เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 2087

บทที่ 2087 มาตุภูมิหมื่นวิถี

………………..

บทที่ 2087 มาตุภูมิหมื่นวิถี

ดวงตาของเฉินซีก็หดลงอย่างห้ามไม่ได้เมื่อได้ยินเช่นนี้ กลิ่นอายลึกลับที่มีเพียงผู้เยี่ยมยุทธ์ที่ย่างเท้าเข้าสู่มหาวิถีถึงจะมีคุณสมบัติเข้าไปงั้นหรือ?

ที่นั่นมันที่ไหน?

มันมีสถานที่ลึกลับเช่นนั้นอยู่ในแดนเทพโบราณด้วยหรือ?

มีร่องรอยความซับซ้อนในใบหน้าราบเรียบอ่อนโยนของเจิ้นหลิวชิง “เป็นเพราะอาจารย์ข้าพบตำแหน่งเฉพาะของสถานที่ลับที่ทำให้เกิดภัยพิบัติร้ายแรงนี้ น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถเห็นสิ่งที่อยู่ในพื้นที่ลึกลับกับตาตัวเองก่อนตายได้”

เฉินซีตบบ่าเพื่อแสดงอาการปลอบประโลม

เจิ้นหลิวชิงเหลือบมองเฉินซีแล้วพลันเอ่ยคำ “เจ้ารู้หรือไม่ว่าอาจารย์ไปที่ไหน?”

อาจารย์ข้าหรือ?

เฉินซีตกตะลึง นี่เป็นตัวแทนของฝูซีผู้เป็นจ้าวแห่งเขาเทพพยากรณ์!

เมื่อนานมาแล้วตอนที่เฉินซียังคงฝึกฝนในสามภพ เขาก็ทราบว่าฝูซีผู้เป็นจ้าวแห่งเขาเทพพยากรณ์จากไปด้วยเหตุผลที่บอกไม่ได้ก่อนจะไม่หวนกลับมา

บางครั้งเฉินซีก็สงสัยว่าอาจารย์ที่เขาไม่เคยพบหายไปไหน? เหตุใดจึงไม่มีข่าวคราวจนถึงตอนนี้?

ตอนนี้ เฉินซีแทบจะโพล่งออกมาหลังจากได้ยินคำพูดของเจิ้นหลิวชิง “หรือว่าจะไปสถานที่ลึกลับที่เจ้ากล่าวถึง?”

เจิ้นหลิวชิงพยักหน้า “น่าจะเป็นเช่นนั้น ไม่เพียงแค่ฝูซีผู้เป็นปรามาจารย์แห่งเขาเทพพยากรณ์เท่านั้น แต่จ้าวตำหนักเต๋าหนี่หวา จ้าวสำนักเต๋า จ้าวสำนักศักดิ์สิทธิ์ ปรมาจารย์นิกายอำนาจเทวะ หรือแม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตน่าสะพรึงที่มีสถานะเดียวกันกับพวกเขาล้วนเข้าสู่สถานที่ลึกลับดังกล่าว”

เฉินซีตกตะลึง ความลับอะไรในสถานที่ลึกลับนั่นที่สามารถดึงดูดผู้เยี่ยมยุทธ์จำนวนมากให้เข้าไปได้?

หรือว่ามันจะข้องเกี่ยวกับความลับแท้จริงของมหาวิถี?

ไม่ใช่!

มันไม่เรียบง่ายขนาดนั้นแน่นอน

เฉินซีครุ่นคิดอย่างละเอียดก่อนจะพบว่าแดนรวนเรลืมเลือนข้องเกี่ยวกับความลับแท้จริงของมหาวิถี แต่มันกลับไม่ดึงดูดบุคคลใหญ่โตทั้งหลาย เทียบกับทั้งสองแล้วย่อมมองออกว่าสถานที่ลึกลับนี้ยอดเยี่ยมมากแค่ไหน

เฉินซีอดไม่ได้ที่จะถามเมื่อคิดถึงตรงนี้

“สามภพ”

เจิ้นหลิวชิงไม่ปกปิดสิ่งใดขณะเอ่ยคำตามตรง “เหตุผลที่อาจารย์ข้าเก็บตัวอยู่ในแดนไร้นามแห่งแดนภวังค์ทมิฬคือการสำรวจสถานที่ลึกลับแห่งนี้ ไม่อย่างนั้น ด้วยระดับการบ่มเพาะของเขาย่อมสามารถเข้าสู่แดนเทพโบราณนี้เพื่อทำการฝึกฝนได้”

“สามภพ…”

เฉินซีอดไม่ได้ที่จะตกอยู่ในภวังค์เมื่อได้ยินสถานที่คุ้นเคยยิ่งนี้

ในอดีต เขาไม่เคยรู้สึกถึงความพิเศษเกี่ยวกับสามภพ แม้กระทั่งตอนเข้าแดนเทพโบราณครั้งแรกก็เคยได้ยินผู้เยี่ยมยุทธ์พูดอย่างเหยียดหยันว่ามันระดับล่างราวกับขยะ

แต่เมื่อพัฒนาทีละขั้นจนเข้าใจหลายสิ่ง เขาก็ตระหนักได้ว่าสามภพแตกต่างจากที่เคยรู้จักก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง พวกมันไม่ใช่ระดับล่างดังที่ผู้เยี่ยมยุทธ์คนอื่นบรรยาย!

เทพธิดาแห่งอารามไท่ชูเคยบอกว่ามีเพียงสามภพที่สามารถคงอยู่ในสังสารวัฏได้ ดังนั้นคนอย่างชิงซิ่วอี้ ผู้อาวุโสห้า หลี่ฝูเหยา และสืออวี๋ทำได้เพียงเข้าสามภพเพื่อกลับชาติมาเกิดได้

จนกระทั่งภายหลังจากเข้าสู่ประตูแห่งวันโลกาวินาศจนเข้าใจการเปลี่ยนแปลงในแปดยุคก่อนหน้า เฉินซีก็ตระหนักได้ว่าโลกนี้สามารถผ่านความผันผวนทั้งแปดยุค ซึ่งสิ่งที่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากแผนภาพวารีหลากแล้วก็ยังมีสามภพ!

หมายความว่าทั้งแดนเทพโบราณและแปดยุคแรกล้วนเกิดในความโกลาหลของสามภพ!

ข้อเท็จจริงนี้ยิ่งเป็นการพิสูจน์ถึงความเป็นเอกลักษณ์ของตัวตนของสามภพ

เช่นเดียวกับที่ศิษย์พี่อู๋เซวี่ยฉานเคยบอกเฉินซีว่าเหตุผลที่เขาเทพพยากรณ์ ตำหนักเต๋าหนี่หวาและนิกายอำนาจเทวะล้วนมีมรดกตกทอดก็เพราะสามภพครอบครองสิ่งพิเศษจำนวนมาก

หากใช้นิ้วนับตัวตนยิ่งใหญ่ทั้งหลายที่เพิ่งเกิดในทั่วหล้าก็จะพบว่าสามภพยอดเยี่ยมมากเพียงใด

ตัวตนอย่างต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เงาทมิฬ จักรพรรดิมด ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหล จักรพรรดิยมโลกองค์ที่สาม ฝูซี จ้าวตำหนักหนี่หวา จ้าวนิกายอำนาจเทวะ และอีกมากมายล้วนถือกำเนิดในสามภพ!

จุดสำคัญที่สุดก็คือทั้งนภาผนึกเทพกับสวรรค์กำเนิดบรรพ์ ในตอนนี้เกิดขึ้นในความโกลาหลของสามภพ!

ทั้งหมดนี้มากพอจะพิสูจน์ว่าสามภพเหลือเชื่อ ลึกลับ และเก่าแก่มากเพียงใด

ตอนนี้เมื่อได้ยินเจิ้นหลิวชิงบอกว่าสถานที่ลึกลับดังกล่าวตั้งอยู่ในสามภพ เฉินซีก็ตกตะลึง แต่หลังจากครุ่นคิดสักพัก เขาก็เข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้สมเหตุสมผล

“แต่สถานที่ลึกลับในสามภพมันอยู่ที่ไหนหรือ?”

เฉินซีสูดหายใจเข้าพลางเอ่ยถาม เขาพยายามสะกดความคิดปั่นป่วนเอาไว้ในใจ

“แดนไร้นาม”

เจิ้นหลิวชิงส่งแผ่นหยกให้เฉินซี “นี่คือเบาะแสเกี่ยวกับดินแดนลึกลับที่อาจารย์ข้าหลงเหลือไว้ให้”

เฉินซีเอ่ยคำอย่างมีนัย “ทว่าตั้งแต่พวกศิษย์พี่อู๋เซวี่ยฉานกลับมาสามภพ ซิ่วอี้กับสืออวี๋สามารถกลับชาติมาเกิดในโลกดังกล่าวได้ ส่วนอาจารย์ของข้าผู้เป็นจ้าวนิกายอำนาจเทวะกับจ้าวตำหนักเต๋าหนี่หวาสามารถเข้าสถานที่ลึกลับที่เจ้ากล่าวถึงได้… ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าการกลับสู่สามภพใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”

ก่อนจะทันได้เอ่ยคำจบ น้ำเสียงอ่อนโยนก็ดังมาจากนอกห้องโถง “ถูกต้องแล้วละ”

หลังจากนั้น ประตูของห้องโถงใหญ่ถูกเปิดออก แล้วผู้ชายผมขาวราวหิมะซึ่งมีใบหน้าแปลกประหลาดและอ่อนโยนประหนึ่งหยกก็เดินเข้ามา

น่าแปลกที่อีกฝ่ายคือนายท่านใหญ่แห่งเขาเทพพยากรณ์อู๋เซวี่ยฉาน!

“พี่ใหญ่!”

เฉินซีลุกขึ้นแล้วเอ่ยคำด้วยความประหลาดใจ เขาเคยได้ยินหลียางบอกว่าตอนนี้ศิษย์พี่อู๋เซวี่ยฉานกับศิษย์พี่ถังเสียนถูกเชิญมา เพื่อสอนสั่งการต่อสู้ให้นิกายอำนาจเทวะร่วมกับบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งตี้ซุนและเหวินเต้าเจิน เขาคิดว่าคงไม่ได้พบอีกฝ่ายในเวลาอันสั้น แต่ใครจะคาดคิดว่าอู๋เซวี่ยฉานกับจะมาปรากฏตัวเอาตอนนี้

“นายท่านใหญ่” เจิ้นหลิวชิงลุกขึ้นคำนับ

หลังจากอู๋เซวี่ยฉานเดินเข้ามา เขายิ้มแล้วบอกอีกฝ่ายว่าไม่ต้องสุภาพก่อนจะเอ่ยคำติดตลก “ข้ามาถึงได้พักใหญ่แล้ว แต่พอดีเห็นพวกเจ้าทั้งสองกำลังคุยกันอย่างมีความสุข ข้าก็เลยไม่อยากเข้าไปขัดจนต้องรออยู่ข้างนอก จากนั้นก็บังเอิญได้ยินเรื่องที่คุยกัน ขออภัยที่ทำตัวไม่ดีเช่นนี้”

เฉินซีโบกมือแล้วเอ่ยคำ “ไม่หรอก ข้ากำลังรอคอยการมาถึงของศิษย์พี่อย่างใจจดใจจ่อเช่นกัน”

อู๋เซวี่ยฉานยิ้มพลางครุ่นคิดสักพัก จากนั้นจึงเอ่ยคำ “ศิษย์น้อง เต๋าสวรรค์กำลังตกอยู่ในการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน กฎระเบียบของเต๋าสวรรค์จึงปั่นป่วนยิ่งจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาในการกลับไปสามภพ”

เฉินซีอดไม่ได้ที่จะเอ่ยคำ “เช่นนั้นเวลาไหนถึงเหมาะจะกลับสามภพ?”

อู๋เซวี่ยฉานครุ่นคิดสักพักแล้วเอ่ยคำ “อาจจะตอนที่เจ้ากลับจากศึกผู้พิทักษ์วิถี”

“ศิษย์พี่รู้จักสถานที่ลึกลับในแดนไร้นามงั้นหรือ?”

เฉินซียังคงถาม

“ข้ารู้ มันคือสถานที่ที่ความโกลาหลของสามภพเกิดขึ้นมา มันขึ้นชื่อว่า ‘มาตุภูมิหมื่นวิถี’ เต็มไปด้วยความลับเกี่ยวกับต้นกำเนิดความโกลาหลของสามภพ แต่ที่นั่นมันยังอันตรายเกินไป แม้แต่ข้าก็ไม่มั่นใจจะสามารถอยู่รอดได้หรือไม่ก็เลยไม่ได้ย่างเท้าเข้าไป”

อู๋เซวี่ยฉานเอ่ยคำตามตรงอย่างไม่ลังเล แม้แต่เขาก็ไม่กล้าเข้าไปอย่างบุ่มบ่าม

นี่ทำให้เฉินซีรู้สึกเคารพยำเกรง เขาทราบว่าสถานที่ลึกลับนามว่า ‘มาตุภูมิหมื่นวิถี’ น่าสะพรึงกว่าที่คิดเอาไว้!

“เช่นนั้นพวกอาจารย์กำลังตามหาอะไรถึงต้องเข้าไปด้วย?”

ในตอนนี้ เฉินซีครุ่นคิดถึงฝูซีผู้เป็นอาจารย์ที่ออกเดินทางไปเมื่อหลายปีก่อน รวมถึงบุคคลยิ่งใหญ่อย่างจ้าวตำหนักเต๋าหนี่หวากับจ้าวนิกายอำนาจเทวะผู้เข้าสู่มาตุภูมิหมื่นวิถีเช่นกัน

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]