บทที่ 2043 ค่ายกลจ้าววิญญาณแห่งชะตากรรม
………………..
บทที่ 2043 ค่ายกลจ้าววิญญาณแห่งชะตากรรม
เจ็ดปี!
นี่หมายความว่าข้าหมดสติมาเจ็ดปีแล้ว!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เฉินซีก็อดรู้สึกถึงอารมณ์ที่ซับซ้อนในใจไม่ได้ มันต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะตั้งสติได้ “แล้วเจ้ารู้ไหมว่าเราอยู่ที่ไหนตอนนี้”
ไม่มีคำตอบใด ๆ
เฉินซีเงยหน้าขึ้นมอง และเขาเห็นว่าหญิงลึกลับคนนั้นหลับตาลงจริง ๆ นางนั่งขัดสมาธิอยู่ที่นั่น และยังคงนิ่งเฉยราวกับว่าหลับ แต่นางก็ไม่ได้หลับจริง ๆ มันเหมือนกับนางตกอยู่ในสภาวะที่แปลกประหลาด
เห็นได้ชัดว่าอาการบาดเจ็บที่นางได้รับนั้นสาหัสเกินไป และหลังจากยืนหยัดมาจนถึงตอนนี้ นางก็แทบล้มลงทันที!
ความมหัศจรรย์ของโชคชะตานั้นไม่อาจหยั่งรู้ได้อย่างแท้จริง ใครจะคิดว่าข้าจะได้รับการช่วยเหลือจากวงล้อมของนิกายอำนาจเทวะโดยสตรีลึกลับคนนี้ เฉินซีพึมพำ จากนั้นเขาก็ส่ายศีรษะ หายใจเข้าลึก และเริ่มพักฟื้น
ก่อนหน้านี้หญิงลึกลับบอกว่าพวกเขาหนีมาเจ็ดปีแล้ว และยังคงหลบหนีอยู่ ดังนั้นมหาปุโรหิตชุดแดงซูถัวอาจจะตามทันเมื่อใดก็ได้!
ในขณะนี้ สตรีลึกลับคนนั้นอยู่ในสภาพย่ำแย่มาก และเห็นได้ชัดว่านางไม่มีกำลังที่จะทำอันใดได้เลย ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เฉินซีได้แต่ต้องใช้เวลาเพื่อพักฟื้นให้ดีที่สุดเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะผ่อนปรนแม้แต่น้อย
…
ฟุ่บ!
กระแสพลังศักดิ์สิทธิ์อันบริสุทธิ์ได้พุ่งออกมาจากภายในต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เงาทมิฬ พวกมันต่างกวาดออกไปและไหลเวียนไปทั่วร่างกายของเขา
เมื่อเจ็ดปีที่แล้ว เฉินซีถูกซุ่มโจมตีโดยนิกายอำนาจเทวะ และไม่เพียงแต่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากจ้าวเอกภพเก้าดาราทั้งสี่คนเท่านั้น เขาเกือบจะตกตายไปแล้ว บัดนี้ แม้ว่าเขาจะหมดสติมาเจ็ดปีแล้ว แต่สภาพร่างกายก็เรียกได้ว่าอ่อนแอมาก
มันช่วยไม่ได้ อาการบาดเจ็บที่เขาได้รับนั้นสาหัสเกินไปจริง ๆ ขาข้างหนึ่งของเขาได้ก้าวข้ามประตูแห่งความตาย! หากสตรีลึกลับไม่รุดมาช่วยเหลือ เขาคงต้องทอดร่างสิ้นชีพอยู่ที่นั่นอย่างแน่นอน
โชคดีที่รากฐานไม่ได้รับความเสียหายหนักมาก ดังนั้นแม้ว่าอาการบาดเจ็บจะรุนแรง แต่พวกมันก็คงจะหายในไม่ช้า ถ้านั่งสมาธิต่อไปเรื่อย ๆ
…
เจ็ดวันต่อมา เฉินซีแทบไม่ฟื้นกำลังเลย แต่อย่างน้อยเขาก็สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระแล้ว
ไม่ได้การแล้ว! ความเร็วในการฟื้นตัวช้าเกินไป จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไอ้เฒ่าซูถัวมันตามเราทัน? เราคงไม่สามารถต้านทานได้เลย
ข้าควรทำอย่างไรดี?
เฉินซีลืมตาขึ้นและจมอยู่กับการครุ่นคิด
หญิงลึกลับนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงหน้า และยังคงนิ่งเฉย ในขณะที่ดูเหมือนมีหมอกสีเทาปกคลุมอยู่รอบตัวนาง ทำให้ไม่อาจมองเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงได้
นางดูเหมือนรูปปั้น และไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย
เฉินซีไม่ได้รบกวนนาง เขาครุ่นคิดเป็นเวลานาน ก่อนที่จะถอนหายใจเบา ๆ เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี
เมื่อเผชิญกับการตามล่าจากมหาเทพเต๋า แม้แต่เฉินซียังไม่มั่นใจว่าจะหนีรอดได้ ไม่ต้องกล่าวถึงตอนนี้ที่ร่างกายยังอยู่ในสภาพที่แย่มาก
ข้าควรทำอย่างไรดี?
เฉินซีคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดี สิ่งนี้ทำให้เขาขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น และเริ่มเดินไปมา
เขาอยู่ในโลกที่ถูกสร้างขึ้นภายในเตาหลอมแห่งชะตากรรม มันถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีเทา และเวิ้งว้างว่างเปล่า
ทันใดนั้น เฉินซีก็นึกถึงตอนที่เขาเห็นเตาหลอมแห่งชะตากรรมเป็นครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน เหล่าไป๋บอกว่ามันมาจากยุคก่อน และชะตากรรมของทั้งยุคก็มาบรรจบกันอยู่ภายในนั้น มันอัศจรรย์อย่างยิ่งและไม่อาจหยั่งรู้ได้
ในยุคก่อน การครอบครองเตาหลอมนี้เทียบเท่ากับการครอบครองพรจากสวรรค์ แข็งแกร่งไร้เทียมทาน ยากถูกสังหาร
ทว่ามันกลับเป็นสิ่งต้องห้ามที่เต๋าแห่งสวรรค์ในยุคนี้ไม่ยอมรับ เมื่อมันปรากฏขึ้นในยุคนี้ มันมักดึงดูดหายนะและความวุ่นวาย
เมื่อหวนนึกถึงเรื่องทั้งหมดนี้ เฉินซีก็อดไม่ได้ที่จะคิด ยุคก่อนหรือ? นั่นไม่ได้หมายความว่าหญิงลึกลับคนนี้มาจากยุคที่แปด ยุคแห่งจ้าววิญญาณหรอกหรือ?
หรือว่านางเป็นพวกคนนอกรีตในแดนรวนเรลืมเลือน เป็นลูกหลานของจ้าววิญญาณโบราณเช่นกัน?
เนื่องจากนางสามารถครอบครองเตาหลอมที่นำชะตากรรมยุคแห่งจ้าววิญญาณทั้งหมดได้ ข้าจึงสันนิษฐานว่าตัวตนของนางในหมู่จ้าววิญญาณโบราณนั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!
สีหน้าของเฉินซีเปลี่ยนไปทันที เขาจำได้ชัดเจนว่าลูกหลานของจ้าววิญญาณโบราณในแดนรวนเรลืมเลือนไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการนำภัยพิบัติมาสู่โลก และกำจัดยุคนี้ให้สิ้นซาก
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ พวกมันวางแผนเป็นเวลานาน โดยตั้งใจที่จะเปิดประตูแห่งวันโลกาวินาศ และปลดปล่อยพลังแห่งหายนะที่อยู่ภายในนั้น
แต่ตอนนี้เขาเพิ่งได้รับการช่วยเหลือจากหญิงลึกลับที่ดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของจ้าววิญญาณโบราณเช่นกัน สิ่งนี้ช่าง… แปลกนัก
ไม่ว่าอย่างไร นางก็เป็นผู้ช่วยชีวิตข้า หากนางมีเป้าหมายเดียวกันกับพวกนั้นจริง ๆ ข้าคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกลายเป็นศัตรูกับนาง….
เฉินซีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้จริงจังมากนัก เนื่องจากนางอยู่คนเดียวและไม่สามารถต่อกรกับมหาเทพเต๋าซูถัวได้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่านางไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
ในไม่ช้า เฉินซีก็ให้ความสนใจต่อวิธีที่จะหลบหนีจากการตามล่าของซูถัว และวิธีการจัดการกับเภทภัยนี้
…
หืม?
เฉินซีเดินเข้าไปในส่วนลึกของหมอกสีเทาที่ขุ่นมัวโดยไม่รู้ตัว และทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นแท่นบวงสรวงโบราณที่แปลกประหลาดโดยไม่ได้ตั้งใจ!
แท่นบวงสรวงเป็นสีดำสนิทและยังคงชุ่มไปด้วยคราบเลือดสีแดงเข้ม ซึ่งขับเน้นให้มันดูน่าสะพรึงเล็กน้อย



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...