เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 2058

บทที่ 2058 บึงม่านหมอก

………………..

บทที่ 2058 บึงม่านหมอก

ในท้องนภาราตรี ดวงจันทร์สีน้ำเงินเข้มเก้าดวงสาดแสงสว่างปกคลุมทั่วทั้งฟ้าดิน

ต่อให้สามราชาสูงสุดอย่างราชาโหมวหลัว ราชาจิ่วหลิง และราชากู่เยวียนจะครองตำแหน่งได้เปรียบที่สุด แต่พวกมันก็ยังไม่สามารถดูดกลืนแสงสว่างทั้งหลายที่ไหลหลั่งมาจากดวงจันทร์ได้

หมายความว่าแสงสว่างบางส่วนได้เล็ดลอดมาสู่ดินแดนของโลกสาบสูญ ทำให้สัตว์อสูรบนพื้นได้ดูดกลืนแก่นของพลังต้นกำเนิดที่รั่วไหลออกมา

ตอนนี้เฉินซีสามารถรับรู้ถึงตัวตนของแก่นจากพลังต้นกำเนิดเหล่านั้น พวกมันเหมือนกับฝนและน้ำค้างเม็ดหนาที่เคลื่อนลงมาจากท้องนภาขณะส่องแสงสีน้ำเงินกระจ่าง มันเต็มไปด้วยความเย้ายวนอันลึกลับเหลือเชื่อที่ยากจะขัดขืนได้

น่าเสียดายที่เฉินซียังไม่สามารถสร้างเคล็ดวิชาสรรค์สร้างต้นกำเนิดที่สมบูรณ์ได้ นั่นหมายความว่าเขาไม่สามารถดูดกลืนแก่นของพลังต้นกำเนิดที่ไหลหลั่งลงมาผ่านการบ่มเพาะได้

มันเหมือนกับภูเขาสมบัติตั้งอยู่ตรงหน้าแต่กลับทำได้เพียงมอง ความรู้สึกนี้นับว่าไม่ใช่เรื่องดีเท่าไรนัก

ทั้งหมดนี้ทำให้เฉินซีตัดสินใจจะทำให้เคล็ดวิชาสรรค์สร้างต้นกำเนิดสมบูรณ์โดยไวที่สุดเท่าที่จะทำได้

ระหว่างทาง เฉินซีไม่ทำตัวเกียจคร้านขณะจดจ่อกับการศึกษารายละเอียดเฉพาะของเคล็ดวิชาสรรค์สร้างต้นกำเนิด ส่วนเรื่องอื่นเขาให้หมิงเป็นผู้จัดการ รวมถึงเรื่องการนำทางด้วย…

พวกเขาบินติดกันแบบนี้มานานกว่าสิบวันโดยไม่พบอันตรายระหว่างทาง หลังจากตรวจสอบสักพัก ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าตอนนี้พวกตนยังไม่สามารถออกจากอาณาเขตของแคว้นโหมวหลัวเลย!

สิ่งที่เรียกว่าแคว้นโหมวหลัวคือพื้นที่ไร้พรมแดนที่ควบคุมโดยราชาโหมวหลัว

หมายความว่าทั่วทั้งโลกสาบสูญถูกแบ่งออกเป็นสามพื้นที่ใหญ่ ประกอบด้วยแคว้นโหมวหลัวที่ควบคุมโดยราชาโหมวหลัว แคว้นจิ่วหลิงที่ควบคุมโดยราชาจิ่วหลิง และแคว้นกู่เยวียนที่ควบคุมโดยราชากู่เยวียน

ตามความคิดของเฉินซี เขาจะไปแคว้นจิ่วหลิงหรือแคว้นกู่เยวียนก็ได้ขอเพียงแค่สามารถออกจากแคว้นโหมวหลัวได้ก็พอ

ในเวลาเดียวกัน พวกเฉินซีรวบรวมสมบัติได้เป็นจำนวนมากระหว่างเดินทาง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการใช้พลังต้นกำเนิดเพื่อพัฒนากำลัง

อย่างเมื่อครู่นี้ พลังต่อสู้ของเฉินซีกับหมิงล้วนไปถึงระดับที่เทียบเท่ากับผู้เยี่ยมยุทธ์ในขอบเขตเซียนปราชญ์!

น่าเสียดายที่ยิ่งเวลาผ่านไป เฉินซีก็ค่อยพบว่ามันเป็นการยากที่จะพบสมบัติที่เหมาะกับการพัฒนาประสิทธิภาพการต่อสู้

ไม่ใช่ว่าในแคว้นโหมวหลัวมีสมบัติน้อย แต่พลังต่อสู้ของเฉินซีและหมิงเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทำให้ระดับพละกำลังสูงเกินไป ดังนั้นคุณภาพของสมบัติที่พวกเขาต้องการจึงต้องเจาะจงมากยิ่งขึ้น

เฉินซีไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากจนเกินไป ขอเพียงพวกเขาสามารถสร้างเคล็ดวิชาสรรค์สร้างต้นกำเนิดได้ ต่อให้จะหาสมบัติอีกชิ้นไม่เจอ แต่พวกเขาก็สามารถประสิทธิภาพการต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว

เพราะดวงจันทร์เก้าดวงในท้องนภาตอนกลางคืนคือสมบัติที่ล้ำค่าน่าหลงใหลมากที่สุดในโลกสาบสูญแห่งนี้!

ระหว่างทาง พวกเขาเจอกับความขัดแย้งกับสิ่งมีชีวิตในแคว้นโหมวหลัวมากกว่าหนึ่งครั้ง ซึ่งมีหลายครั้งที่อีกฝ่ายทรงพลังเกินไปจนพวกเฉินซีต้องหลบหนี

แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ไม่ควรค่าที่จะกล่าวถึง สิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขากังวลก็คือตำแหน่งที่อยู่จะรั่วไหลออกไประหว่างการต่อสู้…

หากราชาโหมวหลัวมาด้วยตัวเอง พวกเขาอาจจะไม่มีโอกาสหลบหนีก็เป็นได้!

“หวังว่าพวกเราจะสามารถออกจากพื้นที่นี้ได้ก่อนราชาโหมวหลัวจะออกโรง…”

ขณะยังคงเคลื่อนไหวเพื่อการทำการหลบหนี พวกเขาเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตตามทางที่อันตรายและทรงพลังมากขึ้น ซึ่งทำให้เฉินซีรับรู้ได้ถึงวิกฤตบางอย่าง

แคว้นโหมวหลัว

บนยอดเขาโดดเดี่ยวสูงเสียดฟ้าปรากฏห้องโถงสีดำยิ่งใหญ่โอ่อ่าบนหน้าผา

มันคือสถานที่ที่ราชาโหมวหลัวใช้บ่มเพาะ!

“พวกมันหลบหนีไปทางไหน?”

ร่างสีดำสนิทของราชาโหมวหลัวมีขนาดหนึ่งพันจั้ง ดวงตาประหนึ่งทะเลสาบสองแห่งขณะยืนตระหง่านอย่างภาคภูมิอยู่ใจกลางห้องโถง เสียงของเขาเย็นชาประหนึ่งฟ้าร้อง

“ฝ่าบาท พวกมันหลบหนีไปทางแคว้นจิ่วหลิง”

อสรพิษบินสีดำนอนอยู่บนพื้นขณะตอบด้วยความเคารพ

“แคว้นจิ่วหลิงหรือ? เหอะ เจ้าคนนอกสองคนนี้คิดว่าราชสีห์เก้าหัวหน้าบูดนั่นจะไม่ฆ่างั้นหรือ?”

ราชาโหมวหลัวเย้ยหยันขณะหมอกสีดำเคลื่อนตัวไปทั่วร่าง เพียงพริบตา เขากลายเป็นผู้ชายสวมชุดคลุมสีดำและมีใบหน้าหล่อเหลา

ดวงตาของเขาประหนึ่งสายฟ้าแลบที่เรืองรองด้วยแสงลึกล้ำแปลกประหลาด พลางแผ่กลิ่นอายน่าสะพรึงราวกับเป็นผู้ควบคุมขุนเขาธารา

“เอาเถอะ พวกคนนอกก็มักทำตัวแบบนี้อยู่แล้ว ตามข่าวลือที่ได้รับมา สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนของโลกภายนอกจะมีความภาคภูมิจนสามารถเปลี่ยนเป็นร่างมนุษย์ได้”

อสรพิษบินสีดำหมอบลงกับพื้นด้วยความเคารพยิ่งขณะไม่เอ่ยคำอะไร

“ไล่ตามพวกมันต่อไป จำเอาไว้ ต่อให้ไม่สามารถฆ่าให้ตายได้ก็ต้องขวางทางไปแคว้นจิ่วหลิงให้จงได้!”

ราชาโหมวหลัวเอ่ยคำอย่างเฉยชา

“ฝ่าบาท ถ้าพวกมันเปลี่ยนทางหลบหนีไปแคว้นกู่เยวียนขึ้นมาจะทำอย่างไร?”

“เห็นได้ชัดว่าราชาโหมวหลัวรู้ว่าพวกเราจะหลบหนีไปแคว้นจิ่วหลิง ดังนั้นเขาต้องส่งสิ่งมีชีวิตทรงพลังจำนวนมากไปขวางทางเป็นแน่ หากพวกเรายังยืนกรานไปทางเดิม อันตรายที่ต้องเผชิญจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน” เฉินซีครุ่นคิด

เรื่องนี้ดูแปลกประหลาดเล็กน้อย

แต่ตอนนี้ หลังจากประสบกับหายนะความเป็นความตายในบึงม่านหมอก เฉินซีก็ยิ่งมั่นใจว่าจะไปต่อทั้งอย่างนี้ไม่ได้

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” หมิงถามพลางคิ้วขมวด

“อ้อมไปแคว้นกู่เยวียน!”

เฉินซีสูดหายใจเข้าแล้วเอ่ยคำ “ตอนนี้อีกฝ่ายเคลื่อนกำลังส่วนใหญ่ไปทางแคว้นจิ่วหลิงแล้ว นี่คือช่วงเวลาเหมาะสมที่พวกเราจะไปแคว้นกู่เยวียน กว่าอีกฝ่ายจะรู้ตัว พวกเราก็คงก้าวเข้าสู่ที่นั่นไปแล้ว”

หลังจากครุ่นคิดสักพัก ในที่สุดหมิงก็เห็นด้วย ถึงกระนั้นก็ยังอดกังวลไม่ได้ “แคว้นกู่เยวียนคือสถานที่ต้องห้าม หากไม่ได้รับอนุญาตจากราชากู่เยวียน แม้กระทั่งตัวตนสูงสุดอย่างราชาโหมวหลัวกับราชาจิ่วหลิงก็ไม่กล้าย่างเท้าเข้าไป…”

เฉินซีคล้ายกับเข้าใจสิ่งที่หมิงกำลังจะบอกก่อนจะขัดขึ้น “ยิ่งอันตรายเท่าไหร่ก็ยิ่งปลอดภัยกับพวกเรามากเท่านั้น”

“เช่นนั้นไปตอนนี้เลยดีหรือไม่?” หมิงถาม

เฉินซียักไหล่อย่างจนใจทันที “ตอนนี้เป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยพวกเราต้องรักษาบาดแผลบนร่างกายก่อน”

ในตอนนี้ เฉินซีกับหมิงพบกองหินสันโดษ พวกเขาจึงสร้างถ้ำใต้ดินก่อนจะซ่อนอยู่ข้างในพร้อมเหมิงเหมิง

ไม่ช้าราตรีก็คล้อยต่ำ ดวงจันทร์สีน้ำเงินเข้มเก้าดวงก็ปรากฏอีกครั้ง

“หมิง ข้าจะไม่รออีกแล้ว…”

เฉินซีพลันเอ่ยคำ “ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ข้าได้พัฒนาเคล็ดวิชาสรรค์สร้างต้นกำเนิดระดับหนึ่งจนสมบูรณ์แล้ว ข้าเลยวางแผนจะทำการฝึกฝนคืนนี้”

หมิงคิ้วขมวดแล้วเอ่ยคำ “นี่มันไม่อันตรายไปหน่อยหรือ?”

เฉินซีส่ายหน้า “ไม่มีความปลอดภัยในโลกใบนี้ แต่เจ้าไม่ต้องห่วง หากมีอะไรเกิดขึ้น ข้าจะหยุดการฝึกฝนทันที”

หมิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ นางรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้บีบบังคับให้เฉินซีต้องยอมเสี่ยงเช่นนี้

ซึ่งเหตุผลมีเพียงหนึ่งเดียว วันนี้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย มันถึงเวลาที่ต้องต่อสู้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟันแล้ว!

“เจ้าช่วยคุ้มกันข้าที”

เฉินซีทำตามที่บอกก่อนจะสูดหายใจเข้าแล้วนั่งขัดสมาธิกับพื้น

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]