บทที่ 2149 เข้าใจผิดแล้ว
………………..
บทที่ 2149 เข้าใจผิดแล้ว
เพลิงสีเลือดโอบล้อมทั่วฟ้าดิน ก่อเป็นนครผลาญโลหิตในปกครองของชื่อชิงอิง
เมื่อมองมาจากไกล ๆ ก็ดูเช่นแสงสีเลือดสาดส่องปกคลุม มีเพียงมหาเทพเต๋าเท่านั้นที่เห็นเรื่องทุกสิ่งภายในได้
แต่โชคดีที่พวกเขามิอาจเห็น หาไม่ ยอดฝีมือจากเผ่าผู้รุกรานเต๋าทั้งหลายในค่ายคงได้เดือดดาลจนกระอักเลือดกันเป็นแน่เมื่อพบว่า นอกจากชื่อชิงอิงจะไม่ลงมือโจมตีเฉินซีทันที เขากระทั่งเสวนากับเฉินซีจนบัดนี้
ขณะอยู่ในนครผลาญโลหิต ในที่สุดเฉินซีก็ได้ทราบสถานการณ์ของตน แต่ปฏิเสธจะเชื่อวาทะฝ่ายเดียวจากชื่อชิงอิงอย่างเต็มที่
ส่วนเรื่องที่เขาควรเดือดดาลหรือสิ้นหวังหรือไม่นั้น เฉินซีมิได้คิดถึงมันเลย
แม้เขาจะเป็นอริกับโลกทั้งใบในยามนี้ ก็ยากนักจะเปลี่ยนแปลงอารมณ์ได้
เพราะเฉินซีแตกต่างออกไปแล้วจริง ๆ หลังจากผสานรวมกับชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากทั้งเก้า ความปรารถนาเริ่มแรกและเป้าหมายที่ใจถวิลหาล้วนเป็นการเคลื่อนสู่ขอบเขตมหาเทพเต๋าทั้งสิ้น!
เฉินซีเชื่ออย่างหนักแน่นว่าเขาต้องรวบรวมพลังให้เพียงพอ เขาต้องการพลังอันสามารถทำให้การบ่มเพาะเกิดความรู้สึกเติมเต็มอิ่มหนำ
และอำนาจเช่นนั้นอยู่ตรงหน้าไกลออกไป!
ลางสังหรณ์บอกว่า เขาแค่ต้องผ่านทัพหน้าสมรภูมิที่สองนี้ไป ไม่นานก็จะพบพลังที่แสวงหา
…
แต่สิ่งแรกนั้น เฉินซีต้องจัดการอุปสรรคนามชื่อชิงอิงเสียก่อนจึงออกค้นหา
เฉินซีเงยหน้าขึ้นกล่าวกับชื่อชิงอิงอย่างไร้ลังเล “อันที่จริง ข้าไม่ได้ตั้งใจอยู่ฟังเจ้าพูดไร้สาระมากมายเพียงนี้ แต่เจ้าก็พูดเรื่องที่ค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อข้าจริง ๆ ดังนั้นข้าจึงจะให้โอกาสเจ้าสักครั้ง”
ชื่อชิงอิงตะลึง รอยยิ้มสำรวมที่มุมปากชะงักเฉียบพลัน สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบเฉยชา เจ้านี่จะตายอยู่แล้ว แต่กลับยังอวดโอ่จะให้โอกาสข้า?
น่าขำนัก! วอนตายแท้ ๆ!
“โอ้? โอกาสอันใดเล่า?” ชื่อชิงอิงตั้งใจฟังดูว่าเฉินซีบ้าไปแล้วจริง ๆ หรือไม่
“โอกาสรอด” เป็นตามนั้น คำตอบของเฉินซีทำให้ชื่อชิงอิงเผชิญความหมายแท้จริงของคำว่า ‘บ้า’ ในพริบตา!
เฉินซีพยักหน้าด้วยสีหน้าสุขุมนิ่งเฉย “หากเจ้าถอยไปเสียยามนี้ ข้าจะปล่อยให้เรื่องที่เกิดแล้วกันไป ไม่มาสร้างความลำบากให้เจ้าอีก นั่นคือขีดจำกัดที่ข้ายอมรับได้”
ขีดจำกัด…? ชื่อชิงอิงเกือบสงสัยในสมรรถภาพการได้ยินของตนเสียแล้ว เจ้าเด็กนี่บ้าไปแล้วหรือ? จะมีผู้บ่มเพาะปกติคนใดกล้าพูดเรื่องน่าขันเช่นนี้ยามใกล้ตายบ้าง?
ชื่อชิงอิงสูดหายใจลึก ๆ ฝืนสะกดโทสะไว้ในใจ เขาไม่อยากให้เฉินซีคิดไปว่าวาทะเพียงไม่กี่คำก็ยั่วโมโหเขาได้แล้ว
นั่นรังแต่จะทำให้ตนดูขาดวุฒิภาวะ เป็นสิ่งที่มหาเทพเต๋าไม่ควรสำแดง
ทว่า….
การถูกปฏิบัติด้วยเช่นนี้จากความเสียสติของเฉินซีก็ชวนอึดอัดใจนัก!
ขณะนี้ ชื่อชิงอิงอัดอั้นใจจนรู้สึกเจียนบาดเจ็บภายในเต็มที
เขาเคยพบเฉินซีในกาลก่อน ณ ป่าหมอก และพยายามทำข้อตกลงกับเฉินซีในที่ราบสูงสังหาร แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว
ทว่าเท่าที่ชื่อชิงอิงทราบ เฉินซีเป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์วิถีไม่กี่คนที่เขานับถือในฐานะศัตรู คนเช่นนี้อย่างน้อยจึงควรสำรวมมากคะนึง
ใครเล่าจะคาดคิดว่าศัตรูที่เขาจับตามองจริงจัง แท้จริงจะดูเหมือนคนโง่เง่าบ้าระห่ำรนหาที่ตาย! สิ่งนี้ทำให้ชื่อชิงอิงเคลือบแคลงว่าตนประเมินเฉินซีผิดไปในกาลก่อนหรือไม่!
ความอดทนของเขามีจำกัด? ทันทีที่ได้ยิน ใบหน้าของชื่อชิงอิงก็ดำคล้ำ ไม่อาจสะกดโทสะได้อีกต่อไป กล่าวขึ้นเสียงเย็น “เฉินซี ข้ารู้สึกว่าตัวเองไม่เคยประเมินใครผิด แต่การกระทำปัจจุบันของเจ้าทำให้ข้าผิดหวังอย่างแท้จริง….”
พูดไม่ทันจบ เฉินซีก็ขัดขึ้น “เจ้าจะตั้งใจเปลืองน้ำลายต่อไปรึ? คิดว่าข้าพูดเล่นอยู่หรือ?”
มิใช่เจ้าล้อเล่นอยู่หรือไร!? ชื่อชิงอิงเกือบหลุดโพล่งออกไปแล้ว เพราะมันดูไม่เหมือนมุกตลกสำหรับเขาด้วยซ้ำ แต่เป็นสิ่งที่คนโง่เท่านั้นจะพูดออกมาได้!
ขณะนี้ กระทั่งมุมปากของเขายังอดกระตุกรุนแรงมิได้ หลังสูดหายใจลึกติด ๆ กันสองสามหน เขาก็กล่าวด้วยเสียงเย็นเยือก “ก็ได้ ในเมื่อเจ้า….”
เฉินซีได้ยินแล้วก็พยักหน้าทันที สีหน้าของเขาผ่อนคลายลง “เช่นนี้สิจึงถูก เจ้าตัดสินใจเช่นนี้ นับได้แล้วว่าพูดรู้เรื่องกว่าคนส่วนใหญ่มากนัก”
ว่าแล้ว เฉินซีก็เริ่มก้าวเดิน
ชื่อชิงอิงเบิกตากว้าง เกือบหลุดสบถอย่างหลุดควบคุมว่ามารดามัน! ฟังข้าพูดให้จบก่อนสิโว้ย! ข้าไปตกลงตอนไหน?
ยังมาบอกอีกว่าข้าพูดรู้เรื่อง?
เหตุใดฟังแล้วอวดดีเช่นนั้น?
ชื่อชิงอิงสุดแสนคับข้องจนเจียนกระอักเลือด ใบหน้าบูดเบี้ยวไม่น่ามอง เพราะเมื่อครู่เขาตั้งใจจะพูดว่า… ก็ได้ ในเมื่อเจ้าไม่ยอมรับความผิดพลาด ก็อย่าโทษข้าที่ไร้ปรานีแล้วกัน!
แต่เขายังพูดไม่ทันจบ เฉินซีก็เข้าใจผิดไปไกลลิบ….
ณ ค่ายที่มั่นของผู้รุกรานเต๋า
ยอดฝีมือเผ่าผู้รุกรานเต๋าทั้งหลายต่างกลั้นใจรอคอย จ้องเขม็ง ณ แสงสีเลือดเรืองรองปรกนภาแสนไกล
แม้พวกเขาจะมิอาจเห็นสถานการณ์ภายใน ก็ยังรู้ว่านี่คืออาณาเขตยอดเทวาที่ชื่อชิงอิงได้มายามบรรลุขอบเขตมหาเทพเต๋า
ถึงขนาดที่แมงมุมอสูรและสามทายาทศักดิ์สิทธิ์สูงสุดอื่น ๆ ต่างอดรู้สึกริษยาอย่างอดมิได้ เพราะนี่คืออำนาจที่พวกเขาโหยหาจะได้รับเช่นกัน
หรือจะเกิดเหตุเกินคาดฝันใด ๆ?
ความคิดนี้เพิ่งปรากฏในใจ พวกเขาก็พบว่าจู่ ๆ รัศมีสีเลือดก็แผดจ้ารุนแรง
กำลังใจของเหล่าผู้รุกรานเต๋าเอ่อล้นทันที พวกเขามองมันอย่างคาดหวัง แต่พวกเขามิได้พบร่างทรงอำนาจของชื่อชิงอิง เป็นเฉินซีสาวเท้าออกมาด้วยสีหน้าสุขุมราวเดินในสวนหลังบ้าน
ผู้รุกรานเต๋าทั้งมวลจังงังไปทันที น- น- นี่… มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
หรือชื่อชิงอิงจะพ่าย? เป็นไปได้อย่างไร! ตลอดกาลนานมา เคยมีผู้ใดได้ยินว่ามีมหาเทพเต๋าพ่ายแก่จ้าวเอกภพเก้าดาราด้วยหรือ?
ไม่มี!
แต่… มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ยอดฝีมือมากมายกระทั่งสงสัยในจักษุตน เกือบยกมือขึ้นขยี้ตาแล้ว
ขณะนั้นเอง แสงสีเลือดทั่วนภาก็สั่นสะท้าน ก่อนจะพังครืนหายสิ้นเผยร่างของชื่อชิงอิงออกมา
แต่การกระทำในยามนี้ของชื่อชิงอิงแปลกไปนัก เขายืนนิ่งกับที่ มองไปยังทิศที่เฉินซีจรจาก มือขวายกขึ้นกางประหนึ่งโบกมือลา
สิ่งนี้ทำให้ดูเหมือนชื่อชิงอิงกำลังโบกมือลา ส่งเฉินซีจากอย่างไม่เต็มใจ….
ขณะนี้ กระทั่งทายาทศักดิ์สิทธิ์สูงสุดทั้งสี่ในค่ายยังเบิกตากว้าง หนึ่งความคิดปรากฏในใจอย่างเกินห้าม หรือชื่อชิงอิงจะจงใจปล่อยเฉินซีไป?
หาไม่ เหตุใดสีหน้าการกระทำของพวกเขาจึง… ไม่อาจสาธยายเช่นนี้?
หนึ่งจรจากอย่างสุขุมราวเดินเล่นในสวนหลังบ้าน ขณะที่อีกฝ่ายเหมือนโบกมือลา จะไม่ให้ผู้อื่นเข้าใจผิดได้อย่างไร?
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...