เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 2190

บทที่ 2190 อาจารย์ลุงจี้อวี๋

………………..

บทที่ 2190 อาจารย์ลุงจี้อวี๋

วูบ!

จิตสำนึกของเฉินซีทะยานผ่านมิติอันกว้างไกล ผ่านชั้นแดนโลกาวินาศมาถึงหนึ่งสถานที่อันไพศาลไร้ขอบเขต

สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยบัญชาเต๋าสวรรค์กระจ่างเรือง ดูราวโซ่ศักดิ์สิทธิ์บัญชาทอตัวทบไปมาไม่จบสิ้น เผยบรรยากาศยิ่งยงอันเป็นของเต๋าสวรรค์เท่านั้น

เฉินซีตระหนักชัดว่าพลังเต๋าสวรรค์อันปกคลุมสามภพเป็นอำนาจของนภาผนึกเทพ

หากเขาคิดเข้าสู่สามภพ ก็ต้องเลี่ยงกำแพงอันก่อจากโซ่ศักดิ์สิทธิ์บัญชา เพราะหากถูกพวกมันตรวจพบ เขาจะเผชิญทัณฑ์สวรรค์ทันที

ทัณฑ์สวรรค์เช่นนี้หาธรรมดาไม่ กระทั่งมหาเทพเต๋ายังตกตายได้ทันที เขาไม่มีโอกาสรอดชีวิตใด ๆ

นี่คือเหตุผลหลักที่ตลอดกาลนานมา เหตุใดยอดฝีมือจากแดนเทพโบราณ จึงมีน้อยนักจึงได้เข้าสู่สามภพ

แต่เห็นได้ชัดว่ากำแพงอันตรายซึ่งเต็มไปด้วยบัญชาเต๋าสวรรค์เช่นนี้หาได้อันตรายนักหนาสำหรับเฉินซีไม่

วูบ!

ยามจิตสำนึกของเขาชี้สู่จุดหนึ่งในสามภพ เฉินซีก็สาวเท้าออกมาจากแดนโลกาวินาศ ปรากฏกายยังจุดประสานของบัญชาเต๋าสวรรค์

สองเท้าก้าวเดิน สองมือไพล่หลัง ดูไร้เจตนาเลี่ยงบัญชาเต๋าสวรรค์แต่อย่างใด

ปรากฏว่าโซ่ศักดิ์สิทธิ์บัญชาอันกระจ่างเรืองเหล่านั้นกลับไม่อาจสังเกตเห็นการมีอยู่ของเฉินซี และปล่อยเขาผ่านไปโดยไร้การระแคะระคาย

ตัวตนเกินธรรมดาซึ่งบรรลุเค้าปริศนาแห่งมหาวิถีย่อมสามารถใช้เคล็ดวิชาเคลื่อนกายผ่านบัญชาเต๋าสวรรค์อันไร้ขอบเขตได้ แต่การทำเช่นนั้นเป็นอันตรายยิ่งสำหรับพวกเขา ผิดพลาดเพียงน้อยอาจชักนำหายนะมาสู่ตน พวกเขาจึงไม่กล้าเลินเล่อแม้แต่น้อย

แต่เฉินซีไม่เหมือนกัน เขาทำราวเดินเล่นในสวนหลังบ้าน สุขุมสงบเงียบ มิก่อให้เกิดคลื่นกระเพื่อมในบัญชาเต๋าสวรรค์แม้เพียงเสี้ยว หากผู้บ่มเพาะอื่นใดมาประจักษ์ภาพเช่นนี้ เกรงว่าคงผงะพูดไม่ออกกันเป็นแน่

ท้ายที่สุด การที่เฉินซีทำได้เช่นนี้ก็เพราะเขาประจักษ์ปริศนาแห่งมหาวิถี ที่สำคัญเหนือใดคือ เขามีอำนาจของแผนภาพวารีหลากอันสมบูรณ์!

ไม่นานนัก หนึ่งโลกหล้าอันกว้างไกลก็คลี่ตัวออกดุจผืนผ้าใบในมโนสำนึกของเฉินซี

สี่พันเก้าร้อยทวีปดุจดาราแต่งแต้มทั่วภพเซียน ดูเจิดจรัสพร่างพราว

มันถูกโอบล้อมด้วยปราณเซียน กลิ่นอายแห่งอารยธรรมวิถีเซียนหลากหลั่ง ระบบการบ่มเพาะอันเป็นเอกลักษณ์ของวิถีเซียนสร้างประวัติศาสตร์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของภพเซียน

ขอบเขตราชันเซียนเป็นเหมือนราชันแห่งภพเซียน สัญจรโลกหล้าอย่างยิ่งยง เลิศล้ำเกินผู้ใด ปกครองโลกหล้าด้วยอำนาจไร้ขอบเขต

ภพเซียนนั้นเป็นเช่นเมืองสวรรค์อันยิ่งยงตราบกาลสำหรับผู้บ่มเพาะทั้งหลายที่อยู่ใต้อารักขาของบัญชาเต๋าสวรรค์สามภพ

เฉินซีอดเหม่อไปเล็กน้อยมิได้ และภาพประสบการณ์ตลอดเวลาที่เขาบ่มเพาะในภพเซียนก็ไหลเลื่อนเป็นฉาก ๆ ในมโนสำนึก

สี่ทวีปเซียนอันยิ่งใหญ่

เมืองเซียนสัประยุทธ์

สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า

ราชันเซียนรัตติกาล เหมิงซิงเหอ อาซิ่ว หัวเจี้ยนคง ชิวเสวียนซู เซวียนหยวนพัวจวิน โจวจื่อหลี….

นามของบุคคลและสถานที่อันคุ้นเคยถักทอปรากฏตามความทรงจำเหล่านั้น ทำให้สายตาของเฉินซีเผยเค้าความรู้สึกอันลึกล้ำ

ผ่านไปนานปี พวกเขายังอยู่ดีหรือไม่?

เฉินซีใจลอยอยู่เนิ่นนาน ก่อนจะสูดหายใจลึก ๆ แล้วสายตาก็คืนสู่ความกระจ่างเยือกเย็น นอกจากนั้น ร่างของเขายังเปลี่ยนเป็นลำแสงอันเรืองรองเช่นภาพฝัน หายวับไปจากบัญชาเต๋าสวรรค์อย่างเงียบเชียบ

ภพเซียน

เมืองเซียนสัประยุทธ์

หนึ่งร่างสูงใหญ่พลันปรากฏจากมิติอันกว้างไกล ห่างจากเมืองเซียนสัประยุทธ์หลายพันลี้

เฉินซียืนเงียบกับที่ สายตามองไปที่เมืองโบราณอันยิ่งใหญ่จากไกล ๆ

มันยังคงรุ่งเรืองพลุกพล่านเช่นกาลก่อน ผู้บ่มเพาะมากมายหลั่งไหลเข้าออกตลอดเวลา

สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าตั้งอยู่ไกลในตัวเมืองชั้นใน ทำให้มันดูเป็นเงาตะคุ่ม เต็มไปด้วยบรรยากาศยิ่งยงสูงส่ง

เฉินซีจำได้ราง ๆ ว่ายามเขาบรรลุสู่ขอบเขตเทวารู้แจ้งโลกา มุ่งหน้าสู่แดนโลกาวินาศ กำลังของนิกายอำนาจเทวะทั่วภพเซียน ยมโลก และภพมนุษย์ถูกถอนรากถอนโคน ขณะที่พายุละเลงเลือดโหมกระหน่ำทำให้นิกายอำนาจเทวะต้องเก็บตัวเงียบ

ทว่ากระทั่งเขายังคาดไม่ถึงว่าไม่กี่ปีผ่านไป ภพเซียนอันเสียหายสาหัสมิเพียงฟื้นความสงบรุ่งเรือง ยังโรจน์รุ่งเฟื่องฟูกว่ากาลก่อนมาก

บรรยากาศความเจริญและบรรยากาศสงบสุขทั่วนครทำให้เฉินซีอดรู้สึกปลาบปลื้มมิได้ เขารู้ว่านี่ต้องเป็นเพราะสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าแน่นอน

เพราะถึงอย่างไร สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าก็กลายเป็นผู้นำเพียงหนึ่งเดียวของภพเซียนหลังจากนิกายอำนาจเทวะถูกทำลาย ยิ่งใหญ่เกินสั่นคลอนในโลกหล้า

ในเมื่อมันอยู่ในการบริหารของยอดฝีมือมากมายของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า ไร้การคุกคามจากนิกายอำนาจเทวะอีกต่อไป ความสงบสุขในภพเซียนจึงยิ่งเฟื่องฟูตามเวลา

จี้อวี๋เข้าใจเจตนาของเฉินซีทันที การเดินทางนี้ของเฉินซีอันตรายยิ่ง เฉินซีจึงไม่อยากพบญาติมิตรยามนี้ เพื่อมิให้พวกเขาเป็นห่วง

หลังจากนั้น จี้อวี๋ก็ถามถึงสิ่งที่เฉินซีประสบมานับแต่มุ่งหน้าสู่แดนเทพโบราณ ซึ่งเฉินซีก็หาได้ปิดบังใด ๆ และบรรยายทุกสิ่งที่เขาประสบมาตลอดหลายปี

เนิ่นนานจากนั้น จี้อวี๋ซึ่งได้รับรู้ถึงอันตรายมากมายที่เฉินซีประสบมาก็อดทอดถอนใจมิได้

พูดแล้วเหมือนง่าย แต่ใครเล่าจะเข้าใจถ่องแท้หากมิได้ประสบมันกับตัว?

ยิ่งกว่านั้น ยามพบว่าเต๋าสวรรค์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเกินคาดหมาย และกระทั่งเขาเทพพยากรณ์ยังเกือบพิบัติวายวอด สีหน้าของจี้อวี๋ก็เคร่งเครียดขึ้นกว่าเก่ามากอย่างอดมิได้

“อาจารย์ลุง ท่านทำอะไรที่สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าหรือ? ข้าจำได้ว่าท่านเดินทางแสวงหามหาวิถีหลังออกจากโถงโบราณนี่นา” เฉินซีถาม

“อาจารย์เจ้าขอให้ข้ามาที่นี่” จี้อวี๋อธิบายคร่าว ๆ

ที่แท้ ฝูซีในมาตุภูมิหมื่นวิถีก็คาดถึงการอุบัติของหายนะล่วงหน้าหลายปีแล้ว จึงแจ้งให้จี้อวี๋พิทักษ์สามภพเพื่อป้องกันเหตุผิดพลาดใด ๆ

จริงเช่นนั้น หลังจี้อวี๋มาถึง สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าได้ไม่นาน เขาก็สังเกตพบร่องรอยของยอดฝีมือบางส่วนจากนิกายอำนาจเทวะ

ยอดฝีมือเหล่านั้นล้วนมีความแข็งแกร่งเหนือชั้นเกินขอบเขตราชันเซียน แต่พวกเขามิได้ประสบทัณฑ์จากบัญชาเต๋าสวรรค์ใด ๆ ลึกลับร้ายกาจถึงที่สุด

นอกจากนั้น เหตุที่พวกเขามายังสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าก็เพราะตั้งใจทำทุกวิถีทางเพื่อจับตัวทุกผู้ที่เกี่ยวข้องกับเฉินซี!

หากจี้อวี๋มิได้อยู่ในสำนักศึกษา พวกเขาก็อาจทำสำเร็จ

เฉินซีรู้สึกโชคดีในใจเมื่อได้ยินเช่นนี้ เขาเป็นห่วงญาติมิตรในสามภพนับแต่บดขยี้เสี้ยวจำนงของเจ้านิกายอำนาจเทวะในเขาเทพพยากรณ์มาตลอด เขาจึงออกเดินทางสู่สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าทันทีเมื่อกลับถึงสามภพ

แต่เขาคาดไม่ถึงว่าจี้อวี๋จะมาถึงก่อนล่วงหน้า และกระทั่งช่วยจัดการกับคนของนิกายอำนาจเทวะให้เบ็ดเสร็จ เขาจึงประหลาดใจอย่างแท้จริง

“ข้ารู้ว่าพวกคนจากนิกายอำนาจเทวะทำเรื่องเหล่านั้นได้อย่างไร เจ้านิกายอำนาจเทวะเริ่มควบคุมบัญชาเต๋าสวรรค์แล้ว ด้วยเหตุนี้ เขาจึงปล่อยให้ยอดฝีมือขอบเขตเทวะมายังสามภพได้อย่างง่ายดายมาก” เฉินซีอธิบาย

จี้อวี๋พยักหน้า “นั่นคงเป็นเหตุผล ข้าแค่มิคาดเลยว่าเจ้านิกายอำนาจเทวะจะแข็งแกร่งเพียงนี้แล้ว”

เฉินซีว่า “ทุกอย่างต้องขอบคุณความช่วยเหลือของอาจารย์ลุง หาไม่ ผลลัพธ์คงเกินคาดคิดเป็นแน่”

จี้อวี๋หัวเราะเบา ๆ “เจ้าหนู จำไว้ว่าเจ้าไม่เคยต่อสู้ลำพัง อาจารย์เจ้า ข้า และเขาเทพพยากรณ์ทุกคนล้วนหนุนหลังเจ้าอยู่”

หัวใจของเฉินซีอุ่นวาบ พยักหน้ารับ “เข้าใจแล้ว”

จี้อวี๋เผยสีหน้าถือตัว “เราเขาเทพพยากรณ์ต่อกรกับนิกายอำนาจเทวะได้เกินนับปี ย่อมมีความสามารถที่กระทั่งเจ้านิกายอำนาจเทวะยังกลัว เหมือนเช่นยามนี้ ไม่ว่าแผนของเจ้านิกายอำนาจเทวะจะเลิศล้ำเพียงไร เขาก็ไม่อาจออกจากมาตุภูมิหมื่นวิถีได้ในขณะนี้ ในเมื่ออาจารย์ของเจ้าลงมือกับเจ้านิกายอำนาจเทวะด้วยตนเองอยู่!”

แต่ไม่นานนัก จี้อวี๋ก็อดส่ายหน้าถอนใจมิได้ “ทว่าเจ้านิกายอำนาจเทวะไม่เหมือนเดิมแล้ว สถานการณ์เช่นนี้คงอยู่ได้ไม่นานหรอก….”

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]