เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 2060

บทที่ 2060 โอกาสที่สร้างโดยตัวแปร

………………..

บทที่ 2060 โอกาสที่สร้างโดยตัวแปร

พลังต้นกำเนิดเปรียบเสมือนสายฝนที่โปรยปรายลงมาจากดวงจันทร์ทั้งเก้าดวงภายใต้ม่านรัตติกาล

ราชาโหมวหลัว ราชาจิ่วหลิง และราชากู่เยวียน ราชาทั้งสามแห่งโลกสาบสูญลอยอยู่ใต้ท้องฟ้า และครอบครองแก่นแท้ของพลังต้นกำเนิดที่แผ่ออกมาจากดวงจันทร์สามดวงตามลำดับ

แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ก็ยังมีแก่นแท้ของพลังต้นกำเนิดบางส่วนที่รั่วไหลออกมา และพวกเขาก็ไม่สามารถดูดซับมันได้

แก่นแท้ของพลังต้นกำเนิดเหล่านั้นได้กลายเป็นเป้าหมายที่ถูกแย่งชิงโดยสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ทั่วโลกสาบสูญ

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมานับไม่ถ้วน และไม่เคยเปลี่ยนแปลง ทว่าในคืนนี้มีกลับมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น!

แก่นแท้ของพลังต้นกำเนิดบางส่วนซึ่งราชาผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามไม่สามารถดูดซับ ปรากฏว่าพวกมันพุ่งไปยังทิศทางหนึ่งอย่างไม่อาจควบคุมได้ และทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่รอบ ๆ รู้สึกขุ่นเคือง

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเวลาผ่านไป แก่นแท้ของพลังต้นกำเนิดก็พุ่งเข้าหาทิศทางนั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในโลกสาบสูญก็เริ่มรู้สึกตกใจ หวาดกลัว และขุ่นเคือง

แม้แต่ราชาผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามที่อยู่ภายใต้ท้องฟ้าก็ยังตื่นตระหนก จนต้องหยุดการบ่มเพาะ

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

ทันใดนั้น สายตาของพวกเขาก็เหมือนกับสุริยัน จับจ้องไปยังบริเวณเดียวกันโดยพร้อมเพรียง

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง จิตสัมผัสที่น่าสะพรึงกลัวและน่าเกรงขามของทั้งสามก็กวาดไปพร้อม ๆ กัน

โครม!

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่มีแม้แต่โอกาสจะตรวจสอบด้วยซ้ำ จู่ ๆ หัวใจของพวกเขาก็สั่นสะท้าน เพราะสังเกตเห็นว่าดวงจันทร์ทั้งเก้าบนท้องฟ้ากำลังสั่นไหวจริง ๆ เหมือนกำลังตื่นจากการหลับลึก ปลดปล่อยกลิ่นอายอันสูงส่งและสง่างามออกมาอย่างไม่อาจพรรณนาได้

“หืม?”

“นั่นอะไร?”

“นี่ดูเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ!”

นัยน์ตาของราชาโหมวหลัว ราชาจิ่วหลิง และราชากู่เยวียนหรี่ลงพร้อมกัน ทั้งสามรู้สึกถึงคลื่นความกลัวที่คืบคลานเข้าสู่หัวใจของพวกเขาอย่างอธิบายไม่ได้ จึงพุ่งตัวออกไปโดยสัญชาตญาณ

อาวู่!

เสียงโหยหวนและเสียงคำรามระลอกแล้วระลอกเล่าดังก้องไปทั่วโลกสาบสูญเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดล้วนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ความสับสน และความหวาดกลัว

เห็นได้ชัดว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลกสาบสูญได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดในดวงจันทร์ทั้งเก้าดวง

นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยโบราณ!

มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

เป็นไปได้ไหมว่า… การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น?

ความไม่สบายใจและความวิตกกังวลได้แผ่ซ่านไปทั่วทุกซอกทุกมุมของโลกสาบสูญราวกับพายุ สิ่งมีชีวิตทั้งหลายถึงกับหมอบลงและตัวสั่น

หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง ทุกอย่างก็หยุดลงกะทันหัน ดวงจันทร์ทั้งเก้าดวงบนท้องฟ้าหยุดสั่น และกลับสู่สภาวะอันเงียบสงบอีกครั้ง

พลังต้นกำเนิดสีน้ำเงินเข้มที่มีมากมายเกินคณานับได้โปรยปรายลงมาจากภายในดวงจันทร์ทั้งเก้าดวงดั่งสายฝน พวกมันดูเหมือนกับความฝัน ซึ่งงดงามและศักดิ์สิทธิ์

ทุกอย่างสงบมาก เหมือนเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

สรรพสัตว์ต่างมึนงงและสับสน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคืนนี้ลึกลับเกินไป และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งเป็นเรื่องยากที่พวกมันจะสงบสติอารมณ์ได้ในเวลาอันสั้น

“การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดของดวงจันทร์ทั้งเก้านั้น เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มันหมายถึงอะไรกันแน่!” ที่ภูเขาสูงตระหง่านใจกลางโลกสาบสูญ ราชาจิ่วหลิง ราชาโหมวหลัว และราชากู่เยวียนยืนอยู่บนยอดเขานั้น

ภูเขาแห่งนี้เป็นสถานที่ซึ่งทั้งสามเขตแดนของโลกสาบสูญมาบรรจบกัน และไม่ได้ตกเป็นของราชาคนใดคนหนึ่ง

ดังนั้นภูเขาลูกนี้จึงมีชื่อว่าเขาเดียวดาย!

ในขณะนี้ เมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจจากราชาโหมวหลัว ราชาจิ่วหลิง สิงโตเก้าหัวผู้ซึ่งมีร่างกายระยิบระยับราวกับทำจากทองคำก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างเย็นขา “ไม่ว่าจะดีหรือร้าย การเปลี่ยนแปลงกำลังจะเกิดขึ้น และนั่นคือประเด็นสำคัญ”

ราชาโหมวหลัวกล่าวช้า ๆ “ใช่แล้ว การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งจำเป็น ทุกอย่างได้มาถึงทางตันแล้ว และสถานการณ์ในโลกต้นกำเนิดกำลังจำกัดฝีเท้าเรา หากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เราก็คงได้แต่หยุดอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิตเท่านั้น”

ขณะที่กล่าว จู่ ๆ เขาก็จ้องมองไปที่ราชากู่เยวียนที่นิ่งเงียบมาจนถึงตอนนี้ และกล่าวว่า “ราชากู่เยวียน เจ้าคิดอย่างไรหรือ?”

“เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้ ไม่ใช่… ตรงกับที่เจ้าสองคนคาดหวังไว้หรอกหรือ?” ราชากู่เยวียนเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่เขียวชอุ่ม ขณะที่เขายืนอยู่ตรงนั้น กิ่งก้านและใบไม้ทั่วร่างกายดูเก่าแก่และแข็งแรง นอกจากนี้ เขายังเต็มไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์สีเขียวมรกตที่วาววับ ทำให้เขาดูศักดิ์สิทธิ์อย่างสุดประมาณ

ราชาโหมวหลัวแสยะยิ้ม จากนั้นร่างของเขาก็เปล่งประกาย ก่อนที่ร่างอันมโหฬารของเขาที่ครอบคลุมพื้นที่กว่ายี่สิบลี้ได้กลายร่างเป็นชายหนุ่มรูปงามสวมเสื้อคลุมสีดำ

“หืม?” ดวงตาของราชาจิ่วหลิงหรี่ลง “ช่างแปลกนัก”

ราชาโหมวหลัวเอามือไพล่หลังไว้ พลางกล่าวช้า ๆ “เห็นแล้วหรือไม่? นี่คือรูปลักษณ์ของผู้บ่มเพาะมนุษย์จากโลกภายนอก โครงสร้างสร้างร่างกายเช่นนี้ ถือได้ว่าผลงานชิ้นเอกของพระเจ้า!”

ราชาจิ่วหลิงตกใจมาก “มนุษย์ในตำนานเหรอ? หรือว่า… ม่านพลังของโลกต้นกำเนิดได้ถูกทำลายแล้ว?”

นับตั้งแต่มันเกิดมา โลกต้นกำเนิดก็เป็นโลกที่ถูกปิดผนึกอย่างสมบูรณ์ และมันมีเต๋าแห่งสวรรค์ที่สมบูรณ์ในตัวมันเอง

อย่างไรก็ตาม ราชาจิ่วหลิงก็ทราบดีว่าโลกต้นกำเนิดเคยเชื่อมต่อกับโลกภายนอก แต่มันถูกปิดผนึกไว้อย่างสมบูรณ์หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่สะท้านโลก

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็มีข่าวลือบางอย่างเกี่ยวกับโลกภายนอกถูกส่งผ่านไปยังโลกต้นกำเนิด ซึ่งรวมถึงข่าวลือเกี่ยวกับผู้บ่มเพาะมนุษย์ด้วย

ทว่าช่วงเวลานั้นมันผ่านมานานแล้ว เรื่องเหล่านั้นกลายเป็นตำนาน จนแม้แต่ราชาจิ่วหลิงก็เพิ่งได้ยินเรื่องนี้ แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้

นั่นคือเหตุผลที่ราชาจิ่วหลิงตกใจมากเมื่อเห็นราชาโหมวหลัวแปลงร่างเป็นมนุษย์

“ใช่แล้ว จู่ ๆ ผู้บ่มเพาะมนุษย์สองคนก็ปรากฏตัวขึ้นในแคว้นโหมวหลัวของข้าเมื่อไม่กี่วันก่อน น่าเสียดายที่ข้าค้นหาในที่ที่พวกเขาปรากฏตัว แต่ยังไม่พบวิธีที่พวกเขาใช้เข้ามายังโลกต้นกำเนิดของเรา มันเหมือนกับว่าพวกเขาจู่ ๆ ก็โผล่ออกมาจากอากาศ” ราชาโหมวหลัวกล่าวอย่างสบาย ๆ

“เจ้าไม่ได้จับพวกเขามาสอบปากคำหรอกเหรอ?” ราชาจิ่วหลิงกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก

“จับเหรอ?” ราชาโหมวหลัวส่ายหัว “ไม่ พวกเขาคือตัวแปร แล้วข้าจะหยุดการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากตัวแปรเหล่านี้ได้อย่างไร”

เขาหยุดครู่หนึ่ง ก่อนที่รอยยิ้มซึ่งแฝงด้วยความหมายจะปรากฏที่ริมฝีปากของเขา “ ข้าถึงกับมั่นใจด้วยซ้ำว่ากระแสพลังนั้นจะต้องเป็นฝีมือของผู้บ่มเพาะมนุษย์สองคนนี้อย่างแน่นอน!”

“ว่าอะไรนะ?” ดวงตาของราชาจิ่วหลิงเบิกกว้าง “เหตุใดเจ้าจึงปิดบังสิ่งนี้จากราชากู่เยวียน”

ราชาโหมวหลัวหันไปมองราชาจิ่วหลิง ก่อนที่จะกล่าวอย่างเฉยเมย “เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ? การเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้นแล้ว และนี่เป็นโอกาสเดียวของเราที่จะโค่นล้มราชากู่เยวียน และก้าวเข้าสู่ตำแหน่งสูงสุดภายในโลกต้นกำเนิด ดังนั้น ข้า… ต้องการความร่วมมือจากเจ้า!”

ดูเหมือนว่าราชาจิ่วหลิงจะประหลาดใจเล็กน้อย และหลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็กล่าวว่า “เจ้าคิดว่าผู้บ่มเพาะมนุษย์สองคนนั้นสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ในโลกต้นกำเนิดได้หรือไม่”

“ไม่ ข้าบอกเจ้าแล้ว พวกมันเป็นเพียงตัวแปรเท่านั้น ตราบใดที่พวกมันสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เหนือความคาดหมายของราชากู่เยวียน แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว เรายังคงต้องผนึกกำลังเมื่อถึงเวลาต้องจัดการกับราชากู่เยวียน” แววตาของราชาโหมวหลัวนั้นลึกล้ำและเยือกเย็น เสียงของเขาทุ้มหนัก

“แล้วทำไมข้าต้องช่วยเจ้าด้วย” ราชาจิ่วหลิงครุ่นคิดอยู่นาน เริ่มเผยเค้าความสนใจขึ้นเลือนราง

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]