บทที่ 2127 ตอบแทนพระคุณด้วยความมุ่งร้าย
………………..
บทที่ 2127 ตอบแทนพระคุณด้วยความมุ่งร้าย
เมื่อเห็นร่างของจินอวิ๋นเซิงลงบันไดอย่างเร่งรีบ เฉินซีก็ถอนสายตากลับ จากนั้นเขาก็พลิกฝ่ามือขึ้น ซึ่งเผยให้เห็นน้ำเต้าสุราสีเขียวอันหนึ่ง
เขาเงยหน้าขึ้นแล้วดื่มสุราลงไปอึกหนึ่ง สุราที่ร้อนแรงและเข้มข้นได้ไหลลงมาในลำคอ เปลี่ยนเป็นความอบอุ่นที่แล่นไปทั่วกาย
ในที่สุด เมื่อเขาดื่มสุราจากน้ำเต้าจนหมด ดวงตาของเฉินซีที่ลุ่มลึกราวกับหุบเหวก็สว่างขึ้นจนสุดขีด
เขาโยนมันออกไปด้านข้างอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนที่จะมองไปที่สนามรบสีแดงเลือดในระยะไกล และความสว่างในดวงตาของเขาก็ค่อย ๆ หายไป ซึ่งพวกมันก็สงบลงอีกครั้ง
นี่เป็นรูปแบบหนึ่งของความสงบที่ต่างออกไป และมันก็ไม่เหมือนกับความสงบที่เขาเปิดเผยในอดีต
หลังจากนั้น เฉินซีก็วางมือไว้ด้านหลัง แล้วเดินลงไปตามบันได แต่จู่ ๆ เขาก็หยุดเมื่อเขาลงไปได้ครึ่งทาง และเขาใช้ปลายนิ้วเขียนอย่างไม่เป็นทางการบนกำแพงหินด้านข้าง
ไม่นานนักเขาก็เริ่มเดินลงไปอีกครั้ง จนร่างหายลับไปจากบันได
ในขณะนี้ กำแพงหินนี้ที่ได้รับการจารึกด้วยคำและแผนภาพจากผู้เข้าร่วมหลายคนตั้งแต่สมัยโบราณ ปรากฏคำอีกแถวหนึ่งอยู่ในขณะนี้ “แค่อยู่กับความจริงในใจก็เพียงพอแล้ว”
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เฉินซียึดถือคำกล่าวที่ว่า จงรู้แจ้งเต๋าแห่งสวรรค์และซื่อสัตย์ต่อหัวใจของเจ้า แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง!
มันเป็นรูปแบบหนึ่งของการรู้แจ้ง และมีเพียงเฉินซีเท่านั้นที่เข้าใจความลับที่แท้จริงของมัน
…
ตั้งแต่อายุยังน้อย เฉินซีบ่มเพาะมาโดยตลอด เขาใช้เวลาและโอกาสให้ดีที่สุดเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ตัวเอง
ตลอดเส้นทาง เขาผ่านร้อนผ่านหนาว และเอาชนะความยากลำบากที่ขวางทาง ก้าวผ่านภพมนุษย์ ภพเซียน และยมโลก เขาเคยเดินทางข้ามแดนเทพโบราณ เดินทางผ่านอวกาศอันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต ทั้งยังพิชิตแดนรวนเรลืมเลือน และเข้าไปในประตูแห่งวันโลกาวินาศ แต่ที่สำคัญที่สุดคือเขาเคยประสบกับอันตรายมาทุกประเภท และทนทุกข์กับความยากลำบากอันไร้ขอบเขต….
การขัดเกลาตัวเองจากการต่อสู้นองเลือดนับไม่ถ้วน และผ่านการทดสอบความเป็นความตาย ทำให้เฉินซีมีประสบการณ์และการเปลี่ยนแปลงที่เหนือกว่าผู้อื่นในโลก
เขาแข็งแกร่งจนถึงจุดที่ไม่มีใครสามารถเทียบเคียงเขาได้ และเขายังมาถึงจุดสูงสุดของขอบเขตใต้ล่างขอบเขตมหาเทพเต๋า และมีชื่อเสียงเลื่องลือทั่วพิภพจรดแดน
อย่างไรก็ตาม เฉินซียังคงรู้สึกถึงความกดดันอย่างใหญ่หลวง เมื่อเขาเข้าร่วมในศึกผู้พิทักษ์วิถีในตอนนี้ มันเป็นรูปแบบหนึ่งของความสิ้นหวังที่ทำได้เพียงไหลไปตามกระแสอย่างอดทน ต่อสู้อย่างอดทน และไม่สามารถควบคุมทุกสิ่งได้
มันเหมือนกับมือที่มองไม่เห็นซึ่งมีอิทธิพลต่อทุกสิ่งจากเงามืด และมันบังคับให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องต่อสู้ตลอดเวลา โดยที่ไม่สามารถควบคุมชีวิตของตัวเองได้
แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ มันไม่ใช่ปัญหาของการบ่มเพาะหรือความแข็งแกร่ง!
เมื่อเขาคิดว่าจะได้พบกับมารดา เมื่อบรรลุขอบเขตเซียนสวรรค์ เขาก็พบว่าไม่เพียงพอที่จะบรรลุเป้าหมายของเขาได้
เมื่อเขาคิดว่าเพียงแค่เข้าสู่แดนเทพโบราณก็เพียงพอแล้วที่จะกลับมารวมตัวกับบิดามารดาของเขาอีกครั้ง เขาก็ตระหนักได้ว่า การเป็นเทพยังไม่เพียงพอ
ในที่สุดเมื่อเขากลับมาพบบิดามารดาอีกครั้ง เขาก็ตระหนักว่ายังต้องทำสิ่งต่าง ๆ ให้สำเร็จอีกมาก เพื่อที่จะพาบิดามารดาของเขากลับไปด้วย
การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดในเต๋าสวรรค์ ทำให้เขาเทพพยากรณ์ตกอยู่ในอันตรายที่ใกล้เข้ามา
ความโกลาหลและสงครามทั่วปฐพี ทำให้ไม่มีใครไม่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติที่มาจากสวรรค์นี้….
ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหนก็ตาม มันทำให้เฉินซีรู้สึกว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลงมือและต่อสู้ มันเป็นความรับผิดชอบของเขา ซึ่งเฉินซีก็เข้าใจดีว่าเขาไม่สามารถปฏิเสธได้ทั้งหมด และเขาก็เต็มใจที่จะสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อปกป้องมันทั้งหมด
แต่…ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
ทำไม
คำถามนี้เป็นคำถามที่อยู่ในส่วนลึกที่สุดในหัวใจของเฉินซี เขาไม่เคยกลัวมหาวิถีแห่งเต๋า เขาไม่เคยหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบที่อยู่บนบ่าของเขา และเขาไม่เคยปฏิเสธที่จะต่อสู้
คำถามที่เขามีเป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของความสิ้นหวัง จากการที่ไม่สามารถควบคุมชีวิตตัวเองได้!
เมื่อมาถึงที่ราบสูงสังหาร จนมาถึงตำหนักแห่งนี้ซึ่งอยู่ภายในที่ตั้งค่าย เขาได้เห็นความโศกเศร้า ความโกรธเกรี้ยว ความจนปัญญา และสับสนในคำกล่าวและแผนภาพที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังโดยผู้เยี่ยมยุทธ์ที่เข้าร่วมในศึกผู้พิทักษ์วิถีในอดีต ….
เมื่อเขาเห็นประโยคนั้น สวรรค์หลอกลวงข้า!
คำถามที่เก็บอยู่ที่ก้นบึ้งในหัวใจของเฉินซี จึงอดไม่ได้ที่จะพุ่งขึ้นมาในใจ และเขาก็สัมผัสมันได้อย่างสมบูรณ์
เขายืนอยู่ที่จุดสูงสุดของตำหนัก มองผ่านหน้าต่างไปที่สนามรบสีแดงเลือดในระยะไกล แล้วเขาก็คิดคำนึงถึงเรื่องต่าง ๆ มากมาย
หลังจากนั้น เฉินซีก็คิดออก และคำถามที่ถูกระงับในส่วนลึกของหัวใจของเขามาเป็นเวลานาน ก็ถูกกำจัดไปโดยสิ้นเชิง
ดังนั้นดวงจิตแห่งเต๋าของเขาจึงได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์
คำกล่าวที่เฉินซีจารึกไว้บนผนังเป็นหลักการที่เขาเข้าใจ
แม้ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในสภาพจิตใจของเขา แต่ก็เหมือนกับการเปลี่ยนแปลงเส้นทางสู่เต๋าของเฉินซีโดยสิ้นเชิง
ความคิดนี้ไม่เพียงแค่สลายคำถามในใจของเขาเท่านั้น แต่ยังตัดบ่วงกรรมและพันธนาการในอดีตด้วยซ้ำ!
ดังนั้นจินอวิ๋นเซิงจึงรู้สึกตกใจและแสดงความเคารพต่อเฉินซี เมื่อเห็นว่าเขาซีดูเหมือนจะกลายเป็นคนละคนอย่างสิ้นเชิง ซึ่งสิ่งที่เขาก็ไม่ใช่ภาพลวงแต่อย่างใด



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...