เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 2151

บทที่ 2151 อสนีบาตพิโรธ

………………..

บทที่ 2151 อสนีบาตพิโรธ

ฟึ่บ!

เพียงแค่ชั่วพริบตา เจตจำนงอันน่าสะพรึงกลัวมากมายได้พัดผ่านเขาไป เหมือนกับพายุอันน่าพรั่นพรึงที่โหมกระหน่ำ

หากเป็นจ้าวเอกภพเก้าดาราธรรมดาคนอื่น ๆ เพียงแค่ถูกกวาดโดยเจตจำนงอันน่าสะพรึงกลัวเหล่านี้ ก็จะทำให้วิญญาณถูกสยบอย่างสมบูรณ์ และหัวใจเต็มไปด้วยความสยดสยองแล้ว

ทว่าไม่ใช่กับเฉินซี ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยอักขระผนึกเต๋า และควบคู่ไปกับการบ่มเพาะในดวงจิตแห่งเต๋าที่ได้รับการหล่อหลอมครั้งที่แปด เขาจึงไม่ได้รับผลกระทบจากเจตจำนงดังกล่าวเลย

ยิ่งไปกว่านั้น พลังอักขระผนึกเต๋าทำให้เฉินซีสามารถจับเสียงของเจตจำนงเหล่านั้นที่พูดคุยกันผ่านกระแสปราณได้

“ผู้ช่วงชิงคนนั้นช่างกล้ามาที่นี่เพียงลำพังจริง ๆ หรือว่าแนวรบที่มหาสมุทรโลหิตศักดิ์สิทธิ์จะพังทลายลงแล้ว?”

“ยามนี้แล้ว ไฉนเจ้าถึงต้องสนใจเรื่องทั้งหมดนั้นด้วย เจ้าเด็กนั้นมาที่นี่เพียงลำพัง และนี่เป็นโอกาสอันดีที่สุดที่จะฆ่ามัน!”

“ใช่แล้ว ข้าสังเกตดูแล้ว ไม่พบกลิ่นอายของสิบสามข้ารับใช้เต๋าเลย ไอ้เฒ่าชั่วร้ายเหล่านั้นแค่ต้องการให้พวกเราฆ่าไอ้สารเลวน้อยนั้น”

“ฮึ่ม! แผนการของสิบสามข้ารับใช้เต๋านั้นไม่เลวเลย แต่พวกมันอาจคาดไม่ถึงว่าไม่มีทางที่พวกมันจะสามารถฆ่าปฐมบรรพชนของเราเมื่อท่านตื่นจากการหลับใหลได้!”

“ไม่ว่าเจ้าเด็กคนนี้จะเป็นเหยื่อเพื่อล่อเราหรือไม่ เราจะไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยเป็นอันขาด!”

“แล้วใครจะฆ่าเจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี่ล่ะ?”

“ใจเย็น ๆ เจ้าเด็กนี้ได้สังหารทายาทศักดิ์สิทธิ์สองคนในเผ่าอสนีบาตของข้า บัญชีแค้นนี้ไม่อาจละเว้นได้ ดังนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเยียนเจินเถิด!”

“เมื่อเป็นเช่นนั้น เราต้องรบกวนสหายเต๋าเยียนเจินแล้ว”

สำหรับจิตสำนึกอันน่าสะพรึงกลัวเหล่านี้ บทสนทนาทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงชั่วครู่เท่านั้น

เมื่อเฉินซีได้ยินมาถึงจุดนี้ จู่ ๆ ก็เกิดเสียงกึกก้องขึ้น ทันใดนั้นเขาก็เห็นสายฟ้าสีดำทมิฬทะยานขึ้นฉับพลันจาก ‘อาณาจักรในอวกาศ’ อันห่างไกล

สายฟ้าลงทัณฑ์สีดำสนิทพลุ่งพล่านไปทั่วทิศและปกคลุมฟ้าดิน มันเต็มไปด้วยสีม่วงอันน่าสะพรึงกลัว สายฟ้าที่ส่องประกายแวววาวนับไม่ถ้วนไหลผ่าน เกิดเป็นภาพที่น่าสยดสยองอย่างยิ่ง

เปรี้ยง!

สายฟ้าลงทัณฑ์ปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้า มีฤทธิ์ทำลายโลกทั้งใบ เฉินซีรู้สึกถึงบางสิ่งที่แวบผ่านตา รู้ตัวอีกทีเขาก็เหมือนยืนอยู่บนโลกที่ถือกำเนิดจากสายฟ้าทัณฑ์!

อาณาเขตยอดเทวา อสนีบาตพิโรธ!

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ร่างโบราณอันทรงพลังก็ปรากฏตัวขึ้น เขามีหัวเป็นนก ร่างกายเป็นมนุษย์ ปกคลุมไปด้วยสายฟ้าที่ส่องแสงแวววาว ในขณะที่สายฟ้าแล่นปลาบอยู่ในดวงตา นิ้วล้อมด้วยกระแสไฟฟ้าที่เต็มไปด้วยพลังทำลายล้าง

เมื่อมองจากระยะไกล เขาเป็นเหมือนกับเจ้าแห่งสายฟ้า!

เขาเป็นผู้อาวุโสของเผ่าอสนีบาต เยียนเจิน

แม้ว่าเฉินซีจะไม่รู้จักเยียนเจิน แต่เขาก็สามารถแยกแยะได้ว่า ตาเฒ่าคนนี้ได้บรรลุขอบเขตมหาเทพเต๋ามาเป็นเวลานานแล้ว พลังของเยียนเจินนั้นน่าเกรงขามมาก จนไม่ใช่สิ่งที่มหาเทพเต๋าเพิ่งบรรลุอย่างชื่อชิงอิงจะสามารถเปรียบเทียบได้

ทั้งหมดนี้ก็ยิ่งชัดเจนขึ้น จากกลิ่นอายที่อาณาเขตยอดเทวาของเยียนเจินปลดปล่อยออกมา

แต่กระนั้น เฉินซีหาได้เกรงกลัวไม่ เพราะเขาสามารถสัมผัสได้ถึงการเพรียกหาอันแข็งแกร่งจากไกล ๆ ซึ่งมันก็เป็นรูปแบบหนึ่งของความปรารถนาที่กระหายในพลังและความแข็งแกร่ง!

ความปรารถนาที่ไม่เคยมีมาก่อน หลังจากที่เขามาถึง ‘แดนก่อกำเนิดบาป’ และมันทำให้เลือดลมในร่างเดือดพล่านยากระงับ

มันรู้สึกเหมือนมีเหวไร้ก้นบึ้งได้ตื่นขึ้นภายในกาย และตั้งใจที่จะกลืนทุกสรรพสิ่ง!

ทว่าภายนอก ท่าทางของเฉินซียังคงสงบและไม่แยแส สายตาเย็นชาเหมือนหิมะ ไร้คลื่นอารมณ์ใด ๆ

เขาได้ดูดซับพลังงานจำนวนมหาศาลที่บรรจุปราณแห่งลิขิตไว้ พลังยุทธ์ผ่านการเปลี่ยนแปลงนับไม่ถ้วน

เมื่อถึงยามนี้ เขายังไม่พบคู่ต่อสู้ที่คู่ควร และนั่นรวมถึงชื่อชิงอิงที่ได้บรรลุขอบเขตมหาเทพเต๋าด้วย!

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เฉินซีจึงลืมเกี่ยวกับช่องว่างระหว่างขอบเขตของตนและขอบเขตมหาเทพเต๋าโดยสิ้นเชิง

เขาโหยหาการต่อสู้!

สัญชาตญาณทำให้เขาลืมเรื่องความเป็นความตาย และทิ้งความกังวลทั้งหมดไว้เบื้องหลัง สิ่งที่เขามีคือความกล้าหาญในการทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า

อย่างไรก็ตาม เฉินซีสงบพอที่จะรู้ว่าอารมณ์ของเขาไม่ได้รับผลกระทบ สัญชาตญาณยังคงเฉียบคม

มันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดมาก เหมือนกำลังเดินบนเส้นแบ่งระหว่างชีวิตและความตาย ทุกสิ่งที่เห็นและรู้สึกไม่ได้ส่งผลกระทบใด ๆ เลย

เยียนเจินแสยะยิ้มเหยียดหยันที่มุมปาก เมื่อสามารถดึงเฉินซีเข้าสู่อาณาเขตยอดเทวาของตนได้สำเร็จ แล้วจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาไม่แยแส “ไอ้หนู เจ้าได้กระทำผิดมากมายจนสมควรตาย! ดังนั้นจงรับการลงโทษของเจ้าซะ!”

คำกล่าวของเขาเรียบง่าย เด็ดขาด และตรงไปตรงมา!

นี่คือเอกลักษณ์ของมหาเทพเต๋า พวกเขาไร้การควบคุมและเด็ดขาด

เสียงของเขายังดังก้องไปในอากาศไม่สิ้นสุด ฟ้าดินพลันสั่นสะเทือน สายฟ้าลงทัณฑ์พลุ่งพล่าน พลังทำลายล้างหลั่งไหลลงมาจากด้านบน

ไม่ว่าจะฟ้า ดิน และซอกหลืบเล็กจ้อยล้วนพลุ่งพล่านด้วยสายฟ้าอันบ้าคลั่ง พวกมันส่งเสียงกึกก้องเหมือนเสียงคำรามที่เป็นลางบอกเหตุแห่งความตาย

ครืน!

นี่คืออาณาเขตยอดเทวา และมันคือ ‘อสนีบาตพิโรธ’ ของเยียนเจิน ที่เป็นศูนย์รวมของการบ่มเพาะทั้งหมด! เขาเป็นจ้าวและราชาที่นี่!

เพียงแค่คิด ทุกสิ่งจะตื่นขึ้น โดยที่ทั้งชีวิตและความตายอยู่ห่างออกไปเพียงชั่วพริบตา!

ยิ่งไปกว่านั้น กลิ่นอายกลับแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย!

มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?

แม้แต่เผ่าผู้อมตะศักดิ์สิทธิ์ก็ยังกลายเป็นกองกระดูก เมื่อดวงจิตแห่งเต๋าถูกทำลาย แต่เจ้านี้ไม่เพียงแค่ฟื้นตัว แต่กลิ่นอายยังแข็งแกร่งยิ่งขึ้น!

เหตุการณ์ที่ไม่น่าเชื่อเช่นนี้ ทำให้ผู้อาวุโสอย่างเยียนเจินตกตะลึง สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เขาไม่เสียเวลาอีกต่อไป รีบโคจรพลังทั้งหมดที่มี จากนั้นสายฟ้าอันบ้าคลั่งก็บีบอัดจนกลายเป็นเมฆสายฟ้าที่มีรูปร่างกลมเกลี้ยงโถมลงมา ขังเฉินซีไว้ภายใน และปล่อยการโจมตีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตั้งใจกำจัดเฉินซีให้สูญสิ้น

“ครั้งนี้มันควรจะตายได้แล้วกระมัง?” สายตาของเยียนเจินสั่นไหว เขาเป็นผู้อาวุโสของเผ่าผู้รุกรานเต๋าที่บรรลุขอบเขตมหาเทพเต๋ามานานเกินนับ และไม่จำเป็นต้องใช้อาณาเขตยอดเทวากับจ้าวเอกภพเก้าดาราด้วยซ้ำ

แต่ตอนนี้ เขาไม่เพียงใช้อาณาเขตยอดเทวาเพื่อจัดการกับเฉินซี แต่ยังถูกบังคับให้ใช้พลังอย่างเต็มที่ สิ่งนี้ทำให้เยียนเจินรู้ว่าเฉินซีนั้นท้าทายสวรรค์เพียงใด

เขาจะกลายเป็นคนที่น่าเกรงขามแค่ไหนในอนาคต ถ้าไม่ถูกสังหารตอนนี้?

โครม!

เมื่อความคิดเหล่านี้แวบเข้ามาในจิตใจ การระเบิดที่สะท้านโลกาก็ดังขึ้น เมฆสายฟ้าที่ห่อหุ้มเฉินซีระเบิดเป็นชิ้นเสี่ยง เกิดเป็นประกายแสงที่โปรยปรายไปรอบทิศ

ในเวลาเดียวกัน ร่างสูงโปร่งที่ไม่ได้รับอันตรายใด ๆ เฉินซีปรากฏขึ้นภายในระยะสายตาของเยียนเจินอีกครั้ง

ทันใดนั้น ใบหน้าของเขาก็มืดมนสุดขีด นัยน์ตาหดตัว มุมปากกระตุกยิก

เป็นไปได้อย่างไรกัน!? สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?

“ไอ้สารเลว! ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะไม่สามารถฆ่าเจ้าได้!”

ทันใดนั้น เยียนเจินก็หายใจเข้าลึก จิตสังหารโหมกระหน่ำ

“ไอ้เฒ่าสารเลว ข้าจะไม่เสียเวลากับเจ้าอีกต่อไปแล้ว!”

ฉับพลันนั้น แสงเย็นเฉียบก็พุ่งออกมาจากดวงตาที่สงบและไม่แยแสของเฉินซี แล้วร่างก็หายตัวไปจากจุดนั้น

ตุบ!

หัวใจของเยียนเจินเต้นแรง สีหน้าเปลี่ยนไปในที่สุด เพราะทั้งที่อยู่ในอาณาเขตยอดเทวาของตัวเอง แต่เขากลับไม่สามารถระบุตำแหน่งของเฉินซีได้เลย!

นี่ไม่ใช่แค่เรื่องที่คาดไม่ถึงเท่านั้น มันกลับน่ากลัวอย่างแท้จริง!

ฟึ่บ!

เยียนเจินไม่ทันได้ตอบสนอง ก่อนที่กระบี่แวววาวอวลไปด้วยกลิ่นเลือดหนาแน่นก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]