บทที่ 2104 ฐานทัพผู้รุกราน
………………..
บทที่ 2104 ฐานทัพผู้รุกราน
แผนภาพขนาดเท่านิ้วโป้งบนประตูสู่เส้นทางลับ ซึ่งเกิดจากอักขระขนาดเล็กจำนวนมากค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวตราคำสั่ง
เฉินซีรู้ว่ามันอาจจะเป็นพิกัดเส้นทางลับสู่ค่ายที่เจ็ด แต่มันกลับเลือนรางไร้แสงใดอีก ดูท่าคงจะเปิดใช้งานได้ในอีกสามเดือน
นอกจากพิกัดแล้ว ยังมีร่องบุ๋มลงไปด้านหลังตราคำสั่งอยู่อีก มันเปล่งแสงสีแดง พอใช้พลังจิตตรวจสอบดู เฉินซีก็เห็นอักขระโกลาหลสองตัวก็ลอยปรากฏขึ้นอยู่ภายในร่องนั้น แต้มศึก
มันบันทึกจำนวนแต้มที่ผู้เข้าร่วมได้จากการฆ่าสังหารผู้รุกรานเต๋า
แต้มศึกนี้สามารถเอาไปแลกรางวัลได้ ยิ่งได้เยอะรางวัลก็จะยิ่งสูงค่า โดยสิบสามข้ารับใช้เต๋าจะเป็นผู้แจกจ่ายรางวัลให้ ดังนั้นจึงไม่ใช่ของธรรมดาเป็นแน่
เฉินซีรู้ก็ไม่ได้ประหลาดใจ เขามาที่แหล่งกำเนิดแห่งบาปเต๋าด้วยเหตุผลสามอย่าง อย่างแรกคือเพื่อขึ้นขอบเขตมหาเทพเต๋า อย่างที่สองคือเพื่อทำตามข้อตกลงที่มีต่อตระกูลเฉินและพาบิดามารดาออกจากตระกูลเฉินได้โดยไร้ใครขัดขวาง อย่างที่สามคือเพื่อค้นหาความลับเกี่ยวกับนภาผนึกเทพ
เฉินซีเก็บมันไปแล้วเริ่มโคจรพลังเพื่อเตรียมพลังให้พร้อมสู้ จากนั้นก็โคจรพลังอักขระผนึกเต๋าไปทั่วร่าง แล้วค่อย ๆ ผสานร่างเข้ากับสภาพแวดล้อม ค่อย ๆ มุ่งหน้าสำรวจพื้นที่ไปอย่างรอบคอบ
บัญชาเต๋าสวรรค์ในแหล่งกำเนิดแห่งบาปเต๋านั้นเป็นเอกลักษณ์มาก ท้องฟ้าสูงหลายพันจั้งเหนือศีรษะเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายบัญชาเต๋าสวรรค์อันหมองหม่น ดังนั้นถึงไม่ควรเหินร่างหรือเคลื่อนย้ายมิติ
อีกทั้งเจตจำนงก็ถูกยับยั้งเช่นกัน ถึงเฉินซีจะมีเจตจำนงไม่ธรรมดา แต่ก็ใช้มันสืบเสาะได้ในรัศมีสามพันจั้งรอบกายเท่านั้น
ทั้งหมดนี้สื่อให้เห็นว่าเขาคงได้แต่ค่อย ๆ เดินทางไปในแหล่งกำเนิดแห่งบาปเต๋าแห่งนี้ หากผลีผลามคงได้เจออันตรายครั้งใหญ่แน่
โชคดีที่เขามีพลังอักขระผนึกเต๋าคอยช่วยเหลือ ทำให้รู้สถานการณ์รอบตัวแม้จะมีหมอกหนาปกคลุม เขาสังเกตเห็นทุกสิ่งอย่าง เห็นแม้กระทั่งรายละเอียดเล็กน้อย
อีกทั้งผลอีกอย่างของอักขระผนึกเต๋าคือการช่วยปิดบังกลิ่นอายและร่องรอยของเฉินซีได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ใครอื่นไม่อาจมองเห็นเขาได้
…
เดินทางมุ่งหน้าไปไม่นาน เฉินซีก็ได้ยินเสียงเหมือนกิ่งไม้หักดังขึ้น ซึ่งเป็นเสียงที่ดูน่าประหลาดนักในป่าหมอกแห่งนี้
ที่นี่เป็นป่าโบราณรกร้างว่างเปล่า ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดพิศวง ทั่วพื้นดินเต็มไปด้วยดินสีม่วงอ่อนดูประหลาดตา ย่ำลงไปแล้วก็ไร้เสียง
อีกทั้งในที่แห่งนี้ยังมีพืชพันธุ์ต้นไม้อยู่นานาชนิด ทั้งพวกมันยังมีกลิ่นอายดุดันเสียด้วย กลิ่นอายของพวกมันปิดบังฟ้าไปหมด ดังนั้นการเดินทางในบริเวณนี้จึงเหมือนกับการเดินทางอยู่ในความมืดมิด
เสียงก่อนหน้านี้คงจะเป็นเสียงที่เกิดจากสิ่งมีชีวิตภายในป่าแห่งนี้เป็นแน่ มันคงจะเผลอเหยียบโดนอะไรบางอย่าง
เฉินซีจึงขยับไปหาต้นเสียงอย่างเงียบเชียบ
ผ่านไปไม่นาน เขาก็หยุดตอนที่อยู่ห่างจากต้นเสียงยี่สิบลี้ และไม่ได้ขยับเข้าไปใกล้อีก เขาแวบร่างขึ้นไปบนต้นไม้ ตรวจสอบพื้นที่ที่มีใบไม้ปิดบังด้านหน้าโดยละเอียด
จะว่าเฉินซีระแวงเกินเหตุก็คงไม่ได้ เพราะเสียงนั่นมีโอกาสเป็นกับดักได้เช่นกัน ตอนนี้เขาอยู่ที่แหล่งกำเนิดแห่งบาปเต๋า รอบกายมีแต่ศัตรูไร้แรงสนับสนุน ไม่เพียงแต่ต้องต่อสู้กับผู้รุกรานเต๋า แต่ยังต้องคอยระวังผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆ ด้วย ต้องคอยระวังว่าพวกนั้นจะลอบโจมตีเขาตอนไหนบ้าง
เฉินซีเปิดใช้อักขระผนึกเต๋า นัยน์ตาสีดำลุ่มลึกพลันฉายแวววาววับน่าประหลาด ภาพที่ปรากฏสู่สายตาเริ่มวาดผ่านและดูชัดเจนขึ้น พริบตาเดียวสายตาเขาก็มองเห็นพื้นที่ได้ไกลราวยี่สิบลี้
ตรงนั้นมีฐานทัพชั่วคราวถูกตั้งไว้เป็นกระโจม กินพื้นที่กว่าสิบจั้ง กระโจมเหล่านั้นเป็นสีดำสนิท ผิวเต็มไปด้วยอักขระขยุกขยิกดูไม่คุ้นตา ทำให้ดูเนียนไปกับหมอกหนาสีเทาทั่วบริเวณ
ที่น่าตกใจที่สุดคือกระโจมนั้นมีกลิ่นอายลึกล้ำ หากใช้แค่จิตเข้าไปสอดส่องก็จะเห็นแต่หมอก ไม่เห็นตัวกระโจม
เฉินซีหรี่ตาลง เขามั่นใจว่ากระโจมนั่นคงไม่ใช่ของตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์แน่ หรือก็คือมันเป็นฐานทัพของผู้รุกรานเต๋าแน่
เฉินซีคิดเล็กน้อยก่อนลงมาจากต้นไม้โดยไม่ทิ้งร่องรอยใดไว้ จากนั้นก็ค่อย ๆ เข้าใกล้กระโจมนั้นต่อ ก่อนจะหยุดเมื่อห่างจากมันอยู่สิบสองลี้ จากนั้นก็ขึ้นไปซ่อนบนต้นไม้ด้านข้าง
ด้วยระยะขนาดนี้จึงทำให้เฉินซีเห็นได้ชัดเจนว่า ด้านข้างกระโจมแห่งนั้นยังมีพื้นที่ว่างอยู่ มีเงาร่างคนกว่าสิบกำลังเดินตรวจตราบริเวณนั้น
เมื่อสังเกตดี ๆ ก็ต้องตกใจว่ามันคือกลุ่มสุนัขนรกและผู้ตัดสินบาป!
สุนัขนรกเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในแหล่งกำเนิดแห่งบาปเต๋า หน้าตาเหมือนหมาล่าเนื้อขนาดใหญ่ มีสามหัว กระหายเลือด และดุร้ายเป็นอย่างมาก ตามข่าวลือแล้วพวกมันเป็นทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ที่คอยเฝ้ายามที่พักอาศัยของผู้รุกรานเต๋า
ผู้ตัดสินบาปเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีกำลังมหาศาล มีรูปร่างไม่ต่างจากมนุษย์ และยังเป็นยอดฝีมือที่ผ่านการคัดเลือกมาอย่างเข้มข้น ผู้คนเรียกกันว่าพวกเขาเป็นผู้นำทางคนตาย
เช่นเดียวกันกับตระกูลทั้งหลายในแดนมารดากำเนิดบรรพ์ ตระกูลและเผ่าพันธุ์ภายในแหล่งกำเนิดแห่งบาปเต๋าก็มีลำดับชั้นฐานะที่เคร่งครัดเช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น เผ่าสุนัขนรกเป็นเผ่าชั้นต่ำ ส่วนผู้ตัดสินบาปเป็นชั้นกลาง
เฉินซีได้ข้อมูลนี้มาจากเฉินหลิงจวิน ผู้เป็นบิดา ก่อนจะเดินทางมาเข้าร่วมศึกผู้พิทักษ์วิถี ทั้งยังรู้ว่าจะต้องใช้กลยุทธ์ไหนยามต่อสู้กับสุนัขนรกและผู้ตัดสินบาป รู้จุดอ่อนของมัน เพื่อหาจังหวะโจมตีได้
ในกลุ่มนั้นมีสุนัขนรกเจ็ดตัวและผู้ตัดสินบาปสามคนกำลังเดินตรวจตราอยู่ห่าง ๆ ทำให้เฉินซีรู้ว่าใครสักคนที่อยู่ในกระโจมนั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีฝีมือไม่ใช่น้อย
กลุ่มนี้คงอยู่ที่นี่มานานแล้ว พวกสุนัขนรกที่มีนิสัยดุร้ายดูกระสับกระส่ายอยู่บ้าง ก่อนหน้านี้ก็เป็นหนึ่งในพวกมันที่คุมสติไม่อยู่แล้วเหยียบกิ่งไม้บนพื้นหักจนเกิดเสียง

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...