บทที่ 2077 บุกฝ่าออกไป!
………………..
บทที่ 2077 บุกฝ่าออกไป!
เฉินซีพลันเกิดความรู้สึกกระชั้นด่วนเมื่อพบว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงเกินคาดคิดขึ้นกับแดนเทพโบราณ
โดยเฉพาะเมื่อได้ยินว่ากระทั่งเขาเทพพยากรณ์ยังถูกกวาดเข้าสู่ความโกลาหลนี้อย่างมิอาจเลี่ยง เฉินซีกระทั่งเริ่มเผลอตัวกังวลถึงพวกศิษย์พี่ใหญ่ของตน
“นำทางที ไปกันเถอะ” เฉินซีสูดหายใจลึก ดวงตาทอประกายหนักแน่น
“ไปยังไงขอรับ?” เย่เจ๋อผงะ เพราะถึงอย่างไร ที่นี่ก็คือเหมืองเทวะครามล้ำซึ่งถูกนิกายอำนาจเทวะคุ้มกันแน่นหนา ไร้ผู้ใดหนีรอดมาก่อน
ด้วยเหตุนี้ ก่อนจะลงมือ มิควรเตรียมแผนให้รัดกุมก่อนหรือ? หรือบางทีผู้อาวุโสท่านนี้จะเตรียมทางหนีไว้เบ็ดเสร็จแล้ว?
ไม่มีทาง!
เขาไม่รู้จักเหมืองเทวะครามล้ำด้วยซ้ำ และยังไม่รู้ว่ามียอดฝีมือจากนิกายอำนาจเทวะประจำอยู่ที่นี่กี่มากน้อย เขาจะคิดหาแผนอันสมบูรณ์แบบได้อย่างไร?
เย่เจ๋อเหม่อลอย
ผู้บ่มเพาะในละแวกเองก็ตะลึงไปเช่นกัน พวกเขาหาคาดคิดไม่ว่าเฉินซีจะเฉียบขาดนัก ตั้งใจไปเสียเช่นนี้ เขาไม่รู้หรือว่าผลลัพธ์ยามถูกยอดฝีมือจากนิกายอำนาจเทวะสังเกตพบจะร้ายแรงเพียงไร?
เฉินซีหาเปลืองน้ำลายไม่
เคร้ง!
เขาชักยันต์ศัสตราที่ไม่ได้ใช้มาเนิ่นนาน สายตาคมปลาบดุจอัสนี กล่าวอย่างตรงไปตรงมา “จะไปเช่นไร? บุกฝ่าออกไปน่ะสิ!”
เสียงของเขาราบเรียบ ทว่าให้ความรู้สึกเฉียบขาดเด็ดเดี่ยว
บุกฝ่าออกไป!?
ขณะนี้ กระทั่งเย่เจ๋อยังอดเกิดความเสียดายในใจมิได้ เหตุใดข้าต้องด่วนใจยอมรับคำขอของคนบ้าผู้นี้ด้วย?
หากรู้มาก่อนว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้! ข้าน่าจะระวังตัวกว่านี้!
ใช่แล้ว เย่เจ๋อเผลอใจถือเฉินซีเป็นคนบ้าไปเมื่อได้ยินคำพูดเมื่อครู่ หาไม่ คนธรรมดามีหรือจะพูดเรื่องโง่เง่าน่าขันเช่นนี้ออกมา?
บุกฝ่าออกไป?
เขาคิดว่ายอดฝีมือจากนิกายอำนาจเทวะเป็นเครื่องประดับหรือไร? ในหมู่พวกเขามีกระทั่งจ้าวเอกภพเก้าดาราผู้หนึ่ง! หากมิใช่มหาเทพเต๋า ใครจะกล้าพูดว่าจะบุกฝ่าออกไป?
หรือเจ้านี่จะเป็นมหาเทพเต๋า?
เห็น ๆ อยู่ว่าไม่ใช่! แล้วทำไมเขาจึงกล้าอวดโอ่เช่นนั้น? บ้าแน่ ๆ!
นี่คือความคิดในขณะนี้ของเย่เจ๋อ รู้สึกเสียใจเสียดายยิ่งนัก
แต่เขาก็รับปากไปแล้ว ไม่มีทางกลับคำได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงสะกดอารมณ์ในใจ กล่าวขึ้นเมื่อไตร่ตรองอย่างระวัง “ผู้อาวุโส ท่านมิพิจารณาอีกสักหน่อยหรือขอรับ? หากทำเช่นนั้น….”
วูบ!
เขายังพูดไม่ทันจบ เฉินซีก็พลันยกมือคว้าอาภรณ์เขา ทะยานร่างแหวกสุญญะ เคลื่อนกายย้ายมิติไปไกล
นับแต่แรกจนบัดนี้ เขาไม่ให้โอกาสเย่เจ๋อดิ้นรนใด ๆ
“ผู้อาวุโส! ผู้อาวุโส! ทำเช่นนี้มีแต่เราจะตายคู่นะขอรับ! ไม่!!! ข้าเสียใจเป็นบ้า! โปรดวางข้าลงเถิดขอรับ….” เสียงแผดร้องวิงวอนเฉินซีของเย่เจ๋อก้องมาไกล ๆ ผู้บ่มเพาะคนอื่น ๆ อดสะเทือนใจอย่างเห็นได้ชัดกันมิได้
“บุกฝ่าออกไป? มิคาดเลยว่าเจ้านั่นจะเป็นคนบ้า!”
“นั่นสิ สิ่งนี้ไม่ต่างจากเดินไปหากับดัก ฆ่าตัวตายแท้ ๆ เย่เจ๋อผู้น่าสงสาร เขาอยากออกจากที่นี่อย่างเร่งด่วน มิคาดเลยว่าจะทำให้ตนเองต้องตายเร็วขึ้นเสียแทน”
“แต่อำนาจต่อสู้ของเจ้านั่นก็น่าตกใจจริง ๆ เขากำจัดจักรพรรดิสามดาราอย่างขุยเซินได้เพียงสะบัดแขนเสื้อ นี่มิใช่สิ่งที่คนทั่วไปทำได้เลย”
ผู้บ่มเพาะทั้งหลายหารือกันอย่างออกรส พวกเขาทั้งหลายล้วนมิได้ประเมินเฉินซีดีนัก กระทั่งรู้สึกสงสารเย่เจ๋อที่ถูกเฉินซี ‘พาตัว’ ไป
“ไม่ได้แล้ว ข้าจะไปดู หากเจ้านั่นบุกฝ่าออกไปได้จริง ๆ เขาก็อาจให้โอกาสเราหนีไปได้เช่นกัน” ทันใดนั้น ผู้บ่มเพาะคนหนึ่งก็กล่าวขึ้น เคลื่อนย้ายมิติตามเฉินซีไป
เหตุการณ์นี้ทำให้คนอื่น ๆ ตกตะลึง และเริ่มชั่งใจเช่นกัน
นั่นสิ หากเจ้านั่นทำสำเร็จ มันก็จะเป็นโอกาสหายากที่เราจะหนีไปได้! เราจะทำเช่นไร? ควรตามไปดูหน่อยหรือไม่?
ต่อให้เจ้านั่นล้มเหลว เราก็น่าจะไม่ถูกฆ่า เพราะมิได้ช่วยเหลือเขาเสียหน่อย
เมื่อคิดถึงตรงนี้ พวกเขาบางคนก็อดพูดมิได้ว่า “เฮ้อ สองสามปีมานี้ ข้าสนิทกับเย่เจ๋อที่สุด ยามนี้เขาอยู่ในอันตราย ข้าจะอยู่เฉยได้อย่างไร? ช่างมันแล้ว ข้าจะไปทัศนารอโอกาสลงมือ หากช่วยเขาได้ก็ประเสริฐ”
ว่าแล้ว รัศมีศักดิ์สิทธิ์ก็เรืองโรจน์ทั่วกาย แปรเปลี่ยนเป็นลำแสงพุ่งไปไกล
เรื่องบ้าบอที่สุดคือ คนบ้านั่นยังแบกร่างเขาอยู่! ดังนั้นหากคนบ้าผู้นี้ตาย เขาเย่เจ๋อก็จะถูกคนบ้าลากไปตายด้วย!
หัวใจของเย่เจ๋อสุดแสนเศร้าหมองเมื่อคิดถึงตรงนี้
“เย่เจ๋อ! นั่นผู้ใด? ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดปราณของขุยเซินจึงหายไปเสียดื้อ ๆ?” กลุ่มคนจากนิกายอำนาจเทวะเห็นเฉินซีกับเย่เจ๋อแล้ว พวกเขาทะยานร่างเข้ามาหา ขณะที่น้ำเสียงทรงอำนาจ เย็นชา และเฉยเมยของปุโรหิตชุดแดงเอ่ยถาม
“ไต้เท้าอวิ้นฉี่ ข้า…” เย่เจ๋ออ้าปากตั้งใจจะพูดบางอย่าง ทว่าหนึ่งปราณกระบี่อันหนาแน่นเฉิดฉันพลันโถมทะยาน ทิ่มแทงดวงตาเสียจนเจ็บแปลบ มิอาจมองเห็นสิ่งใดได้อีก
เปรี้ยง!
คลื่นอากาศมหึมาเลื่อนลั่นทั่วทิศดุจเปลวเพลิงลามทุ่ง หิมะโปรยทั่วนภา นับแต่เริ่มจนบัดนี้ ไร้เสียงต่อสู้หรือปะทะใด ๆ และยังไร้เสียงโหยหวนใด ๆ ด้วย
ในชั่วกาลเพียงอึดใจเดียว ทุกสิ่งก็คืนสู่ความสงบ
เมื่อเย่เจ๋อลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาก็ไม่อาจเห็นร่องรอยใด ๆ ของยอดฝีมือทั้งหลายของนิกายอำนาจเทวะได้อีก สิ่งเดียวที่อยู่ในครรลองสายตาคือแดนดินอันพินาศเป็นหลุมบ่อ!
เย่เจ๋ออ้าปากค้างทันใด ในฐานะบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาล เขาหรือไม่ตระหนักว่ายอดฝีมือจากนิกายอำนาจเทวะเหล่านั้นถูกกวาดล้างสิ้นไปแล้ว?
ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังไม่มีแม้แต่โอกาสดิ้นรน! หาไม่ คงไม่มีทางเลยที่จะตายไปโดยไม่มีแม้แต่เสียงร้องสักแอะ!
คนผู้นี้… ไร้ปรานีจริง ๆ! เย่เจ๋อตะลึง
เขายังไม่ทันหายตกใจ เฉินซีก็ทะยานกายต่อราวไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว
สีหน้าสุขุม สำรวม และผ่อนคลายทำให้เย่เจ๋อใจลอย คนผู้นี้คือใครกันแน่?
การบ่มเพาะของเขาร้ายกาจเพียงไร?
เย่เจ๋อมิได้ผิด และมิใช่ไม่รู้ความ นั่นเป็นเพราะพลังของอักขระผนึกเต๋าปกคลุมทั่วกายของเฉินซี ดังนั้นอย่าว่าแต่เขา กระทั่งมหาเทพเต๋ายังไม่น่าหยั่งความแข็งแกร่งแท้จริงของเฉินซีได้
ไม่ว่าอย่างไร แม้เขาจะตกใจอยู่ลึก ๆ เย่เจ๋อก็ยังอดเป็นกังวลร้อนใจเมื่อคิดเรื่องที่จ้าวเอกภพเก้าดาราผู้หนึ่งคุมเหมืองเทวะครามล้ำอยู่ขึ้นมามิได้
เย่เจ๋อสูดหายใจลึก กล่าวขึ้นอย่างเคร่งขรึม “ผู้อาวุโส คนเหล่านี้เป็นเพียงขยะสำหรับท่าน มิควรค่าให้พูดถึง หากท่านหยุดเสียยามนี้ บางทีเราอาจยังเปลี่ยนสถานการณ์ได้ เพราะเรายังเสวนาสร้างแผนหลบหนีอันเชื่อถือได้ไหว หาไม่ หากไปเจอตัวตนร้ายกาจใด ๆ….”
วูบ!
เขายังพูดไม่ทันจบ ร่างของเขาก็ถูกเฉินซีหิ้วลอยด้วยความเร็วที่เพิ่มเฉียบพลัน แล้วกระแสอากาศรุนแรงก็พุ่งปะทะกรอกปาก ทำให้เขาต้องกระอักไอน้ำตาเล็ดริน ไม่อาจพูดคำใดได้อีก….
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...