวินอวี่ต้องชนะไปได้แน่ แต่ไม่คิดเลยว่าการโจมตีของเขาจะมาเปลี่ยนผันในจังหวะสำคัญ ยิ่งแกร่งขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
หรือเขาคิดจะขยี้เฉินซีในคราวเดียวเลย?
คนตระกูลเฉินยิ่งรู้สึกตื่นเต้นดีใจและเต็มไปด้วยความตั้งตารอชม!
ทว่าการโจมตีของเฉินซียังคงดูธรรมดาเหมือนเคย มันนิ่งสงบเหมือนสายน้ำ ดูสุขุมนุ่มลึกแต่น่าเบื่อ ไม่น่ากลัวแต่อย่างไร
“ไอ้เด็กนั้นแพ้แน่!” ผู้ชมทั้งหลายยินดีในความโชคร้ายของเฉินซี บางคนถึงขนาดนึกไปถึงตอนที่เฉินซีพ่ายแพ้และอยู่ในสภาพดูไม่ได้ไปแล้ว
สุดท้ายกระบี่ของทั้งสองก็ปะทะกัน แต่น่าประหลาดที่กลับไร้เสียงใด
มันเงียบสงบ!
เงียบอย่างน่าประหลาด!
การโจมตีที่แตกต่างกันทั้งสองฝ่ายควรจะเหมือนน้ำกับไฟ น่าจะเข้าห้ำหั่นกันอย่างรุนแรง อีกทั้งแรงพลังทำลายล้างย่อมต้องน่าผวา
แต่ตอนนี้มันกลับไร้เสียงใด!
เกิดอะไรขึ้น?
ทุกคนตกตะลึง
มีเพียงมหาเทพเต๋าอย่างอู๋เซวี่ยฉาน ถังเสียน และเฉินหลิงคง และยอดฝีมือที่มีพลังบ่มเพาะไม่ธรรมดาเพียงไม่กี่คนที่ตาคมมองออก ทำให้พวกเขาชะงักไปอย่างเห็นได้ชัด
แกร่งที่สุดย่อมเงียบเชียบที่สุด!
ดังที่สุดย่อมสดับได้ยากที่สุด!
สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงแรงปะทะของทั้งสองฝ่ายได้อย่างชัดเจน!
คนอื่น ๆ ไม่เข้าใจ คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก ได้แต่คิดว่าไม่ได้อยู่ในลานประลองก็คงไม่อาจรู้ได้ว่ามันน่ากลัวแค่ไหน
หากจ้าวเอกภพคนอื่นขึ้นลานประลองมาในตอนนี้ ก็คงถูกแรงพลังตีใส่จนสิ้นใจคาที่ไปเลยก็ว่าได้
เพราะพลังภายในลานประลองนั้นปะทะกันอย่างแรง เหมือนดั่งตาพายุ ดูเงียบสงบ แต่หากมีแรงใดภายนอกเข้ามา ก็จะทำให้ทุกอย่างเสียสมดุล!
“การปะทะเต๋าแห่งกระบี่เช่นนี้หาชมได้ยากยิ่ง!” มีคนหนึ่งถอนหายใจออกมา
“ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วใครจะชนะไป” อีกคนเหมือนแทบรอให้การต่อสู้จบลงไม่ไหว
…
เคร้ง! เคร้ง!
ผ่านไปไม่นาน กระบี่ที่เข้าปะทะกันก็ถอยออกแทบจะในจังหวะเดียวกัน ส่งเสียงคำรามออกมาทำลายความเงียบ
พอมองไปยังลานประลอง ก็เห็นร่างเฉินเหวินอวี่ยืนมั่นคงอยู่กับที่ ผมสีขาวพลิ้วไสว ใบหน้ายังคงความสุขุมไว้ บนหน้าผากมีเม็ดเหงื่อผุดให้เห็นเพียงเท่านั้น
อีกด้านหนึ่ง ร่างสูงของเฉินซีเองก็มีสีหน้าเรียบเฉย อาภรณ์พลิ้วไสว หว่างคิ้วเผยแววตกตะลึง
ทั้งสองคนยืนอยู่เช่นนั้นในความเงียบ
ผู้ชมได้แต่รอชมด้วยความตื่นเต้นไม่อยากเชื่อสายตาตน ใครชนะไปกันแน่?
หรือว่าจะเสมอกัน?
เสียงจากรอบข้างดังลั่นขึ้นทันที เหล่าผู้ชมพากันถกเถียงอย่างออกรส ล้วนไม่อาจยอมรับสถานการณ์เช่นนี้ได้
เพราะอย่างไรที่เฉินซีเผยฝีมือให้เห็นก่อนหน้านี้ก็ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง ทุกคนคิดว่าอย่างไรเขาก็คงต้องแพ้ไป แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเสมอกันงั้นหรือ?
มีหลายคนสงสัยว่าเฉินเหวินอวี่จงใจออมมือให้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นแบบนี้ได้หรือ?
“ดูสิ! ดูเร็วเข้า! มือที่ถือกระบี่ของเจ้านั่นเลือดออกด้วย! ฮ่า ๆ! มันแพ้แล้ว!” ทันใดนั้นก็มีคนเห็นเลือดที่ไหลออกมาเป็นทางจากฝ่ามือของเฉินซี ก่อนเขาจะยั้งตัวเองไม่ไหวร้องลั่นขึ้นมาด้วยความยินดี
เป็นเหมือนหินที่โยนลงบ่อแล้วเกิดวงน้ำนับพัน ตอนนี้คนอื่น ๆ ก็เห็นชัดเช่นกัน ล้วนแต่มีสีหน้าตื่นเต้นยินดี
“อย่างที่คิดเลย เจ้านั่นแพ้จริง ๆ ด้วย!”
“ในเมื่อมันเป็นศึกตัดสินในกระบวนท่าเดียว แค่บาดเจ็บเล็กน้อยก็ถือว่าแพ้แล้ว!”
“ฮ่า ๆ! คิดว่าหมอนั่นจะแกร่งสะท้านฟ้าจนไม่มีใครหยุดได้แล้วเสียอีก ก็ไม่เห็นเท่าไหร่เลยนี่นะ! อยู่ไม่ถึงตอนจบของรอบที่หนึ่งด้วยซ้ำ”
“ว่าแล้วเชียว เฉินเหวินอวี่อยู่ขอบเขตจ้าวเอกภพเจ็ดดารา จะจัดการคนที่อยู่แค่ขอบเขตจ้าวเอกภพสี่ดาราไม่ได้เลยหรือไร?”
ทว่าพอเข้าหูคนตระกูลเฉิน ก็เหมือนกับถูกตบหน้าสะบัด ใบหน้าเห่อร้อนขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด
ก่อนหน้านี้ก็เขายังโห่ร้องยินดีกันอยู่ ตะโกนร้องให้เฉินซีไสหัวลงมาจากสนาม แต่ความจริงกลับไม่เป็นไปตามคาด เฉินซีไม่ได้พ่ายแพ้ไป กลับเป็นเฉินเหวินอวี่ที่กระอักเลือดออกมาแล้วต้องจากไปด้วยความผิดหวัง จะมีใครคิดฝันถึงผลลัพธ์เช่นนี้ได้?
เจ็บ!
เจ็บนัก!
แรงตบที่ใบหน้าเช่นนี้ไม่อาจอธิบายด้วยคำพูดได้ เพราะความเป็นจริงก็เหมือนแรงตบดังสนั่นได้แล้ว เป็นแรงตบส่งตรงถึงใบหน้าของพวกไม่รู้เรื่องรู้ราวทั้งหลาย
พร้อมกันนั้น อู๋เซวี่ยฉานและถังเสียนก็เผยรอยยิ้ม ปรบมือเอ่ยชมอย่างไม่ปิดบังแต่อย่างไร
แขกผู้ชมบางคนข้างเคียงก็เริ่มปรบมือขึ้นมาเพราะอึ้งกับฝีมือของเฉินซี แต่ไม่นานก็สัมผัสได้ว่าคนตระกูลเฉินกำลังเสียใจ การรวมปรบมือเช่นนี้นับว่าไม่ไว้หน้าพวกเขาอยู่บ้าง
ทว่าเฉินหลิงคงและคนตระกูลเฉินคนอื่นก็เห็นไปแล้ว จึงให้รู้สึกโกรธขึ้นมา รู้สึกเหมือนถูกทำให้อับอายขายหน้า
“ผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งที่สาม เป็นของเฉินซี!” เฉินหลิงคงจึงรีบประกาศผลลัพธ์ออกมา “พร้อมกันนั้น เฉินซีก็เป็นคนเดียวจากกลุ่มที่สี่ที่ได้เข้าสู่รอบที่สอง”
สิ้นเสียงนั้นก็ไม่มีใครแสดงความยินดีกับเฉินซีเลย รอบข้างกลับเงียบสนิท คนตระกูลเฉินล้วนเผยใบหน้าเคร่งขรึม
เฉินซีไม่ได้สนใจอะไร เขาสะบัดแขนเสื้อลงจากลานประลองไป
ต่อสู้สามครั้งเขาใช้เพียงสามกระบวนท่า กล่าวได้ว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของการจบศึกอย่างรวดเร็วทีเดียว
เฉินซีเห็นเฉินเต้าหยวน เฉินชิวสุ่ย และเฉินเซียวอวิ๋นก็ยังไม่ได้ขึ้นลานประลองไปท้าประลองกับใครเลย กำลังรออยู่อย่างนั้น
เฉินซีจึงได้แต่หัวเราะเย็นในใจ ย่อมเข้าใจความหมายของการทำเช่นนี้ นั่นก็เพื่อถ่วงเวลาให้ได้มากจนถึงที่สุด ฉวยโอกาสวิเคราะห์การต่อสู้ของเขาเพื่อหาไม้ตายและจุดอ่อนของเขาให้เจอ
น่าเสียดายที่ไม่พบอะไรเลย
เพราะนับตั้งแต่การต่อสู้ครั้งแรกเริ่มขึ้น หากสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ภายในกระบวนท่าเดียวได้ เฉินซีก็ไม่คิดใช้การโจมตีครั้งที่สองออกมาด้วยซ้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เฉินเต้าหยวน เฉินชิวสุ่ย และเฉินเซียวอวิ๋นได้มีโอกาสทำตามแผนนั่นเอง!
ไม่เช่นนั้นเขาจะตอบตกลงเฉินเหวินอวี่เรื่องเงื่อนไขกระบวนท่าเดียวทั้งที่รู้ว่าตัวเองก็ไม่ได้เปรียบอะไรไปงั้นหรือ? เขาไม่ใช่คนโง่ที่ทำอะไรตามอารมณ์เสียหน่อย
“เอาละ ดูแล้วเจ้านี่คงไม่ยอมให้เราได้วิเคราะห์อะไรมาตั้งแต่ต้น แต่ไม่คิดเลยว่าจะเก่งจนสามารถทำเช่นนี้ได้ แค่นี้ก็ทำให้ข้าประมาทเขาไม่ได้แล้ว” เฉินเต้าหยวนถอนหายใจออกมา
“ฝีมือต่อสู้ของเขาก็ไม่เบา แต่ที่ข้าห่วงก็คือ…. แบบนี้เขาก็ได้เห็นการต่อสู้ของพวกเราสิ?” เฉินเซียวอวิ๋นมุ่นคิ้วเอ่ย “ถ้าเจ้านั่นมันวิเคราะห์วิถีการต่อสู้ของเราออก เช่นนั้นเราก็เสียเปรียบสิ”
“เช่นนั้นเราก็ควรรีบจบศึกเช่นกัน ในเมื่อเขาทำได้ เราก็ย่อมทำได้ อีกทั้งยังต้องทำได้ดีกว่า” เฉินชิวสุ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
“เกรงว่า… พวกเราจะกังวลเปล่าประโยชน์เสียแล้ว” เฉินเต้าหยวนพลันหัวเราะเสียงขื่นแล้วทอดสายตามองไปไกล
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...