เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 2076

บทที่ 2076 ข่าวที่คาดไม่ถึง

………………..

บทที่ 2076 ข่าวที่คาดไม่ถึง

เกิดความเงียบระหว่างฟ้าดินจนเหลือเพียงเสียงสายลมพัดหวีดหวิว

ร่างของผู้เยี่ยมยุทธ์ทั้งหลายแข็งทื่อขณะหัวใจเอ่อล้นด้วยความหวาดกลัว

หากความตายของปาหมิงก่อนหน้านี้คืออุบัติเหตุ เช่นนั้นความตายของขุยเซินในตอนนี้ก็ไม่ใช่เพราะโชคช่วย!

ด้วยการสะบัดแขนเสื้อก็กวาดล้างจักรพรรดิสามดารา!

ต้องทรงพลังขนาดไหนจึงจะบรรลุถึงขั้นนี้ได้?

ในสายตาของผู้เยี่ยมยุทธ์เหล่านี้ เฉินซีในตอนนี้คล้ายกับบุคคลน่าสะพรึงสุดหยั่งที่เต็มไปด้วยอันตราย

พวกเขาไม่กล้าลงมือหากไม่ได้รับอนุญาต นับประสาอะไรกับการใช้โอกาสนี้ในการหลบหนี เพราะทุกคนทราบดีว่าภายใต้สายตาของอีกฝ่าย การหนีย่อมไม่ต่างจากความตาย!

ถึงกระนั้น การตอบสนองของเฉินซียังคงสงบและไม่สะทกสะท้านราวกับกำลังทำในสิ่งที่ธรรมดาสุดแสน

“เป็นไงบ้าง?”

เมื่อเฉินซีหันหลังแล้วเดินกลับมาที่เดิม เขาพบว่าหมิงได้สติในเวลาเดียวกันขณะจับจ้องด้วยนัยน์ตากระจ่างคู่นั้น

“ขอบคุณมาก”

หมิงกระซิบด้วยใบหน้าซีดเผือดเล็กน้อย คิ้วสีดำของนางเผยความเหนื่อยล้าที่ไม่อาจสลัด

แม้เฉินซีเพียงช่วยคลี่คลายสถานการณ์อันตราย แต่นางยังไม่สามารถฟื้นฟูเต็มที่และจำเป็นต้องทำสมาธิสักระยะ

ข้อดีเพียงหนึ่งเดียวก็คือหลังจากหลอมรวมพลังต้นกำเนิดแล้ว บาดแผลทั้งหมดในร่างกายก็ได้รับการซ่อมแซมรักษา นางจึงไม่ต้องห่วงว่ารากฐานจะทำได้รับความเสียหายอีกต่อไป

“ระหว่างเจ้ากับข้า พวกเรายังต้องขอบคุณอีกหรือ?”

เฉินซียิ้ม ในที่สุดภายใต้คำแนะนำ หมิงก็ตอบตกลงที่จะเข้าสู่เอกภพภายในร่างของเขาเพื่อทำการพักฟื้น

หลังจากทำทั้งหมดนี้ เฉินซีมองกลุ่มผู้เยี่ยมยุทธ์อีกครั้ง

เขาพบว่าแม้คนเหล่านี้จะมีการบ่มเพาะที่ดีเยี่ยม และแต่ละคนมีพลังต่อสู้ขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาล ถึงกระนั้นพวกเขาสวมเสื้อผ้าขาดวิ่นจนดูไม่เหมือนพวกอวดดี แต่เหมือนกับกลุ่มโจร

เฉินซีกล่าว “ตอนนี้ข้ามีคำถามจะถามพวกเจ้า หากคำตอบทำให้ข้าพึงพอใจได้ก็จะไว้ชีวิต ไม่อย่างนั้น…”

“ผู้อาวุโสเชิญว่ามา ผู้อาวุโสเชิญว่ามา”

ก่อนเฉินซีจะทันได้เอ่ยคำจบประโยค กลุ่มผู้เยี่ยมยุทธ์ก็พยักหน้าตอบตกลงด้วยความหวาดกลัว

“ที่นี่ที่ไหน?”

“เหมืองเทวะครามล้ำ”

“มันตั้งอยู่ที่ใด?”

“พวกข้าไม่รู้ แต่รู้ว่าเหมืองเทวะครามล้ำคือสถานที่ที่พลังของเต๋าสวรรค์รวมตัวหนาแน่นที่สุด ซึ่งสมบัติไร้เทียมทานบางชิ้นมักถือกำเนิดที่นี่”

“โอ้ แล้วพวกเจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?”

“พวกข้า…”

ขณะคำถามดำเนินต่อไป ผู้เยี่ยมยุทธ์ก็เผยสีหน้าซับซ้อน มันเต็มไปด้วยความหมองหม่น ความเศร้าโศก ความขุ่นเคือง และความขมขื่น

ขณะเฉินซีรู้สึกสงสัย เขาก็ได้ยินหนึ่งในอีกฝ่ายเอ่ยคำ “เรียนผู้อาวุโสตามตรง พวกข้าล้วนถูกจับมาเป็นแรงงาน เกรงว่าเป็นการยากที่ชาตินี้จะได้ออกไปจากที่นี่”

“แรงงานหรือ?”

เฉินซีหรี่ตาแล้วเอ่ยคำ “ใครเป็นคนทำ?”

“นิกายอำนาจเทวะ”

ผู้เยี่ยมยุทธ์แทบเอ่ยออกมาพร้อมกัน

เฉินซีตกตะลึง เขาไม่คาดคิดว่าเหมืองเทวะครามล้ำอันลึกลับแห่งนี้จะตกอยู่ในมือของนิกายอำนาจเทวะ

สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขบขันยิ่งกว่าก็คือตอนออกจากแดนมารดากำเนิดบรรพ์ เขาก็ถูกล่าโดยนิกายอำนาจเทวะจนในหลุดเข้าไปในโลกต้นกำเนิด

แต่ตอนนี้ เขากับหมิงหลบหนีจากโลกต้นกำเนิดและเข้าสู่อาณาเขตของนิกายอำนาจเทวะโดยบังเอิญ มันแสดงให้เห็นถึงความแปลกประหลาดของโลกนี้

แต่เฉินซีไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญ!

ตอนเขาออกจากแดนมารดากำเนิดบรรพ์เป็นครั้งแรก เพื่อให้มั่นใจว่าจะปลอดภัยระหว่างทาง ทำให้มีไม่กี่คนในตระกูลเฉินที่รู้เกี่ยวกับการออกเดินทางในครั้งนี้

ทว่านิกายอำนาจเทวะเหมือนกับผู้พยากรณ์ที่รอคอยให้บางสิ่งเกิดขึ้นกับเขาระหว่างทาง เห็นได้ชัดว่าใครบางคนลอบแพร่งพรายข่าวการเดินทาง

จากการคาดเดาของเฉินซี ผู้ต้องสงสัยที่แพร่งพรายข่าวออกไปมากที่สุดคือเฉินหลิงคงซึ่งเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเฉิน!

ในทำนองเดียวกัน มันต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่หลังออกจากโลกต้นกำเนิดในครั้งนี้ พวกเขาจะมาถึงเหมืองเทวะครามล้ำ ซึ่งถูกควบคุมโดยนิกายอำนาจเทวะ

เพียงออกจากโลกต้นกำเนิด เขากับหมิงก็ดึงดูดอัสนีแห่งสวรรค์พิโรธที่มาจากนภาผนึกเทพ ซึ่งมันผิดปกติมาก

แต่ตอนนี้เมื่อทราบว่าเหมืองเทวะครามล้ำเป็นอาณาเขตที่ควบคุมโดยนิกายอำนาจเทวะ ยิ่งประกอบกับนิกายนี้เป็นหมาของนภาผนึกเทพ หลังจากครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว เฉินซีก็พอคาดเดาเหตุผลบางอย่างได้

ตัวตนของโลกต้นกำเนิดจะต้องถูกสังเกตเห็นโดยนภาผนึกเทพ ทำให้กองกำลังจำนวนมากของอีกฝ่ายกระจายรอบบริเวณนี้อย่างแน่นหนา

“ข้าชื่อเย่เจ๋อ” ผู้ชายในชุดสีเทาเอ่ย

“เย่เจ๋อ? เจ้าคือทายาทของตระกูลเย่แห่งตระกูลนิรันดร์หรือ?”

เฉินซีเอ่ยคำพลางครุ่นคิด

“ถูกต้อง”

เย่เจ๋อคล้ายกับสงบนิ่ง แซ่ของเขานับว่าพิเศษยิ่ง มีเพียงตระกูลเย่แห่งตระกูลนิรันดร์ในเอกภพจักรวรรดิเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะคาดเดาตัวตนของอีกฝ่าย

“เช่นนั้นเจ้ารู้จักเย่เฉินหรือไม่?” เฉินซีถาม

“เย่เฉินเป็นญาติของข้า”

เมื่อเย่เจ๋อเอ่ยคำเช่นนี้ เขาคล้ายกับตระหนักบางอย่างได้ก่อนจะเงยหน้าแล้วถาม “ผู้อาวุโส ท่านรู้จักญาติข้าด้วยหรือ?”

เฉินซีพยักหน้า “พวกเราเป็นสหายกัน”

เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉา ใครจะคาดคิดว่า ผู้อาวุโสตรงหน้าจะถึงกับเป็นสหายของเย่เฉินผู้เป็นญาติของเย่เจ๋อ แบบนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ยิ่งแน่นแฟ้น

แม้แต่เย่เจ๋อก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง เขาคิดไม่ออกว่าผู้เป็นญาติไปเป็นสหายกับบุคคลทรงพลังเช่นนี้ได้อย่างไร

ในตอนนี้ เฉินซีคิ้วขมวดเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “นิกายอำนาจเทวะกล้าทำตัวไร้ศีลธรรมถึงขนาดจับสมาชิกของตระกูลเย่ได้อย่างไร?”

ทันทีที่สิ้นคำ ทุกคนต่างมองเฉินซีด้วยสายตาแปลกประหลาดราวกับรู้สึกว่าเป็นคำถามของเด็กน้อย

“ผู้อาวุโส ท่านอาจไม่ทราบเรื่องราว ทุกวันนี้ทั่วทั้งแดนเทพโบราณตกอยู่ในความโกลาหลและมีการเข่นฆ่าทุกหนแห่ง ไม่หลงเหลือความสงบสุขเหมือนวันวานอีกต่อไป”

เย่เจ๋อผู้อยู่ข้างกายสูดหายใจเข้าขณะอธิบาย “ภัยพิบัตินี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้กระทั่งเอกภพจักรวรรดิยังได้รับผลกระทบ ด้วยความช่วยเหลือของนิกายอำนาจเทวะ แม้กระทั่งเขาเทพพยากรณ์ ตำหนักเต๋าหนี่หวา สำนักศักดิ์สิทธิ์ และสำนักเต๋าไม่อาจหลีกเลี่ยงเรื่องนี้ได้จนต้องเข้ามามีส่วนร่วมกับวังวนอันปั่นป่วนนี้”

“ภัยพิบัติในแดนเทพโบราณ?”

เฉินซีลอบตกตะลึงจนไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เขาจากที่นี่ไปไม่กี่ปี แต่เรื่องแบบนี้กลับเกิดขึ้นในแดนเทพโบราณหรือ?

ทำไมถึงเป็นแบบนี้?

หรือภัยพิบัติโลกาวินาศกำลังจะมาเยือน?

ผ่านไปสักพัก เฉินซีก็ตกอยู่ในห้วงความคิดและตกตะลึงเล็กน้อย ข่าวที่คาดไม่ถึงดังกล่าวเล่นงานเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว

ราวกับไม่สังเกตเห็นความผิดปกติของเฉินซี เย่เจ๋อจึงเอ่ยต่อ “ในช่วงความโกลาหลนี้เองที่พวกข้าโชคไม่ดีถูกนิกายอำนาจเทวะลอบโจมตีก่อนจะถูกจับตัวมา”

ผู้เยี่ยมยุทธ์คนอื่นต่างมีสีหน้าเศร้าโศกและเดือดดาล พวกเขาเผยความเกลียดชังสุดบรรยายออกมา ในยามยากลำบาก ชีวิตมนุษย์ก็เหมือนกับต้นหญ้า ใครเล่าจะหลบเลี่ยงความปั่นป่วนนี้ได้?

หลังจากผ่านไปพักใหญ่ เฉินซีสูดหายใจก่อนจะพึมพำ “หากเป็นความจริง พวกเราก็ต้องออกจากที่นี่โดยไว…”

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]