บทที่ 2142 เผชิญหล้าลำพัง
………………..
บทที่ 2142 เผชิญหล้าลำพัง
เสียงแตรเขาสัตว์หวูดหวิวสะท้านสรวงไปทั่วสมรภูมิ
ภาพอันน่าสยดสยองยามซากศพกองเป็นภูเขา โลหิตหลั่งนองเป็นทะเลปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ทั่วฟ้าดินทุกคืบศอกในสมรภูมิเต็มไปด้วยการต่อสู้ฆ่าฟัน วิชาเรืองโรจน์สอดประสาน แต่งแต้มเป็นภาพอันน่าสะพรึงกลัวแต่ก็งดงาม
เฉินซีลำพังถือกระบี่เต๋าวิบัติสีแดงเฉิดฉัน เหยียบย่างเข้าสู่สมรภูมิอีกหน
เขาเงยหน้ามองฟ้า ดวงตาสีดำประหนึ่งสะท้อนปริศนาแห่งจักรวาล ฉายประกายเย็นเยียบเฉยชา
จิตสำนึกมหาศาลอันจับจ้องมาที่เขาปลาสนาการไปแล้ว เฉินซีจึงสาวเท้าต่อได้โดยไร้กังวล
ตุบ! ตุบ!
เฉินซีดูก้าวเท้าเป็นจังหวะและระยะสม่ำเสมอ แต่ทุกย่างก้าวนั้นแท้จริงรวดเร็วยิ่งกว่าเคลื่อนย้ายมิติ กระทั่งมิติเวลายังคำนับต่อหน้าฝีเท้าของเฉินซี
ครืน!
ไม่นานนัก ผู้รุกรานเต๋ากลุ่มหนึ่งก็ปรากฏในคลองสายตา ทว่าพวกเขาไม่ทันได้เห็นรูปลักษณ์เฉินซีถนัดตา ร่างก็แหลกระเบิดเป็นเสี่ยง ประหนึ่งพวงประทัดถูกจุดไฟ เจิดประกายไฟสีเลือดโปรยปราย
เพียงพริบตา ผืนปฐพีก็เจิ่งนองโลหิต ทับถมด้วยกองซาก
เฉินซีไม่แม้แต่จะชายตา รุดเดินหน้าต่อไป
ขณะที่เหล่าอริตกตายอย่างน่าเวทนา พลังแห่งบาปชั่วร้ายก็ถูกกลืนกิน แปรสภาพกลายเป็นไข่มุกแห่งกฎเกณฑ์อันบริสุทธิ์สุกสกาวภายในกระบี่เต๋าวิบัติ
หลังจากที่เขาแปรสภาพดูดซับพลังอันไม่คุ้นตาซึ่งเต็มไปด้วยอำนาจลิขิตไป เฉินซีก็ทราบแล้วว่าตนได้แปรเปลี่ยนไปโดยสมบูรณ์
ในห้วงจิตสำนึก เขาสามารถพินิจธารนทีสายยาวแห่งโชคชะตาอันทอดตัวยาวเชื่อมอดีตและอนาคต เชื่อมกำแพงระหว่างมิติเวลา ดูไหลเรื่อยตราบนิรันดร์นั้นได้อย่างต่อเนื่อง
เขากระทั่งตระหนักชัดเจนว่าธารนทีสายยาวแห่งโชคชะตามีต้นสาย ณ สถานที่ซึ่งแก่นแท้แห่งมิติที่สามก่อตัวเกิด!
ธารนทีสายยาวแห่งโชคชะตาอยู่เพียงแค่เอื้อม!
แต่เฉินซียังคงเป็นจ้าวเอกภพเก้าดาราผู้หนึ่ง
เขาไม่เต็มใจทะลวงขอบเขตพัฒนา นั่นเป็นเพราะพลังที่เขาต้องใช้ในการเคลื่อนขอบเขตยังห่างไกลเกิน ไกลมากเหลือเกิน
พลังที่เขาต้องการนั้นเป็นสิ่งที่เขาต้องได้มาจากการทำศึกสังหารศัตรูเท่านั้น!
ขณะเดียวกัน เฉินซีก็เข้าใจว่าชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากทั้งเก้าที่หลอมรวมในกายอย่างสมบูรณ์แล้ว กลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวเขาที่ไม่อาจแยกจากกันได้อีก
การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ทำให้เฉินซีได้รับประสบการณ์เกินครั้งใด ทำให้ทัศนวิสัยหลุดพ้นจากขีดจำกัดของขอบเขตบ่มเพาะ ทะยานสูงเคียงข้างเต๋าสวรรค์ทั่วโลกหล้า!
สภาวะประหลาดเช่นนี้ดูราวกับเขามีอำนาจเทียบเคียงสวรรค์และมหาเต๋า
แต่ปรากฏว่าเขาก็ยังคงเป็นจ้าวเอกภพเก้าดาราผู้หนึ่ง มิใช่มหาเทพเต๋าผู้ถูกกล่าวขานว่าเรืองฤทธิ์เทียบสวรรค์ ควบคุมลิขิตตน สูงล้ำเหนือหล้า เทียบข้างมหาเต๋า
แต่เฉินซีแน่ใจนักว่าหากเขาสั่งสมพลังเพียงพอ เหยียบย่างขึ้นสู่ขอบเขตมหาเทพเต๋า มหาเทพเต๋าทั้งมวลในโลกหล้าก็จะมิใช่ภัยคุกคามสำหรับเขาอีก!
…
เฉินซีก้าวเดินต่อลำพังในสมรภูมิอันไร้ขอบเขต ทุกหนแห่งที่เคลื่อนผ่าน ทัพผู้รุกรานเต๋ากลุ่มแล้วกลุ่มเล่าล้วนปลิดปลิวตาม
นับแต่เริ่มจนบัดนี้ พวกเขาไร้หนทางดิ้นรน ถึงขนาดที่เฉินซีมิได้เหวี่ยงกระบี่จริง ๆ ด้วยซ้ำ
เขาทำเพียงเดินในสมรภูมิ แผ่ปราณออกครอบคลุมทั่วทิศ สังหารศัตรูในพริบตา ไม่มีโอกาสแม้แต่จะกระดิกตัวเข้าใกล้
เพียงไม่นาน ภาพอันน่าตกตะลึงนี้ก็ปรากฏแก่สายตายอดฝีมือฝั่งผู้รุกรานเต๋า
“นั่นมันเฉินซี!”
“เขาอยู่ตรงนั้น!”
“บอกคนอื่น ๆ ด้วยให้มารวมตัวกันที่นี่!”
จิตสำนึกอันน่าสะพรึงกลัวหลายต่อหลายสายกวาดสมรภูมิมารวมตัว เพียงชั่วกาลแสนสั้น ทายาทศักดิ์สิทธิ์สูงสุดซึ่งกระจายตัวทั่วสมรภูมิก็ดูเหมือนฝูงฉลามได้กลิ่นเลือด มุ่งหน้าตรงมายังทิศที่เฉินซีอยู่อย่างเปี่ยมล้นจิตสังหาร
เพราะพวกเขาได้รับคำสั่งให้ฆ่าเฉินซี ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด!
ปฏิกิริยาเช่นนี้ยิ่งใหญ่จนกระทั่งดึงความสนใจของยอดฝีมือจากตระกูลผู้พิทักษ์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ไปด้วย สิ่งนี้ทำให้พวกเขาหลายคนรู้สึกโชคดีในใจ เพราะแรงกดดันที่ประสบจะลดทอนลงไปยิ่งหากเฉินซีช่วยดึงตัวศัตรูระดับสูงสุดไปจากพวกตน
ขณะเดียวกัน ใครบางคนเริ่มยิ้มเย็น เพลิดเพลินไปกับความอับโชคของเฉินซี หวังอย่างยิ่งที่จะได้เห็นเฉินซีตกตายในมือทายาทศักดิ์สิทธิ์สูงสุดทั้งหลาย
การเปลี่ยนแปลงสถานการณ์อย่างละเอียดอ่อนในสมรภูมินี้ย่อมไม่พ้นสายตาเฉินซี ทว่าสีหน้าของเขายังคงเรียบเฉยเยือกเย็น ก้าวเดินต่อไป ไม่ลังเลหรือพยายามเลี่ยงหลบแม้แต่น้อย
ภูเขาซากศพทะเลโลหิตเกินคณานับก่อตัวขึ้นตามรายทางที่เขาเคลื่อนผ่าน
ไข่มุกแห่งกฎเกณฑ์ก่อขึ้นในกระบี่เต๋าวิบัติเพิ่มอีกสามเม็ด ผสานตัวก่อขึ้นเป็นหนึ่งบงกชกระจ่างบริสุทธิ์ หลังจากนั้น บงกชก็แปรสภาพเป็นพลังอันไม่คุ้นชินอันแฝงปราณแห่งลิขิต หลากเข้าสู่ร่างของเฉินซี และถูกดูดซับไปจนสิ้น
เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้น กระบี่เต๋าวิบัติก็เริ่มสร้างไข่มุกแห่งกฎเกณฑ์ขึ้นอีกครั้ง….
ก่อเกิดเป็นวัฏจักรที่เฉินซีฆ่าศัตรู ดูดซับแปรสภาพพลังบาปชั่วร้ายจากพวกเขา แล้วพลังอันแฝงปราณลิขิตก็จะถูกป้อนให้ร่างของเฉินซีดูดซับอย่างไม่หยุดหย่อน
หากเป็นยามก่อนแผนภาพวารีหลากผสานกันเป็นหนึ่งกับตัวเขา เพียงปราณเช่นนี้หนึ่งสายก็เป็นสิ่งที่เฉินซีมิอาจรับไหวแล้ว เขาจะอยู่ในสภาวะอันตราย พลังปั่นป่วนตีกันเองไปทั่วกาย
แต่ยามนี้ไม่เหมือนก่อนแล้ว ร่างของเขาดุจสุญตาอันไม่มีทางถูกถมเต็ม ไม่ว่าจะดูดซับพลังมากเพียงไร!
เฉินซีกระทั่งสัมผัสอย่างแรงกล้าว่าเพียงพลังนี้ยังห่างไกลเกินพอหากเขาคิดเหยียบย่างสู่ขอบเขตมหาเทพเต๋า
ชั่วขณะนั้น เขาถูกล้อมไว้อย่างสมบูรณ์
ครืน!
บริเวณแห่งนี้กลายเป็นเขตหวงห้าม รัศมีศักดิ์สิทธิ์เฉิดฉาย ประกายสมบัติทะยานฟ้า ไร้ผู้ใดกล้าเข้าใกล้ในรัศมีล้านลี้
ขณะนี้ ทั้งผู้รุกรานเต๋าและผู้พิทักษ์วิถีต่างตระหนักชัดว่าจุดศูนย์กลางของศึกนี้อยู่ที่เฉินซีลำพัง
แต่ไม่ว่าฝ่ายใด ทั้งสองฝ่ายล้วนอยากเห็นเฉินซีถูกสังหารเสียเดี๋ยวนี้
ในความเห็นผู้พิทักษ์วิถี เฉินซีคือผู้ช่วงชิง ผู้ผิดบาปที่พวกตนต้องสังหาร ไม่อาจยอมให้เขาอยู่รอด
ในความเห็นผู้รุกรานเต๋า เฉินซีคือกุญแจปลุกปฐมบรรพชน พวกเขาจึงคิดจับตัวหรือฆ่าเขาไม่ว่าด้วยวิธีการใดก็ตาม
กล่าวคือ สถานการณ์นี้เหมือนเป็นศึกระหว่างผู้รุกรานเต๋าและผู้พิทักษ์วิถี ทว่าแก่นแท้ของศึกนี้เคลื่อนไปอยู่กับเฉินซีแล้ว
นอกจากถังเสี่ยวเสี่ยว เซี่ยรั่วเยวียน จินอวิ๋นเซิง และอีกไม่กี่คน ไร้ผู้ใดอื่นเต็มใจทำเพียงมองยามเฉินซียังมีชีวิตต่อไป!
ขณะนี้ เฉินซีถูกล้อมไว้โดยทายาทศักดิ์สิทธิ์สูงสุดถึงหกคน ในสายตาคนส่วนใหญ่ เฉินซีไม่มีทางพ้นหายนะได้แล้ว
ผู้รุกรานเต๋าต่างตื่นเต้น
ผู้พิทักษ์วิถียิ้มเย้ยเย็นเยียบ
เหตุเช่นนี้ดูสุดแสนพิกลน่าขัน เป็นสิ่งที่มีเพียงผู้บ่มเพาะที่นี่เท่านั้นจะเข้าใจได้
ราวเฉินซีกลายเป็นศัตรูร่วมแห่งทั้งสองฝ่ายในยามนี้! ราวเผชิญหล้าลำพัง!
หนึ่งชั่วละเลียดชาถัดมา ศึกอันหนักหน่วงตะลึงโลกาก็จบลง
เหล่าผู้ชมทั่วทิศล้วนตะลึงยามเห็นร่างสูงใหญ่เพียงหนึ่งยืนตระหง่านเมื่อฝุ่นควันจางตัว
บุคคลเพียงหนึ่งนี้ยืนท่ามกลางฟ้าดินอันว่างโล่งย้อมด้วยสีเลือด ซากศพระเนระนาดแทบเท้า แดนดินเบื้องใต้แหลกร้าว กระบี่ในมือยังคงเรืองประกายสีเลือดแวววาว ดูประหนึ่งอาบย้อมด้วยโลหิต
เหตุนี้ทั้งแสนสะดุดตาและสะเทือนขวัญ ราวคลื่นความเหลือเชื่อสะท้านสู่ทุกดวงวิญญาณ
ในศึกนั้น ทายาทศักดิ์สิทธิ์สูงสุดหกคนถูกสังหาร เหลือเพียงเฉินซีที่ยังไร้รอยขีดข่วน!
จะไม่น่าตกใจได้อย่างไร?
เพราะถึงอย่างไร เคยมีจ้าวเอกภพเก้าดาราผู้ใดในโลกหล้าสร้างผลงานศึกเจิดจรัสเช่นนี้ได้ด้วยหรือ?
หากเรื่องนี้เกิดในแดนเทพโบราณ มันอาจกระทั่งถูกจดจำสรรเสริญตราบประวัติการณ์ เรืองโรจน์โชติช่วงบนหน้าประวัติศาสตร์ศึกได้ด้วยซ้ำ!
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...