เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 2184

บทที่ 2184 ไร้ความลังเล

………………..

บทที่ 2184 ไร้ความลังเล

ศิลานั้นดูสุดแสนธรรมดาหากว่าด้วยแค่ภาพลักษณ์ภายนอก มันเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งกาล มีตะไคร่ปกคลุมเป็นหย่อม ๆ ตั้งอยู่หน้ากระท่อมผ่านการกัดกร่อนจากลมฟ้าเกินนับปีจนมีสภาพเช่นนี้

ในอดีต เหล่าศิษย์จากเขาเทพพยากรณ์ตระหนักเพียงว่าบรรพชนผู้ก่อตั้งสำนักพวกตน ฝูซีประจักษ์เต๋าขณะนั่งบนศิลาก้อนนั้น จึงเป็นเหตุให้ศิลานี้มีความหมายเกินธรรมดา เป็นเช่นวัตถุศักดิ์สิทธิ์

แต่เมื่อพวกเขาได้ยินบทสนทนาระหว่างอู๋เซวี่ยฉานและเจ้านิกายอำนาจเทวะ ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าศิลานี้มิใช่ธรรมดาเช่นรูปลักษณ์ภายนอก!

มันมีชื่อว่าศิลาอดีตชาติ เป็นสิ่งที่บรรพชนผู้ก่อตั้งสำนัก ฝูซีได้มาจากจักรพรรดิยมโลกองค์ที่สาม!

จากคำพูดของเจ้านิกายอำนาจเทวะ หากมิได้ครอบครองศิลาอดีตชาติ การควบคุมสังสารวัฏอันเป็นนิรันดร์อย่างแท้จริงนั้นเป็นไปไม่ได้เลย ต่อให้มีระเบียนแดนมรณะและพู่กันพิพากษามารในครอบครอง!

ขณะที่อู๋เซวี่ยฉาน ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเขาบอกว่า การจากไปของบรรพชนฝูซีนั้นเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับศิลาอดีตชาติ

เป็นเรื่องเกินเข้าใจอย่างยิ่งโดยแท้!

แม้พวกเขาจะไม่อาจประมาณเหตุผลที่แท้จริงได้ แต่ก็ตระหนักชัดว่าเจ้านิกายอำนาจเทวะมายังเขาเทพพยากรณ์เพื่อนำศิลาอดีตชาติออกไป!

นอกจากนั้น หากเขานำออกไปสำเร็จ มันก็อาจทำให้บรรพชนของพวกเขาผิดแผนได้

หัวใจของปวงชนกระเด้งขึ้นจุกคออย่างเกินห้าม ตราบชั่วชีวิตไม่เคยกระวนกระวายเพียงนี้

หลังจากเจ้านิกายอำนาจเทวะได้รับคำตอบบางอย่างจากอู๋เซวี่ยฉาน เขาก็มิได้เผยอารมณ์ใด ๆ เนื่องจากเขาไม่ได้มายังเขาเทพพยากรณ์เพราะนึกจะมาเฉย ๆ อยู่แล้ว

กลับกัน เป็นเช่นที่เขาเพิ่งบอกตี้ซุนและเหวินเต้าเจินไปเมื่อครู่ วัตถุประสงค์การมานั้นเรียบง่ายยิ่ง คือมานำศิลาอดีตชาติและคนสองสามคนไปกับเขา

นอกจากนั้น การทำลายเขาเทพพยากรณ์หามีความหมายสำหรับเขาไม่

ขณะนี้ เจ้านิกายอำนาจเทวะจ้องมองอู๋เซวี่ยฉานซึ่งยืนห่างจากออกไปสิบช่วงก้าว พลางเอ่ยปาก “ดูเหมือนเจ้าจะไม่ยอมให้ข้านำมันไปด้วย ถูกหรือไม่?”

อู๋เซวี่ยฉานพยักหน้า “จะหยุดไว้ด้วยชีวิตแน่นอน”

อู๋เซวี่ยฉานพยักหน้า ตอบอย่างตรงไปตรงมา “เป็นเช่นนั้น”

เจ้านิกายอำนาจเทวะลดรอยยิ้มที่มุมปากลง เงียบนิ่งไป

เขายื่นมือข้างหนึ่งออกมา เรียวนิ้วขาวดูเรืองรองด้วยรัศมีปริศนาเกินมนุษย์งอตัวเคาะไปทางอู๋เซวี่ยฉาน

การเคลื่อนไหวของเขาดูเรียบเรื่อย เหมือนกับแขกผู้มาเยือนเคาะประตูกระท่อม

ทว่าการเคลื่อนไหวอันเรียบง่ายนี้กลับแฝงความลึกล้ำไร้ขอบเขตในสายตาอู๋เซวี่ยฉาน ราวมันสามารถปกปิดโลกา ขยี้สรรพสิ่ง พ้นจากกระแสแห่งกาล

มันเป็นความรู้สึกชวนสะพรึงอย่างยิ่ง ไม่เหมือนกำลังเผชิญหน้าการโจมตีอันเรียบง่าย แต่เหมือนรับมือกับสรวงสวรรค์ทั้งแผ่นผืน ดุจเผชิญหน้าการไต่สวนจากลิขิตชะตา!

อู๋เซวี่ยฉานสูดหายใจลึก ๆ ขณะที่นัยน์ตาลึกล้ำวูบไหวด้วยประกายแสงเรืองรอง ราวมีหมื่นเต๋าเคลื่อนโคจร

ขณะเดียวกัน เขาก็ผลักมือออกไปบนอากาศเบา ๆ

ฤทธิ์การผลักนี้หมดจดตรงไปตรงมา ดูราวจะผลักมหาเต๋าและโลกทั้งใบออกห่าง เฉียบขาดเด็ดเดี่ยวเป็นอย่างยิ่ง

เจ้านิกายอำนาจเทวะกล่าวอย่างประหลาดใจ “มิคาดเลยว่าเจ้าจะประจักษ์เค้าปริศนาแท้จริงของมหาวิถีแล้ว นับว่าก้าวข้ามความสำเร็จของทั้งตี้ซุนและเหวินเต้าเจินไปนิดหน่อย เมื่อไม่กี่ปีก่อน เจ้ามิได้สามารถเช่นนี้เลย”

ขณะเดียวกัน นิ้วที่บีบตัวชิดกันเด้งกางออกราวเกาทัณฑ์พ้นสาย ตรงแน่วประหนึ่งกระบี่ แทงไปเบื้องหน้าเบา ๆ แลัวฝ่ามือที่ผลักเข้าหาเจ้านิกายอำนาจเทวะของอู๋เซวี่ยฉานก็ชะงัก เขาชักมือถอยราวถูกของร้อน นอกจากนั้น เขายังเหมือนถูกโจมตีร้ายแรง ซวนเซถอยหลังสามก้าว ใบหน้าสลับไปมาระหว่างแดงก่ำกับซีดขาว

“เมื่อกาลก่อน ข้าประจักษ์ยามสิบสามข้ารับใช้เต๋าถูกสังหาร เทียบอันดับเทวาถูกผ่าแยก และโชคดีได้ประจักษ์เบาะแสบางอย่างสู่ความลึกล้ำแท้จริงแห่งมหาวิถี” อู๋เซวี่ยฉานสูดหายใจลึก ๆ ติดกันสองสามหน ก่อนที่แขนเสื้อกว้างจะสะบัดโบยเช่นวายุ เลื่อนลั่นดุจอัสนี นิ้วของสองมือประสานเป็นตราประทับโบราณ แล้วผลักมันออกมาเบา ๆ

วิ้ง!

ผังอักขระยันต์ศักดิ์สิทธิ์ลึกลับมากมายก่อตัวในที่ว่างระหว่างทั้งสอง ทุกผังล้วนกระจ่างใส บรรจุกฎแห่งลิขิตมหาศาล พวกมันประชันรัศมีขณะลุกลามเข้าหาเจ้านิกายอำนาจเทวะดุจไฟป่า

ดวงตาทุกคู่รอบข้างเจ็บแปลบดุจถูกทิ่มแทง แล้วทั้งวิญญาณและดวงจิตแห่งเต๋าก็ถูกแผดเผาเจียนระเบิดแหลก รู้สึกรวดร้าวสาหัส

สิ่งนี้ทำให้พวกเขาต่างตกตะลึง หลับตาลงตามสัญชาตญาณ มิกล้าพินิจศึกต่อแล้ว

การต่อสู้ระดับนี้น่ากลัวเกินไป! มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะเข้าใจได้เลย นอกจากนั้น แค่หนึ่งชำเลืองก็ทำให้วิญญาณและดวงจิตแห่งเต๋าเจียนสลายเช่นนี้ เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่อาจทำความเข้าใจได้

“โอ้? สิบสามข้ารับใช้เต๋าถูกสังหารแล้ว? มิน่า มิน่าเล่า….” เจ้านิกายอำนาจเทวะดูเหมือนจมในความคิด ทว่าการกระทำมิได้เชื่องช้า ขณะที่อู๋เซวี่ยฉานลงมือ เขาก็สะบัดแขนเสื้อเบา ๆ

ผังอักขระยันต์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งแผ่ลามมาทางเจ้านิกายอำนาจเทวะพลันสลายเป็นเถ้าธุลีสู่สุญตา ขณะเดียวกัน พลังอันไร้ลักษณ์สายหนึ่งก็พุ่งเข้ากระแทกร่างอู๋เซวี่ยฉาน

เปรี้ยง!

ร่างของอู๋เซวี่ยฉานสะท้าน เรือนผมขาวโพลนเช่นหิมะสะบัดส่าย ใบหน้าซีดขาว มุมปากมีโลหิตแดงสดซึมไหล

แต่เขากลับเหมือนหาสังเกตไม่ สายตาจ้องมองเจ้านิกายอำนาจเทวะอย่างสุขุม มือขวากำหมัด ชกออกไปอย่างเรียบง่ายธรรมดา

มันคือการโจมตีที่หวนลักษณ์สู่สามัญหรือ?

เปล่า

หมัดนี้ถูกเรียกว่าตามใจจำนง ความคิดในใจอัดแน่นสู่กำปั้น เป็นวิชาอันทิ้งทุกความล้ำลึกและศาสตร์วิชา มีเพียงจำนงที่จะขยี้สรรพสิ่งตรงหน้าให้แหลก

เจ้านิกายอำนาจเทวะตะลึงไปเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัดยามเผชิญหมัดอันดูไร้การขัดเกลานี้ “ที่แท้เจ้าก็รู้จักศาสตร์ลึกล้ำอย่างตามใจจำนงด้วย หากให้โอกาส เจ้าอาจกลายเป็นฝูซีอีกคนก็เป็นไปได้”

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]