บทที่ 2129 คลื่นลมยังคงกระหน่ำ
………………..
บทที่ 2129 คลื่นลมยังคงกระหน่ำ
คำตอบของซุ่ยเหรินขวงหลันดังก้องไปทั้งค่ายพัก มันทำให้ผู้เยี่ยมยุทธ์ที่กำลังตั้งตารอการต่อสู้ในวันพรุ่งนี้ถึงกับต้องผิดหวังไปตาม ๆ กัน
แม้ว่าคำตอบของเขาจะดูไม่ยอมคน ทว่าการตัดสินใจนั้นกลับคล้ายว่าเขากำลังสงวนท่าทีอย่างระมัดระวังอยู่
นี่ไม่ใช่นิสัยโดยปกติของซุ่ยเหรินขวงหลัน อย่างที่รู้กันดีว่าเขาเป็นคนที่ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ ทั้งยังบ้าอำนาจและหยิ่งผยอง เพราะแบบนั้นแล้ว การที่เขาตัดสินใจเลื่อนการต่อสู้ออกไปจึงทำให้คนอื่น ๆ อดรู้สึกสับสนสนเท่ห์ขึ้นมาไม่ได้
ด้านหนึ่ง เมื่อเฉินซีได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็เพียงแต่ส่ายหน้าอย่างนึกระอาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม จินอวิ๋นเซิงถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก ทีแรกที่เขาได้ยินว่าเฉินซีจะไปเยี่ยมซุ่ยเหรินขวงหลันในวันพรุ่งนี้เขายอมรับโดยดีว่าตนตกใจมากเพียงไหน ความวิตกก่อเกิดขึ้นในหัวใจของเขาอย่างยากจะหลีกเลี่ยง
เขาตระหนักดี หากเฉินซีถูกฆ่า เขา จินอวิ๋นเซิงก็ย่อมจะได้รับผลกระทบเช่นกัน กล่าวอีกนัยหนึ่ง เนื่องจากตอนนี้เขาอยู่ข้างเดียวกับเฉินซี และนั่นก็เท่ากับว่าพวกเขาสองคนมีความสัมพันธ์แนบชิด ดังนั้นหากเฉินซีต้องเผชิญกับจุดจบ เขาก็คงไม่อาจเลี่ยงชะตากรรมอย่างเดียวกันได้
โชคดีที่ซุ่ยเหรินขวงหลันไม่ตกลงในทันที!
แม้ว่าจะเหลือเวลาเพียงห้าวันก่อนที่ม่านฉากสวรรค์จะลงมาอีกครั้ง แต่มันก็อดคิดไม่ได้จริง ๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากซุ่ยเหรินขวงหลันต้องประสบกับสิ่งที่ไม่คาดฝันในสมรภูมิ?
แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างไรเสีย พวกเขาทั้งหมดมาจากตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ และพวกเขาก็มีหน้าที่ที่จะต้องจัดการกับผู้รุกรานเต๋าเมื่อสงครามเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
ทว่าตอนนี้ คำตอบของซุ่ยเหรินขวงหลันนั้นแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาจะต่อสู้กับทายาทศักดิ์สิทธิ์ ผานทง ในวันมะรืนนี้
ผานทงเป็นยอดคนที่น่าสะพรึงกลัวจากเผ่าผู้สูบโลหิต ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเขานั้นน่าเกรงขามอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดจากการที่เขาเป็นทายาทศักดิ์สิทธิ์ชั้นยอด
สำหรับจินอวิ๋นเซิงนั้น บางทีซุ่ยเหรินขวงหลันอาจจะฆ่าผานทงได้ แต่กระนั้นเขาก็ต้องจ่ายด้วยราคาที่สูงลิบลิ่วทีเดียว!
เนื่องจากผานทงและซุ่ยเหรินขวงหลันต่างก็อยู่ในระดับเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่อาจรับประกันได้ว่าคนทั้งสองจะสามารถเอาชีวิตรอดจากการต่อสู้และไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงใด ๆ
หากซุ่ยเหรินขวงหลันได้รับบาดเจ็บ เขาจะยังมั่นใจที่จะต่อสู้กับเฉินซีหรือไม่?
ไม่ว่าจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ก็ตาม จินอวิ๋นเซิงก็รู้ดีว่ามีเพียงสถานการณ์เช่นนี้เท่านั้นที่จะเป็นประโยชน์ต่อเฉินซี!
…
มุมหนึ่งซึ่งห่างไกลจากที่พัก เหลิ่งซิงหุนบดขยี้จอกหยกในมือทั้งสีหน้าเรียบเฉย “ดูเหมือนว่าซุ่ยเหรินขวงหลันจะไม่หุนหันพลันแล่นอย่างข่าวลือ” เสียงนั้นของเขาเย็นชายิ่ง
เต๋าอู๋ซวงเอกขเนกอย่างเกียจคร้านข้างสระศักดิ์สิทธิ์โกลาหลพร้อมทั้งพูดขึ้นด้วยเสียงอืดเอื่อย “คนที่มีความแข็งแกร่งขนาดนี้ไม่มีทางเป็นคนงี่เง่าไปได้”
เหลิ่งซิงหุนพยักหน้า “ในเวลาเช่นนี้ ไม่ง่ายเลยที่จะต่อสู้กับเฉินซีอย่างตรงไปตรงมา เด็กคนนั้นเข้าไปในค่ายพัก ยึดตำหนัก และสังหารฉางอวิ๋นเหยี่ย ฝีเท้าของเขาก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง รัศมีอันสง่างามล้นพ้นถึงขีดสุด ดังนั้นแม้แต่ข้าเองก็ไม่กล้ารับคำเขาอย่างหุนหันพลันแล่น”
เต๋าอู๋ซวงหัวเราะเบา ๆ สุ้มเสียงของนางไพเราะยิ่ง “เพราะแบบนั้น ซุ่ยเหรินขวงหลันจึงตั้งใจที่จะเลื่อนมันออกไปเพื่อลดทอนพลังของเฉินซีอย่างเงียบ ๆ จากนั้นก็นำพลังที่ผ่านการขัดเกลาหลังจากฆ่าผานทงไปต่อสู้กับเฉินซีอีกที มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่ทำให้แผนการของเขาสำเร็จ”
นางหยุดลงเพื่อทัดเส้นผมเข้ากับใบหู ดวงตาอันงดงามหรี่ลงคล้ายเพ่งมองลึกลงไปยังบางสิ่ง “สิ่งสำคัญอย่างเดียวก็คือ เขาจะสามารถฆ่าผานทงโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ ได้หรือไม่? หากเขาทำไม่ได้ แผนการของเขาก็ต้องล้มเหลว”
เหลิ่งซิงหุนเหลือบมองนางครู่หนึ่ง “ในเมื่อเขากล้าที่จะทำเช่นนี้ ก็แปลว่าเขามั่นใจว่าตนสามารถสังหารผานทงได้อย่างแน่นอน ข้าว่าความคิดของเจ้ายังมองไม่เห็นถึงแก่นแท้ของปัญหา”
“อย่างนั้นหรือ?” เต๋าอู๋ซวงยิ้มก่อนจะหยัดร่างขึ้นนั่งชันเข่าและใช้มือที่ขาวราวหิมะนั้นกอดขาเอาไว้ “แล้วอะไรคือแก่นแท้ของปัญหาเล่า?” นางถามพลางเหลือบมองคู่สนทนา
ท่าทางของเหลิ่งซิงหุนยังคงเรียบเฉย “สถานการณ์ในสนามรบเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าทายาทศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงคนอื่น ๆ จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างซุ่ยเหรินขวงหลันและผานทง!”
หญิงสาวปรบมือชมเชย “หากเมื่อหลายปีก่อนเจ้าฉลาดขนาดนี้ ก็คงไม่ตายด้วยน้ำมือของเฉินซีไปแล้วล่ะ”
ฉับพลัน สีหน้าของเหลิ่งซินหุนแข็งทื่อท่ามกลางความเงียบงัน
ฟึ่บ!
ตอนนั้นเอง แสงศักดิ์สิทธิ์พลันปรากฏขึ้นภายในห้องโถง ก่อนจะตกลงไปอยู่ในมือของเหลิ่งซิงหุน และกลายเป็นแผ่นหยกในที่สุด
ชายหนุ่มเพ่งพินิจมันชั่วครู่ จากนั้นม่านตาของเขาก็หดตัวลงอย่างช่วยไม่ได้ “เหตุใดสหายเต๋าผู้นั้นจึงลงมือ…?”
บนแผ่นหยกนั้นมีเพียงคำสั้น ๆ บันทึกไว้ ‘เซี่ยรั่วเยวียนประกาศท้าเฉินซี!’
…
ในเวลาเดียวกัน ทั่วทั้งค่ายพลันบังเกิดความปั่นป่วน ผู้คนมากมายพากันออกมาจากที่พักและมุ่งหน้าไปบรรจบกันที่ตำหนักของเฉินซีอย่างพร้อมเพรียง
เซี่ยรั่วเยวียนตั้งใจที่จะต่อสู้กับเฉินซี!
เดิมทีผู้เยี่ยมยุทธ์ส่วนใหญ่ในค่ายพักรู้สึกผิดหวังกับปฏิกิริยาของซุ่ยเหรินขวงหลันอย่างมาก ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน ข่าวว่าเซี่ยรั่วเยวียนขอท้าสู้กับเฉินซีก็แพร่กระจายไปทั่ว มันเหมือนกับระเบิดที่สร้างความตื่นเต้นครั้งใหญ่แก่ผู้คนโดยรอบ
เซี่ยรั่วเยวียนเป็นพวกกระหายชัยชนะ ไร้ความปรานี และน่าสะพรึงกลัว เขาสามารถฆ่าคนได้โดยที่ยังไม่ทันกะพริบตา!
ชายหนุ่มผู้นี้มาจากตระกูลเซี่ยซึ่งเป็นตระกูลระดับสูง ทั้งยังเป็นเพียงคนเดียวในตระกูลเซี่ยที่ได้รับสืบทอดราชันสงครามกระดูกเหล็ก ซึ่งเป็นมรดกของบรรพชนตระกูลเซี่ย! ความแข็งแกร่งของเขาเหี้ยมเกรียม ดุดัน ชายผู้นี้พรากวิญญาณของผู้คนมามากมายนับไม่ถ้วน เขาเหมือนกันราชันสงครามที่กลับมาจุติ เป็นความน่าสะพรึงกลัวที่ไม่ว่าใครก็ขวัญผวา

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...