เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 2035

บทที่ 2035 ภาพในอดีต

………………..

บทที่ 2035 ภาพในอดีต

ไม่ว่าเขาจะตกใจเพียงไร ในที่สุดเฉินซีก็เข้าใจว่าเหตุใดเฉินหลิงจวินจึงเลือกเวียนสังสารวัฏยามชีวิตรุ่งโรจน์ถึงที่สุด

ทั้งหมดนี้ก็เพราะชิ้นส่วนที่เก้าของแผนภาพวารีหลาก

เมื่อกาลก่อน เขาเข้าร่วมศึกผู้พิทักษ์วิถีที่ภูเขาผนึกเทพและได้ชิ้นส่วนที่เก้าของแผนภาพวารีหลากมาโดยบังเอิญ ทำให้ชะตาแปรเปลี่ยนไปอย่างน่าตกใจ

เฉินหลิงจวินพึ่งพาชิ้นส่วนที่เก้าของแผนภาพวารีหลากในการนำตระกูลเฉินทำศึกในแดนมารดากำเนิดบรรพ์ ได้ครอบครองโลกภูมิเก้าวิญญาณ ทำให้ตระกูลเฉินทะยานขึ้นเป็นตระกูลระดับกลาง

ทว่าสมบัตินี้เช่นกันที่ทำให้เฉินหลิงจวินถูกเต๋าสวรรค์โจมตี คิดชิงชิ้นส่วนที่เก้าของแผนภาพวารีหลากไปจากเขา แม้เฉินหลิงจวินจะปกป้องสมบัตินี้ไว้ได้ เขาก็ยังไร้ทางเลือกนอกจากเวียนสังสารวัฏเกิดใหม่เพื่อมิให้เต๋าสวรรค์โจมตีต่อไป

แต่หลังเกิดใหม่ เฉินหลิงจวินก็ยังหนีหายนะนี้ไม่พ้น หลังเกิดใหม่สามหน เขาจึงตระหนักว่าตราบใดที่เขายังถือครองสมบัตินี้ เขาก็จะยังถูกไล่ล่าไม่ละวาง

ดังนั้นท้ายที่สุด เขาจึงมอบสมบัตินี้แก่เฉินซี บุตรของเขา!

ทว่าเฉินซีก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าตนไปได้ชิ้นส่วนที่เก้าของแผนภาพวารีหลากมาแต่ยามใด และเหตุไฉนกระทั่งเขาจึงหาตระหนักถึงมันไม่?

เฉินหลิงจวินไม่ได้อธิบาย เขาเล่าต่อ “ภายหลัง ข้าตระหนักว่าชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากนี้ไม่เหมือนชิ้นส่วนอื่น ๆ อีกแปดชิ้น เพราะมันถูกอำนาจลึกลับแห่งเต๋าสวรรค์หลอมสร้างเป็นอักษรเต๋า”

“อักษรนี้ไม่ใช่วัตถุที่จับต้องได้ เหมือนควันแต่มิใช่ อากาศก็มิเชิง วารีก็ไม่ถูก ดุจน้ำค้างแต่ก็ไม่สลายตัว ดุจโลหิตแต่ไร้พลังชีวิต ไม่อาจคาดเดาหยั่งถึงได้โดยแท้”

สายตาของเฉินหลิงจวินเจือเค้าประหลาดใจ “แต่ยามข้าได้มันมายามนั้น ข้าสังเกตพบว่ามันบรรจุพลังเต๋าสวรรค์อย่างแท้จริงสายหนึ่ง ทำให้ข้าสามารถสัมผัสที่มาความลึกล้ำ กฎเกณฑ์ เต๋ารู้แจ้ง บัญชาและสรรพสิ่งเกี่ยวกับเต๋าสวรรค์ได้อย่างชัดเจน!”

เฉินซีตะลึงไปอีกครั้ง เขาแทบไม่กล้าเชื่อหูตน

เพราะยามผู้บ่มเพาะดั้นด้นเดินหน้าบนเส้นทางแสวงเต๋า พวกเขาทุกคนล้วนพึ่งปัญญาตนในการทำความเข้าใจปริศนาเต๋าสวรรค์ การตีความที่ได้มาล้วนขึ้นกับเต๋ารู้แจ้งที่พวกเขาสัมผัสได้ จึงเป็นเหตุให้ผู้บ่มเพาะมีเส้นทางแสวงเต๋ามากมาย เพราะมีเหตุผลและตัวแปรมากมายส่งอิทธิพล

หากผู้ใดสามารถทอดสายตามองแก่นความลึกล้ำของเต๋าสวรรค์ได้ ก็เป็นที่ชัดเจนว่าอิทธิพลต่อการบ่มเพาะของคนผู้นั้นจะน่าตกตะลึงเพียงไร

คนผู้นั้นอาจกระทั่งมิต้องห่วงเรื่องพัฒนาตัวแปรเปลี่ยนอำนาจ แค่ต้องบ่มเพาะต่อไป ก็สามารถก้าวย่างสู่จุดสูงสุดแห่งมหาเต๋าได้ไม่ยากแล้ว!

“น่าเสียดาย พอข้าเกิดใหม่ พลังเต๋าสวรรค์ก็ถูกสะกด ไม่อาจตรวจจับได้อีก หาไม่ ข้าคงไม่ต้องดิ้นรนบ่มเพาะในสามภพ มิต้องตกตายซ้ำ ๆ ด้วยฝีมือนิกายอำนาจเทวะแล้ว” เฉินหลิงจวินรำพึง

“พลังเต๋าสวรรค์ถูกสะกดหรือ?” เฉินซีตะลึง

“บางทีผู้อื่นอาจทำไม่ได้ แต่อำนาจชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากนั้นทำได้แน่นอน ข้ารู้สึกอย่างอธิบายไม่ถูก” เห็นได้ชัดว่าเฉินหลิงจวินเคยนึกถึงคำถามนี้ และอธิบายอย่างไร้ลังเล “แต่มันก็สยบได้เพียงส่วนน้อยเท่านั้นแหละ มิเช่นนั้น มีหรือแผนภาพวารีหลากทั้งชิ้นจะถูกเต๋าสวรรค์สับเป็นเก้าส่วน”

เฉินซีอดพึมพำมิได้ “มิน่าเล่า ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากในห้วงจิตสำนึกของข้าจึงเกิดกระแสเหมือนเดียดฉันท์แค้นเคืองยามข้าเผชิญเนตรทัณฑ์สวรรค์เมื่อนานมาแล้ว ที่แท้มันก็แตกสลายเพราะเต๋าสวรรค์นี่เอง”

เฉินหลิงจวินกล่าวอย่างประหลาดใจ “มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ?”

เฉินซีรีบบรรยายทุกเรื่องที่เกิดในภูมิภาคบรรลุเทพยามชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากออกมาขัดขืนเนตรทัณฑ์สวรรค์อย่างเฉียบพลัน

เฉินหลิงจวินได้ยินแล้วก็อดหัวเราะหึมิได้ “เหมือนคู่แค้นเผชิญหน้ากันจริง ๆ”

เฉินซีไหวไหล่ “ข้าก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกันขอรับ”

เฉินหลิงจวินครุ่นคิดครู่หนึ่ง “ข้ารู้สึกเสมอมาว่า ที่เต๋าสวรรค์ทำลายแผนภาพวารีหลากนั้น คงเพราะมันคิดแปรสภาพดูดซับแผนภาพวารีหลาก ควบคุมความลับที่มันมีอย่างสมบูรณ์ แต่แผนภาพวารีหลากไม่มีทางเต็มใจให้เต๋าสวรรค์สมปรารถนา จึงทลายตัวเองกระจายไปทั่วโลกหล้า เต๋าสวรรค์จึงได้แผนภาพวารีหลากไปเพียงเสี้ยวเดียว ก็คือชิ้นส่วนที่ข้าได้มาจากภูเขาผนึกเทพ”

“ถึงอย่างไร มันก็ถูกพลังเต๋าสวรรค์หลอมไปแล้วยามข้าได้มันมาเมื่อกาลก่อน กลายเป็นอักขระ ‘道’ ลึกลับนั่น การที่ข้าได้มันมาครั้งนี้ก็ไม่ต่างจากแย่งอาหารจากปากเสือ จึงทำให้เต๋าสวรรค์เดือดดาลอย่างสมบูรณ์”

“แต่ก็เพราะมัน ข้าจึงสามารถเห็นแก่นความลึกล้ำแท้จริงของเต๋าสวรรค์ ทำให้การบ่มเพาะของข้าพัฒนาก้าวกระโดด ตระกูลของข้าเรืองอำนาจสู่เบื้องสูงได้”

“ภายหลัง เมื่อข้าเวียนสังสารวัฏฝึกฝนใหม่ที่สามภพ ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากนี้ก็คืนอำนาจได้เสียที และกักพลังเต๋าสวรรค์ไว้ในตัวเสียแทน”

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ เฉินหลิงจวินก็เสริมว่า “แน่นอน ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดาของข้า คงมีแค่เต๋าสวรรค์แล้วล่ะที่รู้เรื่องราวเจาะจง”

เฉินซีนิ่งงัน ครุ่นคิดครู่สั้น ๆ แล้วจึงกล่าว “การคาดเดานี้มีเหตุผล แต่ก็ยากตัดสินจริงเท็จ”

เฉินหลิงจวินคลี่ยิ้มทันใด “ที่จริง มันไม่ยากสำหรับเจ้าหรอก เพราะถึงอย่างไร ยามนี้เจ้าก็มีแผนภาพวารีหลากครบถ้วนแล้วนี่”

เฉินหลิงจวินถามกลับ “หรือเจ้าจะยังไม่สังเกตอีกว่า นับแต่เริ่มบ่มเพาะจนบัดนี้ ไม่ว่าผู้ใด มีการบ่มเพาะเช่นไร ทุกคนล้วนไม่มีทางพินิจโชคชะตาของเจ้าได้!”

ม่านตาของเฉินซีหดตัวโดยพลัน เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ “อำนาจของมันหรือที่อำพรางโชคชะตาของข้า?”

เขาประหลาดใจอย่างยิ่ง!

เขาคิดไปว่าโชคชะตาของตนถูกพรางจากสวรรค์เพราะพลังที่ได้มาหลังครอบครองชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากสองสามชิ้น

มิคาดคิดเลยว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่ก่อนจะได้เกิดมาอีก!

“แน่นอน นั่นเป็นเพียงหนึ่งในความสามารถของชิ้นส่วนที่เก้าของแผนภาพวารีหลาก บางทียามเจ้าบรรลุขอบเขตมหาเทพเต๋าและเริ่มทำความเข้าใจเต๋าแห่งลิขิต เจ้าคงสามารถสัมผัสการมีอยู่ของมันได้อย่างสมบูรณ์” เฉินหลิงจวินกล่าวเสียงเบา

“มหาเต๋าแห่งลิขิต….” เฉินซีสูดหายใจลึก ๆ พลางพึมพำ

วันนี้เขาได้ประจักษ์ถึงเรื่องมากมายที่ไม่เคยรับรู้ในอดีต คลี่คลายคำถามมากมายอันสั่งสมในอก ยามนี้ นอกจากรู้สึกประจักษ์แจ้ง ยังรู้สึกเกินจริงไปพอตัว

ที่มาของชิ้นส่วนที่เก้าของแผนภาพวารีหลาก

เหตุผลที่แผนภาพวารีหลากร้าวสลาย

เขาได้ครอบครองชิ้นส่วนที่เก้าของแผนภาพวารีหลากอย่างไร….

ทั้งหมดนี้สุดแสนเหลือเชื่อ ไม่ว่าผู้ใดคงไม่อาจรับได้ในช่วงกาลอันสั้น

เนิ่นนานจากนั้น ในที่สุดเฉินซีก็ฟื้นจากภวังค์ความคิด สีหน้าคืนสู่ความเยือกเย็น แล้วจึงสังเกตยามนี้เองว่าบุพการีทั้งสองกำลังมองมาด้วยสายตาเจือความเป็นห่วงเล็กน้อย

สิ่งนี้ทำให้หัวใจของเขารู้สึกอุ่นวาบ กล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่เป็นไรขอรับ”

“ดีแล้วล่ะ” เฉินหลิงจวินตบบ่าเฉินซี

“ท่านพ่อ ในเมื่อท่านเลี่ยงอำนาจเต๋าสวรรค์มาได้แล้ว เหตุใดท่านจึงพาท่านแม่กลับตระกูลเฉินหรือขอรับ? นอกจากนั้น กระทั่งท่านถูกพวกเขาจับมาขังเป็นนักโทษด้วย?” เฉินซีพลันนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา และอดถามมิได้

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]