บทที่ 2048 สัตว์ประหลาด
………………..
บทที่ 2048 สัตว์ประหลาด
หลังจากที่พวกเขาพูดคุยกันเสร็จแล้ว เฉินซีและหมิงก็ออกเดินทางเพื่อเริ่มสำรวจโลกสาบสูญทันที
ทั้งสองไม่อยากติดอยู่ที่นี่ตลอดไป แต่ถ้าต้องการออกไป ก็ต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวกับโลกสาบสูญนี้ก่อน
ฟึ่บ!
หญ้าเขียวขจีที่สูงกว่าสิบจั้งปลิวไสวไปตามสายลม พวกมันเหมือนกับหอกที่แกว่งไกวแถวแล้วแถวเล่า ตั้งตระหง่านเสียดฟ้า และส่งเสียงกรอบแกรบดังก้องคล้ายท่วงทำนองศึก
เฉินซีเป็นผู้นำอยู่ข้างหน้า และเมื่อพวกเขาเคลื่อนตัวผ่านหญ้า พวกเขาก็ดูเหมือนมดสองตัวที่กำลังเคลื่อนตัวผ่านป่า
ทุกสิ่งในโลกสาบสูญนั้นดูใหญ่โตมโหฬาร และทำให้เฉินซีรู้สึกว่าเขาตัวเล็กอยู่เสมอ
ทุกสิ่งในโลกภายนอกอาจมีขนาดใหญ่มากในสายตาของหลิงไป๋กระมัง? ทันใดนั้น เฉินซีก็นึกถึงหลิงไป๋อย่างไม่มีเหตุผลใด ๆ และสงสัยว่าเจ้าตัวน้อยที่สูงราวสี่ชุ่นจะคิดถึงเขาหรือไม่
โครม!
หญ้านั้นหนาพอ ๆ ปากชามและตั้งตรงเหมือนหอก ทั้งยังสูงถึงสิบจั้ง หมิงตั้งใจที่จะสับมันออกเป็นสองท่อน แต่เนื่องจากนางไม่สามารถใช้พลังได้ จึงต้องอาศัยเพียงความแข็งแกร่งทางกายภาพเท่านั้น
เฉินซีอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาวแรง ถ้าโลกภายนอกได้ยินว่าคนอย่างหมิงไม่สามารถสับหญ้าได้จริง ๆ ข้าสงสัยจริง ๆ ว่าพวกเขาจะคิดอย่างไร
เขาอดถามไม่ได้ “เจ้ากำลังทำอะไร?”
หมิงใช้มือสับหญ้าต่อไป “เราต้องการอาวุธที่เหมาะสม การสู้ด้วยมือเปล่าทั้งที่มีพลังเท่านี้โอกาสชนะมันน้อยเกินไป”
เป็นจริงดั่งที่นางกล่าว เนื่องเพราะทั้งสองไม่สามารถใช้พลังฝีมือได้ในตอนนี้ ดังนั้นจึงไม่แตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป แม้แต่สมบัติของตนเองก็ใช้ไม่ได้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ การเดินตัวเปล่าก็อันตรายเกินไปจริง ๆ
เฉินซีย่อมเข้าใจเรื่องนั้นดี ดังนั้นจึงกลับไปหานาง “ข้าทำเอง”
ขณะที่กล่าว เขาก็หยิบหินที่มีคมขึ้นมา แล้วทุบมันอย่างแรงกับหญ้า เกิดเป็นเสียงปึงปังเหมือนโลหะกระทบกันดังก้อง แต่กลับทำให้เกิดรอยตื้น ๆ บนหญ้าเท่านั้น
เมื่อเห็นเช่นนี้ เฉินซีถึงกับรู้สึกทำอะไรไม่ถูก ถ้าข้าสามารถใช้พลังฝีมือได้ เรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ทว่าทุกสิ่งในโลกสาบสูญนั้นแข็งอย่างเหลือเชื่อ และหากพวกมันอยู่ในโลกภายนอก พวกมันก็คงสามารถนำมาใช้แทนเหล็กได้เลย
ครืน!
หญ้าล้มลงกับพื้นเหมือนต้นไม้ใหญ่
เฉินซีใช้ความพยายามอย่างมากในการเด็ดใบของมันออก จากนั้นเขาก็บิดมันให้เป็นเชือก เขาใช้มันเหมือนเลื่อยลวด เลื่อยหญ้าพร้อมกับหมิง กว่าจะเอามาใช้เป็นอาวุธได้
หอกไม้แต่ละอันมีความยาวประมาณสิบฉื่อ หนาเหมือนชามและหนักมาก ราวกับว่าพวกเขาถือแท่งเหล็กหนักร้อยจินที่ทำจากเหล็ก
“ไม่เลว” เฉินซีชั่งน้ำหนักหอกในมือ และรู้สึกว่าเขาสามารถเหวี่ยงมันได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะพยักหน้า
“งั้นหรือ? แต่สำหรับข้าดูเหมือนว่ามันแม้แต่เสือที่ธรรมดาที่สุดในภพมนุษย์ยังฆ่าไม่ได้เลยกระมัง” หมิงถอนหายใจเบา ๆ
เฉินซีหัวเราะเสียงขื่นทันที “มาถึงขั้นนี้แล้ว เราจะหวังอะไรได้อีกล่ะ?”
ทั้งสองไม่รอช้าอีกต่อไป และพวกเขาก็เดินหน้าต่อไปโดยมีหอกไม้อยู่ในมือ
เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถบินได้ เฉินซีและหมิงจึงทำได้เพียงใช้วิธีเดินที่ปลอดภัยที่สุดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม พวกเขาเดินมาหลายชั่วยามแล้ว แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าสามารถออกจากดงหญ้านี้ได้เลย
สิ่งเดียวที่พวกเขารู้สึกโชคดีก็คือ ในขณะที่พวกเขาไม่สามารถใช้การบ่มเพาะได้นั้น แต่มันยังคงรักษาความแข็งแกร่งทางกายภาพของพวกเขาได้ ดังนั้นพวกเขาจึงเหนื่อยมากนัก
…
หลังจากนั้นอีกไม่กี่ชั่วยาม ม่านรัตติกาลก็เคลื่อนคล้อยลงมา
จู่ ๆ เฉินซีก็หยุดก้าวเท้าไปข้างหน้า และจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ดวงจันทร์ทั้งเก้าดวงทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า และพวกมันก็กระจายออกไปในตำแหน่ง ‘ตำหนักทั้งเก้า’ และเปล่งแสงเรืองรองสีน้ำเงินอ่อน ๆ ที่ปกคลุมไปด้วยหมอกและไร้ตัวตน ซึ่งดูบริสุทธิ์และเงียบสงบ
แต่ในขณะเดียวกัน เฉินซีก็สัมผัสได้ว่า ‘ปราณสาบสูญ’ ที่มีอยู่เต็มฟ้าดินนั้น จู่ ๆ ก็หนามากขึ้นฉับพลัน
ปราณสาบสูญเป็นพลังงานที่ไม่คุ้นเคยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งปกคลุมโลกอย่างหนาแน่นและหล่อเลี้ยงทุกสิ่งภายในโลกนี้
แน่นอนว่าหมิงเป็นคนตั้งชื่อมัน
เฉินซีพยายามทำความเข้าใจ แปรสภาพและดูดซับมันอย่างต่อเนื่อง ทว่าทำอะไรไม่ได้เลย
เหตุผลก็คือมันเป็นพลังงานที่แตกต่างจากแปดยุคก่อนและยุคปัจจุบัน!
เฉินซีและหมิงตื่นตระหนก ในที่สุด สัตว์ร้ายที่นอนหลับใหลอยู่ทั่วโลกสาบสูญก็กำลังจะออกจากรังของพวกมันภายใต้ม่านรัตติกาลแล้วหรือ?
โครม!
ทันทีที่ความคิดนี้วาบขึ้นในใจ จู่ ๆ ร่างขนาดมหึมาก็ทะยานมาจากเส้นขอบฟ้าอันไกลโพ้น
มันมีร่างกายที่แข็งแกร่งและงดงาม ปกคลุมไปด้วยเกล็ดละเอียดหนาแน่น คล้ายเกราะที่ทำจากทองคำสุกใส แขนขาเหมือนกับเสาค้ำสวรรค์ และสิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็คือ มันมีหัวสิงโตสีทองขนาดมหึมาถึงเก้าหัว!
เมื่อมองจากระยะไกล มันถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทองที่เจิดจรัสและสว่างไสวท่ามกลางความมืดมิดของราตรี ดุจสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในตำนานที่ครอบครองพลังศักดิ์สิทธิ์อันมหาศาล ส่องประกายเรืองรอง
แม้ว่าเฉินซีจะไม่สามารถใช้การบ่มเพาะของตัวเองได้ แต่เขาก็ยังคงมีความสามารถแยกแยะเฉียบแหลม และตัดสินใจได้ทันทีว่าสิงโตทองเก้าหัวขนาดมหึมานี้ มีกลิ่นอายเทียบเท่าจ้าวเอกภพ!
เฉินซีตกตะลึง หากสัตว์ร้ายตัวนี้มุ่งเป้ามา พวกเขาก็คงถูกฆ่าตายทันทีแน่
กรี๊ด!
กลิ่นอายที่ปล่อยออกมานั้น เทียบได้กับสิงโตทองเก้าหัว!
ทันใดนั้น หัวใจของเฉินซีก็สั่นสะท้านอีกครั้ง โลกสาบสูญอันตรายอย่างที่คิดจริง ๆ แม้จะดูเงียบสงบ แต่แท้จริงแล้วกลับเต็มไปด้วยอันตรายที่คาดเดาไม่ได้มากมาย
หากอยู่ในโลกภายนอก เฉินซีย่อมไม่กลัวสิ่งมีชีวิตพวกนี้ แต่ยามนี้การบ่มเพาะถูกยับยั้งอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นเมื่อเผชิญกับสถานการณ์รายล้อมด้วยอันตรายเช่นนี้ เขาก็อาจตกตายได้ทุกเมื่อ!
ดวงจันทร์สีน้ำเงินเข้มทั้งเก้าดวงลอยเด่นบนฟากฟ้า สิงโตทองเก้าหัวและอสูรนภาสีดำขนาดมหึมาจับจองพื้นที่ทันทีที่ปรากฏตัว พวกมันไม่ได้ยุ่งเกี่ยว แต่ทำการกลืนกินปราณสาบสูญซึ่งแผ่ออกมาจากดวงจันทร์ทั้งเก้าดวงไปพร้อม ๆ กัน!
พวกมันกำลังบ่มเพาะ
หากมองดี ๆ ก็จะเห็นว่าสัตว์ประหลาดทั้งสองกำลังดูดซับปราณสาบสูญจากดวงจันทร์ตัวละสามดวง และมีเพียงสามดวงสุดท้ายที่อยู่ตรงกลางเท่านั้นที่ไม่ถูกครอบครอง
มันเหมือนกับว่าตำแหน่งนั้นเป็นพื้นที่หวงห้ามที่ไม่กล้าบุกรุก ช่างน่าพิศวงนัก
นอกจากนั้น ยังมีสัตว์ร้ายอื่น ๆ อีกมากมายที่เคลื่อนไหวอยู่ใต้ม่านรัตติกาล ทว่าไม่มีสักตัวเดียวที่กล้ารบกวนสัตว์ร้ายทั้งสองตัวนี้
ม่านรัตติกาลสีดำสนิท ดวงจันทร์สีน้ำเงินเข้มทั้งเก้าดวง และสัตว์ร้ายที่กลืนกินปราณสาบสูญ….
เหตุพิสดารและอันตรายเช่นนี้ ทำให้ทั้งเฉินซีและหมิงตกตะลึงอย่างมาก พวกเขากลั้นลมหายใจและไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...