บทที่ 2107 กระบี่เต๋าวิบัติ
………………..
บทที่ 2107 กระบี่เต๋าวิบัติ
ชื่อชิงอิงมุ่งหน้าสู่ป่าหมอกเพื่อนำทัพผู้รุกรานเต๋าหลายพันคน แต่ตัวเขาเท่านั้นที่เรียกได้ว่าเป็นยอดฝีมือสูงสุดในระดับจ้าวเอกภพเก้าดาราอย่างแท้จริง
เรื่องเช่นนี้ย่อมดูสุดสะดุดตา
ในฐานะผู้รุกรานเต๋าซึ่งต่อกรกับตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์มาเกินนับปี พวกเขาตระหนักดีว่าตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์จะส่งจ้าวเอกภพอันแข็งแกร่งสูงสุดจากแต่ละตระกูลมาเข้าร่วมศึกผู้พิทักษ์วิถี
กล่าวคือ ในกำลังฝ่ายตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ไม่มีตัวตนใดต่ำกว่าระดับจ้าวเอกภพเก้าดาราเลย
แต่เพราะเหตุนี้เอง ทัพมหึมาของชื่อชิงอิงจึงไร้จ้าวเอกภพเก้าดารานอกจากเขา สิ่งนี้จะทำให้ผู้มาจากตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์สงสัยและดูแคลนอำนาจแท้จริงของผู้รุกรานเต๋าได้ง่าย ๆ
แล้วผู้รุกรานเต๋าตั้งใจทำอะไรกันแน่?
หรือพวกเขาจะคิดว่าแค่ชื่อชิงอิงและพวกอ่อนหัดโขยงใหญ่จะพอฆ่าจ้าวเอกภพเก้าดาราจากตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ไหว?
ไร้ผู้ใดสนใจเรื่องนี้ เหล่าผู้มาจากตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ในป่าหมอกกระทั่งไม่ตระหนักถึงการมีอยู่ของชื่อชิงอิงด้วยซ้ำไป
…
วูบ!
หลังยืนยันได้ว่าในบริเวณรอบข้างไร้พฤกษาประหลาดลึกลับเหล่านั้น ร่างของเฉินซีก็วูบไหวสู่ยอดพฤกษาโบราณต้นหนึ่ง จากนั้นก็ซ่อนปราณเร้นกาย
จากนั้น เขาก็นำ ‘รังประหลาด’ ขนาดยักษ์ออกมาพินิจพิเคราะห์อยู่เนิ่นนาน ก่อนจะจมในภวังค์ความคิด
เพียงครู่ต่อมา เฉินซีเหมือนจะตัดสินใจบางอย่างได้ เขาโบกมือปลดผนึกมัน ก่อนจะเสียบยันต์ศัสตราเข้าสู่รูหนึ่งในนั้นอย่างระมัดระวัง
กี๊ซ!
ในรูนี้ก็มีตัวตนดุจตัวอ่อนอยู่เช่นกัน ทันทีที่ถูกยันต์ศัสตราทิ่มทะลวง เสียงพิกลก็ดังออกมาจากภายในดุจเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวด
จากนั้น พลังอันแปดเปื้อนสีเทาก็แผ่ออกมาใส่ยันต์ศัสตรา
เฉินซีไม่ได้หยุดมัน แต่พินิจเงียบ ๆ เสียแทน แตกต่างจากแสงโสมมที่จู่โจมเขาก่อนหน้านี้ พลังแปดเปื้อนสายนี้อ่อนแออย่างยิ่งจนเห็นชัด ทำได้เพียงคืบคลานบนยันต์ศัสตราทีละน้อยเท่านั้น
แม้มันจะเป็นเพียงเสี้ยวเดียว แต่กลับให้บรรยากาศป่าเถื่อนกระหายเลือดจนสัมผัสชัด มันกระทั่งบรรจุพลังอันชั่วร้ายบาปหนา ทันทีที่มันเริ่มคืบคลานบนยันต์ศัสตรา มันก็บิดตัวดิ้น ปลดปล่อยอำนาจกัดกร่อนอันชวนตะลึงอย่างต่อเนื่อง
กระทั่งสมบัติอันก้าวข้ามสมบัติวิญญาณธรรมชาติอันล้ำค่าสุดแสนอย่างยันต์ศัสตรายังสั่นสะท้านน้อย ๆ
เฉินซีเห็นเช่นนี้ก็เลิกลังเล รัศมีม่วงทองเรืองโรจน์ม้วนพันรอบฝ่ามือ ฉวยพลังแปดเปื้อนนั้นมาไว้ในมือตน
มันเริ่มดิ้นอย่างรุนแรง กระทั่งแผดเสียงชี่ดุดัน ราวมีชีวิตและความฉลาดเป็นของตัวเอง
เปรี้ยง!
เฉินซีออกแรงบีบมือ แล้วพลังแปดเปื้อนก็ถูกบดเป็นเสี่ยง แต่มันกลับกลายสภาพเป็นเส้นแสงบางเบานับร้อย ๆ พุ่งกระจายทั่วทิศ ตั้งใจดิ้นให้หลุดจากกำมือเฉินซี
ทว่าก็ไร้ผล ท้ายที่สุด พวกมันก็ถูกทำลายสิ้นซากอย่างรวดเร็ว
แม้เขาจะเห็นว่าอำนาจแปดเปื้อนนี้ถูกทำลายได้จริง ๆ เฉินซีก็หามีความสุขในใจไม่ เขาตัดสินได้แล้วว่านี่เป็นสิ่งมีชีวิตประหลาดซึ่งยังอยู่ในสภาวะตัวอ่อน แต่มีพลังชีวิตแข็งแกร่งทนทานยิ่งนัก
เฉินซีทดสอบมันอยู่เมื่อครู่นี้ เขาใช้แรงที่เพียงพอฆ่าจ้าวเอกภพหกดาราได้ง่าย ๆ แต่กลับทำได้เพียงทำลายเจ้าตัวน้อยที่ยังเป็นแค่ตัวอ่อน ดังนั้นจึงเห็นได้ว่ายามโตเต็มวัย สิ่งเหล่านี้จะน่าสะพรึงเพียงไหน
เฉินซีครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มทดสอบ ‘รังประหลาด’ ต่อไปด้วยสารพัดวิธีทดสอบอันเปลี่ยนไปทุกหน
เช่นพลังวิญญาณของเขา ความแข็งแกร่งในการแปรสภาพร่างกาย ยันต์ และกระทั่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ
แต่เขาก็ยังไม่อาจหาวิธีใดสังหารสิ่งมีชีวิตประหลาดเหล่านี้ได้ง่าย ๆ แม้จะฆ่าไปเกินครึ่งแล้วก็ตามที
ทว่าเมื่อทดสอบต่อไป เฉินซีก็ยิ่งแน่ใจในเรื่องหนึ่ง ซึ่งก็คือเจ้าพวกนี้มีชีวิต พวกมันแค่เป็นตัวอ่อน มีอำนาจไม่เพียงพอพัฒนา
ขณะที่ ‘รังประหลาด’ ใต้พฤกษาโบราณสีแดงเข้มเลี้ยงดูพวกมัน
อย่างหนึ่งรังในมือเฉินซีนี้ ดูแลสิ่งมีชีวิตเหมือนตัวอ่อนนี้ถึงร้อยสามสิบหกตัว!
นอกจากนั้น ทั่วทั้งป่ายังมีพฤกษาโบราณสีแดงเข้มเช่นนี้อยู่เกินนับ นี่หมายความว่ารังประหลาดก็มีมากมายเช่นกัน เมื่อจำนวนเพิ่ม สิ่งมีชีวิตเหมือนตัวอ่อนซึ่งถูกเลี้ยงภายในรังก็ต้องทวีคูณไม่แตกต่าง
จากการอนุมานเช่นนี้ ย่อมพบได้ว่าเป็นตัวเลขอันน่าสะพรึง
สิ่งเดียวที่เขารู้สึกว่าโชคดีคือ สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ต้องการพลังมหาศาลเพื่อพัฒนาการที่สมบูรณ์ ถึงจะออกจากรังได้ จึงเป็นข้อจำกัดมิให้มันแห่กันออกมาเป็นฝูงใหญ่
ลำแสงแปดเปื้อนที่ลอบจู่โจมเฉินซีเมื่อครู่ก็คือหนึ่งในตัวอ่อนเหล่านี้ที่ดูดซับซากศพของเพชฌฆาตบาปและพัฒนาตัวเองเสร็จสิ้น
ไม่สิ! อึดใจถัดมา เฉินซีก็ตระหนักว่าบางอย่างไม่ถูกต้อง เพราะระหว่างทางเขาสังหารผู้รุกรานเต๋าไปหลายสิบ ในหมู่พวกเขากระทั่งมีจ้าวเอกภพรวมอยู่ด้วยสองสามคน
ในเมื่อซากศพเหล่านั้นกระจายทั่วป่า ก็ย่อมต้องถูกรังประหลาดดูดซับไป!
เช่นนี้หมายความว่า สิ่งมีชีวิตในรังก็จะพัฒนาตัวเสร็จสมบูรณ์มากกว่านี้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หัวใจของเฉินซีก็ปรากฏเค้ากังวล
สมบัติลับอันตกทอดมาจากดอกบัวศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหล อยู่ในครอบครองร่วมของเต๋าบงกชและมารบงกชแห่งนิกายกระบี่เก้าเรืองรองจากแดนภวังค์ทมิฬ
แต่ด้วยเหตุการณ์ต่าง ๆ ชักนำ มันจึงมาอยู่ในมือเฉินซี
กระบี่นี้ไม่อาจตัดสินคุณภาพได้ชัดเจน อำนาจของมันกระทั่งอ่อนด้อยกว่าสมบัติศักดิ์สิทธิ์ทั่วไปหากใช้ในการเผชิญหน้าตรง ๆ อย่างมากที่สุดมันก็เทียบได้เพียงสมบัติเซียน
เพราะเหตุผลนี้เอง เฉินซีจึงเก็บสมบัติชิ้นนี้ไว้เฉย ๆ ไม่ได้ใช้มันจนบัดนี้
แต่เฉินซีตระหนักดีว่ามันมีความสามารถสยบศิษย์นิกายอำนาจเทวะในศึกอย่างแรงกล้าเกินคาดคิดยิ่ง!
มันคือหนึ่งสิ่งที่สนองต้านจุดแข็งของพวกเขาได้ เพราะอำนาจหายนะใด ๆ จะถูกกระบี่นี้ดูดซับ แปรเปลี่ยนเป็นอำนาจตนอย่างง่ายดาย
จากคำร่ำลือ กระบี่นี้คือเหตุผลใหญ่หลวงที่สุดที่นิกายอำนาจเทวะวางแผนโจมตีดอกบัวศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหลเมื่อกาลก่อนยามมันเหยียบย่างสู่จุดสูงสุดแห่งมหาเต๋า และตั้งใจแสวงมหาวิถี
แต่เฉินซีไม่คาดคิดเลยว่ามันจะเกิดความผิดปกติขึ้นยามนี้!
หากเขาเข้าใจไม่ผิด หกสิ่งมีชีวิตก่อนหน้านี้ถูกกระบี่ดูดกลืนไปสิ้น
และสัจธรรมก็ตรงตามความคิดเฉินซี ขณะนี้ กระบี่เต๋าวิบัติส่งเสียงกู่ร้องเบา ๆ ราวโห่ร้องอย่างสุดแสนเปรมปรีดิ์ ทำให้รัศมีแดงเลือดชวนตะลึงกระเพื่อมออกมาจากมัน
เห็นได้ชัดว่ามันดูดกลืนพลังในสิ่งมีชีวิตทั้งหกไป!
เปรี้ยง!
หลังเสียตัวอ่อนทั้งหมดไป รังประหลาดก็เหมือนสิ้นพลังชีวิต สลายเป็นผงไปทันใด
แต่เฉินซีก็ไม่คิดสนใจมันอีก ความสนใจของเขาเพ่งเล็งไปยังกระบี่เต๋าวิบัติในมือ สัมผัสได้ชัดเจนว่ากระบี่นี้เผยความรู้สึกโหยหาและยินดีอย่างสุดขั้ว
ยามมันเผชิญอำนาจหายนะจากนิกายอำนาจเทวะ กระบี่เต๋าวิบัติยังไม่แสดงปฏิกิริยามากมายเพียงนี้เลย!
หรือตัวอ่อนประหลาดเหล่านี้จะเป็นที่มาพลังที่กระบี่เล่มนี้โหยหาอย่างเร่งด่วนเป็นที่สุด?
ความคิดนี้ปรากฏในใจเฉินซี ขณะที่เขาเข้าใจความลับของสมบัติซึ่งดอกบัวศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหลทิ้งไว้นี้ลึกล้ำขึ้น
เหมือนกับฝูซี เซวียน ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เงาทมิฬ จักรพรรดิมด และจักรพรรดิยมโลกทั้งสาม ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหลก็เป็นผู้ช่วงชิงของยุคสมัยนี้เช่นกัน
มันเกิดจากความโกลาหลของสามภพ มีอำนาจยิ่งใหญ่สูงส่ง แล้วสมบัติที่ตัวตนในตำนานเช่นนี้เหลือไว้ มีหรือจะธรรมดา?
มันหาธรรมดาไม่ อย่างน้อยที่สุด แม้ฤทธาของมันจะไม่เลิศล้ำ เทียบกับสมบัติศักดิ์สิทธิ์ยังไม่ได้ แต่มันมีความสามารถพิเศษเฉพาะซึ่งต่อกรมรดกของนิกายอำนาจเทวะได้!
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...