บทที่ 2022 รับคำท้า
………………..
บทที่ 2022 รับคำท้า
เมื่อได้ยินเฉินหลิงคงประกาศกฎรอบที่สอง ไม่เพียงอู๋เซวี่ยฉานและถังเสียนจะรู้สึกเดือดดาล กระทั่งสมาชิกตระกูลเฉินยังจังงังไปเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้ พวกเขาคาดเดากันว่าเฉินหลิงคงคงไม่ใช้กฎเดียวกับรอบแรกแน่แท้ เพราะถึงอย่างไร ไม่ว่าพวกเขาคนใดในทั้งสามล้วนเอาชนะเฉินซีได้ง่าย ๆ
ดังนั้นหากใช้กฎเดียวกันในรอบที่สอง ก็คงจะเกินไปหน่อย
แต่ไร้ผู้ใดคาดคิดว่าแม้เฉินหลิงคงจะไม่ทำเช่นนั้น เขากลับประกาศกฎที่ยิ่งแย่ไปกว่ารอบแรกเสียอีก!
ศึกตะลุมบอนระหว่างทั้งสี่? มิได้หมายความหรือว่าเฉินเต้าหยวน เฉินเซียวอวิ๋น และเฉินชิวสุ่ยจะร่วมมือเล่นงานเฉินซี? ไม่บ้าบอไปหน่อยหรือ?
แน่นอน สมาชิกตระกูลเฉินทั้งหลายไม่พูดช่วยเหลือเฉินซีแน่นอน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขายอมรับกฎเช่นนี้ได้
“ผู้อาวุโสสูงสุด… เหมือนจะประเมินเจ้านั่นสูงไปหรือไม่ ให้พวกเฉินเต้าหยวนร่วมมือเล่นงานเขา เหมือนส่งเหยี่ยวสามตัวไปจัดการมดตัวเดียวเลยนะ ไม่ทำเกินไปหน่อยหรือ?”
“เหตุใดเขาจึงทำเช่นนี้? หรือผู้อาวุโสสูงสุดจะคิดว่าพวกเขาคนใดล้วนไม่อาจบดขยี้เฉินซีได้ จึงออกกฎเช่นนี้ออกมา?”
“บางทีผู้อาวุโสสูงสุดคงหมดความอดทน ตั้งใจใช้ความได้เปรียบสูงสุดถีบเจ้าเด็กนั่นออกจากการประชัน จะได้ไม่กร่างเหิมเกริมต่อไปก็เป็นได้”
“แต่ว่า… หากข่าวแพร่งพรายออกไป เราตระกูลเฉินก็ประพฤติไม่ยุติธรรมกับเขา ชื่อเสียงตระกูลเราจะแย่ได้นะ”
เสียงหารือดังไปทั่วทิศ ทายาทตระกูลเฉินทุกคนต่างตกตะลึงมึนงง ไม่อาจคิดออกว่าเฉินหลิงคงคิดการใดอยู่ และไม่ทราบว่าเขาคำนึงถึงสิ่งใดจึงทำเช่นนี้
เฉินหลิงคงโง่เง่าหรือ?
ไม่มีทาง! ดังนั้นการกระทำของเขาต้องมีเหตุผลอยู่เบื้องหลังแน่ ๆ!
นี่คือสิ่งที่สมาชิกตระกูลเฉินทุกคนเห็นตรงกัน
…
“การกระทำของเฉินหลิงคงหาสมศักดิ์ศรีไม่ เห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจใช้อุบายกับเฉินซี นี่ไม่ใช่ครรลองที่ผู้อาวุโสสูงสุดของหนึ่งตระกูลพึงมีได้เลย”
“บางที โศกอนาฏกรรมอันเกิดในรอบแรกอาจทำให้เขาคุมตนไม่อยู่แล้วกระมัง?”
แต่พวกเขาเป็นแขก จึงไม่เหมาะสมหากจะพูดอะไร ทำได้เพียงรู้สึกเดือดดาลต่อความอยุติธรรมที่เฉินซีเผชิญกันในใจ
…
“นี่มัน….” เฉินเต้าหยวนผงะแล้วขมวดคิ้ว รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยกับกฎของเฉินหลิงคงเช่นกัน เขาเป็นเพียงจ้าวเอกภพสี่ดารา ไม่ว่าจะแข็งแกร่งท้าทายสวรรค์สักเพียงไร ก็ไม่ได้ร้ายกาจจนพวกเราทั้งสามต้องร่วมมือรุมโจมตีกันเลยนี่นา?
“ข้ารับเรื่องนี้ไม่น่าไหว หากเรื่องนี้ถูกแพร่งพราย ต่อให้เราเอาชนะเจ้าเด็กนี่ได้ ก็ยังอับอายอย่างยิ่ง” เฉินชิวสุ่ยก็ไม่อาจเข้าใจแผนการเช่นนี้ได้เช่นกัน
“เราหรือจะเข้าใจความคิดของผู้อาวุโสสูงสุดได้?” เฉินเซียวอวิ๋นพึมพำอยู่ข้าง ๆ ศักดิ์ศรีและความทะนงในใจเขาทำให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจกับแผนการเช่นนี้อย่างยิ่ง
เพราะนี่คือการดูถูกความแข็งแกร่งของพวกเขา ขณะที่ยกศัตรูให้สูงกว่าสมควรอย่างชัดเจน!
แต่ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาก็ไม่กล้าตั้งคำถามกับการตัดสินใจนี้ การท้าทายอำนาจของเฉินหลิงคงในที่สาธารณะนั้นไม่สมควรอย่างชัดเจน
เพราะถึงอย่างไร การทำเช่นนั้นก็ไม่ต่างจากช่วยเหลือบุตรของนักโทษ และพวกเขาปฏิเสธที่จะทำ
…
รอบทิศเต็มไปด้วยเสียงหารือ ประหลาดใจและงุนงง ทำให้เสียงเอะอะดังกระหึ่มเต็มไปหมด
เฉินหลิงคงทำเหมือนไม่รับรู้ สีหน้าเยือกเย็นเคร่งขรึมมาแต่ต้น บางทีคงคิดไว้แล้วว่าเหตุเช่นไรจะบังเกิดยามเขาประกาศกฎ
“หากไร้ผู้ใดคัดค้าน พวกเจ้าก็ขึ้นลานประลอง เริ่มการประชันรอบที่สองกันได้เลย!” เสียงลุ่มลึกของเฉินหลิงคงดังกังวานทั่ว
สิ่งนี้ทำให้ทุกผู้เข้าใจทันทีว่า เฉินหลิงคงตั้งใจจะทำเช่นนี้ไม่เปลี่ยนแปลง
“ช้าก่อน!” อู๋เซวี่ยฉานพลันลุกขึ้น สีหน้าเย็นเยียบเฉยชา “สหายเต๋า คิดจริง ๆ หรือว่าเจ้าจะรังแกเขาเทพพยากรณ์ของเราได้?”
เสียงของเขาสุขุม ทว่ากลับเปี่ยมอำนาจกดดันร้ายกาจ ทำให้เสียงเอะอะทั่วทิศหายสิ้นทันที บรรยากาศตึงเครียดกดดัน
เขาเทพพยากรณ์พิโรธแล้ว! เรื่องนี้เข้าใจได้ เพราะถึงอย่างไร หากเขาเทพพยากรณ์ไม่ออกมาคัดค้านเหตุการณ์เช่นนี้ พวกเขาก็คงดูอ่อนแอเกินไป
“รังแก?” เฉินหลิงคงพูดหน้าตาเฉย “นายใหญ่ กฎนี้ยุติธรรมอย่างยิ่ง พวกเขาต่อสู้ตะลุมบอน ชิงชัยด้วยฝีมือตัวเอง จะถือเป็นการรังแกได้อย่างไร?”
“เฉินหลิงคง เจ้าตั้งใจจะแตกหักกันจริง ๆ แล้วหรือ?” ถังเสียนพลันผุดลุกขึ้นกล่าวเสียงเย็น การแสดงออกของเขาเปี่ยมอำนาจ ตรงไปตรงมาเสียยิ่งกว่าอู๋เซวี่ยฉาน วาทะของเขาเถรตรง เจือคำข่มขู่เล็กน้อย
หัวใจของสมาชิกตระกูลเฉินทั้งหลายสั่นสะท้าน เกิดความรู้สึกอึดอัดใจ เจ้าพวกคนจากเขาเทพพยากรณ์ไม่ผยองไปหน่อยหรือ? พวกเขากล้าข่มขู่ผู้อาวุโสสูงสุดในถิ่นเรา? จะเกินไปแล้ว!
เพราะไม่ว่ากฎจะไม่ยุติธรรมเพียงไร กฎนั้นก็ถูกตั้งเพื่อพวกเขา สมาชิกตระกูลเฉิน พวกเขาจึงรู้สึกว่าการเข้ายุ่งเกี่ยวของเขาเทพพยากรณ์ต่างหากที่ผิด!
ในเมื่อเขาเทพพยากรณ์เข้าแทรกแซง ก็ต้องรับกฎเช่นนี้ถูกหรือไม่?
“สหายเต๋าทุกท่านสงบใจก่อน ข้าไร้เจตนาเป็นศัตรูกับเขาเทพพยากรณ์เลย การประลองหาผู้สืบทอดตระกูลนี้เป็นเรื่องภายในตระกูลเฉินของข้าเสมอมา กฎจึงย่อมต้องตั้งโดยตระกูลเฉินของเรา ในเมื่อเฉินซีเข้าร่วม เขาก็ต้องทำตามกฎตระกูลข้า” เฉินหลิงคงดูพร้อมเสี่ยงทุกสิ่ง ท่าทีเฉยชา ดูสุดแสนดื้อดึง
สีหน้าของอู๋เซวี่ยฉานและถังเสียนเย็นเยียบเฉยชาขึ้นกว่าเดิม แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเดือดดาลเต็มที เจียนระเบิดฤทธิ์แผลงอำนาจ
ยามมหาเทพเต๋าเกินธรรมดาทั้งสองระเบิดโทสะ ก็ทราบได้ว่าปราณของทั้งคู่น่ากลัวเพียงไร
เสียงแหวกอากาศดังสนั่นยามเฉินเต้าหยวน เฉินชิวสุ่ยและเฉินเซียวอวิ๋นซึ่งรวมกำลังอยู่เนิ่นนานมาถึงลานประลอง
“หลังจากนี้ ให้เซียวอวิ๋นจัดการกับเขาก่อน ข้ากับชิวสุ่ยจะรอดูอยู่ด้านข้าง! เช่นนี้เราก็ไม่ได้รังแกเขามากจนเกินไปแล้ว” เฉินเต้าหยวนถ่ายทอดกระแสปราณ
“ก็ดี” เฉินเซียวอวิ๋นพยักหน้า เพราะแผนนี้ตรงใจเขายิ่งนัก
“แต่ว่า… หากผู้อาวุโสสูงสุดไม่ชอบใจขึ้นมาเล่า?” เฉินชิวสุ่ยลังเลเล็กน้อย
“ไม่ต้องห่วง ต่อให้สถานการณ์ศึกปรวนแปร เราค่อยลงมือก็ยังไม่สาย สุดท้ายเฉินซีก็พ่ายแน่ ผลลัพธ์ชัดเจนมาแต่เริ่ม ผู้อาวุโสสูงสุดไม่ตำหนิทำโทษเราภายหลังหรอก” เฉินเต้าหยวนอธิบายเสียงเบา
เหตุผลที่เขาวางแผนเช่นนี้ ประการแรกก็เพราะไม่อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเฉินและเขาเทพพยากรณ์แตกหัก สองเพราะเขาไม่เต็มใจรังแกคู่ต่อสู้ด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีของตนเอง
ไม่ว่าอย่างไร นี่ก็คือศึกที่ประกันชัยชนะของพวกเขาได้ เช่นนี้ เหตุใดไม่ชนะอย่างมีศักดิ์ศรีหน่อยเล่า?
วูบ!
ร่างของเฉินซีวูบไหว เหยียบย่างลงสู่ลานประลอง ยืนเผชิญหน้าพวกเขาทั้งสามจากไกล ๆ
ร่างของเขาสูงใหญ่ สีหน้าสุขุมเฉยชา ไร้ความกลัวแม้เพียงเสี้ยว
แต่มีเพียงเฉินซีเท่านั้นที่ตระหนัก ว่าศึกนี้คงหนักหนาที่สุดเท่าที่เขาเผชิญมานับแต่เริ่มบ่มเพาะ และยังอันตรายที่สุดด้วย
คู่ต่อสู้ของเขาไม่ใช่เพียงสองตัวตนร้ายกาจผู้บรรลุเป็นจ้าวเอกภพแปดดารา มีกระทั่งจ้าวเอกภพเก้าดาราผู้หนึ่งที่จวนเจียนเป็นมหาเทพเต๋าอยู่ด้วย!
นอกจากนั้น ทั้งสามเป็นกระทั่งทายาทตระกูลเฉิน หนึ่งในตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ เรืองอำนาจมากทรัพยากรมาแต่เกิด เป็นตัวตนไร้เทียมทานในระดับจ้าวเอกภพเช่นกัน พวกเขาแต่ละคนล้วนมีอำนาจต่อสู้ร้ายกาจเกินใครเทียบทาน
ด้วยเหตุนี้ เฉินซีจึงไม่กล้ากระทำตัวบุ่มบ่ามแม้แต่น้อย
เพราะถึงอย่างไร เขาก็เป็นเพียงจ้าวเอกภพสี่ดารา ความต่างชั้นการบ่มเพาะมหาศาลยิ่ง และนี่ยังเป็นศึกสามต่อหนึ่ง ไม่ว่าใครมาเผชิญเหตุเช่นนี้คงรู้สึกสิ้นหวัง ยอมแพ้กันไปนานแล้ว
เพราะผู้ใดที่พอพูดรู้เรื่องย่อมรู้ ว่านี่คือศึกที่ไม่มีความยุติธรรม เฉินซีเสียเปรียบตั้งแต่ก่อนทันเริ่มศึก ไม่มีโอกาสชนะแม้แต่น้อย!
ดังนั้นการสู้ต่อไปรังแต่จะดิ้นรนเสียเปล่า ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ได้
นี่คือสิ่งที่ทุกคนคิด กระทั่งอู๋เซวี่ยฉานและถังเสียนยังเลิกหวังแล้วว่าเฉินซีจะชนะได้
เพราะถึงอย่างไร ความต่างชั้นก็มหาศาลเกินไป!
นี่แหละเหตุผลที่อู๋เซวี่ยฉานและถังเสียนเดือดดาลกันนัก
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...