เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 2138

บทที่ 2138 เก้าหลอมรวมเป็นหนึ่ง

………………..

บทที่ 2138 เก้าหลอมรวมเป็นหนึ่ง

หลังประตูตำหนักที่ปิดสนิท ร่างของเฉินซีถูกซ่อนอยู่ในหมอกของสระศักดิ์สิทธิ์โกลาหล

สิ่งที่เกิดขึ้นภายนอกตำหนักไม่อาจรบกวนเขาได้เลย

พลังประหลาดยังคงอาละวาดไปทั่วร่าง มันถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายแห่งลิขิตที่มาจากกระบี่เต๋าวิบัติ

หากเฉินซีพินิจกระบี่เต๋าวิบัติในตอนนี้ เขาก็จะสังเกตเห็นได้อย่างแน่นอนว่า บงกชลึกลับที่เกิดจากไข่มุกแห่งกฎทั้งสามลูกได้หายไปแล้ว

เห็นได้ชัดว่าพลังประหลาดซึ่งพุ่งเข้าสู่ร่างกายของเขานั้น ถูกสร้างขึ้นจากดอกบัวโปร่งใสที่ลึกลับนี้

น่าเสียดายที่เฉินซีไม่สามารถแบ่งแยกจิตใจ และสนใจสิ่งอื่นใดได้

ทุกห้วงเวลาที่ผ่านไป คืออันตรายที่เขาต้องเผชิญจากความไม่สงบภายในร่างกายของเขา เฉินซีไม่มีทางเลือกนอกจากต้องมุ่งความสนใจไปที่การระงับและจัดการกับความไม่ปั่นป่วนรวนเรภายในร่างกายอย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม จนถึงเวลานี้ เขายังคงไม่สามารถหาวิธีเฉพาะในการจัดการกับมันได้

ท้ายที่สุด เนื่องเพราะพลังประหลาดนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งลิขิต ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับเขาที่จะควบคุมด้วยการบ่มเพาะที่ขอบเขตจ้าวเอกภพเก้าดารา

ข้าควรทำอย่างไรดี? เฉินซีไม่รู้จะทำอะไรดี

เฉินซีไม่ได้สังเกตเลยว่า จิตสำนึกที่มีสมาธิอย่างมากของเขาค่อย ๆ มึนงงและไม่ชัดเจน….

หากเป็นเวลาปกติอื่น ๆ เฉินซีคงจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในจิตสำนึกของตนทันที แต่ในขณะนี้ เขาดูเหมือนว่าถูกครอบงำและไม่ได้สังเกตเห็นเลยสักนิด

ทันใดนั้น เฉินซีก็มาถึงสถานที่อันมืดมิดและลึกลับในสภาพมึนงง สถานที่นั้นไม่ชัดเจน ไร้ขอบเขตทั้งขนาดและความสูง เขาไม่รู้ว่าตนอยู่ที่ใด มันเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายและไม่อาจอธิบายได้

แก่นสสารของความโกลาหลในสามภพ!

มันเหมือนกับภูมิปัญญาที่ฟ้าประทานพรให้ เมื่อจู่ ๆ เฉินซีก็เข้าใจและรู้ว่าตนอยู่ที่ไหน

แต่ก่อนที่จะมีเวลาคิดเกี่ยวกับมัน จู่ ๆ จิตสำนึกของเขาพลันเริ่มพร่ามัว และรู้สึกเหมือนได้กลายร่างเป็นกระแสน้ำไหลทะลวงผ่านความมืด ซึ่งออกมาจากแก่นสสารของความโกลาหลในสามภพ

กระแสน้ำอันกว้างใหญ่หลั่งไหลออกมา มันข้ามขีดจำกัดของมิติ ส่งเสียงหวีดหวิวจากอดีตสู่อนาคต ซึ่งเป็นนิรันดร์และเกินขอบเขตของเต๋าทั้งหมด

มันกว้างใหญ่และศักดิ์สิทธิ์มาก ทุกเกลียวคลื่นเต็มไปด้วยพลังลึกลับ กฎ กรรม และโชคลาภ….

มันเหมือนกับช่องว่างตามธรรมชาติที่พาดเหนือท้องฟ้า เหนือทวยเทพทั้งปวง แต่มันก็เป็นเหมือนแหล่งกำเนิดของทุกสรรพสิ่งเช่นกัน มันยิ่งใหญ่ในสายตา แต่ก็ไกลเกินเอื้อม

มัน…

มันคือลิขิต!

มันคือธารนทีสายยาวแห่งโชคชะตา!

เมื่อความคิดนี้ปรากฏในใจ เฉินซีก็รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า ดวงวิญญาณรู้สึกราวหลุดลอยออกจากร่าง และกำลังล่องลอยไปรอบ ๆ ความว่างเปล่า คล้ายกำลังจะท่องไปตามแม่น้ำแห่งโชคชะตา เพื่อค้นหาว่าแม่น้ำเริ่มต้นจากที่ใด

ความรู้สึกดังกล่าวลึกซึ้งมาก ดังนั้นจึงไม่สามารถอธิบายได้!

เฉินซีสูญเสียประสาทสัมผัสและความคิดทั้งหมด เขาอยู่ในสภาพมึนงงเหมือนกับเด็กแรกเกิด และมีเพียงหัวใจอันบริสุทธิ์เท่านั้นที่ถูกทิ้งให้ล่องลอยไปตามสภาวะที่ลึกซึ้งนี้

เฉินซีไม่สามารถสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในจิตสำนึกของตนเลย รอยแตกระหว่างชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากทั้งแปดภายในทะเลแห่งจิตสำนึกของเขาค่อย ๆ หายไป ในท้ายที่สุด พวกมันก็หลอมรวมเข้าด้วยกันจนไม่เหลือรอยแตกใด ๆ และกลายเป็นชิ้นเดียวกันอย่างสมบูรณ์

มันเหมือนกับดวงแสงโปร่งใสที่ศักดิ์สิทธิ์ ดั้งเดิม ไร้ลักษณ์ และลึกซึ้ง ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อได้เห็นมัน ยังทำให้ใคร ๆ ก็ต้องตกตะลึงจนสุดขั้วหัวใจ

แต่ในท้ายที่สุด ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากทั้งแปดชิ้นที่หลอมรวมเป็นชิ้นเดียวก็กลายเป็นละอองแสงที่หายไปในทะเลแห่งจิตสำนึกของเฉินซี….

ไม่!

มันไม่ได้หายไป แต่มันหลอมรวมกัน!

ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่มันหลอมรวมก็คือร่างกายของเฉินซี!

มันคือเลือด เส้นเอ็น เส้นลมปราณ จุดชีพจร พลังชีวิต และดวงวิญญาณ…. ทุกซอกทุกมุมทั่วร่างกายถูกปกคลุมไปด้วยชั้นแสงโปร่งใสซึ่งดูศักดิ์สิทธิ์ ไร้ลักษณ์ ดั้งเดิม และลึกซึ้ง!

เมื่อหลายปีก่อน เฉินหลิงจวินได้บอกว่า เขาเคยครอบครองชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากชิ้นที่เก้า ก่อนที่เขาจะเกิดด้วยซ้ำ และมันทำให้เขากลายเป็นผู้ช่วงชิงซึ่งชะตากรรมถูกปกปิดโดยชิ้นส่วนของแผนภาพวารีหลาก

ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากชิ้นที่เก้าอยู่ในรูปแบบของตัวอักษรเต๋า ‘道’ และเฉินหลิงจวินได้รับมันเมื่อเข้าร่วมในศึกผู้พิทักษ์วิถี ก่อนที่เขาจะกลับชาติมาเกิดอีกครั้ง

มันเป็นเพราะชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากชิ้นที่เก้า ทำให้เฉินหลิงจวินต้องรับการโจมตีจากเต๋าสวรรค์ และถูกบังคับให้กลับชาติมาเกิดใหม่อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม แม้แต่เฉินหลิงจวินก็ไม่คาดคิดว่าในขณะที่เขาหลบหนีจากการไล่ล่าของนิกายอำนาจเทวะ ชิ้นส่วนของแผนภาพวารีหลากที่ได้รับบนภูเขาผนึกเทพ กลับบังเอิญหลอมรวมเข้ากับเด็กที่ภรรยาของเขาจั่วชิวเสวี่ยตั้งครรภ์ด้วยในเวลานั้น

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เด็กในครรภ์ซึ่งคือเฉินซี ชะตากรรมของเขาก็ถูกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และไม่มีใครในโลกที่สามารถทำนายชะตากรรมของเขาได้!

ทว่าบัดนี้ การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดภายในร่างกายของเขา ทำให้ชิ้นส่วนของแผนภาพวารีหลากซึ่งนิ่งสนิทอยู่ในทะเลแห่งจิตสำนึกของเขามาเป็นเวลานาน จู่ ๆ ก็ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ และเกิดเปลี่ยนแปลงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากทั้งแปดชิ้นหลอมรวมเข้ากับร่างกายของเฉินซีโดยสมบูรณ์ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของเขา!

เมื่อรวมกับชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากที่มีรูปร่างเป็นตัวอักษร ‘道’ ซึ่งได้หลอมรวมเข้ากับเฉินซีก่อนหน้านั้นแล้ว ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากทั้งเก้า ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่แผนภาพวารีหลากถูกระเบิดออกจากกันในระหว่างความขัดแย้งระหว่างสวรรค์กำเนิดบรรพ์และนภาผนึกเทพ ก็ถือว่าในที่สุดมันก็ฟื้นคืนสภาพสมบูรณ์แล้ว!

ในขณะนี้ แม้ว่าเฉินซีจะรู้สึกตัว แต่เขาก็ยังไม่สามารถจินตนาการได้ว่า เหตุใดการเปลี่ยนแปลงที่เหนือจริงและคาดไม่ถึงนั้นจึงเกิดขึ้น

เสียงของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า และมันก็ดังก้องดังก้องไปทั่วทิศ

ทันใดนั้น สถานการณ์ก็ทวีความตึงเครียดขึ้น และใกล้จะปะทุได้ทุกเมื่อ

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ถ้าอย่างนั้นข้าก็ต้องรบกวนทุกท่านแล้ว!” ทันใดนั้น เป่ยหมิงชางไห่ก็แผดเสียงหัวร่อ ขณะที่ร่างของเขากลายเป็นมหาสมุทรอันกว้างใหญ่พุ่งเข้าหาประตูที่ปิดสนิทซึ่งอยู่ห่างออกไป

ในเวลาเดียวกันนั้น ถังเสี่ยวเสี่ยวถือดาบโค้งสีน้ำเงินเข้มไว้มั่น ขณะพุ่งเข้ามาด้วยความตั้งใจจะหยุดเป่ยหมิงชางไห่

ทว่าซุ่ยเหรินขวงหลันได้โจมตีอย่างดุเดือด และหยุดนางไว้กลางคัน

ในเวลาเดียวกัน ผู้เยี่ยมยุทธ์คนอื่น ๆ ทั้งหมดของตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ก็ปิดล้อมเซี่ยรั่วเยวียน ทุกคนล้วนมีสีหน้าอาฆาตแค้น แม้ว่าพวกเขาจะกลัวฝ่ายตรงข้าม แต่ก็รู้สึกว่าพวกตนได้เปรียบในด้านจำนวน และคงจะสามารถรั้งอีกฝ่ายไว้ที่นี่ได้สักระยะหนึ่ง

“บัดซบ!” ดวงตากลมโตของถังเสี่ยวเสี่ยวเบิกโพลงด้วยความเดือดดาล แต่กลับไม่สามารถสลัดซุ่ยเหรินขวงหลันออกไปได้

ในอีกด้านหนึ่ง แม้จะใช้พลังอย่างเต็มที่ แต่เซี่ยรั่วเยวียนก็ไม่สามารถสลัดจากวงล้อมของผู้เยี่ยมยุทธ์หลายคนที่อยู่รอบข้างได้เช่นกัน

สำหรับจินอวิ๋นเซิง เขาถูกรายล้อมไปด้วยผู้เยี่ยมยุทธ์หลายคนเช่นกัน ไม่ต้องกล่าวถึงการหลุดออกจากวงล้อม แม้แต่การรักษาชีวิตก็เป็นเรื่องยากมากแล้ว

ภายใต้สถานการณ์อันวุ่นวายนี้ อาจกล่าวได้ว่า เป่ยหมิงชางไห่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง และมาถึงหน้าประตูตำหนักที่ปิดสนิททันที เขาเปิดประตูด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง และพุ่งเข้าไปในตำหนัก

ในตอนนี้ เป่ยหมิงชางไห่รู้สึกตื่นเต้นถึงขีดสุด จิตต่อสู้และจิตสังหารลุกโชนราวทะเลเพลิง ในใจเต็มไปด้วยความยินดี

ความขัดแย้งในตอนนี้ ทำให้เขาค่อนข้างกังวลว่าจะฆ่าเฉินซีตามที่ใจปรารถนาได้หรือไม่ แต่ตอนนี้เขาไม่ต้องกังวลแล้ว!

เพราะถ้าเฉินซีไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เฉินซีก็อาจจะพุ่งออกจากตำหนัก เพื่อหยุดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนี้ แต่เฉินซีกลับไม่เผยตัวออกมา!

ดังนั้นเป่ยหมิงชางไห่จึงรู้สึกว่าเฉินซีจะต้องบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน และซ่อนตัวเหมือนเต่าที่หดหัวอยู่ในกระดอง

เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ เป่ยหมิงชางไห่จะลังเลได้อย่างไร?

ทันทีที่เขาพุ่งเข้าไปในตำหนัก จิตสำนึกของเขาก็เพ่งไปที่เฉินซี ซึ่งอยู่ในสระศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหลทันที!

เจ้าหมอนี่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจริง ๆ และต้องพึ่งพาสระศักดิ์สิทธิ์โกลาหล เพื่อฟื้นตัวโดยเร็วที่สุด…

น่าเสียดายที่มันสายไปแล้ว!

โครม!

ประสบการณ์ที่เขาได้รับผ่านการต่อสู้และฆ่าฟันมานานนับปี ทำให้เป่ยหมิงชางไห่ตระหนักได้อย่างชัดเจนว่า เขาไม่สามารถลังเลหรือเสียเวลาแม้แต่เสี้ยว

โดยไม่รอช้า เขาโคจรพลังภายในกาย พร้อมกับกำกระบี่สีเขียวหยกที่ปกคลุมไปด้วยจิตสังหารด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วตวัดฟันลงไป!

กระบี่ของเขาพุ่งตรงไปยังเฉินซี ซึ่งอยู่ภายในสระศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหล!

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]