บทที่ 2121 ยั่วยุ
………………..
บทที่ 2121 ยั่วยุ
ม่านที่เกิดจากพลังของเต๋าแห่งสวรรค์ได้ลงมาบนที่ราบสูงสังหาร
ในขณะนี้ กองกำลังทั้งสองฝ่ายหยุดการต่อสู้พร้อมกัน ทั้งสนามรบตกอยู่ในความเงียบสงบ
ช่างเป็นความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยเสียเลย ท้ายที่สุดแล้ว สงครามในตอนนี้ก็กว้างใหญ่เป็นพิเศษ เสียงตะโกนสั่นสะเทือนท้องฟ้า เสียงกลองศึกดังกึกก้องเหมือนฟ้าคำราม มันถูกปกคลุมไปด้วยความไม่สงบ ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์เมื่อชั่วครู่ก่อนหน้านี้ ความเงียบอย่างกะทันหันนี้จึงดูแปลกประหลาดมาก
เฉินซียังเห็นผู้เข้าร่วมจากตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังจะสับศีรษะของเพชฌฆาตบาปด้วยดาบในมือ ทว่ามือของเขากลับแข็งทื่อทันทีเมื่อม่านพลังของเต๋าแห่งสวรรค์ลงมาที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้น มันทำให้เขาเสียใจมากจนเดือดดาล จึงทำได้เพียงถอนดาบกลับ แล้วจากไปเท่านั้น
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในทุกพื้นที่ของสนามรบ
ไม่ว่าจะเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์จากตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์หรือผู้รุกรานเต๋า แม้ว่าความตั้งใจในการต่อสู้จะพลุ่งพล่าน และไม่ว่าพวกเขารู้สึกไม่เต็มใจเพียงใดก็ตาม พวกเขาทั้งหมดล้วนหยุดพร้อมกันเมื่อม่านลงมา!
หลังจากนั้นผู้เยี่ยมยุทธ์จากทั้งสองฝ่ายก็เริ่มถอยร่นกลับไป
เฉินซีไม่อาจละเว้นจากความรู้สึกประหลาดใจกับเหตุนี้ได้ และเขาก็เอ่ยถามว่า “จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าพวกเขายังคงต่อสู้ต่อไป”
“พวกเขาจะถูกทำลายล้างโดยบัญชาเต๋าสวรรค์ ไม่มีใครรอดสามารถชีวิตไปได้” จินอวิ๋นเซิงรีบกล่าวอย่างรวดเร็ว
“อย่างนี้นี่เอง” ดวงตาของเฉินซี หรี่ลง จากนั้นเขาก็นำจินอวิ๋นเซิงและคนอื่น ๆ ไปยังบริเวณที่ตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์อยู่
ในขณะนี้ เฉินซีสังเกตเห็นว่าเมื่อเขาเคลื่อนย้ายสสารมาที่นี่จากป่าหมอก แท้จริงแล้วเขาได้ปรากฏตัวใกล้กับศูนย์กลางของกองทัพผู้รุกรานเต๋า และการพุ่งไปข้างหน้าของเขานั้น เทียบเท่ากับการเคลื่อนตัวไปยังพื้นที่ที่ตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์อยู่
“ไอ้นอกรีต! การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งเมื่อไหร่ ข้าจะเอาชีวิตบัดซบของแกแน่!”
“รนหาที่ตาย! ข้าจำใบหน้าของเจ้าได้แล้ว หากเจ้าแน่จริงก็จงรอที่นี่! ในระหว่างการต่อสู้ครั้งต่อไป ข้าจะปลิดชีพตัวเอง ถ้าข้าไม่ทุบตีเจ้าจนกว่าเจ้าจะร้องอ้อนวอนให้แม่เจ้าช่วย!”
“ฮ่า ฮ่า! ฟังดูสูงส่งกระไรเช่นนี้”
“ฝากไว้ก่อนเถอะ! ไอ้สารเลว!”
เฉินซีพบกับผู้รุกรานเต๋าบ่อยครั้งระหว่างทาง ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายมีจิตสังหารอยู่บนใบหน้า และไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการฆ่ากัน พวกเขาทำได้เพียงด่าทอใส่กันเท่านั้น เพราะพวกเขาไม่กล้าโจมตีอย่างผลีผลาม และแค่ปะทะคารมกันเท่านั้น
เฉินซีไม่สนใจคำด่าทอและการยั่วยุเหล่านี้ เขาเดินหน้าต่อไป ไม่เพียงแต่จะไม่ผ่อนคลายเท่านั้น เขายังระมัดระวังตัวมากขึ้นอีกด้วย
หากไม่ใช่เพราะสถานการณ์ เฉินซีก็ไม่เต็มใจที่จะกลับไปยังที่ตั้งค่ายของตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือก
เพราะตามคำอธิบายของจินอวิ๋นเซิง ผู้เยี่ยมยุทธ์คนใดก็ตามที่พยายามอยู่ในสนามรบ เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลงจะถูกลงโทษโดยเต๋าแห่งสวรรค์ และถูกทำลายล้างทันที
ดูเหมือนว่าข้าไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
ความหนาวเย็นเสี้ยวหนึ่งแวบผ่านดวงตาของเฉินซี สายตาลึกล้ำยิ่งขึ้นและสงบมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น มีร่างมากมายปรากฏขึ้นในใจของเขา ซึ่งรวมถึงชื่อฉู่เกอ ถังเสี่ยวเสี่ยว ซุ่ยเหรินขวงหลัน เป่ยหมิงชางไห่ และเซี่ยรั่วเยวียน
หลังจากนั้น เฉินซีก็สลัดร่างเหล่านั้นออกจากใจหมดสิ้น และไม่เหลือความคิดใดที่กวนใจอีกต่อไป
จินอวิ๋นเซิงซึ่งเดินตามหลังเฉินซีก็ขมวดคิ้ว เขาจ้องมองที่แผ่นหลังของอีกฝ่ายด้วยท่าทางงุนงง ทันใดนั้น เขาสังเกตเห็นทันทีว่ากลิ่นอายอันสง่างามของเฉินซีดูเหมือนจะเปลี่ยนไป และมันก็กลายเป็นความว่างเปล่าที่ไม่อาจหยั่งถึง
ไม่นานนัก อาคารโบราณอันกว้างใหญ่ก็ปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้าอันห่างไกล มันเป็นตำหนักที่กว้างใหญ่ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยโบราณ แต่ละหลังมีความสูงกว่าหกลี้ และพวกมันก็เหมือนกับภูเขาหลายลูกที่ตั้งตระหง่านอยู่ที่นั่น
ตำหนักนั่นมืดสนิท เพียงแค่มองจากไกล ๆ ก็รู้สึกถึงกลิ่นอายของความผันผวนแห่งกาลเวลาปะทะหน้า และมันรู้สึกเหมือนว่าพวกมันยืนตระหง่านมาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งผ่านประสบการณ์ในสงครามมานับไม่ถ้วน ดังนั้นพวกมันจึงดูสง่างามและสูงส่งอย่างยิ่ง
นั่นคือที่ตั้งค่ายชั่วคราวสำหรับผู้เข้าร่วมตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์เพื่อพักผ่อน!
ฟึ่บ! ฟึ่บ!
คลื่นพลังอันผันผวนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากทุกสารทิศ จากนั้นร่างของผู้เยี่ยมยุทธ์จำนวนนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้น
พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้เข้าร่วมจากตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ และพวกเขาก็พุ่งเข้าหาตำหนักในระยะไกลอย่างต่อเนื่อง เมื่อพวกเขาปรากฏตัวที่นี่
คิ้วของเฉินซีเลิกขึ้น “เหตุใดพวกเขาถึงรีบขนาดนั้น?”
“เพื่อยึดครองตำหนัก” จินอวิ๋นเซิงกล่าว “มีตำหนักทั้งหมดสามสิบหกแห่ง ทุก ๆ แห่งมีสระศักดิ์สิทธิ์โกลาหล พวกมันให้ผลประโยชน์ในการบ่มเพาะและพักฟื้น”
เมื่อสิ้นคำ เสียงของจินอวิ๋นเซิงก็เผยความปรารถนาเล็กน้อย
“โอ้ มีอะไรที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษอีกหรือไม่?” เฉินซีครุ่นคิด
“ง่าย ๆ ก็ผู้แข็งแกร่งมีสิทธิ์ยึดครองตำหนัก อย่างไรก็ตาม ทุกคนมาจากฝ่ายเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่มีเรื่องทะเลาะกัน” จินอวิ๋นเซิงกล่าวอย่างรวดเร็ว “ดังนั้นทุกคนจึงตกลงกันว่า ผู้ที่มีแต้มการต่อสู้สูงกว่าจะได้รับตำหนักก่อน”
“นั่นไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้น ตัวอย่างเช่น ผู้เข้าร่วมจากตระกูลระดับต่ำบางตระกูล มีข้อได้เปรียบที่มีแต้มศึกมากกว่า แต่พวกเขาจะกล้าต่อสู้ตระกูลระดับกลางและตระกูลระดับสูงเพื่อตำหนักได้อย่างไร?” ทันใดนั้นชายชุดดำที่อยู่เคียงข้างจินอวิ๋นเซิงก็แค่นเสียงเย็น

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...