บทที่ 2096 ความปรารถนาที่จะต่อสู้
………………..
บทที่ 2096 ความปรารถนาที่จะต่อสู้
โลกภูมิเก้าวิญญาณ
ศาลาประทีปเมฆา เป็นสถานที่ที่บรรพบุรุษของตระกูลเฉิน เฉินไท่ชงใช้สำหรับบ่มเพาะ
หลังจากที่เขาต้อนรับกลุ่มของเฉินซีแล้ว เฉินไท่ชงก็นำพวกเขามาที่นี่ โดยไม่ได้แจ้งแก่คนในตระกูลเฉินแม้แต่คนเดียว
เมื่อเฉินซีและคนอื่น ๆ นั่งลงแล้ว เฉินไท่ชงก็ดึงดวงแสงที่ดูเหมือนลูกแก้วออกมา แล้วโยนมันขึ้นไปในอากาศ
โอม!
เส้นแสงสีฟ้าอ่อนโยนส่องออกมาจากภายในดวงแสง และจากนั้นก็เกิดภาพนิมิตขึ้นมา
มันเป็นภาพของมหาสมุทรที่มืดมิดและไร้ขอบเขต ท้องฟ้าแผ่กว้างไร้ที่สิ้นสุด มีเพียงร่างสูงโปร่งเท่านั้นที่ยืนตัวตรงอยู่บนมหาสมุทร
คนผู้นั้นมีผมยาวสีน้ำเงินเข้มเรียบลื่น หน้าผากกว้าง ใบหน้าดุจรูปสลัก และดวงตาคู่หนึ่งที่สามารถสะท้อนจักรวาลได้ แววตาเย็นยะเยียบเสียดแทง
ขณะยืนอยู่บนมหาสมุทรที่ไร้ขอบเขตคนผู้นั้นกลับดูธรรมดาไร้สิ่งใดโดดเด่น ทว่าเมื่อมองภาพดี ๆ มันกลับรู้สึกเหมือนมหาสมุทรและท้องฟ้าในภาพเป็นเพียงสิ่งของประดับ ในขณะที่ร่างของเขากลายเป็นแสงที่เจิดจรัสที่สุด
“นี่คือเป่ยหมิงชางไห่จากตระกูลเป่ยหมิง และเขาสร้างชื่อให้ตัวเองเมื่อไม่กี่หมื่นปีก่อน เขาครอบครองสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของบรรพบุรุษ ซึ่งคือไข่มุกสีคราม มันสามารถให้พลังงานศักดิ์สิทธิ์แก่เขาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้นหากเจ้าไม่สามารถบดขยี้เขาในการต่อสู้ได้ ก็จงหนีเสียดีกว่าเอาชีวิตไปทิ้ง เขาเป็นหนึ่งในผู้เยี่ยมยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดที่เข้าร่วมในศึกผู้พิทักษ์วิถี” เฉินไท่ชงอธิบาย
“ทายาทของตระกูลเป่ยหมิงผู้นี้ไม่อาจประมาทได้อย่างแน่นอน เด็กคนนั้นเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งที่ไม่ย่อท้อ ทั้งยังแสดงสัญญาณของการทะลวงผ่านอุปสรรคและก้าวเข้าสู่ขอบเขตมหาเทพเต๋าเลือนราง เขาถือได้ว่าเป็นบุคคลไม่ธรรมดาในหมู่จ้าวเอกภพเก้าดารา” อู๋เซวี่ยฉานประเมิน
เฉินซีรู้สึกประหลาดใจ เพราะอู๋เซวี่ยฉานสามารถแยกแยะได้มากมายจากเพียงภาพเดียว และนี่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ความสามารถในการอนุมานของอู๋เซวี่ยฉานนั้นน่าตกตะลึงเพียงใด
“เป่ยหมิงชางไห่? มหาสมุทรเหรอ? เป็นชื่อที่ดี” ดวงตาของเฉินซีหรี่ลงในขณะที่เขาพินิจมองร่างนั้น แต่เขาไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใด ๆ ต่อมันมากนัก อย่างไรก็ตาม เขายังคงแสดงท่าทางอย่างระมัดระวัง และจดจำรูปร่างหน้าตาของร่างนั้นไว้อย่างดี”
“เขาดูอันตรายมาก” จู่ ๆ หมิงก็กล่าวผ่านกระแสปราณไปยังเฉินซี
“ข้าเห็นด้วย” เฉินซียักไหล่ เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าผู้เยี่ยมยุทธ์อันดับหนึ่งในขอบเขตจ้าวเอกภพของตระกูลเป่ยหมิงระดับสูงนั้นไม่ใช่บุคคลธรรมดา
โอม!
ดวงแสงหมุนวน และภาพก็เปลี่ยนไปฉับพลัน ภูเขาสูงตั้งตระหง่านเสียดผืนฟ้าปรากฏขึ้น ดวงจันทร์กลมโตเปล่งแสงเย็นยะเยือกแขวนอยู่เหนือภูเขา
ร่างเล็กและบอบบางยืนอยู่ข้างหน้าผาบนยอดเขา ซึ่งนางกำลังมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
นางสวมชุดสีเขียวราวกับความฝัน ในขณะที่ผมสีดำสนิทถูกมัดเป็นหางม้ายาวถึงเอว สิ่งนี้ทำให้ใบหน้ากระจ่างใส อ่อนเยาว์ สงบ บริสุทธิ์ และงดงามเผยลักษณ์อย่างเต็มที่
โดยเฉพาะดวงตาสีดำสนิท สว่างไสว และใสสะอาดดุจแอ่งน้ำ อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงทุกสิ่งในโลก และรูปแบบต่าง ๆ ของชีวิตมนุษย์
นางเป็นหญิงสาวที่มีรูปโฉมสะกดตา ตัวเล็ก บอบบาง และบริสุทธิ์มาก
ทว่ามือซ้ายของนางถือดาบโค้งขนาดมหึมาที่สามารถสร้างความสยดสยองในใจของผู้พบเห็นได้
ดาบโค้งนั้นยาวกว่าส่วนสูงของนางถึงสองเท่า ปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งสีฟ้าและแสงอันศักดิ์สิทธิ์เปล่งประกาย มันเหมือนกับจันทร์เสี้ยวที่ถูกดึงออกมาจากท้องฟ้า ทั้งลึกลับ พร่างพราว อบอวลไปด้วยความเย็นเยือก และแสงอันคมชัดที่น่าสะพรึงกลัว
หญิงสาวที่บริสุทธิ์ ตัวเล็ก และละเอียดอ่อนในชุดสีเขียวราวกับภาพฝัน ยืนอย่างภาคภูมิใจบนยอดเขา ในมือถือดาบโค้งเย็นเฉียบขนาดมหึมาไว้!
มันเป็นเหตุการณ์ที่น่าตกใจอย่างยิ่ง แต่อู๋เซวี่ยฉานกลับหัวเราะขบขัน “กงล้อน้ำแข็งแห่งความพินาศเหรอ? เป็นสาวน้อยคนนั้นเองหรือนี่?”
เฉินซีตกตะลึง “ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านรู้จักนางหรือ?”
รอยยิ้มของอู๋เซวี่ยฉานแฝงความนัยลึกซึ้ง “สาวน้อยคนนั้นมีนามว่า ถังเสี่ยวเสี่ยว เป็นทายาทของตระกูลถัง ในเวลาเดียวกัน นางเป็นผู้สืบทอดสายตรงสายเดียวกันกับศิษย์พี่ถังเสียนของเจ้า ถ้านับตามศักดิ์แล้ว นางยังเป็นหลานสาวของศิษย์พี่ถังเสียนของเจ้าด้วยซ้ำ”
เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี่ อู๋เซวี่ยฉานก็ถอนหายใจ “สาวน้อยคนนั้นไม่ธรรมดาจริง ๆ นางกล้าหาญและเอาแต่ใจอย่างยิ่ง เมื่อหลายปีก่อน นางไม่สนใจคำคัดค้านของตระกูล และออกจากแดนมารดากำเนิดบรรพ์อย่างลับ ๆ แล้วมุ่งหน้าไปยังเขาเทพพยากรณ์ด้วยความตั้งใจที่จะบ่มเพาะกับถังเสียน แต่ศิษย์พี่รองของเจ้าก็ส่งนางกลับตระกูลถังทันที ข้าไม่เคยนึกเลยว่านางจะมีพลังถึงขั้นนี้แล้ว ช่างน่าประหลาดใจจริง ๆ”
ในที่สุดเฉินซีก็เข้าใจ ถังเสี่ยวเสี่ยวเป็นหลานสาวของศิษย์พี่ถังเสียนนี่เอง ถ้าเรายึดตามความอาวุโส งั้นนางก็เป็นศิษย์น้องของข้าไม่ใช่เหรอ?
ในขณะนี้ หัวใจของเฉินไท่ชงก็ไม่สงบเช่นกัน เขาทราบดีอยู่แล้วว่าถังเสี่ยวเสี่ยวหลบหนีจากตระกูลถังก่อให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่เมื่อหลายปีก่อน และเอาชนะจ้าวเอกภพสิบเก้าคนของตระกูลถังติดต่อกัน
ทั้งที่ถังเสี่ยวเสี่ยวเพียงครอบครองการบ่มเพาะที่จุดสูงสุดของขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลในเวลานั้น ยังไม่ได้เป็นจ้าวเอกภพด้วยซ้ำ!

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...