เข้าสู่ระบบผ่าน

บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 2194

บทที่ 2194 กระอักเลือด

………………..

บทที่ 2194 กระอักเลือด

ฝูซีแข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ หนี่หวาเองก็แข็งแกร่งไม่แพ้กัน

ทั้งสองเป็นยอดคนที่ไม่ธรรมดา ยิ่งใหญ่เกินกว่าจะมีใครได้เป็นคู่ต่อสู้ที่ทัดเทียม

ตำนานของพวกเขาถูกกล่าวขานไปทั่วภพแดน เรื่องราวเกี่ยวกับพวกเขาเป็นเหมือนมหากาพย์ที่สั่นสะเทือนใจของผู้คนยามเมื่อนึกถึงหรือได้ยลยิน!

สิ่งเหล่านี้มิใช่เรื่องเกินจริงเลย มีเพียงไม่กี่คนในประวัติศาสตร์เท่านั้นที่จะมีความแข็งแกร่งเทียบกับพวกเขาได้

ทว่าบัดนี้ สิ่งมีชีวิตชั้นยอดทั้งสองกลับถูกเฉินซีบดขยี้ลงโดยง่าย พวกเขาไม่แม้แต่จะต้านทานได้เลย

หากผู้เยี่ยมยุทธ์ในโลกภายนอกได้เห็นเหตุการณ์เช่นนี้ พวกเขาไม่มีทางเชื่อสายตาตัวเองอย่างแน่นอน กระนั้นมีเพียงเฉินซีที่รู้ดีถึงราคาที่ตนต้องจ่ายไปกับการฆ่าคนทั้งสอง

อย่างน้อยที่สุด ดวงจิตแห่งเต๋าที่สมบูรณ์มั่นคงของเขาก็ยังคงสั่นไหว ไม่อาจจะกลับคืนสู่ความสงบได้ในช่วงสั้น ๆ

ยิ่งเขาพยายามฝืนสงบสติอารมณ์ตัวเองมากเท่าไร ดวงจิตแห่งเต๋าที่สั่นระริกก็ยิ่งได้รับผลกระทบมากเท่านั้น ผลของมันกระเทือนต่อร่างกายของเขาเป็นทอด ๆ ส่งผลให้ใบหน้าของเขาซีดเผือดและเปรอะเปื้อนด้วยเลือดที่กระอักออกมาอย่างต่อเนื่อง

ขอบเขตการบ่มเพาะของเฉินซีได้ละทิ้งปัจจัยภายนอกอื่น ๆ มานานแล้ว พลังของมันทรงอานุภาพเหนือธรรมชาติ แม้แต่สวรรค์ก็ไม่อาจต่อกร!

สิ่งนี้คือจุดสูงสุดของมหาวิถี

บททดสอบของมหาวิถีได้แก่ดวงจิตแห่งเต๋า!

ตามคำกล่าวที่ว่ามหาเต๋าไร้ลักษณ์ ไร้นาม และไร้เหตุผล บรรดาผู้ที่หมกมุ่นอยู่กับมันจึงมองสวรรค์ เทพ และกฎเป็นเต๋าทั้งสิ้น อย่างไรก็ดี แล้วสิ่งใดกันแน่ที่อยู่เหนือสวรรค์ เหนือเทพ และเหนือกฎทั้งหลายเหล่านั้น?

แท้จริงแล้วทั้งสวรรค์ แผ่นดิน เทพ หรือกฎใด ๆ หาได้มีเต๋าสถิตอยู่ไม่… หากแต่มันซ่อนตัวอยู่ภายในดวงจิตแห่งเต๋าเพียงสิ่งเดียว

หากหัวใจแน่วแน่ ทุกสิ่งล้วนเป็นเต๋า

ที่ที่หัวใจมอง จักรวาล ผืนปฐพี ห้วงมิติกว้างใหญ่… ล้วนแล้วเป็นเพียงเศษทราย

อย่างที่เคยมีคนกล่าวไว้ แม้แต่เม็ดทรายยังคล้ายเป็นโลกทั้งใบ

เมื่อดวงจิตแห่งเต๋าหยั่งรู้ถึงความลึกซึ้งดังกล่าวแล้ว มันก็จะสามารถสะท้อนจักรวาล มองเห็นเต๋าแห่งสวรรค์ และครอบครองพลังอันเป็นนิรันดร์ นี่แหละที่เรียกว่ามหาวิถี!

ในเวลานั้น เพียงหนึ่งความคิดก็สามารถทำให้จักรวาลทั้งหมดไม่อาจหลบเร้น เต๋าทั้งหลายไม่อาจย่ำกรายจิตใจ สามารถสร้างโลก ขัดเกลาจักรวาล มอบชีวิตแก่สิ่งมีชีวิตมากมาย และสรรค์สร้างเต๋าทั้งหลายออกมานับไม่ถ้วน!

ความสามารถดังกล่าวไม่ต่างอันใดกับเทพผู้ให้กำเนิดทุกสรรพสิ่ง

และนี่คือพลังที่ครอบครองโดยผู้ที่หยั่งรู้ถึงความลับแห่งมหาวิถี!

ความลับของมหาวิถีคือพลังปฐมกาล และหัวใจสำคัญในการควบคุมพลังปฐมกาลก็คือดวงจิตแห่งเต๋า

ด้วยเหตุนี้ เจ้านิกายอำนาจเทวะจึงวางแผนตั้งมากตั้งมายก็เพื่อที่จะทำลายดวงจิตแห่งเต๋าของเฉินซีเท่านั้น!

การต่อสู้ระหว่างพวกเขาเริ่มต้นขึ้นโดยมี ‘ดวงจิตแห่งเต๋า’ เป็นศูนย์กลาง

การที่เฉินซีต้องฆ่าฝูซีและหนี่หวานั้นหาได้ขัดต่อดวงจิตแห่งเต๋าของเขาไม่ กระนั้นด้วยอารมณ์ความรู้สึกและความภักดีที่เขามี ก็ทำให้ดวงจิตแห่งเต๋ายังคงได้รับผลกระทบอยู่ดี และแน่นอนว่านั่นเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ใช่แล้ว มันเป็นผลลัพธ์ที่เจ้านิกายอำนาจเทวะคาดการณ์ไว้แล้ว

สิ่งเดียวที่ทำให้เจ้านิกายอำนาจเทวะประหลาดใจก็คือเฉินซีนั้นโหดเหี้ยมและเด็ดขาดกว่าที่คิด!

ทั้งฝูซีและหนี่หวาต่างก็อยู่ใต้การควบคุมของเจ้านิกายอำนาจเทวะ ไม่แปลกเลยหากเฉินซีจะตัดสินใจลงมือสังหารพวกเขาทั้งคู่

และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าเหตุใดเจ้านิกายอำนาจเทวะจึงตั้งใจดูว่าเฉินซีจะผ่านสถานการณ์ที่ยากต่อความรู้สึกเช่นนี้ไปได้อย่างไร

เรื่องที่ว่าเฉินซีจะขืนข่มใจฆ่าพวกเขาได้หรือไม่นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือมันได้สร้างผลกระทบต่อดวงจิตแห่งเต๋าของเขาไปมากน้อยเพียงไหน?

ไม่ว่าเฉินซีจะตัดสินใจเช่นไร ทุกทางก็ล้วนแต่สร้างความเสียหายให้แก่ดวงจิตแห่งเต๋าของเขาอย่างแน่นอน

ก่อนที่หมากตานี้จะเริ่มเดิน เจ้านิกายอำนาจเทวะได้เตรียมแผนสำรองไว้แล้ว หากเฉินซีฆ่าพวกเขาไม่ลง ความขัดแย้งทางความรู้สึกก็คงจะบังเกิดขึ้นในใจของเฉินซี และยิ่งเขาฝืนทนนานเท่าไร มันก็ยิ่งเป็นอันตรายต่อดวงจิตแห่งเต๋าของเขามากขึ้นเท่านั้น

และเมื่อถึงตอนนั้น เจ้านิกายอำนาจเทวะก็จะลงมือสังหารพวกเขาด้วยตัวเอง ซึ่งนั่นก็ทำให้สิ่งที่เฉินซีดิ้นรนพยายามมาโดยตลอดต้องพังทลายลงไปในพริบตา!

แต่หากเฉินซีเป็นคนลงมือ นั่นก็เท่ากับว่าเขาเป็นคนฆ่าอาจารย์ของตัวเอง!

การที่ต้องการเป็นศิษย์คิดล้างครูไม่ใช่สิ่งที่เขาจะยอมรับได้อย่างแน่นอน!

และเมื่อถึงเวลานั้น ดวงจิตแห่งเต๋าของเฉินซีจะต้องเต็มไปด้วยรู้สึกผิด ความเจ็บปวด และสารพัดความรู้สึกแย่ ๆ อย่างแน่นอน!

นั่นคือแผนการของเจ้านิกายอำนาจเทวะ

แผนทั้งหมดถูกสร้างขึ้นเพื่อทำลายดวงจิตแห่งเต๋าของเฉินซีเท่านั้น

ครั้นเมื่อเห็นอากัปกิริยาซึ่งคล้ายดังคนงุนงงที่พยายามดิ้นรนขัดขืนจากความหดหู่หลังจากลงมือฆ่าฝูซีและหนี่หวาของเฉินซี ประกอบกับใบหน้าถอดสีซีดและอาการไอโขลกเป็นเลือดนั่นแล้ว เจ้านิกายอำนาจเทวะก็รู้ได้ทันทีว่าแผนการของตนเป็นไปตามที่วางไว้

ตอนนี้เขาแค่ต้องรอให้ดวงจิตแห่งเต๋าของอีกฝ่ายเกิดรอยมลทินเท่านั้น

เจ้านิกายอำนาจเทวะหาได้รีบร้อนแต่อย่างไร แผนการของเขาเพิ่งจะเริ่มต้นได้ไม่นานเท่านั้น ตราบใดที่ดวงจิตแห่งเต๋าของเฉินซียังคงสั่นสะเทือนอยู่เช่นนั้น ไม่นานมันก็จะถึงคราวต้องพังทลายลง

เฮือก!

เฉินซีสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ขณะที่นั่งเฉย ๆ ท่ามกลางห้วงมิติกว้างไกล

เขาอยู่ในแดนลึกลับที่กว้างใหญ่ไร้ขอบเขตซึ่งไม่มีใครจะตามหาพบ เขาค่อนข้างมั่นใจ ที่นี่คือพื้นที่มิติซึ่งถูกสร้างขึ้นภายใน ‘เมฆาโกลาหล’ ของเจ้านิกายอำนาจเทวะ

เขาเชื่อว่าเจ้านิกายอำนาจเทวะน่าจะได้เห็นเหตุการณ์ตอนที่เขาสังหารฝูซีและหนี่หวาอย่างชัดเจน

แน่นอนมันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ใบหน้าของเขายังคงซีดเซียว ต่างกับดวงตาลึกล้ำที่ดูสงบจนผิดวิสัย ดวงจิตแห่งเต๋ายังคงเต้นรัวอยู่เช่นนั้น

การต้องฆ่าอาจารย์ของตัวเองไม่ใช่เรื่องง่ายเลย…

ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เงาทมิฬเงียบลง

ร่องรอยความไม่สบายใจประทับลงบนใบหน้าของเฉินซีในทันที เขาพุ่งตัวไปยังร่างของคู่สนทนาอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้น ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เงาทมิฬที่สูงราวเสาค้ำฟ้าก็ระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ สลายเป็นฝุ่นผงกระจายไปโดยรอบ

“ข้า… เชื่อ…” เสียงแหบพร่าก้องกังวานก่อนที่มันจะตาย หากแต่ยังไม่ทันสิ้นวาจา ความตายก็เข้ามาเยือนมันเสียก่อน

ทันใดนั้น ดวงตาของเฉินซีพลันเบิกกว้าง รสขมฟาดซ่านอยู่ปากและหัวใจ สุดท้าย มันก็สายเกินไปเสียแล้ว…

เลือดแดงฉานอาบท่วมริมฝีปากของเขา ใบหน้าขาวซีดอยู่แล้วเผือดสีลงจนคล้ายกับกระดาษโปร่งบาง

เฉินซียืนอยู่อย่างนั้นราวรูปปั้นไร้วิญญาณ

ความภักดีเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถละทิ้งได้จริง ๆ

ชายหนุ่มไม่อาจควบคุมไฟแค้นในใจของตนได้อีกต่อไป

อย่างน้อยให้อีกฝ่ายตายด้วยมือของเขาก็ยังดีเสียกว่าถูกเจ้านิกายอำนาจเทวะบดขยี้!

สุดท้ายสิ่งที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้นก็เกิดขึ้นอยู่ดี…

หนึ่งการสังหารอาจารย์!

สองการสังหารผู้อาวุโส!

และสามการสังหารพวกพ้อง!

ความว่างเปล่ากอดกุมใจเฉินซีกระทั่งเขาหายใจไม่ออก ความโกรธ ความเกลียดชัง ความรู้สึกผิด และความละอายที่รุนแรงอัดแน่นอยู่ในร่างกายจนแทบจะระเบิด

ดวงตาของเขาคั่งไปด้วยเลือดแดงก่ำ ริมฝีปากของเขาเม้มแน่น ในตอนนี้ เขาแทบจะสูญเสียการควบคุมตัวตนไปจนสิ้น ดวงจิตแห่งเต๋าของเขาส่งเสียงคร่ำครวญอย่างรุนแรงและจนจะพังทลายลงได้ทุกขณะ!

เฉินซีรู้ดีว่านี่คือสิ่งที่เจ้านิกายอำนาจเทวะต้องการเห็น กระนั้นเขาก็ไม่อาจสยบความรู้สึกของตัวเองได้เลย

ทั้งหมดเป็นเพราะความภักดีที่เขามี!

บัดนี้มันได้กลายเป็นยาพิษที่ที่ค่อย ๆ กัดกร่อนดวงจิตแห่งเต๋าอย่างช้า ๆ

หรือข้าจะคิดผิดกันนะ?

เฉินซีขบกรามแน่น หากความภักดี หากความรู้สึกของข้าเป็นยาพิษ แล้วข้าจะซื่อสัตย์ต่อหัวใจตัวเองได้อย่างไร? หรือหัวใจของข้าจะมีข้อด่างพร้อยกัน?

ไม่!

ทันใดนั้น เฉินซีก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาสีแดงเลือดกวาดไปรอบ ๆ พร้อมกับแผดเสียงสาปแช่งอย่างเน้นคำต่อคำ “สักวันหนึ่ง ข้าจะทำให้ไอ้สารเลวที่ไร้หัวใจเช่นเจ้าต้องทนทุกข์ทรมาน! ข้าจะทำให้เจ้ามีชีวิตที่เลยร้ายเสียยิ่งกว่าตาย!”

น้ำเสียงนั้นเปี่ยมไปด้วยความชิงชังที่เอ่อล้นราวคลื่นยักษ์ซึ่งกำลังกวาดกลืนผืนปฐพี!

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]