บทที่ 2182 ไม่อาจทำอะไรได้
………………..
บทที่ 2182 ไม่อาจทำอะไรได้
ณ บนฟากฟ้า ชุดสีดำของเจ้านิกายอำนาจเทวะโบกสะบัดยามถือยันต์เทวะอนันต์ไว้ในมือ กระแสพลังบัญชาเต๋าสวรรค์ที่ทั้งกระจ่างใสและลึกลับไปพร้อมกันเวียนวนอยู่รอบกาย ดูราวกับเป็นเจ้าครองเหนือที่เต๋าแห่งสวรรค์สรรค์สร้างขึ้นมา น่าเกรงขามไม่อาจขัดขืน
เหวินเต้าเจินลุกขึ้นจากพื้นด้วยความยากลำบาก ถอนหายใจยาวออกมาเมื่อเห็นเหตุเช่นนี้ “ไม่แปลกที่ข้าเด็ดหัวเจ้าไม่ได้ หมาเช่นเจ้าเริ่มใช้ประโยชน์จากเจ้านายตนแล้วสินะ”
เขาย่อมรู้ว่าพละกำลังที่เจ้านิกายอำนาจเทวะมีอยู่ตอนนี้ไม่ใช่แค่ยืมมาจากเต๋าแห่งสวรรค์ แต่กลับเป็นฝ่ายเริ่มควบคุมเต๋าแห่งสวรรค์แทนแล้ว!
การยืมและการควบคุมนั้นแตกต่างกัน เหมือนยืนอยู่ด้านนอกและด้านในของประตูเต๋าแห่งสวรรค์ ซึ่งประตูบานนี้เป็นประตูเปิดออกสู่โลกใบใหม่
เมื่อเป็นเช่นนี้ ถึงแม้ว่าเจ้านิกายอำนาจเทวะตรงหน้าจะเป็นเพียงเจตจำนง แต่การต่อสู้กับคนผู้นี้ก็ไม่ต่างไปจากการต่อสู้กับเต๋าแห่งสวรรค์
เหวินเต้าเจินจึงเลิกขัดขืน เดินซวนเซไปหาตี้ซุนแล้วนั่งลงก่อนยกน้ำเต้าขึ้นกระเดือกลงคอ จากนั้นก็เอ่ยกับตี้ซุน “ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายเราก็ไม่อาจรอดพ้นความวิบัติที่เกิดจากเปลี่ยนแปลงในเต๋าแห่งสวรรค์ไปได้”
ตี้ซุนรับน้ำเต้าเหล้ามาจากเหวินเต้าเจินแล้วเงยหน้าขึ้น ดื่มลงไปหลายอึกจนสาแก่ใจ “อย่างน้อยเราก็ทำในสิ่งที่ทำได้ไปแล้ว”
“พวกเจ้าสองคนไม่ดิ้นรนแล้วหรือ?” น้ำเสียงไม่ชัดเจนของเจ้านิกายอำนาจเทวะดังก้องขึ้นจากฟ้าสูง
“เจ้าชนะแล้ว ยังจะเอาอะไรอีก?” เหวินเต้าเจินเหลือบตามองเจ้านิกายอำนาจเทวะแล้วส่งเสียงในลำคอ
“ยันต์เทวะอนันต์อยู่ในมือเจ้า เจ้าจะทำลายเขานี้เมื่อไหร่ก็ได้ หากยังคิดจะสู้ต่อก็โง่แล้ว” ตี้ซุนเอ่ยด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
“ไม่หรอก พวกเจ้าสองคนคงลืมไปแล้วว่าข้ามาที่นี่เพื่ออะไร” เจ้านิกายอำนาจเทวะส่ายหน้า ปลายนิ้วดีดแผ่วเบา ยันต์เทวะอนันต์สลายหายไปทันที จากนั้นมันก็เปลี่ยนเป็นอักขระยันต์ลึกลับซึ่งเปล่งเส้นแสงออกมารุดหน้าออกไปยังทุกซอกทุกมุมของเขาเทพพยากรณ์
ทุกสิ่งอย่างกลับคืนสู่ที่ที่เคยจากมา ทั่วทั้งเขากลับคืนสู่ความปกติ
ตี้ซุนกับเหวินเต้าเจินหรี่ตาลงแล้วเงียบไป เหมือนไม่คิดว่าเจ้านิกายอำนาจเทวะจะยอมทิ้งโอกาสทำร้ายยันต์เทวะอนันต์ไปเช่นนี้
เพราะอย่างไรเขาลูกนี้ หรือก็คือเขาเทพพยากรณ์ ก็เป็นรากฐานของค่ายกลที่สร้างขึ้นมาจากยันต์เทวะอนันต์ หากสามารถทำลายยันต์เทวะนั้นได้ก็สามารถทำลายภูเขาได้ทั้งลูก
แต่เจ้านิกายอำนาจเทวะกลับไม่ทำเช่นนั้น
“ข้ามาที่นี่เพื่อหาว่าฝูซีได้ทิ้งอะไรไว้หรือไม่ยามเขาจากไป และมานำตัวคนไปกับข้า” เจ้านิกายอำนาจเทวะเดินเข้ามาก้มหน้ามองตี้ซุนกับเหวินเต้าเจินที่นั่งอยู่กับพื้น น้ำเสียงนิ่งสงบไร้อารมณ์ใด
เขาเดาได้แล้วว่าเจ้านิกายอำนาจเทวะคิดจะทำอะไร แต่ก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะอ่านแผนการพวกเขาออกหมดเช่นนี้
“ข้าคิดมาตั้งแต่อยู่ที่ตีนเขาแล้ว ด้วยพละกำลังของพวกเจ้าทั้งสองคน น่าจะสัมผัสการมาถึงของข้าได้ตั้งแต่แรก แต่เจ้าก็ยังไม่ยอมเผยกาย ปล่อยให้ข้าต่อสู้อยู่กับสหายน้อยผู้อ่อนแอสองคนนั้น” เจ้านิกายอำนาจเทวะสองมือไพล่หลังเอ่ยเสียงเชื่องช้า “พอข้ามาถึงริมเขา พวกเจ้าก็ยังไม่ปรากฏตัว กลับเป็นถังเสียนที่ออกมาหยุดข้า พวกเจ้าน่าจะรู้ดีว่าถังเสียนสู้ข้าไม่ได้แน่ แต่ก็ยังส่งเขามาตาย นั่นมันประหลาดมาก”
เขาหยุดไปเล็กน้อยแล้วว่าต่อ “พอข้าเห็นพวกเจ้าแล้วเห็นยันต์เทวะอนันต์ ข้าก็เลยอ่านแผนพวกเจ้าออก”
ตี้ซุนกับเหวินเต้าเจินยังคงนิ่งเงียบ ใบหน้ายิ่งเคร่งเครียด
เจ้านิกายอำนาจเทวะลากสายตาไปมองเหวินเต้าเจินแล้วถอนใจ “พูดกันตามหลัก เจ้าแค่ทำลายยันต์เทวะอนันต์ไปตามแผน แล้วทั้งเขาเทพพยากรณ์ก็จะถูกทำลายลงเช่นกัน เช่นนั้นข้าก็ต้องจากไปมือเปล่า น่าเสียดายที่พวกเจ้าทำไม่ลง ทำให้ผลลัพธ์สุดท้ายออกมาเป็นเช่นนี้”
เหวินเต้าเจินหน้าคว่ำ เอ่ยเสียงเย็นออกมา “หากจะฆ่าก็ทำเลย ยังจะพล่ามอะไรอยู่อีก?”
เจ้านิกายอำนาจเทวะคลี่ยิ้ม “ผิดพลาดเพียงครั้งทำลายทั้งแผนการ สุดท้ายพวกเจ้าก็ไม่ได้พ่ายแพ้ให้ข้า แต่แพ้เพราะดวงจิตแห่งเต๋าของตนเอง”
พูดถึงตรงนี้ เขาก็เงยหน้าขึ้นแล้วเดินไปยังยอดเขา ชี้ไปยังหมู่มวลเมฆาที่ปลายยอดนั้น “ถ้าข้าเดาไม่ผิด สิ่งที่ฝูซีทิ้งไว้ถูกซ่อนอยู่ตรงนั้น พวกเจ้าสองคนก็คงส่งศิษย์เขาเทพพยากรณ์เหล่านั้นไปที่นั่นเหมือนกัน”
ตอนนี้ตี้ซุนกับเหวินเต้าเจินไม่อาจคงความสุขุมไว้ได้อีก ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง ความโกรธเกรี้ยว และความสับสน
และโดยเฉพาะเหวินเต้าเจินที่ใบหน้าระบายความเสียใจ
เป็นไปอย่างที่เจ้านิกายอำนาจเทวะกล่าว พวกเขารู้ว่าอีกฝ่ายมาตั้งแต่แรกแล้ว
จากนั้นเหวินเต้าเจินก็ทำหน้าที่รวบรวมคนทั้งหมดส่งไปยังแดนเร้นลับเขาเทพพยากรณ์ ในขณะที่ตี้ซุนมุ่งหน้าออกไปหยุดยั้งเจ้านิกายอำนาจเทวะ
ทั้งสองรู้ดีว่าในเมื่อเจ้านิกายอำนาจเทวะมาเองก็เพราะต้องมีความมั่นใจบางอย่าง ดังนั้นเพื่อความอยู่รอดของเขาเทพพยากรณ์และความปลอดภัยของศิษย์ทั้งหลาย พวกเขาจึงตัดสินใจเสียสละตนเองเพื่อปกป้องผู้สืบทอดของสำนักให้ปลอดภัย
ตามแผนแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะสู้เจ้านิกายอำนาจเทวะไหวหรือไม่ เหวินเต้าเจินก็จะใช้ยันต์เทวะอนันต์ทำลายหุบเขาเมื่อศัตรูปรากฏตัว เพราะการทำลายหุบเขาก็เท่ากับการแยกแดนเร้นลับออกจากโลกภายนอกโดยสมบูรณ์ และกระทั่งเจ้านิกายอำนาจเทวะก็ยังทำอะไรไม่ได้
แต่สุดท้าย… เหวินเต้าเจินก็ไม่ได้ทำ
เขาลังเล!
เขาไม่เต็มใจ ไม่อยากทำลายเขาเทพพยากรณ์
ไม่ยอมให้สวรรค์แห่งการบ่มเพาะพลังซึ่งพวกเขาทั้งสามสร้างขึ้นมาต้องถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของตน
ซึ่งก็เป็นเพราะความไม่เต็มใจนี้ที่ทำให้เหวินเต้าเจินเกิดความลังเลที่หาได้ยากขึ้นมา แล้วก็เป็นเพราะความลังเลที่นำมาสู่ผลลัพธ์เช่นนี้
แล้วจะทำอะไรได้นอกจากถอนหายใจ?
จะให้เสียใจก็คงสายไปแล้ว!
ไม่แน่ก็อาจจะเป็นอย่างที่เหวินเต้าเจินว่าไว้เมื่อครู่ สุดท้ายพวกเขาก็หลีกหนีความวิบัติที่เกิดจากความเปลี่ยนแปลงในเต๋าแห่งสวรรค์ไม่พ้น
“วางใจแล้วพักผ่อนอยู่ตรงนี้เถอะ ข้าได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วข้าก็จะไปทันที” เจ้านิกายอำนาจเทวะมุ่งหน้าไปยังหมู่มวลเมฆาตรงนั้น
“อย่าเชียวนะ!”
“ไม่!!!”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...