บทที่ 2045 หลงในอวกาศ
………………..
บทที่ 2045 หลงในอวกาศ
มหาวิถีสู่เต๋า!
วัฏจักรนิรันดร์แห่งสังสารวัฏ!
หวนกลับสู่ยุคที่แปด…
คำพูดของนางสั่นคลอนหัวใจเฉินซีให้สะท้านไหว ฉับพลัน ความคิดมากมายก็พลุ่งพล่านเข้าไปในสมองของเขาอย่างไม่หยุดหย่อน
ในอดีต เฉินซีเข้าใจว่ามีเพียงยุคที่เก้าเท่านั้นที่มีพลังสังสารวัฏ ดังนั้นพลังนี้จึงสามารถใช้ได้เฉพาะในยุคที่เก้าเท่านั้น
เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนจะสามารถใช้พลังสังสารวัฏเพื่อเดินทางข้ามกำแพงระหว่างยุคสมัย และย้อนกลับไปสู่ยุคอดีตได้!
สิ่งนี้จะสำเร็จได้จริงหรือ?
ยุคที่แปดยังไม่สูญสิ้นไปหรือ? ยังมีสิ่งใดที่หลงเหลืออยู่กัน? แม้ว่าจะสามารถกลับไปด้วยพลังสังสารวัฏได้ก็ตาม แล้วอะไรคือจุดประสงค์ของการกลับไปกันแน่?
อันที่จริงแล้ว หากพิจารณาอย่างรอบคอบก็จะเห็นว่าข้อมูลทั้งหมดนี้ขัดแย้งกันอย่างมาก เพราะหลังจากสิ้นยุคแล้ว ก็ย่อมไม่มีสิ่งใดหลงเหลือ เช่นนั้นแล้วจะกลับไปเพื่ออันใดกัน?
หากพลังสังสารวัฏสามารถทำสิ่งนี้ได้ ก็หมายความว่ายุคที่แปดแท้จริงนั้นหาได้ถูกลบล้างไปโดยสิ้นเชิงอย่างนั้นหรือ?
หลังจากครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ เฉินซีก็หันเหความสนใจไปที่มหาวิถีแห่งเต๋าและวัฏจักรนิรันดร์แห่งสังสารวัฏ
เนื่องจากหมิงกล้าพูดถึงสิ่งนี้ เห็นที การมีอยู่ของพวกมันคงไม่ได้เป็นเพียงการคาดเดาของนางเท่านั้น และจากที่นางคาดการณ์ มีเพียงค้นหามหาวิถีแห่งเต๋าให้ได้เท่านั้นจึงจะสามารถเข้าสู่วัฏจักรนิรันดร์แห่งสังสารวัฏ และย้อนกลับไปสู่ยุคที่แปดได้
แล้ววัฏจักรนิรันดร์แห่งสังสารวัฏนี้คืออะไร? เหตุใดมันจึงมีพลังที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้?
คำถามนับไม่ถ้วนอัดแน่นอยู่ในใจของเฉินซี ชายหนุ่มถึงกับชะงักค้างอยู่เช่นนั้น ไม่อาจฟื้นคืนสติได้อยู่นานทีเดียว
ไม่ใช่เพราะคำพูดของนางคลุมเครือยากหยั่งรู้ แต่เป็นเพราะมันออกจะน่าเหลือเชื่อเกินไป ข้อมูลเหล่านี้ทำลายความรู้ความเข้าใจในอดีตของเฉินซีไปโดยสิ้นเชิง
…
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดเฉินซีก็อดถามคำถามเหล่านี้ออกไปไม่ได้
กระนั้น เขาก็ต้องพบเพียงความผิดหวังเมื่อหมิงไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก นางเพียงพูดว่า “เพื่อพบมหาวิถีแห่งเต๋าแล้ว เจ้าจะเข้าใจทุกอย่างได้เอง”
นอกจากเฉินซีจะรู้สึกหมดหนทางแล้ว ความอยากรู้อยากเห็นของเขาก็ยิ่งกลับกลายทวีคูณ ภูมิหลังของนางช่างลึกลับกว่าที่เขาคิดไว้ยิ่งนัก
“แต่… เหตุใดเจ้าถึงคิดว่าข้าจะช่วยเจ้าเล่า?” เฉินซีพูดพลางหัวเราะขื่น เขาลูบจมูกของตนขณะที่พูดขึ้น “อ้อใช่แล้ว เจ้าช่วยชีวิตข้าไว้นี่นะ หากปฏิเสธ เห็นทีข้าคงจะกลายเป็นคนเนรคุณ”
หมิงเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้น “ขอบคุณ”
มันเป็นเพียงคำง่าย ๆ ที่คล้ายว่าหญิงสาวต้องรวบรวมความกล้าทั้งชีวิตเพื่อพูดออกไป น้ำเสียงนั้นทั้งจริงจังและเคร่งขรึม ราวกับไม่เคยพูดคำเหล่านั้นกับใครมาก่อน
“อย่าเพิ่งขอบคุณข้าเลย ตอนนี้แม้แต่ตัวข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าจะค้นพบสิ่งที่เรียกว่ามหาวิถีแห่งเต๋าได้หรือไม่” เฉินซีถอนหายใจเฉื่อย
หมิงพยักหน้าก่อนจะเงียบไป
ท่าทางของนางทั้งเย็นชาและห่างเหิน เมื่อประกอบกับความงามแสนพิเศษราวภาพฝันที่ไม่มีอยู่จริง มันก็ทำให้นางยิ่งดูลึกลับยากเข้าถึงยิ่งกว่าเก่า ราวกับว่าไม่มีผู้ใดในโลกนี้จะย่างกรายเข้าไปในโลกของนางได้
“แล้วเจ้ารู้ไหมว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน?” เฉินซีหยุดความคิดที่วุ่นวายนั้นลง จากนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะถามคำถามนี้เมื่อนึกขึ้นได้ถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน
“ไม่ ข้าไม่เคยมาที่นี่มาก่อน” หมิงตอบอย่างตรงไปตรงมา
เฉินซีตกตะลึง “แล้ววันนั้นเจ้ามาหาข้าได้อย่างไร?”
“ข้าตามเจ้าไป” นางพูดขึ้นเบา ๆ
ฉับพลันนั้น เฉินซีก็เข้าใจทุกอย่าง ตอนที่เขาออกจากแดนมารดากำเนิดบรรพ์ เขามักจะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งติดตามเขามา ที่แท้ก็เป็นหมิง!
เพราะแบบนี้นางถึงไม่โจมตีหรือแสดงตัวเลยสินะ… เฉินซีคิดในใจ ก่อนจะหันเหความสนใจไปที่ค่ายกลจ้าววิญญาณ และเริ่มสำรวจโลกภายนอกอย่างระมัดระวัง
ในตอนนี้ สำหรับการกลับไปยังแดนเทพโบราณ เขาไม่อาจฝากความหวังใด ๆ ไว้กับหมิงได้ ชายหนุ่มทำได้เพียงฝากความหวังไว้กับตัวเองเท่านั้น
…
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วขณะที่พวกเขายังคงเดินทางอย่างไร้จุดหมายผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแสนลึกลับ ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่จะรู้เลยด้วยซ้ำว่าคืนวันได้ผันผ่านไปนานเพียงใดแล้ว
ทุกสิ่งที่พวกเขาพบพานตลอดเวลาล้วนเต็มไปด้วยความลึกลับและความอ้างว้างอันแสนเงียบงันซึ่งพวกเขาไม่เคยได้รู้จักมาก่อน ราวกับว่าคนทั้งสองกำลังหลงทางอยู่ในวังวนที่ไม่อาจหาทางออกพบ
หากเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง เขาก็คงจะรู้สึกทรมาน วิตกกังวล และไม่อาจมองโลกในแง่ดีถึงการณ์ข้างหน้าได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดี มันหาได้ปัญหาสำหรับคนอย่างเฉินซีและหมิงที่มีดวงจิตแห่งเต๋าแต่อย่างใด พวกเขาก็เพียงรู้สึกเบื่อหน่ายและหงุดหงิดใจในบางครั้งเท่านั้น
มันเหมือนกับว่าพวกเขาเป็นแมลงคู่หนึ่งที่ตกอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต การที่ต้องบินสุ่มอย่างไม่อาจหาทางออกได้ทำให้พวกเขารู้สึกหงุดหงิดและไร้หนทาง
ระหว่างที่กำลังวนเวียนกับการหาทางออก เฉินซีก็ได้ถามหมิงเกี่ยวกับอันตรายและความยากลำบากต่าง ๆ ที่นางต้องเผชิญหลังจากยุคที่แปดสิ้นสุดลงก่อนที่นางจะสามารถมาถึงยุคที่เก้าได้อย่างปลอดภัย
เฉินซีตระหนักดี ยิ่งเวลาผ่านพ้นไป เขาก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนักใจขึ้นมาทุกขณะ
กระทั่งหมิงเองก็เหมือนจะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง นางมักจะยืนอยู่เงียบ ๆ ในจุดใดจุดหนึ่งทั้งคิ้วขมวด หมอกที่รายล้อมรอบกายของหญิงสาวทำให้ยากจะอ่านความคิดของนางแน่ชัด
บรรยากาศเริ่มเงียบลงเรื่อย ๆ ทันใดนั้น เฉินซีอดไม่ได้ที่จะพูดติดตลก “หมิง เจ้าคิดว่าตาเฒ่าซูถัวยังคงไล่ตามพวกเราอยู่หรือไม่?”
หมิงชะงักไปครู่หนึ่ง “เรื่องนั้นข้าตอบไม่ได้”
เฉินซียิ้ม “แล้วเจ้าคิดว่าเขาจะหลงทางเหมือนพวกเราหรือไม่?”
หมิงขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบซ้ำอีกครั้ง “เรื่องนั้นข้าก็ตอบไม่ได้”
เฉินซีพึมพำ “นั่นสินะ ท่ามกลางสิ่งที่เราไม่รู้ ไม่มีสิ่งใดจะยืนยันมั่นใจได้เลย”
…
เฉินซีไม่คาดคิดมาก่อนว่าซูถัวยังไม่คิดยอมแพ้และไล่ตามพวกเขามาจริง ๆ เขาใช้เคล็ดวิชาลับเพื่อติดตามร่องรอยที่คนทั้งสองทิ้งไว้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม เตาหลอมแห่งชะตากรรมนั้นเคลื่อนที่เร็วเกินไปทั้งยังทิ้งร่องรอยไว้น้อยมาก แม้แต่มหาเทพเต๋าที่ไม่ธรรมดาอย่างเขาก็แทบจะตามไม่ทัน
เมื่อเวลาผ่านไปยี่สิบปี ซูถัวก็ค่อย ๆ หมดความอดทน ความกระสับกระส่ายบังเกิดขึ้นในใจ
เขาหรือจะจินตนาการได้ว่าการไล่ล่าดังกล่าวจะนานถึงเพียงนี้? ยิ่งไปกว่านั้น คู่ต่อสู้ของเขาเป็นเพียงสหายเต๋าสองคนที่ยังไม่บรรลุขอบเขตมหาเทพเต๋าเสียด้วยซ้ำ!
“บัดซบ!” ซูถัวเคลื่อนย้ายมิติไปในอวกาศพร้อมทั้งนึกถึงความพ่ายแพ้ที่ตนต้องเผชิญตลอดทาง ใบหน้าที่แก่ชราก็ปกคลุมไปด้วยความเศร้าหมอง
“เดี๋ยวนะ! แปลกนัก เหตุใดตลอดทางที่ผ่านมาจึงได้เงียบสงบเช่นนี้?” ทันทีที่ซูถัวตระหนักได้ถึงปัญหาเดียวกัน เขาก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจระคนสับสน ชายชรากำลังคิดว่าตนควรกลับไปในทางที่จากมาและล้มเลิกการตามล่าดีหรือไม่?
“เอ๊ะ?” ขณะที่เขากำลังลังเล ก็พลันปรากฏร่องรอยของความผันผวนที่ผิดปกติขึ้น ฉับพลัน ภาพของเตาหลอมโบราณก็ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในใจของเขา
สิ่งนี้ทำให้ซูถัวรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที ความเศร้าโศกบนใบหน้าหายวับไปหมดจด ตอนนั้นเอง จิตสังหารอันเยือกเย็นปรากฏขึ้นที่มุมปาก
“เจ้ามดปลวก! ให้ข้าดูหน่อยเถิดว่าคราวนี้พวกเจ้าจะหนีไปไหนได้!”
โครม!
เขาเคลื่อนตัวผ่านอวกาศราวอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าที่เปล่งแสงแวบวับผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันมืดมิด ก่อนที่จะหายตัวไปในทันทีอย่างไม่ทิ้งฝุ่น
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...